SWO ตอนที่ 75 แกะเข้าปากเสือ
เสิ่นจิงยอมรับว่าโจวเฮาพูดถูก เทวาทมิฬนั้นระวังตัวเป็นเลิศ แต่ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงในหมู่พวกเขาทั้งหมดต่างคิดว่าตัวเองสูงส่ง และจะไม่ระวังนักเรียนเช่น โจวเฮา
โจวเฮากล่าวต่อ “ตอนนี้ยังผ่านไปไม่นานนับตั้งแต่ที่เทวาทมิฬพาตัวน้องสาวของจางอี้ไป ข้าวางแผนว่าจะค้นหาบริเวณโดยรอบโรงเรียนของน้องสาวเขา และที่อยู่อาศัยของจางอี้ก่อน”
เสิ่นจิงขัดจังหวะ และส่ายหัวเบา ๆ “พวกเจ้ามีคนไม่พอ หากพวกเจ้าต้องการค้นหาในพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยทั่วไปแล้วจะไม่พบร่องรอยใด ยิ่งไปกว่านั้นพวกเจ้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่พวกเจ้าเจอเป็นสมาชิกของเทวาทมิฬจริง ๆ?”
“จางอี้เคยเห็นหน้าคนที่พาน้องสาวของเขาไป” หยุนหยานกล่าว
เสิ่นจิงส่ายหัวอีกครั้ง “แม้นั่นจะเป็นหนึ่งในเบาะแส แต่ก็ยังยากเกินไปสำหรับพวกเจ้าที่จะหานางพบ”
จางอี้กัดฟัน “ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ข้าก็จะหาชายคนนั้นให้เจอ และพาน้องสาวข้ากลับมา”
เสิ่นจิงมองไปที่จางอี้ และครุ่นคิดก่อนกล่าว “งั้นเอาแบบนี้เป็นไง? ข้าจะโทรหาแผนกรักษาความปลอดภัยของเมือง และขอให้พวกเขาร่วมมือกับพวกเจ้า ก่อนอื่นเราจะทำการตรวจสอบเครือข่ายเฝ้าระวังทั่วเมือง หลังจากที่เรากำหนดขอบเขตได้แล้ว พวกเจ้าค่อยออกไปช่วย ว่าไง ดีหรือไม่?”
ซูหลิง และคนอื่น ๆ ต่างก็ดีใจมาก
“นั่นเยี่ยมมาก!”
“ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขา สิ่งต่อไปที่พวกเราทำจะปลอดภัย และราบรื่นขึ้น!”
“ขอบคุณครับอาจารย์เสิ่น”
เสิ่นจิงโบกมือ ขณะที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง “มาตกลงล่วงหน้ากันก่อน แม้ว่าข้าจะให้ไฟเขียวแก่พวกเจ้า แต่ข้ายังมีข้อแม้อยู่ข้อหนึ่ง ข้าต้องการให้พวกเจ้าเกาะกลุ่มกันไว้ และห้ามแยกตัวออกมาคนเดียวเด็ดขาด นอกจากนี้หากพบสิ่งใดก็ให้รายงานทันที ข้าจะให้แผนกข่าวกรองตั้งค่าช่องสัญญาณไร้สายพิเศษไว้เพื่อให้พวกเจ้าใช้สื่อสารกัน”
“นี่นับเป็นการร่วมมือกันครั้งแรกของคลาสฝึกอบรมพิเศษของเรา ข้าหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะไม่หุนหันพลันแล่น และปฏิบัติต่อสิ่งนี้เหมือนเป็นภารกิจฝึกหัด!”
