CD บทที่ 246 อย่าเพิ่งให้พวกเขาใส่เสื้อผ้า
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เหมี่ยวอิงไม่รับโทรศัพท์ของเธอ ระหว่างทางจ้าวหยู่โทรหาเธอนับครั้งไม่ถ้วน นอกจากโทรศัพท์ที่ใช้ทำงานของของเธอ จ้าวหยู่รู้ว่าเหมี่ยวอิงมีโทรศัพท์อีกเครื่อง แต่ถึงแม้เขาจะโทรหาเครื่องนั้น ก็ไม่มีใครรับสาย แม้ว่าหลี่เบ่ยหนีจะพบตำแหน่งของเหมี่ยวอิงแล้ว จ้าวหยู่ก็ยังไม่นิ่งนอนใจ เขากลัวจะเกิดอะไรไม่ดีกับเธอ
ตาม GPS ระบุว่า เหมี่ยวอิงอยู่บนถนนช้อปปิ้งที่พลุกพล่านที่สุดในเขตเมืองเก่าของฉินชาน สิ่งที่ทำให้จ้าวหยู่กังวลมากที่สุดคือตำแหน่งของเธอไม่ขยับเลย! แม้ว่าแผนที่จะขยายไปจนสุดทาง เขาก็มองเห็นแต่ห้างสรรพสินค้าที่เธออยู่ แต่ไม่เห็นว่าเธออยู่บนชั้นไหน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงค้นหาเธอด้วยตัวเองเท่านั้น
จ้าวหยู่รีบวิ่งเข้ามาในขณะที่เขาก่นด่าเหมี่ยวอิงในหัวของเขา
‘หนอย! เธอออกไปหาเบาะแสด้วยตัวเองโดยไม่บอกฉัน! แล้วมือถือมีไว้ทำอะไร!? ทำไมถึงไม่รับสาย!?’
คราวนี้จ้าวหยู่ขับรถไปเอง จางเหยาฮุ่ยกังวลว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นและได้ไปที่คลังเก็บปืนของสถานีตำรวจแล้วและเตรียมอาวุธของเขา โดยวางแผนไว้ว่าจะมาถึงภายหลังเพื่อเป็นกองหนุน
จ้าวหยู่ขับรถด้วยความเร็วสูงสุด ทันทีที่เขาเห็นตัวอาคาร เขาก็จอดรถอย่างกะทันหันที่ริมถนนและรีบเข้าไปในห้างสรรพสินค้าทันที คราวนี้เขากระวนกระวายและกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละก้าว!
‘เหมี่ยวอิง! เหมี่ยวอิง! ได้โปรดอย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับคุณเลย! คุณแข็งแกร่งและมีฝีมือที่เหนือกว่าใคร ไม่มีใครสามารถเอาชนะคุณได้ คุณต้องไม่เป็นไรแน่นอน…’ จ้าวหยู่ภาวนาในใจ
น่าเสียดายที่มันเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์และห้างสรรพสินค้าก็แออัดเกินไป
ด้วยความเร่งรีบ จ้าวหยู่ชนคนหลายคนล้มลงและได้ดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่ห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว
"เห้ย! จะทำอะไรน่ะ?" เจ้าหน้าที่ห้างตะโกนขณะที่เขาวิ่ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็คุยกับเจ้าหน้าที่ห้างคนอื่น ๆ ผ่านเครื่องส่งรับวิทยุของเขาและปิดล้อมจ้าวหยู่ที่ประตูลิฟต์
จ้าวหยู่แสดงตราตำรวจทันทีและตะโกนว่า “นี่ตำรวจ ฉันกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ไปให้พ้น!”
เจ้าหน้าที่ห้างเริ่มสบตากัน ไม่มีใครกล้าขัดขืนต่อไป
จ้าวหยู่รีบเข้าไปในลิฟต์ทันที แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไป จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
“อา~ คุณผู้เป็นที่รัก โปรดมากับฉันในความฝัน~♪”
จ้าวหยู่หยุดเดินและกดรับสายทันที แต่เมื่อเขารับสาย เขาก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเสียงของอีกฝั่งเป็นเสียงของเหมี่ยวอิง
“ว่าไง จ้าวหยู่ คุณโทรหาฉันมีเรื่องอะไร? แล้วทำไมฉันถึงได้เงินมากมายจากวีแชทด้วย มันเกิดอะไรขึ้น? คุณให้เงินฉันหรือเปล่า?”
