Ep.313 - ความอัปยศ
1/2
Ep.313 - ความอัปยศ
มนุษย์จิ้งจอกมาถึงปากถ้ำแล้ว
เย่กู่เข้าไปสำรวจบริเวณรอบๆและกลับมารายงงาน “ถ้ำข้างหน้าเราเต็มไปด้วยกับดัก ดูเหมือนชาวต่างเผ่าจะรู้ตัวเรื่องพวกเรา และเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า”
ปรากฏว่า
ในตอนนี้
ลุคและคนอื่นๆใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมอันซับซ้อนและคับแคบของถ้ำเพื่อเตรียมการ
ในกลุ่มเผ่าพันธุ์มนุษย์ บางคนที่ได้รับมรดก ‘นักล่า’ ทำให้มีความสามารถในการวางกับดัก ติดตั้งพวกมันไว้ตามจุดต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ครอบครองสกิลพรสวรรค์ในการวางกับดัก จึงมีบางจุดที่ถูกสร้างขึ้นโดยสกิลพรสวรรค์ ซึ่งมันมีประสิทธิภาพมากกว่าสกิลกับดักขั้น 2 เสียอีก แถมยังยากต่อการตรวจจับ
พื้นที่ถ้ำมีขนาดไม่ใหญ่นัก
หากมนุษย์จิ้งจอกโยนตัวเองเข้ามาในกับดักแล้ว ก็ยากที่จะหลบเลี่ยงออกไปได้
ตราบใดที่กระโจนลงสู่กับดัก ภายใต้สถานการณ์ถูกก่อกวนอย่างต่อเนื่อง บวกกับพื้นที่คับแคบ กองทัพมนุษย์จิ้งจอกย่อมเสียขบวน เปิดช่องโหว่ให้สำนักกระบี่วิญญาณที่ดักซุ่มอยู่เข้าโจมตี จากนั้นเข้าล้อมหน้าล้อมหลัง
ด้วยภูมิประเทศอันซับซ้อน
บวกกับกับดักต่างๆ
ด้วยความได้เปรียบจากการเป็นฝ่ายเปิดโจมตีก่อน
ย่อมสามารถจัดการกับมนุษย์จิ้งจอกได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม
สำนักกระบี่วิญญาณเห็นได้ชัดว่าประมาทพลังรบของมนุษย์จิ้งจอก
มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงไม่กี่ตัวอาจไม่ถือว่าเป็นชาวพื้นเมืองจากโลกวิญญาณที่เข้มแข็ง
กระนั้น พวกมันน่ะตกต่างกับสิ่งมีชีวิตระดับต่ำที่ไร้ภูมิปัญญาอย่างสื้นเชิง ในฐานะชาวพื้นเมือง พวกมันรู้วิธีต่อสู้ในโลกวิญญาณดีกว่ามนุษย์ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสกิลและไอเท็มที่ใช้ในการต่อสู้จริงมากยิ่งกว่า
มนุษย์ยังขาดประสบการณ์
กลยุทธ์จากโลกเก่า บางครั้งอาจไม่สามารถนำมาใช้กับโลกวิญญาณได้
โอนุเผยสีหน้าหยามเหยียด “ใช้ผงเรืองแสง ส่งพวกหมาป่าผีออกไป!”
ขวดยาเรืองแสงหลายขวดถูกโยนเข้าไปในถ้ำ พวกมันสาดแสงสีขาวเรืองรอง หลังจากแสงเริ่มหมองลง ก็เกิดเงาสะท้อนตามบริเวณต่างๆ เปิดเผยกับดักที่เดิมมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างแม่นยำ
ผงเรืองแสงสามารถเปิดเผยสิ่งที่ถูกอำพรางเอาไว้ได้
กับดักที่ไม่เกินขั้น 3
ภายใต้ผงเรืองแสงจะถูกเปิดเผยให้เห็นอย่างชัดเจน
มนุษย์จิ้งจอกในชุดเสื้อคลุมนำทีมสายเวทย์มนุษย์จิ้งจอกก้าวออกจากกองทัพ พวกมันเริ่มท่องคาถาที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ จากนั้น หมาป่ายักษ์ตัวสีฟ้าได้ถูกอัญเชิญออกมา
หมาป่าผีเลเวล 10!
แม้พลังรบของมันจะไม่แข็งแกร่งอะไรมากมาย
แค่ระดับชั้นยอดขั้นบรอนซ์เท่านั้น
แต่หมาป่าผีเป็นมอนสเตอร์ประเภทวิญญาณ!
