ตอนที่ 190 นักฆ่าแห่งแดนใต้
ยุคนี้เงินหมุนเวียนภายในมหาวิทยาลัยยังไม่สูงมากนัก
เงินรางวัล 500,000 หยวนก็น่าเพียงพอที่จะทำให้คณะสถาปัตย์เคลื่อนไหว
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าได้ออกแบบตึกที่มีความสูงมากกว่า 100 ชั้น มันจะเป็นผลงานอันดีที่ติดกับมหาวิทยาลัยไปอีกนาน
ต่อให้ไม่ได้รางวัล ทั้งคนธรรมดาทั่วไป นักสถาปัตย์ นักศึกษาและอาจารย์ที่สอนสถาปัตย์ จะต้องตื่นเต้นกับงานประกวดนี้
"คุณซูครับ เดี๋ยวผมจะรีบกลับไปเผิงเฉิงพรุ่งนี้แล้วติดต่อกับหนังสือพิมพ์ดู"
สูเจิ้งเหมาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ตอนนี้การลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ใช้เงินจำนวนเพียงนิดเดียวเท่านั้น ราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ
สื่ออื่นหากว่าต้องการจะโฆษณาไปทั่วประเทศ อาจจะต้องใช้ทุนเกือบ 6 หลักในการทำ
แต่สำหรับหนังสือพิมพ์แล้ว เป็นสิ่งที่คนมักจะมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญ
แล้วตอนนี้ สูเจิ้งเหมาได้เป็นประธานสหพันธ์สิ่งทอกวางตุ้ง การติดต่อกับโรงงานหนังสือพิมพ์เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
ภายในเวลาไม่ถึง 3 วัน ข่าวการประกวดออกแบบตึกจะต้องแพร่กระจายไปทั่วประเทศ
"คุณซูครับ"
สูเจิ้งเหมามองไปที่ซูข่านด้วยความตื่นเต้นและยิ้มอย่างมีเลศนัย
"คุณซูต้องการเปลี่ยนชื่ออาคารนี้ไหมครับ หรือว่าจะใช้ชื่อเดิมที่เราคุยกัน"
สูเจิ้งเหมาและจางหม่านได้มองไปที่ซูข่านด้วยความสงสัย ทางสูเจิ้งเหมารู้ชื่อที่คุยกันมาก่อนอยู่แล้ว แต่จางหม่านยังไม่เคยได้ยินซูข่านบอก
ซูข่านส่ายหัวและพูดว่า
"มันถูกสร้างโดยซิงซี กรุ๊ป เพราะฉะนั้นเปลี่ยนเป็นตึกซิงซีดีกว่า"
"ตึกซิงซี เป็นชื่อที่ดีมากครับ คุณซูเป็นอัจฉริยะในการตั้งชื่อจริงๆ"
สูเจิ้งเหมาพูดชมซูข่าน
จางหม่านเอามือมาปิดที่ปากของเธอ ทำไมประธานสูถึงได้ชมเจ้านายเราตรงๆแบบนี้
"อืม"
ซูข่านพยักหน้า
ซูข่านไม่ได้รู้สึกเขินหรือว่าตัวลอยจากคำชมอะไร เขารู้ว่าสูเจิ้งเหมาพูดออกมาด้วยความดีใจ ไม่แปลกหรอกที่คนในกวางตุ้งหรือโรงงานทั้งหลายถึงได้ร่วมมือกับเขา
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ผมไม่ได้กลับเผิงเฉิงซะนาน พอกลับมาก็โดนเรียกมาที่นี่อีก ภรรยาของผมต้องให้ผมนอนนอกบ้านแน่ๆ"
"อ้าว งั้นรีบกลับได้แล้วเหลาสู"
ซูข่านโบกมือไล่พร้อมหัวเราะออกมา
จางหม่านเห็นซูข่านหัวเราะ ใบหน้าของเธอก็มีสีแดงขึ้น เธอไม่เคยเห็นเจ้านายยิ้มกว้างขนาดนี้มาก่อน
"ขอตัวก่อนครับ"
สูเจิ้งเหมาลุกขึ้นและกล่าวอำลา เขาเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้มีเพียงจางหม่านและซูข่านเท่านั้นที่อยู่ในห้อง ในห้องนั้นเงียบมาก หน้าของจางหม่านก็แดงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้อีก เธอได้กลั้นใจและพูดออกมา
"เจ้านายคะ…"
"เธอก็กลับไปพักได้แล้ว เตรียมตัวเดินทางไปอเมริกาด้วย เรามีงานต้องทำที่นั่น"
ซูข่านพูดด้วยรอยยิ้ม
"ค่ะ"
จางหม่านพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเธอก็เดินออกจาห้องซูข่านไป และแน่นอนเธอกระทืบเท้าอย่างแรงที่หน้าประตู
"ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม"
"ให้ฉันอยู่ต่อด้วยอีกสักหน่อยก็ไม่ได้"
จางหม่านขมวดคิ้วของเธอและพูดกับตัวเองที่หน้าลิฟต์
ขณะเดียวกันในเซียงเจียง ที่นี่ตอนกลางคืนก็มีร้านอาหารกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ มีแผงขายอาหารนับร้อยทั่วเซียงเจียง มีคนนั่งดื่มและพูดคุยกันหลังเลิกงาน เมืองนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่ยังไม่หลับไหล
รถสปอร์ตคันหนึ่งเสียงเครื่องยนต์ของมันคำรามเหมือนกับเสือ รถคันนี้ได้ขับไปที่โรงจอดรถใต้ดินที่ลับสายตาผู้คนแห่งหนึ่ง
"ปังงงงง"
ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากรถ เขาถือไม้เบสบอลในมือแล้วฟาดไปที่เสาในโรงจอดรถอย่างแรง
"ไม่ต้องโกรธขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวพวกมันก็ลาโลกนี้ไปแล้ว"
ทันใดนั้นเองชายที่ย้อมผมสีทอง ก็ได้เดินออกมาจากรถตู้ข้างๆ เขาหัวเราะเยาะเย้ย
"เป็นยังไงบ้าง?"
