679 - เซียนอมตะหวังปรากฏตัว
1989 - เซียนอมตะหวังปรากฏตัว
“เรื่องของตระกูลจิน เจ้าเป็นคนทำหรือเปล่า” มังกรตัวที่แปดของตระกูลหวังถาม
ใบหน้าของเขายังค่อนข้างอ่อนเยาว์แต่มีผมหงอกอยู่ด้านหลัง พลังชีวิตของเขาตอนนี้กำลังเฟื่องฟูอย่างสุดขีด
“ใช่” สือฮ่าวตอบกลับง่ายๆเพียงเท่านี้
ฮ่อง!
ในเวลานี้โลกก็เต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมกลายเป็นเหมือนน้ำเดือด การคาดการณ์เป็นสิ่งหนึ่งแต่ความเป็นจริงเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตกใจ
ฮวงแข็งแกร่งแค่ไหน? เขาสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้!
นั่นคือตระกูลจินที่พวกเขากำลังพูดถึง นั่นคือตะกูลอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดแม้แต่ประตูของตระกูลก็ยากที่จะเข้าไปแล้ว ว่ากันว่าจินไท่จุนได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกไล่ล่าเข้าสู่ส่วนลึกของดินแดนบรรพบุรุษ
“เจ้าทำอะไรกับตระกูลของข้ากันแน่?” จินซานตะโกน
เขาได้ยินมาคร่าวๆเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง แต่ไม่รู้รายละเอียด
ในเวลานี้เมื่อเขาได้ยินการสนทนาของทุกคน เขาได้รู้ว่าบรรพบุรุษของตระกูลจินนั้นมีสภาพย่ำแย่อย่างยิ่ง
“เจ้าก็ไปถามพวกที่เดินทางไปก่อนก็แล้วกัน” สือฮ่าวพูดอย่างใจเย็น
หลังจากนั้นเขาชี้นิ้วออกไปลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่มีรัศมีอันเจิดจ้าราวกับดวงตะวันดวงใหญ่ก็ส่องสว่างทั่วท้องฟ้า ด้วยเสียงเปิงศีรษะของจินซานกลายเป็นเถ้าถ่าน
สถานที่นี้เงียบไปในทันที ทุกคนต่างกลั้นหายใจ
ฮวงบรรลุเต๋าแล้ว แม้ว่าเขาจะฝึกฝนมาเพียงไม่กี่ทศวรรษ แต่เขาก็เป็นคนที่อยู่ในระดับเดี๋ยวกลับจินไท่จุนและเซียนอมตะหวังซึ่งอยู่สูงขึ้นไป กลายเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพียงไม่กี่คน
เมื่อบุคคลเหล่านั้นเข้าใจประเด็นนี้แล้ว ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกต่อไป ทุกคนเต็มไปด้วยความเคารพอย่างหาที่เปรียบมิได้ต่อสือฮ่าว
จินซานแข็งแกร่งมากจริงๆ แต่การโจมตีแบบสบายๆจากฮวงก็จบชีวิตของเขาไปแล้ว!
“ข้าสงสัยจริงๆว่าเจ้ามีอะไรถึงกล้ามาปรากฏตัวที่นี่วันนี้” สือฮ่าวมองไปที่มังกรตัวที่แปดของตระกูลหวัง
ขณะพูดเขายกมือขึ้นโดยไม่ต้องการเสียเวลาและพยายามปราบปรามมังกรตัวที่แปดของตระกูลหวังตรงๆไม่อ้อมค้อม
“สหายเต๋าเจ้าดูถูกคนทั้งโลกนี้เกินไปแล้ว!” มังกรตัวที่แปดของตระกูลหวังกล่าว ดวงตาของเขาฉายแสงเยือกเย็นไร้ซึ่งความกลัวใดๆ
“เรียกข้าว่าผู้อาวุโสแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสือฮ่าว
ยิ่งกว่านั้นมือของเขาเคลื่อนผ่านความว่างเปล่าคว้าออกไปด้านนอกปล่อยเสียงดังก้องกังวาน
เราสามารถเห็นได้ว่าระหว่างฝ่ามือและนิ้วของเขามีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หมุนวนอย่างริบหรี่อยู่ที่นั่น
สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ไม่ธรรมดานี่เป็นศูนย์รวมของอำนาจของผู้สูงสุดอย่างแท้จริง!
