828 - โลกโบราณ
828 - โลกโบราณ
“เขากลืนคนมากกว่าร้อยคนในคำเดียว!”
หลายคนเกือบเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น ทุกคนที่นี่ระดับต่ำสุดก็เป็นผู้ที่อยู่ในอาณาจักรแปลงมังกรแล้ว ไม่มีคนอ่อนแอแม้แต่คนเดียว
“ในสมัยโบราณมีเทพเจ้าจริงๆ เพียงแต่หลังความตายของเทพ มารจึงได้ถือกำเนิด”
“นี่คือมารอมตะถอยกลับมา เขาจะสังหารทุกคนที่เข้าใกล้”
แม้กระทั่งปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนก็ยังเกิดความหวาดกลัว
“เว้นแต่ชายชราผู้บ้าคลั่งจะมาที่นี่ มิฉะนั้นจะไม่มีใครสามารถป้องกันตัวจากการโจมตีของเขาได้!”
น่าเสียดายที่ไม่มีร่องรอยของชายชราผู้บ้าคลั่งและไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
“อมิตาภะ”
นักบวชชรารูปหนึ่งแห่งทะเลทรายตะวันตกได้ท่องชื่อศาสดาโบราณก่อนจะกล่าวว่า
“มหาศาสดาของข้ามีเมตตา ในอดีตพระองค์ได้เผชิญกับมารที่ต้องการขัดขวางการตรัสรู้ของพระองค์ และวิธีการที่พระองค์ใช้ปราบมารเหล่านั้นยังคงตกทอดมาถึงพวกเรา”
ทุกคนต่างตกตะลึง สาเหตุที่เทพโบราณมีความลึกลับและน่าสะพรึงกลัวก็เพราะในอดีตแทบจะไม่มีผู้ใดเคยพบกับพวกเขาเลย ไม่คิดว่าคนจากทะเลทรายตะวันตกจะเคยเจอกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้
ผู้คนต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่านิกายพุทธในทะเลทรายตะวันตกมีมรดกโบราณที่สามารถปราบมารผู้ยิ่งใหญ่ได้
“ร่ายบทสวดเร็ว เราต้องปราบมารตนนี้!” จักรพรรดิคนหนึ่งเร่งเร้า
“เราต้องร่วมมือกันท่องบทภาวนาของพุทธองค์” นักบวชชรากล่าว
“ฮึ่ม!”
เสียงแรกของมารตนนี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนตกลงไปในห้องใต้ดินน้ำแข็ง ลมเย็นพัดออกมาจากรูขุมขนและสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เสียงแบบนี้ดูเหมือนจะมาจากขุมนรกที่ลึกล้ำ ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกและหวาดกลัว!
“นะโม อมิตาภะ เย โดตากาตะเย โดดีเยตา อามิริตา วาวี...”
ขณะนั้นนักบวชจากทะเลทรายตะวันตกเริ่มท่องบทสวด คำพูดของเขาเปลี่ยนเป็นแสงของพุทธะที่ปกคลุมผู้คนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
“ทุกคนควรท่องพระคัมภีร์และปราบมารด้วยกัน!” จักรพรรดิ์ตะโกน
“ขจัดอุปสรรคกรรมทั้งหมดและเกิดในแดนดินสุขติ” ทุกคนท่องพระคัมภีร์ด้วยกัน มนต์แห่งการเกิดใหม่ก็ดังก้องไปทั่วทะเลสาบ
เห็นได้ชัดเจนว่า มีแสงชิ้นหนึ่งพุ่งออกมาจากทุกคน เชื่อมโยงกันและค่อยๆ ผลักไสมารตนนั้นออกไป
แต่มารหนุ่มยังคงต้องการต่อสู้ หลังจากพยายามค้นหาความหมายของบทสวด เขาก็แสดงรอยยิ้มที่เย็นชา แม้ว่าเขาจะอยู่ในร่างมนุษย์ แต่เขาก็ยังดุร้ายมาก
“บทสวดของชาวพุทธนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ มันสามารถต้านทานมารตัวนั้นได้!” ตงฟางเย่ประหลาดใจ
ถัดจากเขา เจวี่ยโหย่วฉิงถือกิ่งโพธิ์ด้วยใบหน้าที่เมตตา และแสงแห่งการหยั่งรู้ก็ค่อยๆสว่างขึ้นที่ด้านหลัง นางท่องบทสวดคัมภีร์โบราณอีกเล่มหนึ่ง คือมนต์เมตตาอันยิ่งใหญ่
ไม่ไกลนัก ร่างมารสั่นไหวชั่วขณะหนึ่ง และแสงเย็นสองดวงพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา
“คัมภีร์พุทธโบราณน่าทึ่งมาก” ต้วนเต๋อแปลกใจ เขาไม่คิดว่าจะปราบมารได้จริงๆ
ทุกคนมีศักยภาพที่ไม่รู้จบ มีคัมภีร์และวิธีการที่คนธรรมดาสามารถเรียกใช้อำนาจที่เหนือกว่าตนเองได้ เช่นเดียวกันกับบทสวดแห่งการเกิดใหม่นี้
หากใช้สำหรับการต่อสู้ พลังของบทสวดนี้จะอ่อนแอเล็กน้อย จำเป็นต้องใช้พร้อมกับทักษะในคัมภีร์โบราณอื่นๆ เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่ง
“ไม่มีคัมภีร์โบราณที่คล้ายคลึงกันในลัทธิเต๋าหรือ หากท่องมันด้วยกันอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมกว่า” เย่ฟานพูดกับตัวเอง
“ฮึ่ม!”