ฮงจินหมิงคือชายที่ถือไม้เบสบอลคนนั้น เขาหันไปถามกับชายที่ย้อมผมสีทอง
"เรียบร้อยครับคุณหมิง ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้ว"
ชายที่ย้อมผมยิ้มอย่างมั่นใจ เขามีชื่อว่าฮวงเหมา
"แกไปจัดการมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?"
ฮงจินหมิงถามด้วยเสียงที่เคร่งขรึม จากนั้นเขาก็เอาไม้เบสบอลชี้ไปที่ฮวงเหมาและพูดต่อ
"ตอนนี้ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ อย่ามากวนส้นเท้าให้มันมาก"
ฮวงเหมาเลยตอบด้วยรอยยิ้ม
"ไม่ต้องห่วงครับ พวกเขามาพร้อมกับผมแล้ว"
ฮงจินหมิงได้ชะโงกหน้ามองผ่านหลังของฮวงเหมาเข้าไปในรถ และถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
"พวกเขามาจากเวียดนามงั้นเหรอ?"
"ใช่ครับ"
ฮวงเหมาตอบพร้อมอธิบายต่อด้วยรอยยิ้ม
"ทั้งสองคน เป็นนักฆ่าชื่อดังจากเวียดนาม ในช่วงสงครามพวกเขาได้งานฆ่าคนมาจำนวนมาก มือของพวกเขาเปื้อนเลือดไม่เว้นแต่ละวัน"
"ใครก็ตามที่เป็นเป้าหมายของเขา พวกมันจะโดนจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พวกมันไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้สักนิดเดียว"
"ดีมาก"
ฮงจินหมิงได้ยินฮวงเหมาพูดจบ รอยยิ้มก็ค่อยๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาเล็กน้อย
"ตั้งแต่เกิดมา ฉันยังไม่เคยโดนเหยียดหยามขนาดนี้เลย"
"ไม่อยากเชื่อว่าพวกมันจะกล้าโยนฉันลงทะเล ฉันต้องการให้พวกมันทั้งหมดหายไปจากโลกนี้"
"ไม่ต้องห่วงครับคุณหมิง คนที่สามารถทำงานให้คุณได้ ตอนนี้อยู่ที่นี่แล้ว แต่ตอนนี้เงิน…"
ฮงจินหมิงยิ้มและพูดว่า
"โอเค"
จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่รถสปอร์ตและหยิงกระเป๋าขึ้นมาใบหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นให้กับฮวงเหมา
"นี่ 50,000 หยวน ถ้างานเสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะให้อีก 50,000 ทีหลัง"
"ฮ่าๆๆๆๆ อย่างนี้ก็คุยก็ง่ายหน่อย"
ฮวงเหมาก็รีบหยิบเงินพร้อมหัวเราะออกมาเสียงดัง และพูดต่อ
"ด้วยเงินจำนวนนี้ พวกนั้นจะหายไปจากโลกนี้ในไม่ช้า คุณหมิงรออ่านข่าวบนหนังสือพิมพ์ได้เลย"
"ฮ่าๆๆๆ"
ฮงจินหมิงหัวเราะอย่างสะใจ นี่เป็นโอกาสที่เขากำลังจะเอาคืน
ขณะเดียวกัน มีรถสีดำคันหนึ่งจอดไม่ไกลจากพวกของฮงจินหมิง ต้าเฟยได้ขมวดคิ้วอย่างแน่นและพูดด้วยคำหยาบ
"ไอ้ฮงจินหมิงแม่งกำลังติดต่อกับพวกนักฆ่านี่หว่า รึว่ามันจะจ้างให้ไปฆ่าคุณซู"
ระหว่างที่ต้าเฟยได้พึมพำออกมาเสียงดัง ทันใดนั้นเองบรรยากาศภายในรถก็เต็มไปจิตสังหาร