บทที่ 50 ไม่สามารถแสดงได้อย่างเต็มที่
ไม่กี่นาทีต่อมา นิ้วของหลินหยวนก็หยุดเคลื่อนไหว
เสียงเปียโนหยุดลง
ทุกคนในกลุ่มผู้ชมยังคงหมกมุ่นอยู่กับท่วงทำนองที่มีเสน่ห์และไม่สามารถออกจากมันได้เป็นเวลานาน
จนกระทั่งหลินหยวนลุกขึ้น
ในเวลานี้ ผู้ชมปรบมือเสียงดังราวกับฟ้าร้อง ราวกับฝนตกหนักถล่มแผ่นเหล็ก และราวกับเสียงคลื่นพายุกระทบฝั่ง
“นายน้อยหลินหยวนจงเจริญ”
“พระเจ้า! นายน้อยหลินสุดยอด! ฉันพึ่งได้ดื่มด่ำกับเสียงเปียโนก็วันนี้แหละ!”
“น่ากลัวจริงๆ! ทักษะการเล่นเปียโนของนายน้อยหลินทำให้ฉันร้องไห้และหัวเราะ หัวเราะแล้วก็ร้องไห้อีกครั้ง น้ำตาของฉันไม่สามารถหยุดไหลได้ มันทำให้ฉันนึกถึงตอนที่ภรรยาของฉันเสียชีวิตเมื่อสิบปีก่อน แต่หลังจากนั้นฉันก็กลับคิดถึงลูกสาวที่สำเร็จการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ แล้วฉันก็หัวเราะอีกครั้ง”
“นายน้อยหลินน่าทึ่งมาก ฉันจำคุณยายที่เคยซื้อขนมให้ฉันในวัยเด็กและคุณปู่ของฉันที่พาฉันไปจับปลาที่ริมแม่น้ำ… ฉันจำความรู้สึกเศร้าและมีความสุขเหล่านั้นได้…”
“ใครจะจินตนาการได้ว่านายน้อยหลินหยวนที่หล่อเหลาสุดขีดและเป็นเจ้าของหุ้นนับแสนล้านจะเป็นนักเปียโนระดับพระเจ้าอย่างลับๆ?”
“นายน้อยหลินหยวนยอดเยี่ยมมาก! ฉันรักคุณ!”
“พวกรักร่วมเพศหลบไป! นายน้อยหลินหยวน ฉันอยากมีลูกกับคุณ!”
เสียงเชียร์และเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วทั้งสนามกีฬา
เมื่อได้ยินเสียงเชียร์เหล่านี้ ชานชูเหวินก็ปิดหน้าของเขา
เขารู้สึกอับอายอย่างยิ่งในเวลานี้เพราะเขารู้ว่าเขาไม่สามารถเทียบกับหลินหยวนได้ และเขาพึ่งดูถูกคนอื่นอย่างยั่วยุ มันน่าละอายเกินไป แต่โชคดีที่ไม่มีใครสนใจเขา
สำหรับเหยียนหรูเยว่ สายตาของเธอที่มองหลินหยวนนั้นซับซ้อนมาก มีร่องรอยของความเสียใจที่เธอไม่ได้สังเกตเห็น
ทักษะเปียโนนี้ดีเกินไป กลัวว่าสาวๆทุกคนที่นี่คงจะอยากฟังไปตลอดชีวิตใช่ไหม?
เธอเคยมีโอกาสฟังหลินหยวนเล่นเปียโนเพียงเพื่อดวงตาและหูของเธอตลอดชีวิต
แต่โอกาสนั้นหายไปตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เหยียนหรูเยว่รู้ว่าหลินหยวนจะไม่ไล่ตามเธอเหมือนเมื่อก่อน…
ภายใต้สายตาของทุกคน หลินหยวนเดินกลับไปที่ที่นั่งของเขาอย่างสงบ
ทันทีที่หลินหยวนนั่งลง หยูชานชานหันมาพร้อมกับดวงตาเต็มไปด้วยดวงดาวเล็กๆและด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชม “ว้าว! ลูกพี่ลูกน้อง คุณสุดยอดเกินไป! วิทยาลัยดนตรีเจียงเป่ยของเราเป็นหนึ่งในวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศจีน แต่ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีใครจากที่นี่เล่นได้ดีเท่าคุณ!”
“น่าเสียดายที่มันยังมีสองถึงสามคีย์ที่ผิดพลาดไปทำให้ฉันไม่สามารถแสดงได้อย่างเต็มที่” หลินหยวนกล่าวยิ้มๆ
“ฉันอยากให้ฮาเร็มทั้งสิบสามคนของฉันฟังคุณในขณะที่คุณเล่นเปียโน ลูกพี่ลูกน้อง แต่ถ้าฉันปล่อยให้พวกเธอฟังคุณ พวกเธออาจจะทรยศฉัน แต่ฉันอยากฟังมันพร้อมกับพวกเธอจริงๆ…” หยูชานชานเริ่มต่อสู้กับตัวเอง
เมื่อหยูชานชานต่อสู้กับตัวเอง จี้เฉียนก็ยกย่องหลินหยวนและกล่าวว่า “นายน้อยหลินหยวน คุณเล่นได้ดีมาก”
“ขอบคุณ” หลินหยวนตอบด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นดวงตาที่จริงใจของจี้เฉียน หลินหยวนก็รู้ว่าจี้เฉียนไม่ได้ยกย่องเขาตามมารยาทแต่ชื่นชมเขาจากใจจริง
ทักษะเปียโนของจี้เฉียนอยู่ในระดับสูงและเธอก็ภูมิใจในตัวเองเช่นกัน แต่เธอชื่นชมทักษะเปียโนของหลินหยวนจริงๆ
“ยังไงก็ตาม ผลงานชิ้นสุดท้ายที่คุณเล่นชื่ออะไร? ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน มันวิเศษมากที่ความโศกเศร้าสามารถผสมผสานกับความสุขได้” จี้เฉียนถามด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ใช่แล้วลูกพี่ลูกน้อง ฉันไม่เคยได้ยินเพลงสุดท้ายที่คุณเล่นเลย มันวิเศษมาก!” หยูชานชานกล่าว
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเธอหลินหยวนก็ผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา พิมพ์ข้อความค้นหาว่า ‘Sad of Happy’ อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พบผลงานชิ้นดังกล่าวจริงๆ
หลินหยวนจำได้ว่าโลกในนวนิยายเรื่องนี้เป็นโลกสมมุติและไม่ได้มีทุกสิ่งเหมือนโลกแห่งความเป็นจริง
ดูเหมือนว่าโลกนี้ไม่มีผลงานชิ้นนี้
**********