ซูหลิง โจวเฮา และนักเรียนที่เหลือตอบรับทันที “ครับ/ค่ะ อาจารย์”
ฟางอวี่ เหลยจินเผิง และหยานอิง ทั้งสามเดิมทีไม่ต้องการเข้าร่วม แต่เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของอาจารย์เสิ่น พวกเขาจึงทำได้เพียงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
…
อาจารย์เสิ่นจัดการทุกอย่างเร็วมาก ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เขาได้ติดต่อแผนกรักษาความปลอดภัยของเมือง และระดมเครือข่ายเฝ้าระวังแต่ละส่วนถนนเพื่อจำกัดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง โดยเริ่มค้นหาแบบปูพรบซึ่งเน้นที่บ้านพักของจางอี้ และโรงเรียนของน้องสาวเขาเป็นหลัก
สำหรับคนที่พาจางอิงออกไป แม้เขาจะปลอมตัวหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่รอดจากการตรวจจับ และถูกระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
นักเรียนจากคลาสฝึกอบรมพิเศษได้มาถึงถนนฮัวเซิงพร้อมสวมชุดเกราะมาตรฐาน
“มีถนนสายหลักทั้งหมดสี่สาย ขณะที่ในชั้นเรียนของเรามีนักเรียน 41 คน ดังนั้นให้พวกเจ้าจัดตั้งทีม 10 คน และสองจากในนั้นจัดตั้งทีมย่อยเพื่อค้นหาตามตรอกซอกซอย และชุมชน”
“จำไว้ว่าพวกเจ้าต้องรายงานสถานการณ์ทุกนาที หยุนหยาน เจ้าเป็นคนรอบคอบ ดังนั้นข้าจะให้เจ้ารับผิดชอบในการบันทึกสถานการณ์ของแต่ละทีม และกำหนดตำแหน่งเฉพาะของคนนั้น…” โจวเฮาสั่งอย่างจริงจัง
นักเรียนที่เหลือไม่ได้แข่งขันกับโจวเฮา และปล่อยให้เขาเป็นผู้นำกลุ่ม อาจารย์เสิ่นซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ทำเพียงเงียบไม่ได้พูดอะไร หลังจากที่โจวเฮาออกคำสั่งเสร็จ เขาก็ปรบมือ “เอาล่ะ จำไว้ ความปลอดภัยสำคัญที่สุด เริ่มค้นหาได้!”
ทันใดนั้นกลุ่มนักเรียนก็แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่กลัวเท่านั้น แต่ใบหน้าของพวกเขาเวลานี้กลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
แม้ภายนอกอาจารย์เสิ่นจะยังสงบอยู่เช่นเดิม แต่หัวใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความกังวล เพราะเขารู้ดีว่าสมาคมเทวาทมิฬน่ากลัวเพียงใด
แต่เพื่อไม่ให้นักเรียนหมดกำลังใจ เขาจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาทำสิ่งที่อยากทำ
แน่นอนว่าเขาได้แอบแจ้งผู้ผู้บัญชาการจ้าวไว้แล้ว ตราบใดที่มีอะไรผิดพลาด ผู้บัญชาการจ้าวจะสามารถรีบเร่งมาได้ภายในเวลาอันสั้น
“ข้าหวังว่าภารกิจนี้จะให้บทเรียนที่ยากจะลืมเลือนแก่นักเรียนทุกคน!” อาจารย์เสิ่นพึมพำกับตัวเองขณะมองส่งนักเรียนออกไป
ในห้องพักโรงแรมสูงระฟ้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนฮัวเซิง เหอเปียว เจิ้นหง และปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธคนอื่น ๆ มารวมตัวกันอยู่ที่นี่
พวกเขามองผ่านช่องว่างของม่าน ขณะที่นักเรียนโรงเรียนมัธยมเมืองฉูแบ่งออกเป็นสี่ทีม และมุ่งหน้าไปยังทิศของตัวเอง
“เฒ่าเสิ่นผู้นี้ยิ่งไร้สาระมากขึ้นทุกวัน!”
“ใช่ เราจะส่งกลุ่มนักเรียนไปหาคนของเทวาทมิฬได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่านั่นไม่ต่างจากส่งแกะเข้าปากเสือเลยไม่ใช่เรอะ!”
“เขานี่มันน่านัก!”