“เชี่ย!” เมื่อได้ยินเหมี่ยวอิงปลอดภัย จ้าวหยู่ก็แทบจะทรุดตัวลงกับพื้น
"เอ๋? นี่คุณกำลังด่าฉันอยู่หรือเปล่า!?" เหมี่ยวอิงเริ่มรู้สึกไม่พอใจ
“คุณทำอะไรอยู่!? ทำไมไม่รับสาย!?” จ้าวหยู่ค่อนข้างไม่พอใจ “คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน!? ฉันคิดว่าคุณถูกฆ่าตายไปแล้วด้วยซ้ำ!”
“อยากตะโกนส่งเสียงสิ! เดี๋ยวคนอื่นก็รู้หมดหรอก!” เหมี่ยวอิงบ่น “ในตอนแรกฉันจะไปหา 'คนนั้น' เหมือนกันแต่ฉันไม่พบหลักฐานใด ๆ เลยทั้งวัน ดังนั้นฉันจึงไปที่ห้างเพื่อทำสปาหน้า ฉันเพิ่งทำเสร็จพอดี ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถรับสายได้...”
"อะไรนะ! คุณรู้มั้ยว่าฉันเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน!?" จ้าวหยู่โวยวาย หัวใจของเขากำลังสูบฉีด “ฉันคิดว่า… ฉันคิดว่า… อ่า… ใช่ ไปโทรหาจางเหยาฮุ่ยและคนอื่น ๆ เร็วเข้า ไม่อย่างนั้น พวกเขาจะเข้ามาที่ห้างพร้อมกับอาวุธครบมือ!”
"ไม่อยากจะเชื่อเลย" เหมี่ยวอิงค่อนข้างตกใจ “จ้าวหยู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คุณห่วงใยฉันมากขนาดนี้”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่สำคัญ พวกเราจูบกันแล้ว ฉันควรรับผิดชอบคุณใช่มั้ย?” จ้าวหยู่โต้กลับทันทีด้วยบางสิ่งในทางที่ผิด
“ฮึ่ม! นี่คุณอยากโดนต่อยอีกหรือไง!?” เหมี่ยวอิงพูดขู่ด้วยความโมโห
“ก็ได้ ก็ได้ ตอนนี้ฉันอยู่ข้างล่างแล้ว ฉันเกือบตายเพราะวิ่งมาตลอดทาง อา รีบโทรหาจางเหยาฮุ่ยเร็วเข้า” จ้าวหยู่หอบ
“เข้าใจแล้ว เอ๊ะ เดี๋ยวนะ…” ราวกับว่าเหมี่ยวอิงนึกบางอย่างได้และพูดทันทีว่า “คุณอย่าเพิ่งมาหาฉันนะ ที่ ๆ ฉันอยู่เป็นห้องที่สงวนไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น พวกเราเปลือยกายกันหมด ผู้ชายไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา!”
"จริงเหรอ?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวหยู่ก็หยุดหอบทันที เขายืดตัวขึ้นและพูดว่า “อย่าเพิ่งให้พวกเธอสวมเสื้อผ้านะ ฉันกำลังไป!”
ก่อนที่เหมี่ยวอิงจะด่าจ้าวหยู่ เขาก็กดวางสายทันที
จ้าวหยู่เข้าไปพิงเสาพลางหอบอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ รู้สึกโล่งใจปนหงุดหงิด ‘เหมี่ยวเหรินเฟิง ทำไมเธอถึงไม่รับสาย ดูสิตอนนี้… ฉันเหนื่อยมากแค่ไหน…’ เขาคิด
จ้าวหยู่มองไปที่บันไดด้านข้างและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าเขาบอกว่าเขาจะขึ้นไปหาเธอ แต่เขาจะไม่มีวันเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยผู้หญิงอย่างนั้นแน่นอน
แล้วตอนนี้เขาควรจะทำอะไรต่อไปดี?
เจ้าหน้าที่ห้างทั้งหมดต่างตกตะลึง พวกเขายังคงรายล้อมจ้าวหยู่ จ้าวหยู่แสร้งทำเป็นเคร่งเครียดขณะที่เขาพูด "เอาล่ะ ทุกคนแยกย้ายกันไปได้แล้ว! เหตุฉุกเฉินจบลงแล้ว คนร้ายถูกจับแล้ว กลับไปทำงานของตัวเองได้แล้ว!"
เขาไล่เจ้าหน้าที่ห้างสรรพสินค้าเหมือนไล่ยุง
เนื่องจากเขาเสียเหงื่อมาก จู่ ๆ เขาก็รู้สึกกระหายน้ำ เมื่อมองไปทางซ้ายและขวา เขาเห็นร้านเล็ก ๆ ข้างห้างสรรพสินค้า เขาเดินไปทางนั้นโดยวางแผนจะซื้อน้ำขวดหนึ่ง แต่เมื่อเขาเข้าไปในส่วนเย็นของร้าน เขาเห็นฉากที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดอยู่ข้างหน้าเขา
บริเวณที่มีเครื่องดื่มเย็น ๆ มีผู้ชายสองคนที่แต่งตัวจัดจ้าน ผมของพวกเขาย้อมเป็นสีรุ้ง พวกเขากำลังดื่มโซดากระป๋องโดยไม่สนใจคนรอบข้าง ทั้งสองไม่เพียงแต่แต่งตัวแปลกตาเท่านั้น แต่พวกเขายังมีรอยสักอีกด้วย แม้ว่าพวกเขาจะดูผอมแห้ง แต่พวกเขาก็ดูราวกับว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวผู้ใดแม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าลูกค้ารายอื่นค่อนข้างจะดูค่อนข้างรำคาญ แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเขา แม้แต่แคชเชียร์ในร้านก็ทำได้แค่ยืนข้าง ๆ ไม่กล้าขัดพวกเขา
“ฮี่ฮี่…” ขณะถือขวดน้ำ จ้าวหยู่รู้สึกคิดถึงความหลังอย่างช่วยไม่ได้ คิดย้อนกลับไป เขาก็เคยเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ? พอไม่มีเงินก็ไปร้านเพื่อกินดื่มฟรี บางครั้งเขาจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และถ้าเขาเมาบางครั้งเขาก็นอนบนพื้น หากมีใครกล้าท้าทายเขา เขาก็จะยิ่งสร้างความวุ่นวายมากขึ้นไปอีก และเริ่มทำลายข้าวของด้วยซ้ำ!
ถ้ามีคนโทรแจ้งตำรวจ เขาก็ยอมโดนจับแต่โดยดี แต่พอออกมาเขาก็สร้างความปัญหาใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เจ้าของร้านทุกคนก็ตัวสั่นเมื่อเห็นเขา
แต่นั่นมันก็แค่อดีต!
ตอนนี้เขาต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!
‘ตอนนี้ฉันเป็นตำรวจแล้ว!’ จ้าวหยู่คิด
จ้าวหยู่ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเดินขึ้นและต่อยหน้าทั้งสองคนทันที!
*พลัวะ! โครม!*
ทั้งสองล้มลงทันที คนที่ดื่มนมทำหกไปทุกที่ ทั้งสองนั่งอยู่ตรงพื้นสองสามวินาทีก่อนที่จะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จ้าวหยู่ย่างสามขุมเข้ามาและตบทั้งสองคนก่อนที่จะใส่กุญแจมือทั้งสองคน
ทันใดนั้นเห็นพวกเขาถูกทุบตี คนในร้านหรือแม้แต่คนจากห้างสรรพสินค้าก็รวมตัวกันเพื่อมุงดูความโกลาหลในทันใด
"ไม่ต้องตกใจ ฉันเป็นตำรวจ!" จ้าวหยู่เอาป้ายตำรวจของเขา ยื่นไปที่คนร้ายสองคนที่ถูกเขาทุบตี “พวกคุณถูกจับกุม! พวกคุณถูกจับกุมในข้อหา… อืม… ข้อหารับประทานอาหารโดยไม่ต้องจ่ายเงินที่ร้าน!”
เมื่อจ้าวหยู่พูดจบ ผู้หญิงที่ยืนเคี้ยวหมากฝรั่งตกใจทันที เธอคายหมากฝรั่งที่เธอกำลังเคี้ยวอยู่ใส่มือทันที
“คุณตำรวจ พวกเราผิดไปแล้ว พวกเราจะ… พวกเราจะจ่ายเอง อย่าตีพวกเราอีกเลย” เนื่องจากทั้งสองคนเจอตอ พวกเขาจึงลดความกร่างลงและเริ่มขอโทษขอโพยทันที
“งั้นเหรอ? ได้!” จ้าวหยู่เปิดขวดน้ำและเริ่มดื่ม จากนั้นก็กล่าวว่า "อย่าลืมจ่ายค่าน้ำขวดนี้เพิ่มไปด้วยล่ะ!" จ้าวหยู่ปลดกุญแจมือทั้งสองและดูแลพวกเขาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจ่ายเงินอย่างเหมาะสม
ทันใดนั้น เมื่อเห็นจ้าวหยู่รักษาความยุติธรรม ทุกคนก็เริ่มปรบมือให้เขา โห่ร้องและยกย่องเขา แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจ
เขามองไปที่พวกอันธพาลทั้งสองคน จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
‘ใช่แล้ว วันนี้เป็นฉันได้คำทำนายว่า ‘Dui-Gen’ ‘Dui’ นั้นง่ายมาก วันนี้ฉันทำเงินไปแล้ว 9 ล้านหยวน แล้ว… แล้วคำว่า ‘Gen’ ล่ะ ฉันจะหาเบาะแสบางอย่างจากที่นี่ได้ใช่มั้ย?’
เมื่อคิดได้เช่นนั้น จ้าวหยู่ก็รีบวิ่งไปข้างหน้าและดึงอันธพาลทั้งสองที่กำลังจ่ายเงินกลับมา เขาชูภาพในโทรศัพท์ขึ้นมาและพูดว่า “เคยเห็นผู้ชายมั้ย? พวกคุณรู้จักเขารึเปล่า?”
ทั้งสองจ้องมองด้วยใบหน้าที่ช้ำอยู่ครู่หนึ่ง แต่ทั้งคู่ก็ส่ายหัว พวกเขาไม่รู้จักชายในรูป
จ้าวหยู่อดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อย เขากำลังจะวางโทรศัพท์เมื่อมีผู้หญิงใจดีเดินเข้ามา “คุณตำรวจ คุณกำลังมองหาใครอยู่เหรอคะ? ขอฉันดูหน่อยได้ไหม?”
จ้าวหยู่เงยหน้าขึ้นและเห็นผู้คนมากมายรุมล้อม เขาคิดว่าต้องมีใครสักคนที่เห็นชายคนนี้ ดังนั้นเขาจึงเอาภาพให้ทุกคนเห็นด้วยเช่นกัน!
เขาแสดงรูปภาพของจ้าวฉิงให้ทุกคนเห็น แต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครรู้จักชายคนนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างพากันส่ายหัว
จ้าวหยู่เริ่มรู้สึกยอมแพ้ ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ในโลกนี้!
ณ ตอนนี้ อันธพาลทั้งสองคนเริ่มล้วงกระเป๋าตังค์ แต่ข้างในไม่มีเงินมากนัก จ้าวหยู่เห็นสิ่งนี้และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เขาดึงแบงค์หนึ่งร้อยหยวนออกมาแล้วมอบให้แคชเชียร์
“ไม่เป็นไร ข้าวของที่สองคนนี้ได้ทำพัง เดี๋ยวฉันเป็นคนจ่ายเอง!”
อันธพาลทั้งสองตกตะลึง แคชเชียร์สาวผมหางม้ายิ่งสับสนมากขึ้นเมื่อเธอปฏิเสธว่า “ไม่เป็นไรค่ะ มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ไม่ต้องหรอกจ่ายค่ะ!”
“จะไม่จ่ายได้ยังไง ฉันเป็นตำรวจ ตำรวจรับใช้ประชาชน เราจะปล่อยให้ทรัพย์สินของประชาชนเสียหายได้อย่างไร รับไป ไม่ต้องทอน!” จ้าวหยู่พูดอย่างชอบธรรม จนตัวเขาเองก็เกือบจะรู้สึกขนลุกเลย
ตอนนี้ฝูงชนมองไปที่จ้าวหยู่ด้วยความชื่นชมมากขึ้น อันธพาลทั้งสองไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเลยนอกจากความละอาย
ทางด้านแคชเชียร์ เธอมองจ้าวหยู่อย่างชื่นชม ไม่นานเธอก็รับเงินไปอย่างลังเล
“หืม…” เนื่องจากจ้าวหยู่ยังคงกระหายน้ำ เขาจึงชี้ไปข้างหลังแคชเชียร์และพูดว่า "ขอน้ำอีกขวดนึง!"
"รอสักครู่นะคะ" แคชเชียร์ไม่ลังเลที่จะหยิบขวดน้ำให้จ้าวหยู่ แต่ทันใดนั้นเอง เธอมองลงไปที่โทรศัพท์ของจ้าวหยู่ เนื่องจากโทรศัพท์ของจ้าวหยู่หงายหน้าขึ้น เธอจึงบังเอิญเห็นรูปนั้น!
“หืม?” แคชเชียร์หญิงหยุดกะทันหัน เธอไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไร “คน ๆ นี้ดูคุ้นหน้าจัง มันเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง?”
"อะไรนะ?" ดวงตาของจ้าวหยู่เป็นประกาย เขายื่นโทรศัพท์ให้เธอทันที
“อืม…” แคชเชียร์หญิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ชี้ออกไปนอกหน้าต่าง “คนนั้น… ฉันคิดว่าเขาเพิ่งมาที่นี่ ฉัน… ฉันเห็นเขาเข้าไปที่…” จากนั้นนิ้วของเธอชี้ไปที่ร้านเบเกอรี่ข้างนอก แต่เมื่อเธอชี้ เธอกระโดดขึ้นและตะโกนว่า
“ใช่แล้ว คนที่คุณตามหา เขาอยู่ตรงนั้น!”