ทำให้พวกมันมีภูมิคุ้มกันต่อการติดพิษ ป้องกันการลุ่มหลง , เฉื่อยชา ตาบอด ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีภูมิคุ้มกันต่อดาเมจทางกายภาพส่วนใหญ่ จึงมักได้รับหน้าที่เป็นหน่วยบุกทะลวง
ในตอนนี้ หมาป่าผีทั้ง 20 ตัววิ่งเข้าไปในถ้ำ พุ่งเข้าหากับดักที่ถูกผงเรืองแสงเปิดเผยออกมา
เพี๊ยะ!
กับดักหมอกพิษถูกกระตุ้น!
เพี๊ยะ!
กับดักหนามถูกกระตุ้น
เปรี๊ยะ!
กับดักไฟฟ้าถูกกระตุ้น!
...
ผู้คนมากกว่า 200 คนที่กระจายกำลังกันซุ่มโจมตีตามจุดต่างๆ เดิมพวกเขาตั้งใจรอให้มนุษย์จิ้งจอกเดินเข้ามาจนสุดท้าย ให้ตกอยู่ท่ามกลางกับดัก แต่กลับพบว่ากับดักที่จัดเรียงไว้อย่างดีหลายร้อยอันถูกทำลายลงโดยฝีมือศัตรูอย่างง่ายดาย
คนจากสำนักกระบี่วิญญาณรู้สึกแย่มาก แต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ
และไม่นาน สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าก็บังเกิดขึ้น!
หลังจากหมาป่าผีกว่า 20 เข้าทำลายกับดักทั้งหมด พวกมันก็เข้าสู่สถานะพรางตัว และเริ่มแยกย้ายเข้าตรวจสอบข้างในทันที
ไม่นาน หมาป่าผีก็เจอโพรงถ้ำที่กองทัพมนุษย์ซ่อนตัวอยู่ได้สำเร็จ
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจสอดแนมและล็อคตำแหน่งต่างๆของมนุษย์ได้แล้ว
พวกมันก็อ้อมไปข้างหลังและเริ่มโจมตีนักเวทย์และผู้ใช้วิญญาณทันที สร้างความโกลาหลให้แก่กองทัพมนุษย์
โอนุสั่งกระจายกำลังเคลื่อนพล
เย่กู่ เย่โน่นำกำลังทหารกลุ่มแรก
มนุษย์จิ้งจอกร่างผอมที่ถือกระบองและมนุษย์จิ้งจอกที่ถือขวานสองคมนำกองกำลังออกไปอีกกลุ่ม
กลุ่มสุดท้ายคือโอนุและนักเวทย์ระดับสูงอีกตน นำกองทัพที่เหลือตามเข้าไป
“ฆ่า!”
เวลาสุกงอมแล้ว!
โอนุออกคำสั่ง
มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงดื่มโพชั่นที่เตรียมไว้
มนุษย์จิ้งจอกตนอื่นๆในกองทัพก็ได้รับบัฟต่างๆเช่นกัน
มนุษย์จิ้งจอกสามร้อยตัวที่นำโดยผู้นำทั้งหกตนเคลื่อนพลเข้าไปในถ้ำเป็นกลุ่มใหญ่
มนุษย์จิ้งจอกล็อคตำแหน่งของมนุษย์ได้แล้ว หลังจากเข้ามาในถ้ำ พวกมันก็กระจายกำลังเข้าโจมตีมนุษย์ที่ประจำการในพื้นที่ต่างๆในเวลาเดียวกัน
นี่ต่างจากแผนที่วางไว้อย่างสิ้นเชิง
มนุษย์จิ้งจอกไม่เล่นตามเกมของมนุษย์
กลยุทธ์ซุ่มโจมตี ชิงลงมือก่อนไม่ได้ผลพวกมัน
ตรงกันข้าม เนื่องจากกองทัพมนุษย์กระจัดกระจาย เลยกลายเป็นประโยชน์ให้พวก มนุษย์จิ้งจอกแทน
โอนุในฐานะแม่ทัพของศึกนี้
มันระบำหอกสงคราม ปัดป้องลูกศรและคาถาที่ยิงเข้ามาหาตนได้อย่างแม่นยำ
หมาป่าที่เป็นสัตว์ขี่อ้าปาก ขย้ำมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆแหลกเป็นชิ้นเนื้อ
สกิลขั้น 3 ของโอนุระเบิดออกมา พริบตานั้นหอกสงครามทิ่มแทงราวกับสายฝน โปรยปรายใส่ฝูงชนเบื้องหน้าจนพวกเขาไม่สามารถเข้าใกล้และถูกบังคับถอยออกไป ระหว่างนั้นมีหลายคนถูกฆ่าตายในวินาทีเดียว ไม่มีเวลาให้พวกเขาดื่มโพชั่นเติมเลือด
มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงตนอื่นๆเองก็ต่อสู้อย่างห้าวหาญในสนามรบ
นอกจากนี้ พวกมันเตรียมตัวมาอย่างดี
ดังนั้น แม้จะเป็นการสู้รบโดยอาศัยโพชั่นและคัมภีร์สกิล มนุษย์ก็ยังไม่สามารถต่อกรกับมนุษย์จิ้งจอกเหล่านี้ได้ ส่วนเรื่องการสู้กันแบบตัวต่อตัวคงไม่ต้องกล่าวถึง พลังรบระหว่างทั้งสองห่างชั้นกันมากเกินไป
ลุคฟันใส่สมุนมนุษย์จิ้งจอกตัวหนึ่งด้วยกระบี่ที่กำลังลุกไหม้ของเขา
แต่ก็ถูกมนุษย์จิ้งจอกร่างผอมบางที่ถือกระบองและโล่ปัดป้องเอาไว้ได้
ขณะเดียวกัน สมาชิกหัวกะทิเลเวล 9 ที่อยู่ข้างๆเขาถูกสับผ่าครึ่งตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยมนุษย์จิ้งจอกร่างกำยำที่ถือขวานสองคม
“OH Fuck!”
ลุคสบถคำหยาบออกมา
โล่ของมนุษย์จิ้งจอกร่างผอมเปล่งประกาย
เรี่ยวแรงมหาศาลระเบิดออกมาจากมัน บังคับลุคกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว
กองบองสั้นทุบตามมาติดๆด้วยความเร็วอันน่าตกใจ ฟาดเข้าเต็มหน้าอกลุค ทำลายเกราะบริเวณนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ
ลุคกระอักเลือดเต็มปาก กระบี่หนักในมือเขาทอแสง พยายามตอบโต้อีกครั้ง แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยโล่ของศัตรู ติดสถานะมึนงง มนุษย์จิ้งจอกร่างผอมบางไม่พลาดโอกาสนี้ มันใช้กระบองศึกทุบศีรษะเขา ขณะเดียวกัน มนุษย์จิ้งจอกอีกตัวเหวี่ยงขวานสองคมตัดผ่านเอวของหัวกะทิเลเวล 9 อีกคนจากสำนักกระบี่วิญญาณขาดเป็นสองท่อน
สำนักกระบี่วิญญาณสูญเสียไปมากจริงๆในศึกนี้!
มนุษย์จิ้งจอกนั้นสมบูรณ์กว่ามนุษย์ทั้งในแง่พลังรบ สกิล และประสบการณ์!
พลังรบของลุคน่ะแข็งแกร่งมากก็จริง แต่อยู่แค่ในระดับเดียวกับฉูเทียนหัวเท่านั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะโค่นมนุษย์จิ้งจอกระดับสูง และนี่อยู่ในสถานการณ์ตัวต่อตัว หากถูกรุมยำคงไม่ต้องกล่าวถึง
คริสร่ายคาถาเพื่อดึงลุคกลับมาจากปากเหวอันตราย จากนั้นหยิบคัมภีร์สกิลสีเขียวอันทรงพลังสำหรับโจมตีระยะไกลออกมา ขว้างใส่มนุษย์จิ้งจอกสองสามตัวและตัวอื่นๆที่ไล่ตาม
“มันจบแล้ว”
“ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป!”
“การซุ่มโจมตีและกับดักของพวกเราถูกมองออก!”
“ตอนนี้ทุกคนกระจัดกระจายกันหมด มันจะยิ่งแย่ถ้าพวกเรายังฝืนสู้ต่อไป!”
“ไดอาน่า เธอกับลุพาคนที่เหลือกลับไป ส่วนฉันจะหยุดพวกมันให้เอง!”
ไดอาน่าใช้สกิลรักษาใส่ลุคหลายครั้งติดต่อกัน ใบหน้าของเธอดูน่าเกลียดมาก เพราะเธอทราบดีว่าการที่ต้องถอยโดยทิ้งสหายไว้ข้างหลังมันหมายความว่ายังไง “คริส แต่คุณ ...”
คริสกัดฟัน ปลดปล่อยใบมีดสายลมผ่าร่างสมุนมนุษย์จิ้งจอกตัวหนึ่ง จากนั้นเปิดใช้งานสกิลพรสวรรค์ สร้างบาเรียแสงสีฟ้า สกัดกั้นการโจมตีจากสกิลอันรุนแรงของพวก มนุษย์จิ้งจอก สามารถหยุดพวกมันได้ชั่วคราว แต่เขาคงต้านต่อไปได้ไม่นาน
ลุคกัดฟันพูด “ไดอาน่า แผนการล้มเหลว! รีบบอกคนอื่นๆให้ถอย!”
ไม่เหลือเวลาให้ลังเลอีกแล้ว
ทั้งสองและสมาชิกจากหลายกลุ่มรีบถอนตัว หนีกลับเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำอย่างรวดเร็ว
ทางด้านคริสและสมาชิกทีมอีกหลายสิบคนเข้าต่อสู้จนตัวตาย
เกราะมนตราของคริสนั้นมีการป้องกันที่ทรงพลังมาก ตราบใดที่พลังจิตของเขายังไม่หมด บาเรียนี้จะไม่มีวันถูกทำลาย ปัจจุบันพลังจิตของคริสสูงกว่า 100 หน่วย เมื่อบวกกับอุปกรณ์และโพชั่นเสริมพลังชั่วคราว ทำให้เอฟเฟกต์ต่างๆซ้อนทับกัน เพิ่มพลังจิตได้สูงถึง 300 หน่วย
แต่สุดท้ายก็สามารถถ่วงเวลาได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น
พลังจิตของคริสไม่สามารถฟื้นทันพลังจิตที่เสียไปกับการป้องกัน
มนุษย์จิ้งจอกร่างผอมบางนำกองกำลังทำลายบาเรีย มนุษย์จิ้งจอกร่างกำยำพุ่งกระหน่ำเข้ามา เหวี่ยงขวานสองคมขนาดใหญ่ สังหารคริสที่เป็นแกนนำในคราวเดียว สมาชิกทีมที่เหลือของเขาย่อมไม่พ้นจุดจบเดียวกัน
ฉูเทียนหัวขณะนี้นำทีมตั้งปักหลักอยู่ที่แนวรับ
กลุ่มของลุคหนีกลับมาในสภาพสะบักสะบอม และขณะนี้มนุษย์จิ้งจอกร่างผอมและ มนุษย์จิ้งจอกร่างกำยำได้นำสมุนกว่า 20 - 30 ตัวไล่ตามมาติดๆ
ฉูเทียนหัวโบกมือ “ช่วยพวกเขา!”
ฉินมู่ร่ายมนตร์วาจาต้องห้าม ขัดจังหวะการจู่โจมของมนุษย์จิ้งจอกระดับสูง
นักเวทย์สามสิบกว่าคนและพลธนูอีกหลายสิบระดมยิงลูกศรพร้อมกันช่วยโจมตี
มนุษย์จิ้งจอกระดับสูงทั้งสองหยุดไล่ตาม เว้นระยะห่างออกมา มนุษย์เบื้องหน้ามีจำนวนมากเกินไป พวกมันไม่กล้าบุกโจมตีอย่างประมาท ต้องรอให้กองกำลังมนุษย์จิ้งจอกกลุ่มอื่นๆมาถึง
กลุ่มของลุคล่าถอยกลับมาด้วยความอับอาย
ขาไปพวกเขามีคนกว่า 200 คน เดิมต้องการซุ่มโจมตีมนุษย์จิ้งจอก แต่ตอนนี้เหลือรอดกลับมาเพียง 70 -80 ชีวิตเท่านั้น!
คนอื่นๆไม่ตายในสนามรบก็ยังต่อสู้อยู่ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะล่าถอย!
นี่นับเป็นความอัปยศครั้งใหญ่!
คนจากสำนักกระบี่วิญญาณรู้สึกละอายใจมาก
ลุคหน้าซีดเผือด เขาเอ่ยปากขึ้น “ฉู เจ้าพวกมนุษย์จิ้งจอกแข็งแกร่งและมีไหวพริบมากกว่าที่คิดไว้ พวกเราต้านทานไม่ได้ ... ”
ฉูเทียนหัวเยาะเย้ยในใจ เอ่ยเสียงเย็นว่า “ฐานที่มั่นแห่งนี้ห้ามถูกทำลาย นับจากนี้พวกเราจะปักหลักป้องกันทางเข้านี้เอาไว้ รอให้ฮังอวี่ จ้าวหมิง และคนอื่นๆมาช่วย!”