ชายชราตาบอดไม่ชอบคำพูดนี้ ดังนั้นเขาจึงเหลือบมองไปด้านข้างและกล่าวว่า
“ลัทธิเต๋าไม่ชอบสร้างคำสอน เต๋าคือการศึกษาธรรมชาติ ข้าจะท่องพระสูตรเพื่อปัดเป่ามารด้วยกัน”
ตงฟางเย่ไม่เชื่อชราตาตาบอด และมักคิดว่าเขาเป็นคนโกหก
“หยางที่เทพเจ้าสะสมไว้ในร่างกายเกิดจากดวงอาทิตย์ และหยินที่สะสมไว้จะก็เกิดจากดวงจันทร์ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแห่งพลังวิญญาณ…”
ชายชราตาบอดนั่งข้างทะเลสาบกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยชา จากนั้นเขาก็เริ่มท่องบทสวดที่ลึกลับ
ในขณะนั้นแสงสีทองได้ห่อหุ้มร่างกายของชายชราอย่างแน่นหนา เขาดูศักดิ์สิทธิ์ราวกับพระโพธิสัตว์ในตำนานของทะเลทรายตะวันตก
“ที่มาของหัวใจนั้นชัดเจนและมันสามารถสลายได้ด้วยแสงเดียว การต่อสู้ของปราณนั้นรุนแรงและประสาทสัมผัสเป็นลมหายใจเดียว สังเกตทุกสิ่งด้วยความคิดเดียว…”
ชายชราตาบอดนั่งสมาธิในความว่างเปล่ากลายเป็นไร้ตัวตนมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเขากำลังส่งเสียงจากนอกชั้นฟ้าและแผ่นดิน
“นี่คือคัมภีร์ประทานชีวิตในตำนาน!” ผู้สูงสุดมากมายหน้าเปลี่ยนสี
คัมภีร์ประทานชีวิตในตำนานเป็นของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งในการต่อสู้ แต่ก็สามารถช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้
ทันทีที่คัมภีร์ประทานชีวิตถูกท่องออกมา ผู้คนจำนวนมากก็ได้เข้าร่วมและท่องมันด้วยกัน ดูเหมือนว่ามีพลังที่อธิบายไม่ได้จะปรากฏออกมาปกคลุมทั้งโลก
“อา……”
มารส่งเสียงคำรามกลายเป็นแสงสีดำและหายไปจากจุดนั้น แสงแห่งการรู้แจ้งและพลังที่อธิบายไม่ได้นี้ยับยั้งเขาไว้โดยธรรมชาติ
“อย่าหยุด ไม่เช่นนั้นทุกคนจะต้องตายที่นี่ มารตัวนี้สามารถฆ่าเราได้ทุกเมื่อ” เสียงอันทรงพลังถูกส่งออกไป
อันที่จริงแม้ไม่มีคำพูดนี้ทุกคนก็ไม่สามารถหยุดได้ ทันทีที่คัมภีร์ประทานชีวิตในตำนานถูกท่องออกมาออกมา พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปะทุขึ้นสู่ท้องฟ้าก็ส่องสว่างไปทั่วพื้นที่ และมันก็ยากที่จะหยุดลง
ทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งนี้งดงามและวิจิตรตระการตา ผู้คนจำนวนมากจมอยู่ในสถานการณ์แปลกๆ และสวดมนต์จากพระคัมภีร์ต่อไป
“ปรากฎว่าทุกคนมีพลังศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวอยู่ในร่างกายของตัวเอง…” เย่ฟ่านตกตะลึง
ณ เวลานี้ ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์หลายคนก็เริ่มเคลื่อนตัว วิ่งขึ้นบันไดไปยังดินแดนแห่งสวรรค์
“ให้ตายเถอะ ตาเฒ่าพวกนี้ปล่อยให้คนอื่นท่องบทสวดแต่ตนเองวิ่งโร่ขึ้นไปเอาสมบัติศักดิ์สิทธิ์ ไร้ยางอายจริงๆ” ตงฟางเย่กล่าวอย่าไม่พอใจ
