SWO ตอนที่ 80 สังเวยเลือด
หยุนหยานส่ายหัว “เราไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัด เรารู้เพียงว่าเทวาทมิฬอาจจับตามองน้องสาวเจ้าเพราะต้องการใช้ร่างกายของนางเพื่อสังเวยเลือด อย่างไรก็ตามสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อความแข็งแกร่งของนางถึงระดับหนึ่งเท่านั้น”
จางอี้เกือบจะพังพลายอีกครั้งเมื่อได้ยินเรื่องการสังเวยเลือด แต่ดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างหลังจากได้ยินส่วนที่เหลือ
“หยุนหยาน จะ เจ้ากำลังจะบอกว่าจนกว่าน้องสาวข้าจะโต และมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่สังเวยเลือดต้องการ นางจะยังปลอดภัยใช่ไหม?”
ซูหลิง และนักเรียนที่เหลือพยักหน้าก่อนกล่าวพร้อมกัน “ใช่!”
โจวเฮาที่ได้ยินดังนั้นถามออกไปทันที “แล้วเจ้ารู้ไหมว่าจางอิงถูกพาไปที่ใด?”
“ที่สำนักงานใหญ่ของเทวาทมิฬ!” ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ทางเข้า
เหล่านักเรียนเปิดทางให้เสิ่นจิงเดินเข้ามา
จางอี้ และโจวเฮาที่เห็นว่าเป็นเขารีบลุกขึ้น
เสิ่นจิงโบกมือ “นอนไปไม่ต้องลุก เท่าที่เรารู้ หลายคนจากเมืองต่าง ๆ ก็ถูกเทวาทมิฬลักพาตัวไปเช่นน้องสาวเจ้า การสังเวยเลือดของเทวาทมิฬนั้นลึกลับมาก พวกมันต้องพาพวกเขาไปยังสำนักงานใหญ่เพื่อฝึกจนกว่าพวกเขาจะมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ”
“ดังนั้นตอนนี้น้องสาวของเจ้าจึงยังปลอดภัย จนกว่านางจะมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของการสังเวยเลือด”
เมื่อได้ยินอาจารย์เสิ่นกล่าวเช่นนั้น จางอี้ก็ผ่อนคลายทันที
โจวเฮาถามขึ้น “อาจารย์ ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าเทวาทมิฬต้องใช้เวลาเท่าใดจึงจะฝึกคนที่ถูกลักพาตัวไปจนมีคุณสมบัติ?”
จางอี้ชะงักก่อนมองไปที่อาจารย์เสิ่นด้วยความกังวล
อาจารย์เสิ่นส่ายหัว “เราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เรารู้แค่ว่าเงื่อนไขสำหรับการสังเวยเลือดนั้นเข้มงวดมาก แม้ว่าเทวาทมิฬจะมีทรัพยากรมากมาย แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี!”
โจวเฮา และจางอี้มองหน้ากัน
“แปลว่าข้ามีเวลาแค่ปีเดียว!” จางอี้กำหมัดแน่น
อาจารย์เสิ่นพยักหน้า "ใช่ หากเจ้าต้องการช่วยน้องสาวของเจ้า เจ้าต้องบรรลุระดับปรมาจารย์ภายในปีนี้”
จางอี้กัดฟัน และกล่าวอย่างหนักแน่น “ข้าจะทำ!”
อาจารย์เสิ่นถอนหายใจอยู่ภายใน อันที่จริงเขาแค่ต้องการให้ความหวังจางอี้เท่านั้น ท้ายที่สุดเทวาทมิฬก็ทรงพลังเกินไป หากเพียงฐานย่อยยังมีปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธประจำอยู่ แล้วสำนักงานใหญ่ของพวกมันเล่าจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับใดรอพวกเขาอยู่
เสิ่นจิงหันกลับมามองนักเรียนที่เหลือ และกล่าวอย่างช้า ๆ “ในปฏิบัติการเทวาทมิฬล่าสุดพวกเจ้าทำได้ดีมาก ทางโรงเรียน และผู้บัญชาการจ้าวมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะจัดพิธีมอบรางวัลให้แก่พวกเจ้าทุกคนวันมะรืนนี้ ในเวลานั้นผู้บัญชาการจ้าว และผู้เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ จะมอบเหรียญให้กับพวกเจ้าเป็นการส่วนตัว”
"อะไรนะ? พิธีมอบรางวัล?”
“นั่นเยี่ยมมาก ผู้เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธจะมาเพื่อมอบเหรียญให้กับเราด้วยตัวเอง!”
