ตอนที่แล้วบทที่ 79 ความหวั่นไหวของจี้เฉียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 81 การกระทำของหลี่เฟยเฟย

บทที่ 80 เฉียนเฉียน ทำไมเธอถึงหน้าแดง?


ทุกคนปรบมือให้กับการแสดงของหลินหยวน

“สุดยอดมาก! มันคือเพลงอะไรกัน? พระเจ้า!”

“ฉันจำได้ มันมีชื่อว่า ‘Blue and White Porcelain’ นอกจากจะหล่อแล้วยังร้องเพลงเก่งอีกด้วย”

“เขาเก่งทั้งการเล่นเปียโนและร้องเพลง หนุ่มหล่อคนนี้จะเดบิวต์เมื่อไหร่ ฉันจะซื้อตั๋วแน่นอน!”

“สุดหล่อ ฉันอยากอุ้มท้องให้คุณ!”

“ไอเกย์นี่ เงียบไปเลย ฉันจำได้ว่าคุณเพิ่งใส่ร้ายสามีของฉันโดยบอกว่าเขาร้องเพลงไม่ได้!”

“สามีของคุณ? เขาแต่งงานกับคุณแล้วหรือไง? หุบปาก! เขาเป็นสามีของฉัน!”

ผู้คนทั้งหมด 100,000 คนส่งเสียงเชียร์ดังลั่นเพื่อหลินหยวน

เสียงเชียร์นี้ดังกว่าตอนของหลี่เฟยเฟยเสียอีก

หลี่เฟยเฟยซึ่งอยู่บนเวทีเพื่อเตรียมกอบกู้สถานการณ์ ยิ้มอย่างขมขื่นในเวลานี้

อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเธอบ่งบอกถึงสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะมันเต็มไปด้วยสีสันแห่งความประหลาดใจและเป็นประกายระยิบระยับ

หลินหยวนยิ้มบางๆเมื่อได้ยินเสียงเชียร์และการสรรเสริญของผู้คน

หลังจากกล่าวขอบคุณแล้ว เขาก็กลับไปที่นั่งอย่างสงบ

แน่นอน เมื่อเขากลับไป ทุกคนก็ยังคงมองมาที่เขา

ไม่นาน จากปากต่อปาก ผู้คนก็เริ่มรับรู้ภูมิหลังของเขา

เขาเป็นนายน้อยของหลินกรุ๊ป

เขาเป็นอัจฉริยะในการเล่นหุ้น

เขาเป็นปรมาจารย์ด้านเปียโน

นอกจากนี้ ความสามารถด้านการร้องเพลงของเขายังยอดเยี่ยมอีกด้วย

และผู้คนก็ปฏิเสธความหล่อเหลาของเขาไม่ได้เช่นกัน

เขาดูสมบูรณ์แบบเกินไป

สาวๆต่างก็หมกมุ่นอยู่ครู่หนึ่งโดยฝันว่าจะมีใครสักคนแบบเขาเป็นแฟน แต่เมื่อพวกเธอเห็นจี้เฉียน ที่อยู่ข้างๆหลินหยวน พวกเธอก็พบกับความเป็นจริงและความหวังของพวกเธอก็ดับลง

แม้ว่าสายตาจะเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและความเกลียดชัง

แต่พวกเธอก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับจี้เฉียนได้เลย

จี้เฉียนเองก็สมบูรณ์แบบเช่นกัน

บางทีคงมีเพียงผู้หญิงที่สวยงามเช่นนี้เท่านั้นที่สามารถคู่ควรกับคนอย่างหลินหยวน ที่อยู่ในระดับ ‘สามร้อยหกสิบองศาไร้จุดบอด’

[TL: ‘สามร้อยหกสิบองศาไร้จุดบอด’ หมายถึง หน้าตาหล่อเหลา ดูดี ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม]

