ตอนที่ 62 แบ่งแยกตอบโต้
ในจังหวะที่หลิงอี้กำลังคิดด้วยความงง ข่ายเจ๋อที่ถือลำโพงอยู่ก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“นายทำเสียงดังในเขตของพวกเราซึ่งทำให้คนนับไม่ถ้วนกังวลจนนอนไม่หลับ ไม่คิดว่าควรให้คำอธิบายหน่อยหรือไง?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลิงอี้จึงเลอกคิ้วขึ้นและพูดอย่างร่างเริง “มันไม่ใช่ปัญหาของฉันที่คนอื่นนอนไม่หลับ”
เขาแค่ฆ่ามอนสเตอร์เพื่อเพิ่มเลเวล
แม้ว่าเลเวลของเขาจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคนอื่น แต่สิ่งนี้เป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่นทำกัน
แล้วเขาต้องมาอธิบายให้ฟังเพราะเป็นสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ถึงน่ะเหรอ?
เรื่องแบบนี้มันไม่มีอยู่ในโลก
ต่อให้หลิงอี้ใช้การแปลงเสียงเป็นกลางพูด แต่คนที่ฟังอยู่ด้านล่างก็รู้สึกถึงความเมินเฉยในเสียงของเขา
ข่ายเจ๋อขมวดคิ้วและพูดด้วยใบหน้าจริงจัง “ไม่ต้องห่วง เราจะไม่ขอรายละเอียดของนาย แค่บอกพวกเราว่านายทำได้ยังไงก็พอ”
“สามารถฆ่ามอนสเตอร์ด่านสามของเส้นทางหลักได้ในวันที่สาม นายมีความลับในการแข็งแกร่งขึ้นใช่ไหม?”
“ถ้าไม่ใช่แบบนั้น นายคงมีจิตวิญญาณของผู้อาวุโสใช่หรือเปล่า?”
“แค่ตอบคำถามสองข้อนี้ก็พอ!”
เสียงดังแผ่กระจายไปทั่วระยะ100เมตร
หลิงอี้รู้ความตั้งใจของอีกฝ่ายแล้วหลังจากฟังคำพูดของเขา มันไม่มีอะไรมากกว่าความโลภที่ต้องการวิธีแข็งแกร่งขึ้นในสามวัน
แต่หลิงอี้ไม่อยากเสียเวลาพูดกับกลุ่มคนอ่อนแอที่เขาสามารถฆ่าได้ในทันที
เขาจึงหยิบลำโพงขึ้นมาพูดกับคนด้านล่างอีกครั้ง “ฉันให้เวลาพวกนายสิบวิ ใครไม่เห็นด้วยกับเขาก็รีบออกไปซะ”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกส่งผ่านหมอกสีขาวลงสู่เบื้องล่าง ผู้คนด้านล่างส่งเสืองฮือฮาทันที
“ให้เวลาพวกเราสิบวิเหรอ? เขาจะโจมตีพวกเรา!”
“หมายความว่าเขาจะลงมา?”
“ไอ้โง่! เขาจะเรียกดาวมาชนเรา!”
“โอ้ ถึงเราตายก็ไม่มีบทลงโทษอยู่แล้ว ใครจะกลัวคำขู่ของเขาล่ะ?”
ขณะที่คนส่วนใหญ่ดูถูกคำพูดของหลิงอี้ คนอีกกลุ่มก็เลือกอย่างอื่น
“ฉันมาที่นี่เพราะอยากเป็นเพื่อนกับเขา”
ลุงวัยกลางคนส่ายหัวและถอนหายใจ เขาขมวดคิ้วมองข่ายเจ๋อผ่านกลุ่มคน “แต่การพูดของข่ายเจ๋อเมื่อกี้เกือบทำให้เป็นศัตรูของเขาแล้ว ฉันไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด”
เขาเริ่มเดินจากไปขณะที่พูด
“ขอโทษนะ ไอ้โง่นั่นควบคุมตัวเองไม่ได้หรือไง? ถามด้วยท่าทางแบบนั้นแล้วใครจะตอบ” เด็กผมบลอนด์ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเริ่มจากไป
“ใช่ พูดจาได้แย่จริงๆ แล้วจะได้ข้อมูลอีกเหรอในเมื่อคนคนนั้นโกรธแล้ว? กลับกันเถอะ”
อาเอ่อร์มองผู้เล่นที่จากไปทีละคน
เขามองทีมสำรวจที่จ้างมาชั่วคราวแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับทีมสำรวจ “ที่นี่ค่อนข้างอันตราย กลับกันเถอะ”
เขาไม่พอใจกับสิ่งที่ข่ายเจ๋อพูดเมื่อกี้
เดิมทีเขาตามหาผู้เล่นใหม่ลึกลับก็เพื่อขอความร่วมมือ แต่คำพูดของข่ายเจ๋อทำให้พวกเขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน
ถ้าไม่ยอมจากไปตอนนี้ก็เท่ากับว่าต่อต้านผู้เล่นลึกลับ
ในฐานะนักธุรกิจ เขาไม่อยากเป็นศัตรูกับ‘สิ่งผิดปกติ’เช่นนี้โดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นเขาจึงเลือกจากไปเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
แค่สิบวินาที
เกือบสี่สิบคนเดินจากไป
คนที่เหลือมองหน้ากันแล้วส่ายหัวหรือไม่ก็หัวเราะ
“ให้ตายเถอะ มันหนีกันไปหมดแล้ว ไอ้พวกขี้ขลาด”
ในกลุ่มคน
ข่ายเจ๋อรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นว่ามีหลายสิบคนที่กลัวคำพูดของอีกฝ่าย เขาหยิบเขาลำโพงขึ้นมาแล้วตะโกนไปที่ยอดหน้าผาหินอีกครั้ง “ต่อให้นายฆ่าพวกเราทั้งหมดที่นี่ แต่พวกเราจะไม่หยุดแค่นี้อยู่ดี”
“พวกเราจะหลอกหลอนนายไปเรื่อยๆจนกว่านายจะให้คำอธิบายกับคนทั่วโลก!”