เมื่อถึงจุดนี้การจู่โจมแบบสบายๆของสือฮ่าวก็เพียงพอแล้วที่จะครอบคลุมโดมท้องฟ้า มีพลังเพียงพอที่จะทำลายจักรวาลได้
“เช่นนั้นเจ้าก็จะเห็นเอง! ไม่มีใครในโลกสามารถรังแกตระกูลหวัง!” ในเวลานี้ด้วยเสียงฮัวลา มังกรตัวที่แปดของตระกูลหวังเขย่าม้วนภาพ ทำให้มันคลี่ออกในความว่างเปล่า
ม้วนหนังสือโบราณนั้นเต็มไปด้วยสีสัน เมื่อมันถูกเปิดเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงของมันก็แสดงออกมา
ข้างในมีคนที่ชายหนุ่มที่อายุน้อยมากราวกับสิบหกหรือสิบเจ็ดปี ริมฝีปากสีแดงสดและฟันขาวมีลักษณะที่ละเอียดอ่อน
“เซียนอมตะหวัง!”
สือฮ่าวเปิดเผยการแสดงออกถึงความตกใจ ผู้ที่ถูกชักนำมาที่นี่คือเซียนอมตะหวังจริงๆ
“เจ้าคิดว่าม้วนภาพง่อยๆนี้จะทำอะไรข้าได้อย่างนั้นหรือ”
"แล้วเจ้าจะเห็นเอง!" มังกรตัวที่แปดของตระกูลหวังจับหวังสือและรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะรัศมีสูงสุดแผ่ซ่านไปทั่วที่นี่ทำให้ทุกคนหวาดกลัว
ทุกคนต่างสั่นสะท้านถอยหลังใบหน้าซีดเผือดไร้สีสัน
“สหายเต๋ามีเหตุผลที่จะทำอย่างนี้จนถึงขั้นแตกหักหรือ? หากเป็นไปได้ เราควรปล่อยผู้คนออกไป ไว้ชีวิตพวกเขา” คนในภาพพูด มันมีพลังของร่างกายที่แท้จริงของเซียนอมตะหวัง!
“ไม่น่าแปลกใจ นี่เทียบเท่ากับหนึ่งในอวตารของเซียนอมตะหวังหรือไม่?” สือฮ่าวกล่าว
จิ!
สือฮ่าวเดินไปข้างหน้า แสงหลากสีอันเป็นมงคลพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา เปลวเพลิงที่ลุกโชนพลุ่งพล่าน
สิ่งเหล่านี้คือเปลวไฟของหงส์เพลิงที่แท้จริงซึ่งมันสามารถเผาไหม้สวรรค์กำลังจะทำลายม้วนภาพให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ฮึ่ม!
เซียนอมตะหวังแค่นเสียงอย่างเย็นชา เมื่อดวงตาของเขาเปิดและปิดรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งออกมา ม้วนหนังสือทั้งหมดราวกับมีชีวิตขึ้นจริงๆกระดาษหายไปเหลือเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่
ตง!
สวรรค์และปฐพีปะทุขึ้นเด็กหนุ่มคนนั้นดูเหมือนไม่มีอันตราย
แต่เมื่อเขาแสดงอานุภาพ แสงประกายระยิบระยับระหว่างดวงตาของเขาก็พุ่งออกมากลายเป็นกระบี่สีดำสนิทซึ่งบินเข้าหาสือฮ่าวตรงๆอย่างหักโหม
นี่เป็นรอยประทับที่เซียนอมตะหวังทิ้งไว้ มันสามารถแสดงความพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของวิชาสยบความโกลาหลได้ถึงขั้นสูงสุด!
รัศมีพลังของมันเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนที่นี่ตกอยู่ในอันตราย มันคือหนึ่งในวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเก้าสวรรค์สิบพิภพ!
ความทรงพลังของมันนั้นหาที่เปรียบมิได้ ว่ากันว่านี่เป็นญาณวิเศษลึกลับที่ไม่มีใครเทียบได้ นอกจากนี้ยังเป็นคัมภีร์ที่สือฮ่าวต้องการมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ถ้าเขาได้รับวิชานี้ เขาก็สามารถปรับแต่วิญญาณของเขา ทำให้มันแข็งแกร่งและไม่แตกหัก
เมื่อผสานกับคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้มันจะทำให้เขาแข็งแกร่งทั้งภายในภายนอก ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาจะเข้าสู่สภาวะที่ทรงพลังที่สุด!