“เราไม่สามารถเหาะขึ้นไปได้”
เย่ฟานขมวดคิ้ว ในเวลานี้ มีเพียงปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่ไม่ได้ถูกจองจำ และคนธรรมดาไม่มีใครสามารถปีนบันไดขึ้นไปด้านบนของภูเขาศักดิ์สิทธิ์
ในเวลานี้ชายชราตาบอดลืมตาขึ้นและหยุดท่องบทสวด เขาสั่นกระดองเต่าเพื่อทำนายอีกครั้ง
“พวกเราขึ้นไปได้เหมือนกัน ชะตากรรมที่อาจเปลี่ยนชีวิตเราอยู่บนยอดเขานั้น เจ้ามีสมบัติที่ช่วยให้เราขึ้นไปข้างบนได้ไม่ใช่หรือ? ทำไมไม่เอาออกมา” ชายชรามองไปที่ต้วนเต๋อ
เจ้าอ้วนต้วนสาปแช่งและกล่าวว่า “ตาแก่อย่าได้พูดเรื่องไร้สาระ”
“เจ้าอ้วนหยุดถ่วงเวลาได้แล้ว ถ้าช้ากว่านี้ทุกอย่างจะถูกปล้นไป!”
ชายชราตาบอดจ้องเขม็ง ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากอารมณ์ที่ไร้ตัวตนเมื่อเขาสวดมนต์จากพระคัมภีร์
“เจ้าแก่โง่!”
คิ้วของเจ้าอ้วนต้วนขมวด มีบางสิ่งคล้ายแผนที่ดวงดาวพุ่งออกไปก่อนจะแขวนอยู่บนบันไดอย่างสงบ
“นี่...มันคือสมบัติของนักพรตเต๋าซิงเหอคนนั้น แต่มันหายศักดิ์สิทธิ์ไปสองหมื่นปีแล้ว วัตถุศักดิ์สิทธิ์ของราชาผู้อยู่ยงคงกระพันนี้ถูกฝังอยู่ใต้ดินพร้อมกับศพของเขา”
ชายชราตาบอดเบิกตากว้างแล้วอุทานเสียงดัง
“เจ้าขุดสุสานโบราณของนักพรตซิงเหอหรือ?”
“อย่ามองข้าแบบนั้น ข้าบังเอิญตกลงไปในหลุมและหยิบมันขึ้นมา” ต้วนเต๋อรู้สึกผิดเล็กน้อยและกล่าวอีกว่า
“สมบัติทั้งหมดของนักพรตเต๋าซิงเหอถูกขโมยไปโดยไอ้สารเลวที่ไหนก็ไม่รู้ และตอนนี้ข้าก็ขาดแคลนสมบัติอย่างร้ายแรง”
เย่ฟ่าน “...”
ตงฟางเย่ “...”
เจ้าอ้วนต้วนสาปแช่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่สองคนนี้ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดเพราะกลัวว่าเขาจะสังเกตเห็น
ในที่สุดพวกเขาก็ปีนบันไดขึ้นไป และมาถึงสถานที่ซึ่งทุกสิ่งถือกำเนิดขึ้น
ที่นี่พลังงานทางจิตวิญญาณเป็นเหมือนกระแสน้ำเกือบจะกลายเป็นของเหลว ยาจิตวิญญาณมีให้เห็นอยู่ทุกหนทุกแห่ง มีต้นกำเนิดที่บริสุทธิ์มากมาย และกระบวนการนี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
“นี่คือโลกโบราณ!” หลายคนตกตะลึง
“ระวังให้ดี ที่แห่งนี้เป็นหลุมศพของเทพเจ้าโบราณที่แท้จริง” ชายชราตาบอดเตือน
“หือ…” เสียงร้องดังขึ้น และแสงสีทองก็พุ่งผ่านสายตาพวกเขาไป
“นั่นคือ... อีกาสีทองสามขา!”
ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของเย่ฟ่านเปลี่ยนไป เขาเคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งชนิดนี้มาก่อน
“นี่เป็นอาณาจักรที่ไม่ใหญ่มาก เราต้องแยกกันไปตามหาโลงศพโบราณที่ฝังศพของเทพเจ้า!” ต้วนเต๋อกัดฟัน