วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0073
บทที่ 25 เหตุผลที่นักผจญภัย ออกผจญภัย (5)
* * *
วันถัดมา พระอาทิตย์ขึ้นมาได้สักพักแล้ว แต่ลิลี่ยังคงไม่ตื่น
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเธอผ่านการจดจ่อสมาธิติดต่อกันเป็นวันๆ โดยไม่ได้กินหรือนอน
ส่วนคังซอนฮูถือโอกาสในช่วงเช้านอนพักผ่อนเอาแรง
อัศวินทำหน้าที่เฝ้ายาม เมื่อมนุษย์เพศชายหลับ เธอต้องตื่นตัวกว่าปรกติ
จนกระทั่งบ่าย ลิลี่ถึงลืมตา
เหมือนกับทุกครั้ง ด้วยทรงผมที่ยุ่งเหยิงประหนึ่งสิงโต หญิงสาวใช้สายตาอันว่างเปล่ามองไปรอบๆ
เธอพบคังซอนฮูกำลังถือเมล็ดพันธุ์
เมล็ดพันธุ์ป่า
ของขวัญจากป่าใต้ดิน คังซอนฮูวางแผนจะใช้มันปีนขึ้นไปบนเกาะท้องฟ้า
ทางเข้าป่าใต้ดินถูกปิดไว้ครึ่งหนึ่งด้วยรากประหลาด
เต่าบกที่ถูกเรียกว่าผู้เฝ้าประตู ไปแล้วไปลับไม่กลับมา ธรรมชาติจึงต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลง
“ทำไมถึงไม่ปลุกข้า?”
“ก็วันพักผ่อน จะปลุกทำไม”
อัศวินหัวเราะ
“ข้าไม่เคยคิดว่ารอยัลบลัดจะทำตัวตามสบายได้ขนาดนี้”
“…ฟังดูแปลกๆ นั่นคำชมหรือ”
“ใช่ มันมีความหมายในเชิงบวก ข้าได้ยินว่าพวกเจ้าอุทิศตัวให้กับเกียรติยศและการวางตัว แต่ข้าชอบเจ้าแบบนี้มากกว่า”
ลิลี่หวีผมด้วยหวีที่พกมาด้วย น่าแปลกไม่น้อยที่คนไม่ค่อยดูแลตัวเองอย่างคังซอนฮูซื้อมาให้เธอ
แต่ละเผ่าพันธุ์ในต่างโลกล้วนมีข้อสงสัยที่แตกต่างกันออกไป
“นักบุญหญิงอยากทราบชื่อของพวกเจ้า… ขอแนะนำตัวเองก่อน ช้าชื่อรีเบคก้า ไม่มีนามสกุล”
“ข้าลิลี่… ส่วนเขา… คันซอนู”
“คังซอนฮู!”
“ข้าแยกความแตกต่างไม่ได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าพูดภาษาอะไร”
นักบุญหญิงจ้องทั้งสองคน ยิ่งพระอาทิตย์ร้อนแรง ดวงตาก็เธอก็ยิ่งมืดมิด
หลายเผ่าพันธุ์รู้สึกอึดอัดกับลูกหลานดวงดาวเพราะเอกลักษณ์นี้
หลังจากลิลี่ตื่นไม่นาน คังซอนฮูเตรียมอาหารทันที
ระหว่างทุกคนกำลังกิน
“มันคือมังกรจริงๆ นะ”
“บอกแล้วไงว่าข้าเชื่อ”
“เป็นมังกรจริงๆ! ทั้งที่เกาะท้องฟ้าอยู่ไกลขนาดนั้น แต่ฉันเห็นปีกของมัน!”