เฉียง!
สือฮ่าวเผชิญหน้ากับการโจมตีทำให้มีบางอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่รอบๆตัวเขา โซ่ศักดิ์สิทธิ์สีแดงปรากฏขึ้นทีละเส้นเหมือนขนนก ปล่อยเสียงเค็งเฉียง พันรอบกระบี่สีดำ
แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ทำมาจากขนนก เขาใช้ญาณวิเศษของหงส์เพลิงอันล้ำค่าซึ่งเป็นความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้!
ขนสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา เปลี่ยนเป็นโซ่แห่งคำสั่งของเทพเจ้าพร้อมกับมัดกระบี่สีดำเล่มนั้นเพื่อจะขัดเกลามัน
“รีบหนี!”
ในระยะไกลมังกรตัวที่แปดของตระกูลหวังได้นำหวังสือและคนอื่นๆฉีกช่องว่างในความว่างเปล่าเปิดประตูมิติพร้อมที่จะหนีไป
อย่างไรก็ตามโซ่ศักดิ์สิทธิ์ก็กวาดไปทั่ว สีแดงสดราวกับเลือดที่ไหลขึ้นสู่สรวงสวรรค์มันตัดเส้นทางการหลบหนีของพวกเขาทันที
ปู!
มังกรตัวที่แปดแห่งตระกูลหวังกระอักเลือดออกมา มันเป็นเพราะเขากระแทกเข้ากับโซ่ศักดิ์สิทธิ์สีแดงเข้มนั้น เขาได้รับความทรมานจากอำนาจของสิ่งมีชีวิตสูงสุดส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บสาหัส
เก้ามังกรของตระกูลหวังยิ่งอยู่ในลำดับหลังๆก็ยิ่งทรงอำนาจ มีข่าวลือว่ามังกรตัวที่เก้าอาจเป็สิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดแล้ว
ในขณะที่มังกรตัวที่แปดก็อยู่ใกล้อาณาจักรนี้ยังไม่น่าเชื่อ ถือได้ว่าเป็นผู้สูงสุดครึ่งก้าวแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขายังคงได้รับบาดเจ็บสาหัส! แม้ว่าสือฮ่าวกำลังเผชิญกับรอยประทับจากม้วนกระดาษ แต่เขาก็ยังติดตามความเคลื่อนไหวของคนตระกูลหวังอยู่ตลอด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่คนตระกูลหวังจะหลบหนีไปได้
“ถ้าเจ้ากล้าเคลื่อนไหว ข้าจะฆ่าเจ้าโดยไม่มีข้อยกเว้น!” สือฮ่าวข่มขู่
ในเวลาเดียวกันขนสีแดงของเขาก็ปะทะกันอย่างรุนแรงกับเซียนอมตะหวัง พลังกระบี่พุ่งขึ้นสู่สรวงสวรรค์ขนนกปล่อยแสงสีแดงที่ลุกเป็นไฟเผาผลาญสวรรค์และปฐพี
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของเซียนอมตะหวังแต่สือฮ่าวก็ไม่กล้าแสดงความประมาทแม้แต่น้อย
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงซึ่งสามารถบรรลุเต๋ามาเป็นเวลาเกือบล้านปีแล้ว พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างกายของเขานั้นมากมายมหาศาล
อย่างน้อยที่สุดเขาก็ใกล้กับอาณาจักรแห่งความเป็นอมตะห่างออกไปเพียงผมเส้นเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะโลกใบนี้ไม่อนุญาตให้มีสิ่งมีชีวิตอมตะบางทีเขาคงกลายเป็นเซียนอมตะที่แท้จริงไปแล้ว
แม้ว่าสือฮ่าวจะน่าทึ่ง แต่เขาฝึกฝนเพียงไม่กี่สิบปีแทบจะไม่สามารถเข้าสู่อาณาจักรนี้ได้ เขายังเป็นผู้มาใหม่!
ในยุคที่ยิ่งใหญ่นี้มีกี่คนที่มาถึงระดับนี้ได้และกี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่?
การที่ผู้สูงสุดของเก้าสวรรค์พิภพที่เหลืออยู่พวกเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน
ท่ามกลางโลกที่พิกลพิการนี้พวกเขาก็ยังสามารถเป็นผู้สูงสุดได้ พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นอัจฉริยะที่ท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง!