ตอนที่ 61 เงาพล่ามัว
เมื่อหลิงอี้ก้มหน้ามองข้างล่าง เขาพบว่าหน้าผาหินที่อยู่ใต้เท้าถูกแช่แข็ง
และยังเห็นประติมากรรมน้ำแข็งรูปร่างมนุษย์มากมายอยู่บนหน้าผาด้วย
“หืม?”
เขามองจักรพรรดิน้ำแข็งด้วยความแปลกใจ “กลายเป็นว่าเธอแช่แข็งพวกเขา ฉันเพิ่งพูดว่าทำไปเองว่าทำไมไม่มีใครขึ้นมาเลย”
จักรพรรดิน้ำแข็งเอียงศีรษะเล็กน้อยอย่างสงสัย ม่านตาสีขาวบริสุทธิ์คู่นั้นมองเขาด้วยตาปริบๆ
ราวกับว่าเธอกำลังคิดความหมายคำพูดของเขา
หลิงอี้กลัวเธอเข้าใจผิดจึงโบกมือปัดแล้วอธิบายอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันไม่อยากให้พวกเขาขึ้นมาอยู่แล้ว เธอทำได้ดีมาก”
เมื่อจักรพรรดิน้ำแข็งได้ยินแบบนั้น เธอจึงค่อยๆหันหน้ากลับ
ใบหน้าสีขาวของเธอยังไม่แสดงอารมณ์เหมือนเดิม
แต่ดวงตาสีขาวบริสุทธิ์แสดงความยินดีออกมา
หลิงอี้สังเกตเห็นเรื่องนี้แต่เลือกปล่อยผ่านไป เขาหันกลับมามองพื้นด้านล่างแทน
เขาเห็นได้คนด้านล่างประมาณร้อยคนผ่านหมอกเย็นจางๆ
พวกเขาล้อมกันเป็นกลมและฟังสิ่งที่คนตรงกลางพูด
ด้วยหมอกเย็นที่ลอยไปมาและระยะทาง เขาจึงมองไม่เห็นหน้าตาของผู้ชายที่อยู่ตรงกลาง แม้แต่สีผมก็ยังไม่เห็น
แค่เดาจากการคเลื่อนไหวได้ว่าเขาเป็นผู้ชาย
“หืม นายให้กำลังใจทุกคนเหรอ?”
หลิงอี้ไม่รู้ว่าพวกเขาผ่านอะไรมาบ้างแต่เขาพอจะเดาได้
ไม่ง่ายเลยที่ผู้เล่นต่ำกว่าเลเวล10จะผ่านสวนผลไม้คริมสันและแผ่นดินแผดเผาได้อย่างปลอดภัย ด้วยการเสียสละครั้งใหญ่พวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัย
ไม่อย่างนั้นนอกจากการปีนขึ้นมาบนหน้าผาแล้ว พวกเขาจะ‘ประชุม’กันทำไม?
หลิงอี้ก็พูดด้วยรอยิ้มขณะที่ดูกลุ่มคนด้านล่าง “นี่...”
“ถ้าพวกเขารวมตัวกันแบบนี้ ฉันก็เรียกดาวตกมาทำลายกลุ่มได้ในทีเดียวเลยสิ”
หลังจากคัดลอกพลังเวทของจักรพรรดิน้ำแข็ง
พลังเวทของเขาก็มีมากกว่า300!
ดาวตกที่ใหญ่กว่าเดิมสิบเท่าซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า300เมตร!
ไม่ต้องพูดถึงคนด้านล่างเลย แม้แต่เขาที่อยู่บนหน้าผายังรู้สึกอันตราย
นอกจากการใช้ดาวตกทุบตีแล้ว เขายังมีวิธีอื่นในการแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย และวิธีที่ง่ายที่สุดคือปล่อยให้จักรพรรดิน้ำแข็งลงมือ
เธอเทียบเท่าได้กับบอสมอนสเตอร์เลเวล20 ผู้เล่นมือใหม่ที่ต่ำกว่าเลเวล10พวกนี้จะไม่ถูกเชือดทิ้งเหรอ?