“ข้ารอไม่ไหวแล้ว!”
นักเรียนทุกคนรู้สึกประหลาดใจ
แม้แต่หยวนเฉิง หยุนหยาน และอัจฉริยะหยานจิงที่เหลือก็อดตื่นเต้นไม่ได้ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเหรียญจากปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธ
เสิ่นจิงโบกมือทำให้ทุกคนเงียบทันที
“อย่าเพิ่งดีใจไป!” จู่ ๆ สีหน้าของอาจารย์เสิ่นก็เปลี่ยนไปแลดูจริงจังขึ้น และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “การทำลายฐานที่มั่นของเทวาทมิฬในครั้งนี้จะดึงดูดความสนใจจากสำนักงานใหญ่ของเทวาทมิฬด้วย หรือแม้แต่เผ่าพันธุ์ภายนอกเองก็ยังให้ความสนใจมาที่เมืองหัวตงของเรา”
“ดังนั้นเมืองหัวตงของเราจึงอาจเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล”
หัวใจของซูหลิง และนักเรียนคนอื่น ๆ เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่อาจารย์กล่าว มันทำให้ของพวกเขารู้สึกหนักอึ้งในทันที
อาจารย์เสิ่นกล่าวต่อ “หลังจากพิธีมอบรางวัล ข้าจะฝึกพวกเจ้าให้เข้มข้นยิ่งขึ้น!”
หลังจากที่ได้ยินนักเรียนหลายคนก็บ่นทันที
แม้แต่หยวนเฉิง หยุนหยาน และพวกก็มีท่าทีขมขื่น พวกเขารู้ดีว่าการฝึกเข้มข้นของอาจารย์เสิ่นนั้นเป็นอย่างไร
มันเป็นการฝึกนรกของแท้
…
กลางคืน
ใต้แสงจันทร์เย็นเยียบ...
โจวเฮากลับไปที่ทางเข้าของชุมชนหยางหยวน
เมื่อมองแสงไฟอันอบอุ่นภายในบ้าน เขาปรับอารมณ์ และเดินเข้าไป
“เสี่ยวเฮา เจ้ากลับมาแล้ว ตอนนี้รีบไปล้างมือเถอะ เพราะอีกสักครู่ไม่นานอาหารก็จะเสร็จแล้ว วันนี้เป็นเต้าหู้ตุ๋นปลาคาร์ปกับหน่อไม้ที่เจ้าชอบที่สุด!”
ทันทีที่โจวเฮาเดินเข้ามา เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของแม่ในครัว
พ่อของเขาที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ยิ้ม และมองไปที่โจวเฮา “เป็นไงเจ้าลูกชาย เข้าค่ายมาเหนื่อยไหม?”
พ่อแม่รู้เรื่องที่โจวเฮาเข้าคลาสฝึกอบรมพิเศษอยู่แล้ว
พวกเขาได้ยินเรื่องนี้โดยบังเอิญเมื่อโจวเฮากำลังคุยโทรศัพท์กับซูหลิง ในเวลานั้นพวกเขามีความสุขมากจนอ้าปากค้าง กระทั่งอาหารเย็นในคืนนั้นก็ยังหรูหรากว่าปกติมา
"ข้าไม่เหนื่อย เอาเข้าจริงข้าค่อนข้างพอใจ“โจวเฮาล้างมือแล้วกล่าวต่อ”อาจารย์บอกว่าข้าจะบรรลุระดับแก่นโลหิตขั้นสองในไม่ช้า!”
โจวเสวียกั๋ววางหนังสือพิมพ์ลงทันที ก่อนกล่าวความประหลาดใจ “จริงรึ?”
โจวเฮากล่าวออกมาอย่างสบาย ๆ “มันจะเป็นเรื่องโกหกได้อย่างไร? มันออกมาจากปากอาจารย์เองเลยนะ!”
"ดี ดี!" โจวเสวียกั๋วรู้สึกตื่นเต้น “เจ้าลูกชาย เจ้าต้องทะลวงระดับแก่นโลหิตขั้นสองให้ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะมีโอกาสที่จะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธในอนาคต!”
หวังชูหยุนเดินออกมาจากครัวพร้อมอาหารสองจาน และวางพวกมันลงบนโต๊ะ เมื่อเห็นว่าโจวเสวียกั๋วดูตื่นเต้นมาก เธอจึงอดถามเขาไม่ได้
โจวเสวียกั๋วย้ำสิ่งที่โจวเฮาเพิ่งพูด
หวังชูหยุนรู้สึกตื่นเต้นทันที เธอจูบหน้าผากของโจวเฮาหลายครั้ง “เก่งจริง ๆ ลูกรัก ฮาฮ่า ครอบครัวของเรากำลังจะมีผู้ฝึกยุทธ!”
