ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 47 หอกทรราช
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 47 หอกทรราช
แปลโดย iPAT
เจ้าของร้านตะลึง ‘ข้าบอกได้เลยว่าเจ้าเป็นพวกบ้าการต่อสู้ เจ้าต้องการอาวุธหนักแทนที่จะเลือกอาวุธที่เหมาะสมกับเจ้า!’ อย่างไรก็ตามเขายังตอบสนองด้วยรอยยิ้ม “เรามี เรามี!” แต่ในใจคิดว่า ‘ข้าไม่สนเรื่องของเจ้าตราบเท่าที่ข้าสามารถขายอาวุธเหล่านี้’
นี่คือแผนการของหลี่ฉิงซาน หากเขาต้องการทำลายป้อมวายุทมิฬ เขาต้องทำสงครามในสนามรบ วิธีเดียวที่จะสามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งของเขาออกมาจนถึงขีดจำกัดคือการใช้อาวุธหนักที่สุดและยาวที่สุดเท่าที่จะหาได้ นี่จะช่วยให้เขาเอาชนะความได้เปรียบเชิงตัวเลขของศัตรู
พนักงานนำกระบี่หนักออกมา เจ้าของร้านแนะนำ “กระบี่เล่มนี้หนักสิบเจ็ดกิโลกรัมครึ่ง ยาวห้าฟุตสามนิ้ว มันคมกริบ สิ่งนี้สามารถเติมเต็มความพึงพอใจของคุณชายหรือไม่?”
หลี่ฉิงซานคว้ากระบี่และโบกไปมาสองสามครั้ง กระบี่หนักเบาราวกับขนนกเมื่ออยู่ในมือของเขา “มันเบาเกินไป หาสิ่งที่หนักกว่านี้ให้ข้า”
เจ้าของร้านและพนักงานพูดไม่ออก ‘เขาแข็งแกร่งถึงเพียงใด?’
หลังจากนั้นพนักงานสองคนก็นำง้าวมังกรฟ้าออกมา เจ้าของร้านกล่าว “ง้าวเล่มนี้หนักสามสิบเอ็ดกิโลกรัม ยาวแปดฟุตสองนิ้ว ดูความโค้งของใบมีด มันเป็นสิ่งที่มีเพียงช่างตีเหล็กฝีมือดีและมากประสบการณ์เท่านั้นที่ทำได้”
หลี่ฉิงซานสะบัดง้าว “นี่ค่อนข้างดีแต่มันยังหักง่ายเกินไป ไม่มีสิ่งใดหนักกว่านี้แล้วงั้นหรือ?” เขายังจำง้าวที่หักและบินออกจากด้ามจากการกวาดฟันเพียงครั้งเดียวในคราวนั้นได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่านั่นอาจเป็นเพราะเขายังไม่รู้วิธีใช้ง้ามและใช้มันอย่างไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามครั้งนี้เขาไม่ได้จะจัดการศัตรูเพียงไม่กี่คน เขาจำเป็นต้องหาอาวุธที่ดีที่สุด
เจ้าของร้านเบิกตากว้าง เพื่อเห็นแก่หลี่หลง เขาจึงต้องอดทนต่อการปรามาสว่า หักง่ายเกินไป เขาคิด ‘เจ้าต้องการใช้อาวุธทำสิ่งใดกันแน่!’
เจ้าของร้านโบกมือ “ไปที่คลังเก็บอาวุธกับข้า ที่นั่นต้องมีอาวุธที่ท่านพึงพอใจอย่างแน่นอน”
หลี่ฉิงซานเดินตามเจ้าของร้านไปที่ลานด้านหลัง ผ่านสนามทดสอบอาวุธก่อนจะไปถึงคลังเก็บอาวุธ อาวุธมากมายและหลากหลายประเภทถูกเก็บไว้ภายใน มันดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือหอกโลหะขนาดใหญ่สีดำที่อยู่ตรงกลาง
หอกเล่มนี้ดูเหมือนจะหลอมมาจากโลหะที่แข็งมาก ปลายหอกและด้ามหอกราวกับเป็นชิ้นเดียวกัน มันไม่มีแม้แต่พู่ มีเพียงหัวพยัคฆ์ที่ถูกแกะสลักไว้ที่จุดเชื่อมต่อ ปลายหอกโผล่ออกมาจากปากของมัน นั่นยิ่งทำให้มันดูก้าวร้าวและดุดันมากขึ้น
“ชื่อของมันคือหอกทรราช มันยาวสี่เมตร หนักเจ็ดสิบเอ็ดกิโลกรัม นี่เป็นอาวุธที่หนักที่สุดในร้านของเรา ข้าหวังว่าคุณชายจะพอใจ”
“ดี!” หลี่ฉิงซานคว้าหอกทรราชามาด้วยความรู้สึกหนักที่กลางฝ่ามือ ด้วยการสะบัดออกไป หอกกวัดแกว่งอยู่ในอากาศและสร้างเสียงดังราวกับเสียงคำรามของพยัคฆ์
เจ้าของร้านและพนักงานตกตะลึงอีกครั้ง ความสามารถในการยกได้เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ความสามารถในการใช้งานเป็นอีกเรื่องหนึ่งโดยสิ้นเชิง หากเขาไม่สามารถขยับตัวเมื่อถือหอก เขาจะกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคน อย่างไรก็ตามตั้งแต่เขากวัดแกว่งมันได้ นี่หมายความว่าเขามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะใช้งานมัน! แข็งแกร่งมาก!
หลี่ฉิงซานเชื่อว่าอาวุธชิ้นนี้เหมาะสมกับเขามากที่สุด ด้วยหอกเล่มนี้ เขาจะสามารถสร้างความประหลาดใจให้กับกลุ่มโจรจากป้อมวายุทมิฬ
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีความรู้เรื่องการใช้หอก ดังนั้นเขาจึงเปิดปากถาม “มีคู่มือการใช้หอกหรือไม่?”
เจ้าของร้านตอบ “คุณชาย ท่านแน่ใจหรือว่าจะซื้อมัน? มันไม่ถูก แม้เราจะไม่พูดถึงฝีมือของช่างตีเหล็ก เพียงโลหะที่ใช้สร้าง...”
หลี่หลงกล่าวเสียงเข้ม “เลิกพล่าม! ราคาเท่าใดเพียงคายออกมา จะให้ข้าถามซ้ำหรือไม่?”
เจ้าของร้านชูนิ้วทั้งห้าขึ้น “ตั้งแต่คุณชายหลี่กล่าวเช่นนั้น ข้าก็จะขายราคาทุนให้ท่าน ห้าร้อยตำลึง”
หลี่หลงตะโกน “อันใด!? ห้าร้อยตำลึง!? เจ้าคิดจะทำกำไรเกินควรกับพวกเรางั้นหรือ? นอกจากน้องชายของข้ายังมีผู้ใดสามารถใช้หอกเล่มนี้? มันถูกเก็บไว้ที่นี่จนฝุ่นขึ้น ข้าคิดว่ามันไม่ควรจะถึงแม้แต่หนึ่งร้อยตำลึง!”
ทั้งสองเริ่มต่อรองราคา หลี่ฉิงซานมองไปรอบๆคลังอาวุธ ท่ามกลางอาวุธมากมาย ในมุมมืดที่ไม่สะดุดตาผู้คนมีวัตถุชิ้นหนึ่งเรืองแสงขึ้นในสายตาของหลี่ฉิงซานราวกับมันกำลังบอกว่ามันไม่ต้องการถูกฝังไว้ในกองฝุ่นของที่นี่
หลี่ฉิงซานมองไปรอบๆ เขาสังเกตเห็นว่าไม่มีผู้ใดค้นพบวัตถุเรืองแสงชิ้นนี้ เขาตัดสินได้ทันทีว่ามันเกิดขึ้นเพราะดวงตาของเขาแตกต่างจากคนทั่วไป เขาเดินเข้าไปหาสิ่งนั้นเหมือนไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเขาไปถึงชั้นวางอาวุธ เขาหยิบกล่องไม้ขึ้นมา
เมื่อเขาเปิดฝากล่อง เขาก็พบมีดสั้นที่ประณีตงดงามเล่มหนึ่งอยู่ภายใน มันมีความยาวประมาณหนึ่งฟุตและเรืองแสงสีฟ้าจางๆออกมา เขาถาม “เจ้าของร้าน สิ่งนี้ราคาเท่าใด?”
เจ้าของร้านแปลกใจ “คุณชายช่างสายตาแหลมคมนัก น่าประทับใจ นั่นคือสมบัติของร้านเรา ทายาทของตระกูลใหญ่ที่ตกอับทิ้งมีดสั้นเล่มนั้นไว้ที่นี่ มันคมมาก ข้าใช้เงินเกือบสองร้อยตำลึงเพื่อซื้อมันมา”
หลี่ฉิงซานวางมีดสั้นกลับไปที่เดิมและพึมพำ “น่าเสียดายที่มันเบาและเล็กเกินไป”
“ท่านไม่สามารถกล่าวเช่นนั้น เนื่องจากขนาดและน้ำหนักของมัน มีดสั้นจึงซ่อนได้ง่าย เราสามารถใช้ป้องกันตัวในยามคับขัน!”
หลี่หลงกล่าว “เจ้าจะโป้ปดอันใดอีก อาวุธทุกชิ้นที่เราหยิบขึ้นมาจะกลายเป็นสมบัติของร้านเจ้าทั้งหมด ลืมมีดสั้นไปซะ ข้าจะไม่ต่อรองเรื่องไร้สาระกับเจ้าอีก!”
“ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?” เจ้าของร้านโอดครวญราวกับเขาพึ่งถูกแทง
สุดท้ายพวกเขาก็ตกลงราคาที่สี่ร้อยตำลึงสำหรับอาวุธสองชิ้น หอกและมีดสั้น
เจ้าของร้านแสดงออกราวกับเขากำลังเจ็บปวดแต่ภายในกลับลอบมีความสุข ในที่สุดเขาก็สามารถขายขยะสองชิ้นนี้ออกไป สำหรับหอกทรราช มันหนักจนไม่มีผู้ใดสามารถใช้งาน โลหะชั้นยอดกลายเป็นสูญเปล่า การหลอมใหม่ก็น่าเสียดายเช่นกัน เขามักสาปแช่งช่างตีเหล็กเสมอที่สร้างหอกเช่นนี้ขึ้นมา
อย่างไรก็ตามต้นกำเนิดของมีดสั้นเล่มนั้นเป็นเรื่องจริง ชายหนุ่มที่ดูหดหู่ขายมีดสั้นเล่มนี้ให้เขาในราคาเพียงสิบตำลึง แต่หลังจากนั้นเจ้าของร้านกลับรู้สึกเสียใจที่ซื้อมันมา แม้มันจะเป็นมีดสั้นชั้นยอดที่สามารถตัดโลหะได้เหมือนดินโคลน แต่มันสั้นและเล็กเกินไป นี่ทำให้เจ้าของร้านไม่สามารถขายมันแม้เขาจะเสนอขายในราคาไม่กี่สิบตำลึงก็ตาม
หลี่ฉิงซานไม่รู้วิธีใช้หอก ดังนั้นคู่มือการใช้หอกจึงถูกส่งให้เขาในไม่ช้า อย่างไรก็ตามมันเป็นคู่มือพื้นฐานการใช้หอกทั่วไปและธรรมดาที่สุดแม้ชื่อของมันจะฟังดูทรงพลังมากก็ตาม ตัวอย่างเช่น กวาดล้างข้าศึก หรือตัดทรราช
หลี่หลงเพียงชำเลืองมองมันผ่านๆเท่านั้น
หลี่ฉิงซานไม่ได้พยายามศึกษามันอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่เขาไปที่สนามทดสอบอาวุธและฝึกมันทันที
ปรากฏว่าหอกใช้ยากกว่าดาบมาก แต่หลังจากบรรลุความแข็งแกร่งของกระทิงหนึ่งตัว ความสามารถในการควบคุมพลังและกระทั่งความสามารถในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ของเขาก็เพิ่มมากขึ้น
หลังจากทั้งหมดอาวุธเป็นส่วนขยายของร่างกาย
หลี่ฉิงซานเริ่มออกตัวอย่างช้าๆก่อนจะค่อยๆเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เพียงไม่นานหอกขนาดใหญ่ก็เต้นรำอยู่กลางอากาศราวกับมังกรดำที่ม้วนตัวอยู่รอบๆหลี่ฉิงซานและสร้างสายลมกรรโชกแรงระเบิดออกไปทุกทิศทุกทาง
หลี่หลงต้องล่าถอยออกไปหลายสิบก้าว เขาถึงกับพูดไม่ออก ตอนนี้หลี่ฉิงซานดูเหมือนแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมและสามารถต่อสู้กับทหารนับพันในสนามรบด้วยตัวเขาเพียงลำพัง
ทุกที่ที่หอกชี้ไป แสงอันเย็นเยียบจะสาดส่อง เลือดจะไหลนอง เสียงโหยหวนราวกับภูตผีกรีดร้องจะดังขึ้น แม้เขาจะไม่ได้อยู่ตอนที่หลิวหงสั่งสอนศิษย์คนอื่นๆ แต่หลี่หงก็เข้าใจเหตุผลที่หลิวหงแสดงความเคารพต่อหลี่ฉิงซาน
หลี่ฉิงซานอายุยังน้อย เขามีมีทักษะการต่อสู้ที่น่าตกใจอยู่แล้ว ตอนนี้เขาเพียงอ่านคู่มือการใช้หอกแบบผ่านๆ แต่เขากลับสามารถใช้มันประหนึ่งผู้เชี่ยวชาญแทบจะในทันที คนเช่นเขาจะต้องโด่งดังไปทั่วยุทธภพ ตราบเท่าที่เขาไม่ตาย เขาจะก้าวข้ามขอบเขตนักสู้ชั้นสองในอนาคตอย่างแน่นอน บางทีเขาอาจกลายเป็นจอมยุทธ์กำลังภายในได้จริงๆ นั่นเป็นดินแดนที่หลี่หลงไม่แม้จะสามารถจินตนาการถึง
หลี่หลงเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับจอมยุทธ์กำลังภายในมาจากอาจารย์ของเขาเท่านั้น เขาไม่เคยเห็นบุคคลเช่นนั้นมาก่อน หลังจากทั้งหมดเมืองชิงหยางไม่คู่ควรสำหรับพวกเขา แต่ท่ามกลางความงุนงง เขารู้สึกเหมือนได้เห็นการปรากฏขึ้นของตัวตนดังกล่าวด้วยตาของเขาเองในเวลานี้