ตอนที่แล้วตอนที่ 60 ด้านบนหน้าผาหินโกลาหล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 62 แบ่งแยกตอบโต้

ตอนที่ 61 เงาพล่ามัว


เมื่อหลิงอี้ก้มหน้ามองข้างล่าง เขาพบว่าหน้าผาหินที่อยู่ใต้เท้าถูกแช่แข็ง

และยังเห็นประติมากรรมน้ำแข็งรูปร่างมนุษย์มากมายอยู่บนหน้าผาด้วย

“หืม?”

เขามองจักรพรรดิน้ำแข็งด้วยความแปลกใจ “กลายเป็นว่าเธอแช่แข็งพวกเขา ฉันเพิ่งพูดว่าทำไปเองว่าทำไมไม่มีใครขึ้นมาเลย”

จักรพรรดิน้ำแข็งเอียงศีรษะเล็กน้อยอย่างสงสัย ม่านตาสีขาวบริสุทธิ์คู่นั้นมองเขาด้วยตาปริบๆ

ราวกับว่าเธอกำลังคิดความหมายคำพูดของเขา

หลิงอี้กลัวเธอเข้าใจผิดจึงโบกมือปัดแล้วอธิบายอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันไม่อยากให้พวกเขาขึ้นมาอยู่แล้ว เธอทำได้ดีมาก”

เมื่อจักรพรรดิน้ำแข็งได้ยินแบบนั้น เธอจึงค่อยๆหันหน้ากลับ

ใบหน้าสีขาวของเธอยังไม่แสดงอารมณ์เหมือนเดิม

แต่ดวงตาสีขาวบริสุทธิ์แสดงความยินดีออกมา

หลิงอี้สังเกตเห็นเรื่องนี้แต่เลือกปล่อยผ่านไป เขาหันกลับมามองพื้นด้านล่างแทน

เขาเห็นได้คนด้านล่างประมาณร้อยคนผ่านหมอกเย็นจางๆ

พวกเขาล้อมกันเป็นกลมและฟังสิ่งที่คนตรงกลางพูด

ด้วยหมอกเย็นที่ลอยไปมาและระยะทาง เขาจึงมองไม่เห็นหน้าตาของผู้ชายที่อยู่ตรงกลาง แม้แต่สีผมก็ยังไม่เห็น

แค่เดาจากการคเลื่อนไหวได้ว่าเขาเป็นผู้ชาย

“หืม นายให้กำลังใจทุกคนเหรอ?”

หลิงอี้ไม่รู้ว่าพวกเขาผ่านอะไรมาบ้างแต่เขาพอจะเดาได้

ไม่ง่ายเลยที่ผู้เล่นต่ำกว่าเลเวล10จะผ่านสวนผลไม้คริมสันและแผ่นดินแผดเผาได้อย่างปลอดภัย ด้วยการเสียสละครั้งใหญ่พวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัย

ไม่อย่างนั้นนอกจากการปีนขึ้นมาบนหน้าผาแล้ว พวกเขาจะ‘ประชุม’กันทำไม?

หลิงอี้ก็พูดด้วยรอยิ้มขณะที่ดูกลุ่มคนด้านล่าง “นี่...”

“ถ้าพวกเขารวมตัวกันแบบนี้ ฉันก็เรียกดาวตกมาทำลายกลุ่มได้ในทีเดียวเลยสิ”

หลังจากคัดลอกพลังเวทของจักรพรรดิน้ำแข็ง

พลังเวทของเขาก็มีมากกว่า300!

ดาวตกที่ใหญ่กว่าเดิมสิบเท่าซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า300เมตร!

ไม่ต้องพูดถึงคนด้านล่างเลย แม้แต่เขาที่อยู่บนหน้าผายังรู้สึกอันตราย

นอกจากการใช้ดาวตกทุบตีแล้ว เขายังมีวิธีอื่นในการแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย และวิธีที่ง่ายที่สุดคือปล่อยให้จักรพรรดิน้ำแข็งลงมือ

เธอเทียบเท่าได้กับบอสมอนสเตอร์เลเวล20 ผู้เล่นมือใหม่ที่ต่ำกว่าเลเวล10พวกนี้จะไม่ถูกเชือดทิ้งเหรอ?