“…ก็บอกแล้วไงว่าเชื่อ”
“มันสยายปีกด้วยนะ! ต้องตัวใหญ่ขนาดไหนกันถึงเห็นได้จากตรงนี้? หน้าตาจะเป็นแบบไหน แล้วทำไมถึงอาศัยบนเกาะท้องฟ้า”
“…ให้ตายสิ”
ลิลี่ส่ายศีรษะ
ตอนแรกเธอเองก็ตกใจที่ได้ยิน เพราะไม่มีใครเคยเห็นมังกรมานานแล้ว ตำนานใหม่ๆ เกี่ยวกับมังกรส่วนใหญ่เป็นเรื่องแต่ง
แต่ถ้าเป็นคำพูดจากปากคังซอนฮู เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อ
ตลอดมื้ออาหาร คังซอนฮูไม่หยุดเล่าตำนานพิสดารเกี่ยวกับมังกร
“เจ้าไปฟังมาจากไหน? ข้าเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ”
ก็ต้องแน่อยู่แล้ว นี่เป็นตำนานมังกรจากโลกมนุษย์ คังซอนฮูเพียงคิดในใจ
ลิลี่จ้องคังซอนฮูสักพักก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“แล้วนักบุญหญิงจะทำอะไรต่อ”
เธอไม่ได้ถามว่า ทำไมนักบุญหญิงที่ไม่เคยออกจากวิหาร ถึงมาอยู่ที่นี่ได้
เป็นเพราะคังซอนฮูไม่สงสัย ลิลี่จึงมองว่าเธอไม่ควรถาม
รีเบคก้ามองนักบุญหญิงสักพัก
“นักบุญหญิงมาทางนี้เพราะต้องการศึกษาเกี่ยวกับการขึ้นสวรรค์ของดารากร ได้ยินว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นทางทิศใต้ เรื่องแบบนี้แทบจะเกิดเพียงครั้งเดียวในหนึ่งยุคสมัย”
“ทำไมถึงต้องมาดูด้วยตาตัวเอง”
“การขึ้นสวรรค์ของดารากรมีความสำคัญอย่างมากในเชิงศาสนา… ตอนนี้คงถึงเวลาต้องกลับแล้ว”
“เข้าใจแล้ว เป็นการเดินทางระยะสั้นสินะ”
“รอยัลบลัดกับมนุษย์จะไปที่เกาะท้องฟ้าใช่ไหม”
คังซอนฮูเก็บของ จากนั้นแขวนกระเป๋าไว้กับอานม้า
“ใช่ ระยะทางน่าจะไกลกว่าที่ผ่านมามาก อาจต้องใช้เวลาอีกสักพัก ราวหนึ่งเดือนเห็นจะได้”
คังซอนฮูมองไปทางเทือกเขาห่างไกล
ไม่หลงเหลือร่องรอยของมังกรที่สยายปีกเมื่อคืน
“ลิลี่”
“อื้อ”
“เตรียมตัวออกเดินทาง”
การจากลาเกิดขึ้นง่ายพอๆ กับการพบเจอ ชายหนุ่มรู้วิธีจัดการกับความรู้สึกหลังจากได้พบเจอผู้คนระหว่างทาง
ทันใดนั้น
“…”
นักบุญหญิงเดินเข้ามาใกล้และจับชายแขนเสื้อคังซอนฮู
ชายหนุ่มไม่ทางเลือกนอกจากหันหลังกลับมามอง
นักบุญหญิงจ้องเข้าไปในดวงตาอย่างเอาจริงเอาจัง
คังซอนฮูเอียงคอสงสัย จากนั้นก็หันไปทางรีเบคก้า
รีเบคก้าเองก็ทำหน้าฉงน ไม่เข้าใจพฤติกรรมของนักบุญ
“…เสียใจที่ต้องแยกทางกัน?”
ดูเหมือนจะไม่ใช่
รีเบคก้าเดินเข้ามาหานักบุญหญิง
นักบุญหญิงชี้นิ้วไปยังทิศทางหนึ่ง
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
คล้ายกับรีเบคก้าเข้าใจความหมาย
เพราะสีหน้าของเธอดำมืดกะทันหัน
“…ท่านแน่ใจนะ?”
นักบุญหญิงพยักหน้า
“ข้าไม่มีสิทธิ์คัดค้านการตัดสินใจของนักบุญจริงก็จริง แต่ว่า…”
รีเบคก้าไตร่ตรอง
กินเวลานานพอสมควร บรรยากาศอันเงียบเชียบเข้าครอบงำ
“ก็ได้… คังซอนฮู ลิลี่”
นักบุญหญิงและอัศวินกระโดดขึ้นหลังม้า
“ตามมาด้วยกันหน่อยได้ไหม”
“ขอทราบเหตุผล”
“นักบุญหญิงต้องการมอบบางสิ่งให้เจ้า ไว้ไปถึงแล้วจะเห็นเอง อยู่ไม่ไกลจากที่นี่”
คังซอนฮูและลิลี่มองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าและกระโดดขึ้นหลังเรลิกซิน่า
“โฮกกก!”