อีกฝ่ายสามารถกำจัดมอนสเตอร์ด่านที่สามได้
การทำลายพวกเขาก็ง่ายดายเช่นกัน
ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี
พวกเขาคงไม่กล้ามาที่นี่ถ้าไม่มีเรื่องไม่ได้รับบทลงโทษจากการตายก่อนเลเวล10
บนหน้าผาหิน
เมื่อหลิงอี้ได้ยินแบบนั้นเขาจึงส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ฮ่า มันเป็นแค่ความเห็นแก่ตัวของคนกลุ่มน้อย แล้วนายอยากจะใส่ชุดคลุมของ’คนทั่วโลก’ใช่ไหม?”
เขาขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับพวกเขา
เขาแค่ยกมือขึ้นแล้วให้จักรพรรดิน้ำแข็งลงมือ
“ไม่ต้องฆ่าพวกมัน แค่แช่แข็งพอ”
คนเหล่านี้ยังยังมีเลเวลต่ำอยู่ การฆ่าพวกเขาจึงไม่ทำให้พวกเขากลัว
นอกจากนี้การแช่แข็งยังเป็นวิธียับยั้ง!
แช่แข็งสามชั่วโมง ใครจะกล้ามาหาเขาอีกถ้าต้องหมดเวลาในเสินลู่?
จักรพรรดิน้ำแข็งพยักหน้าและยื่นมือสีขาวออกไปทันที เธอโบกมือตรงหมอกสีขาวด้านหน้าเขา
วินาทีถัดมา
หมอกสีขาวตกสู่พื้นอย่างรวดเร็วราวกับว่าพวกมันมีชีวิต ในเวลาเดียวกันหมอกสีขาวก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ
หลิงอี้เห็นคำอธิบายของหมอกขาวผ่านตาทิพย์
[หมอกฟ้าเยือกแข็ง]: รูปแบบที่สามของสกิลวิชาเทพเมฆเยือกแข็ง สร้างหมอกที่แผ่ขยายไปตามความคิดของเจ้าของ สามารรับรู้ได้ว่าหมอกอยู่ตรงไหนและแช่แข็งสิ่งที่อยู่ในหมอกได้
รูปแบบที่สามหมายถึงเอฟเฟกต์ที่สาม
สกิลบางอย่างมีผลหลายอย่าง โดยทั่วไปแล้วสกิลเหล่านี้จะมีระดับดาวสูง
หากสกิลของมอนสเตอร์อัญเชิญมีระดับดาวด้วย อย่างน้อยมันต้องเป็น6-7ดาว
แต่เอฟเฟกต์เยอะไม่ได้หมายความว่าสกิลแข็งแกร่ง สกิลระดับ10ดาวจำนวนมากมีเอฟเฟกต์แค่อย่างเดียวเท่านั้น
เมื่อหลิงอี้ตรวจสอบสกิลนี้ หมอกแช่แข็งก็ลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วและเริ่มใช้พลังแช่แข็งของพวกมัน
“หมอกพวกนี้มีพลังแช่แข็ง! มันจะแช่แข็งเรา!”
หน้าผาหินที่กลายเป็นน้ำแข็งและประติมากรรมน้ำแข็งรูปร่างเหมือนมนุษย์บนหน้าผาหินเตือนพวกเขาเสมอว่าหมอกสีขาวพวกนี้สามารถแช่แข็งพวกเขาได้
ทุกคนรีบถอยกลับทันทีเมื่อเห็นหมอกขาวเคลื่อนตัวลงมา
“ไม่ต้องกลัว กดเข้าร้านค้าแล้วซื้อยันต์ละลาย ถ้ามียันต์ละลายก็ไม่ต้องกลัวแล้ว!”
“ใช่ ยันต์ละลาย ยันต์ละลาย!”
มีคนในกลุ่มคนตะโกนขึ้นมาทันทีเมื่อจำยันต์ละลาย
มันคือยันต์ระดับEของร้านค้า ราคาอันละ5เหรียญทอง
[ยันต์ละลาย(E)]: ยกเลิกการแช่แข็งของเป้าหมายที่ระบุและป้องกันการแช่แข็ง10วินาที พลังของยันต์จะลดลงต่อเนื่องเมื่อใช้มัน
แม้ว่าใช้แค่5เหรียญทอง แต่บางคนยังคงลังเลที่จะซื้อมัน
“มันแค่ป้องกันไม่ให้เราถูกแช่แข็ง10วิ การใช้5เหรียญทองมันมากเกินไป”
ตามจริงแล้วสิ่งนี้แพงเกินไปสำหรับผู้อ่อนแอ แต่5เหรียญทองสำหรับผู้แข็งแกร่งส่วนใหญ่มันไม่ต่างจากการซื้อกะหล่ำปลี
ผู้เล่นที่สู้กับวิญญาณน้ำแข็งจะไม่คุ้นเคยกับสิ่งนี้ได้ยังไงในเมื่อพวกเขาต้องใช้มัน?
หมอกขาวเริ่มลงมาเรื่อยๆ เวลาไม่เคยรอใคร!
หลายคนกัดฟันซื้อยันต์และใช้มันภายใต้การคุกคามโดนแช่งแข็ง
ในชั่วพริบตา เอฟเฟกต์แสงสีน้ำเงินเมื่อใช้ยันต์ละลายก็ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องในบริเวณนี้