ขณะที่หลิงอี้คิดเรื่อง ใครบางคนด้านล่างเหมือนจะเห็นเขาแล้วเช่นกัน และพวกเขาเริ่มหันมามองเขาทีละคนด้วยความแปลกใจ

......

“ตรงนั้น! มีคนอยู่ตรงนั้น!”

“ฉันมองเห็นไม่ชัด! แต่เหมือนมีร่างคนอยู่ตรงนั้นจริงๆ!”

“มีมากกว่าหนึ่งคน นั่นบินอยู่เหรอ?”

เมื่อมีคนเบื่อและมองขึ้นไปบนยอดหน้าผาหิน พวกเขาก็เห็นว่ามีร่างสองร่างอยู่ตรงนั้น

พวกเขาเลิกสนใจข่ายเจ๋อที่กำลังพูดอยู่ทันทีและตะโกนบอกทุกคน “มีคนอยู่ตรงนั้น มีคนอยู่ตรงนั้น”

เมื่อคนอื่นๆมองจุดที่นิ้วเขาชี้ พวกเขาก็เห็นร่างพร่ามัวสองร่าง

ทุกคนตื่นเต้นมากเมื่อเห็นแบบนั้น

“เร็วเข้า ใครมีสกิลมองไกลบ้าง ดูทีว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังหมอก!”

“ผมที่ปลิวอยู่ค่อนข้างยาว บางทีคนนั้นอาจเป็นผู้หญิง”

“แล้วคนที่ยืนล่ะ?”

“ไม่แน่ใจ ตรงนั้นภาพมันมัวมาก”

ในไม่ช้าผู้เล่นหลายคนที่มีสกิลตรวจสอบระยะไกลก็ลุกขึ้นยืน

“ไม่ต้องห่วง มาดูใบหน้าแท้จริงของคนหลังหมอกกันเถอะ”

อย่างไรก็ตาม

ทุกคนส่ายหัวหลังจากพยายามอยู่ครึ่งนาที

“ไม่เห็นเลย ฉันใช้สกิลมองไกลแต่เห็นแค่บอลแสงสองลูกเท่านั้น”

“ใช่ สิ่งที่ฉันเห็นผ่านตามองทะลุคือบอลแสงสองลูกเหมือนกัน พวกเขาน่าจะโล่ป้องกันการตรวจสอบ”

“ดวงตาเห็นทุกสรรพสิ่งของฉันก็มองไม่เห็น”

“การรับรู้ทางจิตของฉันใช้ไม่ได้กับพวกเขา”

“…”

นี่เป็นคำพูดน่าผิดหวังของผู้เล่นมือใหม่ทุกคน

เมื่อเห็นแบบนั้นผู้เล่นรอบๆจึงถอนหายใจออกมา

“เฮ้อ”

“ถ้ามองไม่เห็นแล้วจะทำยังไงดี?”

“ไม่ต้องพูดเรื่องปีนขึ้นไปเลย ต่อให้ขึ้นไปได้ก็โดนพวกเขาฆ่าอยู่ดี”

“พวกเรามาหาเขาเพื่อตรวจสอบใบหน้าแท้จริง ในเมื่อดูไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ กลับได้แล้ว!”

เป็นที่รู้กันแล้วว่ามีคนสองคนอยู่อีกฝั่งหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นผู้ชายกับผู้หญิง

และอีกฝ่ายมีความสามารถในการป้องกันการตรวจสอบ

ข้อมูลสองอย่างนี้ทำให้บางคนรู้สึกว่ามันคุ้มค่าแล้ว

เขาจึงวางแผนกลับไป

เมื่อคนเหล่านี้กำลังจะเดินทางกลับ จู่ๆก็มีคนแนะนำว่า “ถ้าขึ้นไปไม่ได้ แล้วทำไมเราไม่...ไม่เรียกให้เขามาที่นี่ล่ะ ถ้าคุยกับเขาบางทีเอาอาจได้ข้อมูลเพิ่ม”

เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่พูด พวกเขาก็รู้สึกว่ามันมีเหตุผล

ข้อเสนอนี้ได้รับการยอมรับจากทุกคนอย่างรวดเร็ว

แล้วใครจะเป็นคนคุยด้วยล่ะ?

ไม่มีใครเห็นด้วยกับใคร แต่ไม่มีใครแสดงความคิดเห็นออกมาและปล่อยให้ผู้เล่นเลเวลสูงสุดออกไป

ดังนั้น

ข่ายเจ๋อที่มีเลเวล5จึงรับหน้าที่นี้ไปโดยปริยาย

เขารับลำโพงที่ผู้เล่นคนอื่นๆส่งให้ก่อนจะไอสองครั้ง จากนั้นชี้ไปที่ปากลำโพงที่ยอดหน้าผาหินแล้วพูด “คนข้างบนได้ยินไหม ได้ยินหรือเปล่า”

เสียงนี้ค่อนข้างดังมาก

อย่าว่าแต่50เมตรเลย บางทีอยู่ห่าง500เมตรก็ยังได้ยิน

เพราะลำโพงตัวนี้ก็เป็นไอเทมเหมือนกัน

ทุกคนมองยอดหน้าผาหินและแสดงสีหน้างุนงง: (°Д°)......

บางคนคิดว่ามันเป็นการกระทำที่โง่มากที่ถามอีกฝ่ายว่าได้ยินไหม พวกเขาสงสัยว่าควรให้คนอื่นพูดแทนดีหรือเปล่า แต่จู่ๆก็มีคนคิดว่าฝั่งตรงข้ามอาจจะไม่ได้ยินหรือได้ยินแล้วตอบกลับไม่ได้

หลิงอี้ได้ยินเสียงชัดเจน

เขาตะลึงเมื่อได้ยินเสียงในตอนแรก แต่เมื่อได้สติอีกครั้งเขาก็ใช้6เหรียญทองซื้อลำโพงขนาดเล็กจากร้านค้า

[ลำโพงเล็ก(E)]: สามารถปรับระดับได้  ระดับหนึ่งได้ยินในระยะ100เมตร ระดับสองได้ยินในระยะ300เมตร ระดับสามได้ยินในระยะ500เมตร นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเสียงให้เสียงเป็นกลาง(ไม่ให้เสียงออกเป็นชายหรือหญิง)ได้ด้วย

ด้านบนของลำโพงเล็กนี้เป็นลำโพงใหญ่ระดับD

มันส่งเสียงขั้นแรกในระยะหนึ่งกิโลเมตร

แต่ตอนนี้แค่ลำโพงเล็กก็พอแล้ว

ในร้านค้ายังมีไอเทมส่งเสียงอื่นๆอีก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไอเทมที่ราคาสูงขึ้น

แต่หลิงอี้เป็นคนที่ชอบความสงบ เขาไม่อยากทำเสียงดังจึงใช้แค่ลำโพงเล็ก6เหรียญทองอันนี้

ในอดีตเขาไม่มีโอกาสได้ใช้ของพวกนี้ แต่ตอนนี้เขามีลำโพงอยู่ในมือแล้ว ความคิดที่จะพูดจึงเริ่มเข้ามาในหัว

เขาหยิบลำโพงแล้วพูดกับคนด้านล่าง “ถ้าพวกนายมีความคิดอยู่ก็กลับไปซะ”

“ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเปิดเผยตัวต่อโลกภายนอก”

เสียงดังมาก เป็นเพราะว่าหลิงอี้ใช้มันในเสียงระดับสาม

ต้องหมุนปุ่มสีเหลือทวนเข็มนาฬิกาถึงจะปรับให้เป็นระดับหนึ่ง

หลังจากหลิงอี้พูดประโยคนี้ เขาก็ปรับเป็นระดับแรกทันที

เขาใช้เวลารอสักพักจนกระทั่งคนจากด้านล่างตอบกลับ

“ไม่สำคัญว่านายอยากเปิดเผยตัวเองหรือเปล่า แค่นายทำให้พวกเรามั่นใจและให้อธิบายแก่พวกเราก็พอ”

ชายที่มีแตรอยู่กลางฝูงชนพูด

หลิงอี้เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเมื่อได้ยินแบบนั้น

คำอธิบายอะไร?

ที่เขาพูดหมายความว่ายังไง?