โจวเฮาพูดไม่ออก “พ่อ แม่ ทำไมพวกท่านถึงดูมีความสุขมากขนาดนั้นเพียงเพราะข้าเป็นผู้ฝึกยุทธ?!”
โจวเสวียกั๋วจ้องเขม็ง “เจ้าลูกชาย เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลายคนใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้ฝึกยุทธ? เมื่อเจ้ากลายเป็นผู้ฝึกยุทธ เจ้าจะสามารถจัดการเผ่าพันธุ์ภายนอก และทำงานเพื่อเมืองได้!”
“และนั่นยังรวมถึงเมื่อครั้งยังเด็ก ความฝันของข้าคือการเป็นผู้ฝึกยุทธด้วย!”
โจวเฮารีบกล่าวขึ้นทันที “ครับท่านพ่อ ข้าจะพยายามฝึกฝนเพื่อเป็นผู้ฝึกยุทธ!”
ขณะที่เขาพูด เขาอดก็อดบ่นไม่ได้ หากพ่อแม้รู้ว่าลูกชายของพวกเขาสามารถจัดการสัตว์อสูรระดับราชันได้อย่างง่ายดาย พวกเขาจะไม่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเป็นเดือนเลยเรอะ!
“เอาล่ะ วันนี้ข้ามีความสุขมาก เจ้าลูกชาย วันนี้เจ้าต้องดื่มกับข้า!”
หลังจากกินข้าวนานกว่าครึ่งชั่วโมง โจวเสวียกั๋วก็ลากโจวเฮาให้ดื่ม และพูดคุยกันจนถึงสามทุ่มครึ่ง ก่อนปล่อยให้เขาเข้านอน
ขณะนอนอยู่บนเตียง โจวเฮาเหม่อมองแสงดาวที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างจนทำให้อารมณ์ของเขาค่อย ๆ สงบลง
จุดประสงค์หลักที่โจวเฮาทำความสะอาดพื้นที่รกร้าง และถอนรากถอนโคนเทวาทมิฬทั้งหมดก็เพื่อปกป้องครอบครัวของเขา
เมื่อเปิดหน้าจอเสมือน เขามักจะเหลือบมองที่แต้มโชคจนเป็นนิสัย
แต้มโชค: 893,100 (ระดับปัจจุบัน: โชคท่วมท้น)
โจวเฮาตกใจ “มีแต้มโชคเพิ่มมา 50,000 กว่าแต้ม? หรือจะเป็น…”
เขาอดนึกถึงชายสวมหน้ากากทองสัมฤทธิ์ที่เขาฆ่าในวันนี้ไม่ได้ ดูเหมือนชายคนนั้นจะสามารถให้แต้มโชคได้หลังจากที่เขาแปลงร่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสยดสยองนั่น
“เทวาทมิฬ สมแล้วที่ขึ้นชื่อว่าเป็นองค์กรชั่วร้าย แม้แต่ระบบยังถือว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ภายนอก!” เขาถอนหายใจพลางกดที่ส่วนร้านค้าโดยไม่รู้ตัว และมาถึงหน้ากล่องปริศนา
กล่องจำนวนมากถูกเปิด ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงได้ดอกกุหลาบ เหรียญเต๋าสวรรค์ และขยะอื่น ๆ อย่างเช่นทุกครั้ง
“890,000. อีกไม่นานข้าก็จะเก็บได้ครบล้าน!” แววตาของเขาแฝงด้วยความหวัง
ณ สำนักงานใหญ่ของเทวาทมิฬ
ในห้องโถงที่กว้างขวาง เสียงคำรามหนึ่งได้ดังขึ้นสนั่น “บัดซบ บัดซบ เมืองหัวตงกล้าดียังไงมาทำลายฐานเทวาทมิฬของข้า!”
"เงา"
กลุ่มก้อนก๊าซสีดำพุ่งออกมาจากความมืด "ครับท่าน"
“ไปแจ้งราชวงศ์มิงค์เมฆาที่อยู่นอกเมืองหัวตงว่าเทวาทมิฬของเรายินดีร่วมมือกับพวกเขา.. เราจะทำให้เมืองหัวตงหายไปจากดินแดนนี้!”