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธหลายคนบ่น หลายวันมานี้พวกเขาได้ออกค้นหาสมาคมเทวาทมิฬ แต่ทุกสิ่งกลับไม่คืบหน้าเท่าไหร่นัก
คราวนี้หลังจากที่ผู้บัญชาการจ้าวทราบเรื่องทั้งหมด เขาก็ได้สั่งให้ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธหยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว และซ่อนอยู่เบื้องหลังเพื่อตรวจสอบอย่างลับ ๆ
นั่นคือเหตุผลที่ทุกสิ่งมาลงเอยเช่นนี้
เหอเปียวนั่งบนโซฟา ดื่มชา และหัวเราะเบา ๆ “ข้าคิดว่าเด็กพวกนี้ค่อนข้างกล้าหาญ ควรค่าแก่การเลี้ยงดู!”
เจิ้นหงพยักหน้า "ข้าเห็นด้วย แม้พวกเขาจะหุนหันพลันแล่นไปบ้าง แต่ความกล้าหาญที่กล้าเผชิญหน้ากับเทวาทมิฬนั้นหายาก และน่ายกย่องมาก หากพวกเขาสามารถรักษามันไว้ได้ พวกเขาจะกลายเป็นเสาหลักของมนุษยชาติเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น!”
“นอกจากนี้ยังมีพวกเราอยู่ด้วย ดังนั้นพวกเจ้ายังต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกเขาอีกหรือ?”
ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธที่เหลือไม่ได้หักล้าง เพราะพวกเขาเองก็รับรู้ได้ถึงความกล้าหาญของนักเรียนพวกนี้ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่คิดว่าเด็ก ๆ จะพบสิ่งใด อันที่จริงหลังจากทำงานหนักมาหลายวัน สิ่งเดียวที่ปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธได้กลับมาคือสามารถจำกัดขอบเขตให้แคบลงที่ถนนฮัวเซิงเท่านั้น
…
แน่นอนว่าโจวเฮา และนักเรียนคนอื่น ๆ ไม่ทราบว่าปรมาจารย์ผู้เยี่ยมยุทธกำลังแอบปกป้อง และเฝ้าดูพวกเขาอยู่
หลังจากแยกออกเป็นสี่ทีมใหญ่ ยี่สิบทีมย่อย ช่องสัญญาณไร้สายก็มีชีวิตชีวาขึ้น
“โซนA ปลอดภัย!”
“โซน B ปลอดภัย!”
“…”
นักเรียนหลายคนรายงานเขาทุกครึ่งนาที ซึ่งนั่นทำให้โจวเฮาพูดไม่ออก แต่เขาไม่ได้หยุดพวกเขาจากการทำเช่นนี้ ท้ายที่สุดหากมีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ เขาจะสามารถรู้ได้เร็วขึ้น
“ไม่ต้องกังวลนะจางอี้ ข้าเชื่อว่าน้องสาวของเจ้าจะต้องปลอดภัยดี!” โจวเฮามองไปที่จางอี้ และปลอบเขา
เขาเข้าใจว่าจางอี้เครียดมากแค่ไหนหลังจากน้องสาวถูกลักพาตัวไป
อารมณ์ของจางอี้สงบลงมาก เขามองไปที่โจวเฮาอย่างซาบซึ้ง "ขอบคุณ!"
โจวเฮาโบกมือ และตบไหล่จางอี้ “ไม่ต้องขอบคุณ ยังไงเพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้ว”
จางอี้ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
ขณะที่โจวเฮากำลังพูดแอบเปิดหน้าจอเสมือนขึ้นมา
แต้มโชค : 837,100 (ระดับปัจจุบัน : โชคท่วมท้น)
มันยังคงมีเกิน 800,000 แต้มมานิดหน่อยดังเดิม
จากประสบการณ์ในการตามหาแมลงเงาครั้งล่าสุด เขาไม่ลังเล และใช้แต้มโชค 200 แต้มต่อนาทีเพื่อค้นหาสมาชิกของสมาคมเทวาทมิฬทันที
ด้วยแต้มโชคที่ลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาผ่านไปเพียงสิบนาที โจวเฮาก็เริ่มสัมผัสได้ถึงบางอย่าง..