ทันทีที่หลินหยวนกลับมา หยูชานชานก็คว้าแขนของหลินหยวน

“ลูกพี่ลูกน้อง คุณซ่อนพรสวรรค์เช่นนี้ไว้จากฉันตั้งแต่เมื่อไหร่? คุณหัดร้องเพลงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ฉันคิดว่าเราตกลงที่จะอยู่เคียงข้างกันเสมอ คุณจะเป็นผีและฉันจะเป็นหมาป่า”

หยูชานชานมองไปที่หลินหยวนเป็นเวลานานและพูดว่า: “ใช่แล้ว คุณต้องจ่ายเงินให้ฉันสำหรับเนื้อเสียบไม้และป๊อปคอร์น! เพราะเมื่อคุณเริ่มร้องเพลงฉันก็ทำพวกมันตก!” หยูชานชานยื่นมือออกไปหน้าเขา

หลินหยวนตบมือเล็กๆของเธอ

“ฉันจะคุยกับแม่ของคุณว่าการเลี้ยงฮาเร็ม 13 คนมีค่าใช้จ่ายเท่าไร” หลินหยวนกล่าว

เมื่อได้ยินคำขู่ของหลินหยวน หยูชานชานก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ

“เฮ้ พี่ชาย คุณร้องเพลงได้ดีมาก ฉันชอบมันมาก จากนี้ไปชานชานจะเป็นน้องสาวตัวน้อยของคุณ คุณเป็นคนที่ชานชานชื่นชมมากที่สุด”

“ยังไงก็ตาม เฉียนเฉียน ทำไมเธอถึงหน้าแดงล่ะ? เธอไม่สบายหรือเปล่า หรือเธอหลงใหลในเสียงร้องของพี่ชายฉันกันแน่?”

ในขณะที่ยังคงประจบประแจงหลินหยวน เธอก็เปลี่ยนหัวข้อการหยอกล้อของเธอ

เธอผลักจี้เฉียนที่ยิ้มแย้มและเงียบขรึมเข้าไปในหลุมที่ลุกเป็นไฟ

“วันนี้ฉันทาบลัชออนมากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่หยูชานชานพูด จี้เฉียนก็สูดหายใจเข้าลึกๆและพยายามสงบสติอารมณ์

จากนั้น เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันจำสิ่งที่เธอเพิ่งพูดได้ เมื่อนายน้อยหลินร้องเพลง รอบข้างจะเต็มไปด้วยเสียงคร่ำครวญ ใช่ไหม?”

“หืม?” หลินหยวนเหลือบมอง

“ไม่! ไม่ๆๆ! เฉียนเฉียน ฉันแค่ล้อเล่น”

เมื่อเห็นดวงตาของหลินหยวนมองมาที่เธออีกครั้ง เธอก็ยังคงเป็นลูกแมวตัวน้อย

หยูชานชานรู้ว่าเธอไม่สามารถหยอกล้อทั้งหลินหยวนและจี้เฉียนได้

จี้เฉียนหยุดกดดันหยูชานชาน จากนั้นก็ยิ้มและกล่าวว่า “นายน้อยหลินร้องเพลงได้ดีมาก มันดีพอๆกับทักษะการเล่นเปียโนของคุณ นี่เป็นเพลงที่ดีที่สุดที่ฉันเคยฟังมา ฉันชื่นชมมันมาก”

“นายน้อยหลิน ฉันชอบเพลงนี้มาก นายน้อยหลินสามารถแบ่งปันเพลงนี้ให้ฉันในภายหลังได้หรือไม่? ฉันเองก็อยากร้องเพลงได้เหมือนนายน้อยหลิน” จี้เฉียนกล่าวด้วยร่องรอยของการชื่นชมในสายตาของเธอ

สาวงามที่ไม่มีใครเทียบได้เช่นนี้ใช้ดวงตาคู่หนึ่งที่ชุ่มช่ำเล็กน้อยมองเขาด้วยร่องรอยของการชื่นชมในดวงตาของเธอ

เป็นใครเจอแบบนี้ก็คงจะละลายไปถึงกระดูก

แต่หลินหยวนยังคงสงบและพูดด้วยรอยยิ้มเรียบๆ “แน่นอน คุณจี้”

จริงๆแล้ว จี้เฉียนเป็นคนที่ปฏิเสธจะยอมรับความพ่ายแพ้

ก่อนหน้านี้ระหว่างการแสดง หลินหยวนหยอกล้อเธอด้วยประโยค

“สีครามรอละอองไอฝน ส่วนฉันเฝ้ารอเธอ”

ตอนนี้ดูเหมือนว่าจี้เฉียนกำลังมองหาวิธีอื่นในการแก้แค้นอีกครั้ง

แต่หลินหยวนจะไม่ให้โอกาสเธออีก

เมื่อเห็นปฏิกิริยานิ่งเฉยของหลินหยวน จี้เฉียนก็กัดฟันขาวของเธออย่างลับๆและในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความคิดมากมาย

ในขณะเดียวกัน หลินหยวนยังคงคุยกับหยูชานชาน

อีกด้านหนึ่ง ในบริษัทของเหยียนกรุ๊ป เหยียนหรูเยว่มองโทรศัพท์ของเธออย่างว่างเปล่า

ภาพการร้องเพลงของหลินหยวนยังคงอยู่ในใจของเธอ

ปรากฎว่าหลินหยวนร้องเพลงได้จริงๆ แต่เมื่อไหร่กันที่เขาร้องได้เก่งขนาดนี้?

เป็นไปได้ไหมว่าวันนั้นหลังจากที่เขาร้องเพลงให้เธอ เธอดุเขาที่ร้องเพลงอย่างแย่มากแล้วเขาก็เริ่มเรียน?

“สีครามรอละอองไอฝน ส่วนฉันเฝ้ารอเธอ”

“เขารอใครอยู่กัน”

“ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบคนนั้นหรือเปล่า”

เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอรู้สึกเศร้ามากในใจ

เธอไม่ต้องการจัดการกับเอกสารบนโต๊ะอีกต่อไป

เธอจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์อย่างว่างเปล่า

…..

คอนเสิร์ตจบลงอย่างรวดเร็วหลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง

คอนเสิร์ตของหลี่เฟยเฟยวันนี้สั้นกว่าปกติ

หลังจากการแสดงของหลินหยวน ไม่ว่าหลี่เฟยเฟยจะพยายามร้องเพลงมากแค่ไหน เธอก็ไม่อาจดึงดูดความกระตือรือร้นจากผู้ชมได้อีกต่อไป เธอจึงตัดสินใจจบคอนเสิร์ตก่อนเวลาโดยที่ผู้ชมยังคงตื่นเต้นอยู่

ไม่ใช่ว่าหลี่เฟยเฟยร้องเพลงได้ไม่ดี เพียงแต่หลินหยวนร้องเพลงได้ดีเกินไป

เมื่อเทียบกับหลินหยวนที่เป็นเหมือนหยกที่สมบูรณ์แบบ หลี่เฟยเฟยนั้นด้อยกว่าเล็กน้อย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลี่เฟยเฟยก็ยิ้มอย่างขมขื่น

เดิมทีเธอคิดว่าเธอเป็นหยกที่อยู่เหนือหลินหยวน แต่กลับกลายเป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

หลินหยวนออกจากสถานที่จัดคอนเสิร์ตพร้อมกับจี้เฉียนและหยูชานชานผ่านประตูวีไอพี

โชคดีที่มีทางออกวีไอพี ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะต้องเดินผ่านทางเข้าหลัก และหลินหยวนคงจะถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย

หลังจากการเล่นเพลง ‘Blue and White Porcelain’ ของหลินหยวน ครึ่งหนึ่งของผู้ชม 100,000 คนกลายเป็นแฟนคลับของเขาแล้ว

ในบรรดาแฟนๆเหล่านั้น มีผู้หญิงที่กลายเป็นแฟนตัวยงของเขาด้วยซ้ำ

แต่เมื่อพวกเขากำลังจะออกจากทางออกวีไอพี หลินหยวนก็ขมวดคิ้ว เพราะเขาเห็นคนสองสามคนยืนขวางทางออกอยู่

**********