ขณะที่หลิงอี้คิดเรื่อง ใครบางคนด้านล่างเหมือนจะเห็นเขาแล้วเช่นกัน และพวกเขาเริ่มหันมามองเขาทีละคนด้วยความแปลกใจ
......
“ตรงนั้น! มีคนอยู่ตรงนั้น!”
“ฉันมองเห็นไม่ชัด! แต่เหมือนมีร่างคนอยู่ตรงนั้นจริงๆ!”
“มีมากกว่าหนึ่งคน นั่นบินอยู่เหรอ?”
เมื่อมีคนเบื่อและมองขึ้นไปบนยอดหน้าผาหิน พวกเขาก็เห็นว่ามีร่างสองร่างอยู่ตรงนั้น
พวกเขาเลิกสนใจข่ายเจ๋อที่กำลังพูดอยู่ทันทีและตะโกนบอกทุกคน “มีคนอยู่ตรงนั้น มีคนอยู่ตรงนั้น”
เมื่อคนอื่นๆมองจุดที่นิ้วเขาชี้ พวกเขาก็เห็นร่างพร่ามัวสองร่าง
ทุกคนตื่นเต้นมากเมื่อเห็นแบบนั้น
“เร็วเข้า ใครมีสกิลมองไกลบ้าง ดูทีว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังหมอก!”
“ผมที่ปลิวอยู่ค่อนข้างยาว บางทีคนนั้นอาจเป็นผู้หญิง”
“แล้วคนที่ยืนล่ะ?”
“ไม่แน่ใจ ตรงนั้นภาพมันมัวมาก”
ในไม่ช้าผู้เล่นหลายคนที่มีสกิลตรวจสอบระยะไกลก็ลุกขึ้นยืน
“ไม่ต้องห่วง มาดูใบหน้าแท้จริงของคนหลังหมอกกันเถอะ”
อย่างไรก็ตาม
ทุกคนส่ายหัวหลังจากพยายามอยู่ครึ่งนาที
“ไม่เห็นเลย ฉันใช้สกิลมองไกลแต่เห็นแค่บอลแสงสองลูกเท่านั้น”
“ใช่ สิ่งที่ฉันเห็นผ่านตามองทะลุคือบอลแสงสองลูกเหมือนกัน พวกเขาน่าจะโล่ป้องกันการตรวจสอบ”
“ดวงตาเห็นทุกสรรพสิ่งของฉันก็มองไม่เห็น”
“การรับรู้ทางจิตของฉันใช้ไม่ได้กับพวกเขา”
“…”
นี่เป็นคำพูดน่าผิดหวังของผู้เล่นมือใหม่ทุกคน
เมื่อเห็นแบบนั้นผู้เล่นรอบๆจึงถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ”
“ถ้ามองไม่เห็นแล้วจะทำยังไงดี?”
“ไม่ต้องพูดเรื่องปีนขึ้นไปเลย ต่อให้ขึ้นไปได้ก็โดนพวกเขาฆ่าอยู่ดี”
“พวกเรามาหาเขาเพื่อตรวจสอบใบหน้าแท้จริง ในเมื่อดูไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ กลับได้แล้ว!”
เป็นที่รู้กันแล้วว่ามีคนสองคนอยู่อีกฝั่งหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นผู้ชายกับผู้หญิง
และอีกฝ่ายมีความสามารถในการป้องกันการตรวจสอบ
ข้อมูลสองอย่างนี้ทำให้บางคนรู้สึกว่ามันคุ้มค่าแล้ว
เขาจึงวางแผนกลับไป
เมื่อคนเหล่านี้กำลังจะเดินทางกลับ จู่ๆก็มีคนแนะนำว่า “ถ้าขึ้นไปไม่ได้ แล้วทำไมเราไม่...ไม่เรียกให้เขามาที่นี่ล่ะ ถ้าคุยกับเขาบางทีเอาอาจได้ข้อมูลเพิ่ม”
เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่พูด พวกเขาก็รู้สึกว่ามันมีเหตุผล
ข้อเสนอนี้ได้รับการยอมรับจากทุกคนอย่างรวดเร็ว
แล้วใครจะเป็นคนคุยด้วยล่ะ?
ไม่มีใครเห็นด้วยกับใคร แต่ไม่มีใครแสดงความคิดเห็นออกมาและปล่อยให้ผู้เล่นเลเวลสูงสุดออกไป
ดังนั้น
ข่ายเจ๋อที่มีเลเวล5จึงรับหน้าที่นี้ไปโดยปริยาย
เขารับลำโพงที่ผู้เล่นคนอื่นๆส่งให้ก่อนจะไอสองครั้ง จากนั้นชี้ไปที่ปากลำโพงที่ยอดหน้าผาหินแล้วพูด “คนข้างบนได้ยินไหม ได้ยินหรือเปล่า”
เสียงนี้ค่อนข้างดังมาก
อย่าว่าแต่50เมตรเลย บางทีอยู่ห่าง500เมตรก็ยังได้ยิน
เพราะลำโพงตัวนี้ก็เป็นไอเทมเหมือนกัน
ทุกคนมองยอดหน้าผาหินและแสดงสีหน้างุนงง: (°Д°)......
บางคนคิดว่ามันเป็นการกระทำที่โง่มากที่ถามอีกฝ่ายว่าได้ยินไหม พวกเขาสงสัยว่าควรให้คนอื่นพูดแทนดีหรือเปล่า แต่จู่ๆก็มีคนคิดว่าฝั่งตรงข้ามอาจจะไม่ได้ยินหรือได้ยินแล้วตอบกลับไม่ได้
หลิงอี้ได้ยินเสียงชัดเจน
เขาตะลึงเมื่อได้ยินเสียงในตอนแรก แต่เมื่อได้สติอีกครั้งเขาก็ใช้6เหรียญทองซื้อลำโพงขนาดเล็กจากร้านค้า
[ลำโพงเล็ก(E)]: สามารถปรับระดับได้ ระดับหนึ่งได้ยินในระยะ100เมตร ระดับสองได้ยินในระยะ300เมตร ระดับสามได้ยินในระยะ500เมตร นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเสียงให้เสียงเป็นกลาง(ไม่ให้เสียงออกเป็นชายหรือหญิง)ได้ด้วย
ด้านบนของลำโพงเล็กนี้เป็นลำโพงใหญ่ระดับD
มันส่งเสียงขั้นแรกในระยะหนึ่งกิโลเมตร
แต่ตอนนี้แค่ลำโพงเล็กก็พอแล้ว
ในร้านค้ายังมีไอเทมส่งเสียงอื่นๆอีก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไอเทมที่ราคาสูงขึ้น
แต่หลิงอี้เป็นคนที่ชอบความสงบ เขาไม่อยากทำเสียงดังจึงใช้แค่ลำโพงเล็ก6เหรียญทองอันนี้
ในอดีตเขาไม่มีโอกาสได้ใช้ของพวกนี้ แต่ตอนนี้เขามีลำโพงอยู่ในมือแล้ว ความคิดที่จะพูดจึงเริ่มเข้ามาในหัว
เขาหยิบลำโพงแล้วพูดกับคนด้านล่าง “ถ้าพวกนายมีความคิดอยู่ก็กลับไปซะ”
“ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเปิดเผยตัวต่อโลกภายนอก”
เสียงดังมาก เป็นเพราะว่าหลิงอี้ใช้มันในเสียงระดับสาม
ต้องหมุนปุ่มสีเหลือทวนเข็มนาฬิกาถึงจะปรับให้เป็นระดับหนึ่ง
หลังจากหลิงอี้พูดประโยคนี้ เขาก็ปรับเป็นระดับแรกทันที
เขาใช้เวลารอสักพักจนกระทั่งคนจากด้านล่างตอบกลับ
“ไม่สำคัญว่านายอยากเปิดเผยตัวเองหรือเปล่า แค่นายทำให้พวกเรามั่นใจและให้อธิบายแก่พวกเราก็พอ”
ชายที่มีแตรอยู่กลางฝูงชนพูด
หลิงอี้เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเมื่อได้ยินแบบนั้น
คำอธิบายอะไร?
ที่เขาพูดหมายความว่ายังไง?