“ฮี่…!”
ทันทีที่เรลิกซิน่าคำราม ม้าของอัศวินใจฝ่อทันที
“อย่าทำเสียงแบบนี้!”
“กรร!”
“แบบนี้ก็ไม่ได้”
“…ฮี่~”
“ถูกต้อง”
รีเบคก้านั่งมองม้าประหลาดที่มีแผงขนเป็นเปลวไฟสักพัก จากนั้นก็ควบม้านำไป
ตามที่เธอบอก ปลายทางอยู่ไม่ไกลนัก ไม่นานก็มาถึงผาหินเล็กๆ ที่มีถ้ำขนาดแคบๆ ด้านใน
เรียกว่าช่องว่างก็ยังได้ แต่ก็ใหญ่พอที่จะซ่อนบางสิ่ง
และไม่ผิดจากที่คิด ข้างในมีอะไรอยู่จริงๆ
“…นี่มัน”
ลิลี่รู้จักสิ่งนี้
“ไบฟรอสต์” (Bifröst)
“แล้วมันคืออะไร?”
คังซอนฮูถามขณะลงจากหลังม้า
“มันคือเหตุผลที่อาณาจักรโบราณสามารถขยายดินแดนไปทั่วทวีป”
สร้างจากวัสดุไม่ทราบชนิด ไม่แน่ชัดว่าเป็นโลหะหรือหิน โครงสร้างเป็นวงกลม สูงราวสามเมตร ความกว้างก็พอๆ กัน
ขอบวงกลมมีอักษรรูนเขียนไว้รอบ แต่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่สามารถใช้คาห์สกระตุ้นได้ มองผิวเผินก็รู้ทันทีว่าเกิดจากการแยกส่วนตัวอักษรแล้วค่อยนำมาเรียงกัน
“ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน”
จริงอยู่ สมบัติโบราณมักมีเอกลักษณ์คล้ายคลึงกัน แต่ชายหนุ่มเพิ่งเคยเห็นอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก
สังเกตจากภายนอก มีเพียงร่องรอยของตะไคร่น้ำที่ไม่ทราบชนิด แถมยังเป็นรอยเก่ามาก
คังซอนฮูวางมือลงไปตามความเคยชิน
“…?”
มันอุ่น
เหมือนกับเครื่องจักรที่เพิ่งทำงานไปไม่นาน
“มันคือสะพาน… ไบฟรอสต์หนึ่งจะเชื่อมกับอีกไบฟรอสต์หนึ่งที่เฉพาะเจาะจง”
รีเบคก้าเดินเข้ามาใกล้
“ในกรณีของอันนี้ มันเชื่อมกับไบฟรอสต์บนสันเขาด้านหลังมหาวิหาร”
“อย่างนี้นี่เอง”
คังซอนฮูพยักหน้า
“นั่นคือเหตุผลที่พวกเธอเดินทางมาถึงที่นี่ได้ในไม่กี่วัน?”
“ใช่ แต่ว่า… ไบฟรอสต์จะทำงานก็ต่อเมื่อมีคำวิงวอนที่ส่งต่อกันภายในศาสนจักรเท่านั้น”
“…แปลว่าฉันใช้มันไม่ได้?”
