Ep.322 - ศึกระดับขุนนาง
1/3
Ep.322 - ศึกระดับขุนนาง
ณ มุมหนึ่งของเมืองหุบเขาเดียวดาย หน้าดินแตกและทรุดตัวลง กลายเป็นรูใหญ่ มนุษย์จิ้งจอกที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆตื่นตัว รีบวิ่งไปตรวจสอบสถานการณ์
เสี่ยวไป๋เป็นคนแรกที่บินออกมา
ฝุ่นมายาปกคลุมรัศมีกว่า 100 เมตรทันที
ค่าจิตวิญญาณของสมุนมนุษย์จิ้งจอกมีค่อนข้างน้อย พวกมันจึงได้รับผลกระทบจากสกิลนี้ สตินึกคิดเฉื่อยชาไปพักหนึ่ง สูญเสียความก้าวร้าวไป
“ฮ่ง!”
“ฆ่า!”
“ดูให้เต็มตาว่าพลังของเปิ่นหวังยอดเยี่ยมแค่ไหน!”
กองหน้าฮัสกี้กระโจนเข้าสังหาร
มันปล่อยร่างแยกทั้ง 5 ออกมา ทั้งหมดเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าดำ พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง ขย้ำพลรบมนุษย์จิ้งจอกไปหลายตัว ฮังอวี่กระโจนตามไปติดๆ แทงตายไปสองตัว
คนอื่นๆปีนขึ้นมาจากหลุมบนพื้นทีละคน
ไม่นาน
กองทัพมนุษย์ก็เข้ามาในฐานมนุษย์จิ้งจอกได้มากกว่าสองร้อยคน!
ภายใต้สกิลปกปิดอันทรงพลังของฮังเสี่ยวไป๋ จนถึงตอนนี้ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นโดยไม่ทำให้มนุษย์จิ้งจอกในแนวหน้าตื่นตัว
แน่นอน
พวกเขาไม่อาจปกปิดร่องรอยได้ตลอดไป
ผู้คนหลายร้อยเข้ามาในเมืองอย่างคับคั่ง
แม้อยู่ภายใต้การปกปิดด้วยโพชั่นลมหายใจเต่า โพชั่นซ่อนเร้น และผงขจัดกลิ่นอาย แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนตัวจากมนุษย์จิ้งจอกระดับสูง พวกมันสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ รีบวิ่งเข้ามาตรวจสอบทันที และภาพที่เห็นทำให้มันต้องสยอง
“พวกต่างถิ่น!”
“พวกต่างถิ่นบุกเข้ามาแล้ว!”
มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงตัดสินใจตะโกนเตือน
แล้วหันหลังกลับทันที พยายามวิ่งไปรวมกับกองกำลังของตัวเอง
ฮังเสี่ยวไป๋คือชาวโลกวิญญาณที่มีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องได้รับคำสั่งจากฮังอวี่ แยกตัวออกไปขวางศัตรูอย่างรวดเร็ว ก่อนปล่อยสกิลควบคุมขั้น 3 ที่ทรงพลังออกมา
“คุกมายา!”
หลังจากที่ฮังเสี่ยวไป๋อัพเลเวล 10
สกิลทั้งหมดของเธอก็ได้รับพลังฟื้นคืนกลับมา
‘คุกมายา’ นี้เป็นสกิลมรดกขั้น 3 ของ ‘ผู้พิทักษ์มายา’ ซึ่งมีเอฟเฟกต์ควบคุมหน่วงเหนี่ยวที่ทรงพลังมาก
มันสามารถสร้างกรงลวงตาได้
กักขังเป้าหมายให้อยู่กับที่
เว้นแต่เลเวลของเป้าหมายและค่าเจตจำนงจะสูงกว่าเสี่ยวไป๋ หรือมีสกิลขั้น 3 ที่สามารถทำลายภาพลวงตาได้ นอกเหนือจากนั้นมันไม่สามารถหลุดพ้นได้เลย เอฟเฟกต์ของสกิลนี้จะไม่ถูกขัดจังหวะหากโดนโจมตี แต่ต้องรอจนกว่าจะครบเวลา สกิลถึงจะหายไปเอง
เปิดใช้งานคลุ้มคลั่งกระหายเลือด!
ประจัญบาน!
ฮังอวี่พุ่งเข้าชาร์จ ปลิดชีพมันลงสู่ความตายใน 3 - 5 กระบวนท่า
พลังรบของมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงเป็นถึงมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่น
เช่นนั้นแล้วไฉนฮังอวี่ถึงสามารถฆ่าศัตรูได้อย่างง่ายดาย? นั่นก็เพราะนอกเหนือจากดาเมจที่เขาทำแล้ว ยังมีดาเมจจากเสี่ยวไป๋และคนอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงช่วยสนับสนุน
พลังชีวิตของมนุษย์จิ้งจอกเดิมก็ไม่สูงอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อถูกรุมโจมตี มันย่อมไม่อาจฝืนทนไหว
“พวกเราถูกพบตัวแล้ว!”
“หลังจากนี้ไปการต่อสู้ของจริงกำลังเริ่มต้นขึ้น!”
“มนุษย์จิ้งจอกแข็งแกร่งกว่าพวกเราก็จริง แต่ตอนนี้ถอยไม่ได้แล้ว ศึกนี้ต้องกวาดล้างพวกมันให้หมด!”
ในขณะที่ฮังอวี่กำลังตะโกน มนุษย์จิ้งจอกหลายร้อยตัวพากันดาหน้าตรงมาจากทุกทิศทาง
เมืองหุบเขาเดียวดายเต็มไปด้วยพลทหาร มีตั้งแต่นักรบมนุษย์จิ้งจอก , นักลอบสังหารมนุษย์จิ้งจอก , นักบวชมนุษย์จิ้งจอก , จอมเวทย์มนุษย์จิ้งจอก , พ่อมดมนุษย์จิ้งจอก ฯลฯ
พลังรบของทหารสายพันธุ์รองส่วนใหญ่จะอยู่ในเลเวล 10
จำนวนโดยรวมควรอยู่ระหว่าง 500-650 ตัว!
และยังเหลือมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงอีก 11 ตัว!
มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงทุกตัวมีพลังรบในระดับเจ้าถิ่นเลเวล 10 !
โดยเฉพาะลูกัน ในฐานะขุนนางแห่งเมืองหุบเขาเดียวดาย พลังรบของมันอยู่ในระดับเจ้าถิ่นขั้นโกลด์เลเวล 11 นับว่าร้ายกาจที่สุด!
หากเทียบกันในด้านปริมาณและคุณภาพ กองทัพมนุษย์เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด!
แม้การบุกผ่านอุโมงค์จะสร้างความตื่นตระหนกแก่เหล่ามนุษย์จิ้งจอก แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะให้ผู้อ่อนแอโค่นล้มผู้แข็งแกร่ง เมื่อมนุษย์จิ้งจอกตั้งสติได้ ช่องว่างความห่างชั้นด้านพลังรบก็จะกลับคืนมา
“เจ้าพวกจากสายพันธุ์ที่น่าชิงชัง!”
ลูกันคำรามดั่งฟ้าร้อง
มันรู้สึกราวกับถูกเหยียดหยาม รีบสวมโล่หนามในมือซ้าย เหวี่ยงเข้าตั้งรับคมเขี้ยวร่างแยกหวังเอ๋อ
มือขวาสะบัดวูบ ผ่าร่างแปลงหมาป่าดำที่มีพลังชีวิตต่ำออกเป็นสองซีกในกระบี่เดียว
มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงตัวอื่นนำทัพเข้าสังหาร
มนุษยชาติค่อยๆตกอยู่กลางวงล้อมมนุษย์จิ้งจอก
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหล่ามนุษย์จิ้งจอกที่ทรงพลัง มนุษย์มิได้ล่าถอย พวกเขาเตรียมการมาก่อนแล้ว และตอนนี้ทุกอย่างที่เตรียมไว้ทั้งหมดถูกงัดออกมาพร้อมๆกัน
โพชั่นมนตราที่สามารถเปลี่ยนร่างได้ถูกยกดื่ม!
ม้วนคัมภีร์สกิลทุกประเภทถูกเรียกใช้!
ลูกันคิดไม่ตกว่าเหตุใดเผ่าพันธุ์ต่างถิ่นถึงมียุทธปัจจัยการต่อสู้มากมายถึงเพียงนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคัมภีร์สกิลคุณภาพสีเขียว กระทั่งตัวมันเองยังมีไม่มากนัก ทว่าชาวต่างถิ่นเหล่านี้เพียงเริ่มการต่อสู้ก็ขว้างพวกมันออกมา 8 9 อันติดต่อกัน
ในเมื่อพลังรบไม่พอ เช่นนั้นก็สามารถใช้โพชั่น หรือคัมภีร์สกิลชดเชยได้! มนุษย์จิ้งจอกนับไม่ถ้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ลูกันโกรธจัด
มันสั่งทหารเปิดการโจมตีอย่างดุเดือด
มนุษย์และมนุษย์จิ้งจอกเข้าห้ำหั่นกัน สนามรบโดยรอบตกอยู่ในความวุ่นวาย
ฉูเทียนหัวออกคำสั่ง “ใจเย็นๆ รวมพลังกันเน้นโจมตีไปที่พวกมนุษย์จิ้งจอกระดับสูง!”
จ้าวหมิงตะโกนเสริม “หลังจากกำจัดพวกมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงหมดแล้ว สายพันธุ์รองตัวอื่นๆก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรอีก!”
ฝูงชนขานรับ
เจียงหนานใช้โล่ของเธอป้องกันเพลิงระเบิดของจอมเวทย์มนุษย์จิ้งจอกระดับสูง
เธอเติมเลือดให้ตัวเองพร้อมวิ่งเข้าเผชิญหน้ากับศัตรูตรงๆ
และพริบตานั้นเอง นักศึกษาสาวได้ปลดปล่อยสกิลสายต่อสู้ของนักรบออกมา
ปะทะเดือด!
นี่คือสกิลใหม่ที่เธอพึ่งเรียนรู้
โล่พลังงานของศัตรูถูกฟันขาด แตกสลายในฉับเดียว
จางเสี่ยวเฉียงเริ่มโจมตีต่อเนื่อง เขาขว้างลูกไฟระเบิดที่เกิดจากสกิลพรสวรรค์ ตามด้วยคาถาลูกไฟ ศรเพลิง และลูกไฟยักษ์ ... ภายใต้การโจมตีที่สามารถสร้างดาเมจสูงอย่างต่อเนื่อง จอมเวทย์มนุษย์จิ้งจอกพลังชีวิตสูญหายไปกว่าครึ่ง
ลุค คริส ไดอาน่า และคนอื่นๆของสำนักกระบี่วิญญาณต่างพบเป้าหมายของพวกเขาเช่นกัน ทั้งหมดนำกองกำลังของตัวเองเข้าสู้ โดยไม่สนใจการโจมตีจากมนุษย์จิ้งจอกธรรมดา มุ่งหน้าโจมตีแต่มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างเต็มกำลัง
สหายของลูกันทยอยล้มตายลง
มันเริ่มตระหนักว่าสถานการณ์กำลังเลวร้าย!
แม้พลังรบโดยรวมของชาวต่างถิ่นจะไม่แข็งแกร่งเท่ากองทัพเมืองหุบเขาเดียวดาย
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่รู้ว่าทำไมคนพวกนี้ถึงมีทรัพยากรมากมาย!
พวกเขาสามารถชดเชยช่องว่างความห่างชั้นโดยใช้โพชั่นพิเศษ โพชั่นมนตรา คัมภีร์สกิล และไอเท็มเฉพาะที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
คุณภาพของกองทหารธรรมดาเองก็เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินแพ้ชนะของสงครามเช่นกัน
กองทหารต่างถิ่นนั้นแม้พลังรบอ่อนแอแต่มีความคล่องตัวสูง
แต่ละคนล้วนมีสติปัญญา
ขณะที่ฝั่งมนุษย์จิ้งจอกมีสายพันธุ์ที่มีสติปัญญาอยู่เพียง 12 ตัวเท่านั้น!
สำหรับมนุษย์จิ้งจอกสายพันธุ์รอง เนื่องจากพวกมันมีข้อจำกัดด้านสติปัญญา เมื่อพวกมันสูญเสียคนออกคำสั่ง ก็ตกอยู่ในความโกลาหลทันที!
ตัวอย่างเช่นคาถารักษาของนักบวชถูกร่ายแบบกระจัดกระจาย ไม่มุ่งเน้นไปยังเป้าหมายที่เหมาะสม และเหล่านักรบมนุษย์จิ้งจอกแนวหน้าก็กระโจนเข้าจู่โจมมั่วซั่ว เละเทะอย่างสิ้นเชิง ยากที่จะร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ลูกันคำรามด้วยความโกรธ ก้าวเข้าฟันนักรบชาวต่างถิ่นตายไปห้าคน
เจ้าพวกนี้หวังจะทำลายกำลังหลักของกองทัพข้า!
แต่ในตอนนั้นเอง ก่อนที่จะทันได้แก้สถานการณ์ ลูกันสัมผัสได้ถึงพลังงานอันทรงพลังโหมกระหน่ำเข้ามาจากด้านหน้า คลื่นกระแทกนี้ทำให้ใบหน้ามันเปลี่ยนสี เร่งเปิดใช้งานสกิลก้าวพริบตาเพื่อหลบเลี่ยง
-131!
แม้ว่ามันจะไม่สามารถหลบหนีจากคลื่นมังกรปฐพีได้อย่างสมบูรณ์
แต่ดาเมจที่ได้รับไม่มากพอที่จะเป็นภัยคุกคาม
ลูกันดื่มโพชั่นฟื้นฟู ดวงตาสีเขียวของมันจับจ้องแหล่งที่มาของการโจมตีนี้ และพบว่าเป็นนักรบต่างถิ่นที่สวมชุดเซ็ทหมาป่าหิน ในมือถือหอกคุณภาพสีฟ้า
แม้ว่าคลื่นมังกรปฐพีของฮังอวี่จะล้มเหลวในการทำดาเมจใหญ่แก่ลูกัน แต่เขาสามารถกำจัดพลรบมนุษย์จิ้งจอกได้ 8 9 ตัวในคราวเดียว
ตอนนี้ร่างเขาถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานสีแดงจากสกิคลุ้มคลั่งกระหายเลือด หอกยาวในมือยังคงทิ่มแทงพลรบมนุษย์จิ้งจอกที่วิ่งเข้ามา ทุกการโจมตีก่อคลื่นสั่นสะเทือน ทำให้กลุ่มมนุษย์จิ้งจอกที่อยู่ใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บ
และกระบวนการนี้ เอฟเฟกต์ดูดเลือดของสกิลถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้พลังชีวิตของฮังอวี่ยังคงรักษาสมดุลอยู่ที่ 90% เสมอ
ลูกันสังเกตเห็นว่านี่คือหัวหน้าของคู่ต่อสู้ อีกฝ่ายครอบครองมรดกเบอร์เซิร์กเกอร์ขั้น 2 และอาวุธในมือนั้นไม่ธรรมดา ในกรณีการต่อสู้แบบกลุ่ม อีกฝ่ายสามารถสร้างดาเมจเป็นวงกว้างได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ
“พวกเจ้าถอยออกมา ข้าจะจัดการมันเอง!”
มนุษย์จิ้งจอกสายพันธุ์รองมีสติปัญญาต่ำ
แต่พวกมันรับฟังคำสั่งอย่างดี
ฮังอวี่เห็นว่ามนุษย์จิ้งจอกรอบตัวเขาถอยห่างออกไปและไม่ไล่ตามเขาอีก สายตาก็พลันเลื่อนไปเห็นลูกันที่กำลังก้าวเข้ามา เขาเอ่ยกับอีกฝ่ายเป็นภาษามนุษย์จิ้งจอกว่า “แกคงจะเป็นขุนนางแห่งเมืองหุบเขาเดียวดายสินะ เชื่อฉันเถอะ อีกไม่นานแกต้องพ่ายแพ้ ฉะนั้นยอมจำนนซะ!”
“พวกเจ้ามาจากที่ใด?”
“นั่นไม่สำคัญ” ฮังอวี่ชี้คมหอกไปทางลูกันและเอ่ยว่า “มอบเมืองให้พวกเรา! แล้วฉันสัญญาว่าแกจะยังอยู่ในเมืองหุบเขาเดียวดายต่อไปได้ในฐานะลูกน้อง ไม่อย่างนั้นก็ตายซะ!”