บทที่ 75 คุณรู้จักเพลง 'Blue Danube' หรือเปล่า?
หลินหยวนยังจำได้
ครั้งสุดท้ายที่งานนิทรรศการดนตรี จี้เฉียนต้องการแกล้งเขาเพื่อดูว่าเขาจะตอบสนองอย่างไร
การทำเช่นนี้ควรเป็นเรื่องง่ายสำหรับจี้เฉียน เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบจริงๆ
อย่างไรก็ตาม หลินหยวนทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก
ความต้านทานต่อการล่อลวงของหลินหยวนนั้นสูงมาก และเธอก็ไม่ประสบความสำเร็จในวันนั้น
ดังนั้น วันนี้เธอจึงเริ่มหยอกล้อเขาอีกครั้ง
นอกจากขอบคุณและเลี้ยงอาหารค่ำเขาแล้ว การหยอกล้อเขาเป็นหนึ่งในเป้าหมายของเธอด้วย
นี่แสดงถึงความไม่เต็มใจของจี้เฉียนที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
นี่คือสิ่งที่เธอใส่ใจ
เธอจะไม่หยุดจนกว่าเธอจะเอาคืนที่หลินหยวนเล่นกับอารมณ์ของเธอได้…
หลังจากค้นพบความตั้งใจของจี้เฉียน หลินหยวนก็สามารถเข้าใจพฤติกรรมของจี้เฉียนได้แล้ว
ไม่น่าแปลกใจที่เธอจงใจแต่งตัวสวยและทำทีสนใจเขาอยู่เสมอ
หลินหยวนยอมรับว่าแผนของจี้เฉียนดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความงามอันสมบูรณ์แบบของเธอ
แต่แล้ว ไม่ว่าเธอจะสมบูรณ์แบบแค่ไหน เธอก็ยังเป็นเด็กสาวที่ไม่เคยแม้แต่จะตกหลุมรัก
เธอกับวายร้ายคนนี้ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
ถ้าเธอรู้เรื่องนี้ เธอคงไม่กล้าแม้แต่จะหยอกล้อเขาด้วยซ้ำ
ในระหว่างมื้ออาหาร จี้เฉียนได้หยอกล้อหลินหยวนเล็กน้อย
แน่นอนว่าไม่ใช่ด้วยท่าทางที่ดูเจ้าชู้
เธอมองหลินหยวนเป็นบางครั้งแล้วเบือนหน้าหนีออกไปอย่างเขินอาย
เมื่อหยูชานชานตักอาหารให้หลินหยวน เธอก็ทำให้เขาเช่นกัน
ในฐานะวายร้าย หลินหยวนยิ้มให้กับการแสดงของจี้เฉียนเล็กน้อย
หลินหยวนไม่สนใจ
มันคงน่าอายเกินไปที่วายร้ายเลเวลสูงอย่างเขาจะถูกหลอกโดยกลอุบายเด็กๆของจี้เฉียน
จี้เฉียนต้องการหยอกล้อเขาด้วยสิ่งง่ายๆ
ฝันไปเถอะ
หากจี้เฉียนใช้ความคิดริเริ่มและก้าวร้าวมากขึ้นอีกเล็กน้อย ด้วยความสมบูรณ์แบบ 100 คะแนนเต็มของเธอ ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหยอกล้อเขา
อย่างไรก็ตาม หลินหยวนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงที่เขาจะถูกล่อลวง ถ้าเขาไม่เป็นคนงับเหยื่อเสียเอง
ในที่สุดจี้เฉียนก็ตระหนักว่าหลินหยวนไม่ได้รับผลกระทบจากการหยอกล้อเล็กๆน้อยๆของเธอ เธอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
เธอไม่ได้ภูมิใจในเสน่ห์ของเธอมากนัก แต่เธอรู้ดีว่ามันส่งผลต่อผู้อื่นอย่างไร
ตราบเท่าที่เธอยิ้ม ผู้ชายเกือบทุกคนจะตกหลุมรักมัน
แต่วันนี้ เธอรู้สึกว่าเธอได้ลองใช้ทริคเล็กๆน้อยๆทุกอย่างกับหลินหยวนแล้ว
แต่หลินหยวนยังคงมั่นคงเหมือนภูเขาไท่ซาน
[TL: เขาไท่ซานได้รับการกล่าวขานว่าเป็นภูเขาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาห้าเขาที่ยิ่งใหญ่ในภาคกลางของจีน]
ดังนั้นจี้เฉียนจึงรู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
เธอและหลินหยวนกำลังต่อสู้กันอย่างลับๆ
หยูชานชานไม่ได้สังเกตสิ่งนี้และกำลังกินอย่างสนุกสนาน
“เอ๊ะ ทำไมกินช้ากันจังล่ะ?” หยูชานชานกล่าวด้วยปากที่เต็มไปด้วยอาหารของเธอ
“เงียบน่า ยัยเสี่ยวฟ่านถง” หลินหยวนและจี้เฉียนพูดพร้อมกัน
[TL: ฟ่านถง = ถังข้าว = คนไม่เอาไหน]
ถูกทั้งสองคนบอกว่าไม่เอาไหน หยูชานชานก็ไม่กล้าพูดและก้มศีรษะเพื่อกินและดื่มต่อไป
มื้ออาหารจบลงอย่างสมบูรณ์หลังจากการหยอกล้อไม่หยุดของจี้เฉียน
ทั้งสามคนเดินออกจากร้านอาหาร
หลินหยวนยังไม่ทันได้พูดอะไร
จี้เฉียนยิ้มและหยิบตั๋วขึ้นมาสามใบ
“วันนี้นักร้องชื่อดัง หลี่เฟยเฟย กำลังจัดคอนเสิร์ตที่เจียงเป่ย ฉันมีตั๋วสามใบพอดี สนใจไปดูคอนเสิร์ตด้วยกันไหม?” จี้เฉียนถามด้วยรอยยิ้ม
“ว้าว! หลี่เฟยเฟยคนนั้นน่ะหรอ? และเธอยังได้ตั๋วมาสามใบ เธอยอดเยี่ยมที่สุด! ฉันไปแน่นอน” เมื่อได้ยินคำพูดของจี้เฉียน หยูชานชานก็กระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“แล้วนายน้อยหลินล่ะ?” จี้เฉียนยิ้ม
นี่เป็นหนึ่งในแผนของเธอ
จี้เฉียนและหลินหยวนมีความคล้ายคลึงกันมาก พวกเขาเป็นคนที่มีแผนการที่สมบูรณ์แบบและรอบคอบ พวกเขามักเหลือทางรอดให้ตัวเองเสมอ
การไปดูคอนเสิร์ตก็เหมือนกับการได้พักผ่อนหลังจากถูกหยอกล้อ
หลินหยวนเข้าใจเจตนาของจี้เฉียน
หลังอาหารเย็นคงจะดีถ้าได้ไปดูคอนเสิร์ต
ยังไงตั๋วก็อยู่ตรงหน้าแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไป
เขาไม่เชื่อว่าจี้เฉียนสามารถเอาชนะเขาได้
“ฉันก็จะไปด้วย” หลินหยวนพยักหน้า
วันนี้หลินหยวนขับรถโรลรอยซ์แฟนท่อม เขาจึงสามารถพาสองสาวไปยังสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่ เจียงเป่ยวอเตอร์คิวบ์ได้
[TL: Water Cube(ศูนย์กีฬาทางน้ำแห่งชาติปักกิ่ง) อารมณ์ประมาณสวนน้ำขนาดใหญ่]
หลี่เฟยเฟยเป็นดาราดังอันดับต้นๆในขณะนี้
เธอเป็นที่นิยมอย่างมาก
หลินหยวนและหญิงสาวทั้งสองมาถึงที่ทางเข้าเจียงเป่ยวอเตอร์คิวบ์ซึ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต พวกเขาเห็นผู้คนจำนวนมาก
“ว้าวว คนเยอะมาก! ฉันตื่นเต้นสุดๆเลยที่จะได้เห็นดาราดัง ฉันจะไปซื้ออาหารก่อนเพื่อกินและระงับความตื่นเต้นของฉัน” หยูชานชานกล่าว
หลังจากพูดจบเธอก็วิ่งไปที่แผงขายอาหารข้างๆเพื่อซื้ออาหาร
ปล่อยให้หลินหยวนและจี้เฉียนรอเธอ
คอนเสิร์ตยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ หลินหยวนและจี้เฉียนจึงไม่รีบร้อน
“นายน้อยหลิน คุณช่วยถือกระเป๋าฉันหน่อยได้ไหม?” จี้เฉียนถามขณะที่เธอถอดกระเป๋าใบเล็กๆข้างตัวเธอออก
“ได้สิ” หลินหยวนไม่มีข้อโต้แย้งอะไร
จี้เฉียนเอนตัวขึ้นทันทีและยื่นกระเป๋าในมือให้หลินหยวน
เหตุผลที่หลินหยวนช่วยถือกระเป๋าเป็นเพราะจี้เฉียนดูเหมือนกำลังจะมัดผมที่ยาวถึงเอวของเธอ
เพราะมีคนจำนวนมากเกินไปที่นี่และคงไม่สะดวกที่จะปล่อยผมของเธอไว้แบบนี้
หลังจากรับกระเป๋าแล้ว จี้เฉียนซึ่งยืนอยู่ใกล้กับหลินหยวนมากก็ไม่ได้ขยับตัวออกไป แต่เอาสายรัดขึ้นมา
“นายน้อยหลิน คุณรู้จักเพลง ‘Blue Danube’ หรือเปล่า?” จี้เฉียนถามทันทีขณะที่เตรียมจะมัดผม
หลินหยวนตอบโดยไม่รู้ตัว: “The Blue Daube เป็นเพลงที่แต่งโดยนักแต่งเพลงชาวออสเตรียที่มีชื่อเสียงด้านดนตรีคลาสสิก และได้รับการขนานนามโดยคนรุ่นหลังว่าเป็น ‘ราชาแห่งวอลทซ์’ แนวเพลงของโยฮันน์ สเตราส์…”
ขณะที่พูด หลินหยวนมองไปที่จี้เฉียนซึ่งอยู่ใกล้กับเขา ท้ายที่สุด มันจะไม่สุภาพถ้าไม่มองคนที่คุณกำลังพูดด้วย
แต่ด้วยการหันสายตาไปมอง หลินหยวนก็ถูกทำให้ตกตะลึง
***********