ทันใดนั้น นักบุญหญิงเดินมาสะกิดบ่าคังซอนฮู
เมื่อคังซอนฮูหันหลังกลับมามอง นักบุญหญิงใช้สองมือของเธอ กุมมือข้างหนึ่งของชายหนุ่มแนบแน่น
ดวงตาที่ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ยังคงสงบนิ่ง
คังซอนฮูสัมผัสถึงความอุ่นจากฝ่ามือ
ลูกหลานดวงดาวเกิดมาพร้อมมือที่อุ่น คังซอนฮูทราบเรื่องนี้ตอนที่ได้จับมือกับคณะแสวงบุญ
ทันใดนั้น มือของคังซอนฮูได้เป็นอิสระ ราวกับลื่นหลุดออกมา
และผลลัพธ์ก็คือ
“…”
ประโยคคำวิงวอนถูกบรรจงสลักไว้บนฝ่ามือ
“ลองวางมือลงบนไบฟรอสต์สิ”
คังซอนฮูมองสลับไปมาระหว่างนักบุญหญิงกับอัศวิน จากนั้นก็วางมือลงบนอากาศใจกลางวงกลมไบฟรอสต์
ทันใดนั้น
แกร่กแกร่กแกร่ก!
แสงเจ็ดสีของรุ้งกินน้ำค่อยๆ แผ่ออกจากช่องว่างเจ็ดช่องรอบวงกลม
ประหนึ่งสายน้ำไหล แสงพรั่งพรูเข้ามาจนเต็มช่องว่างใจกลางวงกลม
เปรี้ยะ!
รอยแยกถูกสร้างขึ้น
“…”
คังซอนฮูมองกลับมา
นักบุญหญิงยังคงจ้องตนด้วยสีหน้าสงบนิ่ง สองมือประสานกันด้านหน้า
“…ขอบคุณมาก ถึงจะไม่รู้เหตุผลที่ช่วยก็เถอะ”
“ท่านอยากพบเจ้าอีกครั้ง”
รีเบคก้าพูด
คังซอนฮูไตร่ตรองสักพักก่อนจะตอบ
“…ย้อนกลับไปสมัยที่ฉันยังเป็นนักสำรวจ ภายในครึ่งปี ฉันบังเอิญเจอคนคนเดิมถึงสี่ครั้ง ทั้งที่พวกเราไม่เคยบอกจุดหมายของกันและกัน”
ลิลี่ อัศวิน และนักบุญหญิงฟังอย่างตั้งใจ
“ถ้ามีเป้าหมายเดียวกัน พวกเราจะได้พบกันอีกแน่นอน… นั่นคือในกรณีที่นักบุญหญิงมีความต้องการเดียวกับฉัน”
คังซอนฮูพยักหน้าด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ ตามด้วยผงกศีรษะ
“หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ”
“ที่นั่นมีมังกร เจ้าจะไม่เป็นอะไรแน่หรือ? ด้วยความสัตย์จริง ข้ายังไม่เคยได้ยินตำนานดีๆ เกี่ยวกับมังกร”
“เพราะที่นั่นมีมังกร ฉันยิ่งอยากไป”
“อย่างนี้นี่เอง”
“เขาเสียสติไปแล้ว ทำไมเธอถึงไม่ช่วยห้าม… โอ๊ย!”
คังซอนฮูดีดหน้าผากลิลี่แผ่วเบา
หญิงสาวใช้มือลูบหน้าผากพลางยิ้ม
“…สิ่งนี้จะช่วยให้เราสบายขึ้นมาก เธอวางมือลงไปสิ”
“นั่นหน้าที่เจ้าต่างหาก”
นักบุญหญิงเฝ้ามองคนทั้งสองโดยไม่พูดคำใด เพียงประสานมือไว้ด้านหน้าพลางก้มศีรษะ
รีเบคก้าเป็นคนกล่าวคำอำลาแทน
“ขอให้เทวราชาทั้งเก้าอวยพรการเดินทางของพวกเจ้า และนักบุญหญิงจะช่วยอวยพรอีกแรง”
“ขอให้พวกเธอเดินทางอย่างปลอดภัย”
ทั้งคู่ต่างกล่าวคำอำลาตามแบบฉบับตัวเอง
“…อัศวิน”
“หือ?”
“อันที่จริง จุดจบของราชันอัศวินคนนั้นไม่ใช่โศกนาฏกรรม”
“หมายความว่ายังไง”
“ความหมายของฉันก็คือ เธอสามารถยืดอกภาคภูมิใจได้”
“…”
“คราวหน้าที่พบกัน ฉันจะเล่าให้ฟังมากกว่านี้”
จากนั้น คังซอนฮูจับมือลิลี่เดินเข้าไปในรอยแยกของไบฟรอสต์
ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะร่ำลากันชัดเจนแล้ว
นักบุญหญิงคิดเช่นนั้น
รีเบคก้ายืนมองไบฟรอสต์ที่ค่อยๆ หยุดทำงาน ก่อนจะเปิดปาก
“แบบนี้จะไม่เป็นอะไรแน่หรือ”
“…”
“…ท่านมอบคำวิงวอนสำหรับผ่านประตูไบฟรอสต์ให้มนุษย์คนนั้นไปแล้ว”
ตรงตามที่เธอบอก
วีว่าซิสซิโม่ไม่ได้ ‘คัดลอก’ คำวิงวอนสำหรับผ่านไบฟรอสต์ให้คังซอนฮู แต่เป็นการ ‘ยกให้’
ตอนนี้นักบุญหญิงสูญเสียอำนาจนั้นไปแล้ว
“จริงอยู่ ถ้ารายงานให้ศาสนจักรเทวราชาทราบ ท่านอาจได้มันคืนมา แต่ว่า… ท่านจะโดนลงโทษอย่างแน่นอน ในกรณีเลวร้ายอาจถึงขั้นถูกปลดจากตำแหน่ง”
นักบุญหญิงมองหน้าอัศวินผู้พิทักษ์ของเธอ
ด้วยสายตาที่ยังสงบนิ่ง
ได้เห็นอารมณ์ดังกล่าว อัศวินอมยิ้มขื่นขม
“…พูดไปก็คงเปล่าประโยชน์สินะ ท่านนักบุญรู้เรื่องนี้ดีกว่าข้าอยู่แล้ว”
ผ่านมาห้าวันหลังจากได้พบมนุษย์คนนั้น
รีเบคก้าประหลาดใจที่นักบุญหญิงเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงเวลาสั้นๆ
ณ ปัจจุบัน ดวงตาของเธอไม่หลงเหลือความเศร้าอีกต่อไป
อาจยังหลงเหลือความทุกข์จากก้นบึ้ง แต่โดยมากจะเปี่ยมไปด้วยความสงบนิ่ง
รีเบคก้าชอบที่เธอเป็นแบบนี้ จึงไม่ได้ทักท้วงอะไร
ทั้งสองเดินออกจากถ้ำแคบๆ และมองไปทางทิศเหนือ
ถ้าไม่มีไบฟรอสต์ พวกเธอต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสองเดือนเพื่อเดินทางกลับ
ความเสี่ยงอาจไม่มาก แต่จะเป็นการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยแน่นอน
นักบุญหญิงจับแขนเสื้อรีเบคก้า
รีเบคก้าหันกลับมามอง
วีว่าซิสซิโม่ชี้ไปทางทิศตะวันตก
ห่างไกลออกไป ที่นั่นมีป่าใหญ่ ได้ยินว่าเป็นป่าของลูกหลานดารากรคนแรก — เอลซิน
“…จะไม่กลับไปวิหารหรือ”
นักบุญหญิงทำเพียงจ้องหน้ารีเบคก้า ปลายนิ้วยังคงชี้ไปที่เดิม
รีเบคก้าอ่านความคิดได้จากแววตา
— อิสรภาพ
เธอต้องการศึกษาแรงกระตุ้นที่คอยขับเคลื่อนมนุษย์คนนั้น
นี่อาจไม่ใช้วิธีที่ถูก แต่ในเมื่อคังซอนฮูใช้ชีวิตแบบนี้ เธอก็อยากลองทำตาม
บางทีอาจได้พบเบาะแส
อีกทั้งเขายังพูดด้วยว่า ‘ถ้ามีเป้าหมายเดียวกัน คงได้พบกันในสักวัน’
ถ้านั่นคือความจริง อิสรภาพคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ได้พบกันอีก
รีเบคก้าไตร่ตรองสักพักก่อนจะขึ้นหลังม้า
“เชิญขึ้นมา แม้เส้นทางข้างหน้าจะยากลำบาก แต่ท่านจะชินกับมันในสักวัน”
นักบุญหญิงใช้สองแขนจับเอวรีเบคก้าพลางผงกศีรษะ
______________________
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (2/4)
ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:
https://www.facebook.com/bjknovel/
หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel