ตอนที่แล้วDual Cultivation บทที่ 964 กลุ่มคนพาล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDual Cultivation บทที่ 966 หงส์แดง

(ฟรี) Dual Cultivation บทที่ 965 การตัดสินใจของเม่ยอิง


"เจ้าเป็นแขกผู้มีเกียรติงั้นรึ ไร้สาระ ข้าไม่รู้จักเจ้า เจ้าจะเป็นแขกผู้มีเกียรติได้อย่างไร" มีคนสงสัยเขา

ซูหยางยิ้มเยาะและพูดว่า "เจ้ารู้จักทุกคนในสวรรค์ศักดิสิทธิ์ทั้งสี่งั้นรึ ถ้าใช่ นั่นช่างน่าประทับใจมาก แม้แต่จักรพรรดิสวรรค์ก็ไม่กล้าบอกว่าตนเองรู้จักทุกคนในสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่”

“เจ้าเด็กเลวคิดว่าเจ้าฉลาดงั้นรึ” ชายคนนั้นขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบของเขา

“เฮ้ ผู้จัดการเฉิน เขาจ่ายเจ้าเท่าไหร่ ข้าจะจ่ายสองเท่า” อีกคนที่นั่นพลันกล่าว

ชายวัยกลางคนร่างสูงหันไปมองชายที่เพิ่งพูดและพูดด้วยใบหน้ารอยยิ้มขื่นขม "เขาจ่ายหินวิญญาณระดับกลางให้ข้า 2 ก้อน"

“ส-สองก้อนหินวิญญาณระดับกลาง”

ฝูงชนต่างตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ทำไมถึงมีคนยอมเสียเงินเปล่าเช่นนี้ได้อย่างไร

แม้ว่าเม่ยอิงจะเป็นคนทำงานที่ดีที่สุดของซ่อง แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่คุ้มกับเงินมากขนาดนั้น

"ทำไมพวกเจ้าทุกคนถึงดูประหลาดใจนัก ก็แค่หินวิญญาณระดับกลางเพียง 2 ก้อน อืม ตอนนี้เจ้ากำลังจะจ่ายด้วยหินวิญญาณระดับกลาง 4 ก้อนงั้นรึ" ซูหยางถามคนที่เพิ่งพูดไป แต่คนๆ นั้นก็ก้มหน้าลงมองพื้นอย่างเงียบงันและอับอายในทันที

"อะไรนะ เจ้าจ่ายไม่ได้รึ งั้นก็หุบปากซะ" ซูหยางพลันเปลี่ยนทัศนคติ กลายเป็นเย็นชา และหรี่สายตาจ้องมองพวกเขา

"ถ้าเจ้ายังมีอย่างอื่นที่จะพูด เจ้าสามารถบอกข้าได้ที่นวดขั้นเทพบนตรอกสองสามตรอกห่างออกไปในวันพรุ่งนี้ ข้าทำงานที่นั่น"

หลังจากพูดคำเหล่านี้แล้ว ซูหยางก็เดินขึ้นไปข้างบน แต่ไม่มีใครกล้าหยุดเขา

“เดี๋ยว-เดี๋ยว… เขาเพิ่งพูดว่านวดขั้นเทพงั้นรึ สถานที่ซึ่งโด่งดังที่เพิ่งโผล่ออกมาโดยไม่มีวี่แววก่อนหน้านี้ไม่ใช่รึ เขาทำงานที่นั่นอย่างนั้นรึ”

"ถ้าข้าจำไม่ผิด มีหมอนวดเพียงคนเดียวที่จัดการสถานที่แห่งนั้น และเขาคิดด้วยราคาสูงเหลือเกินเป็นหินวิญญาณระดับกลาง 5 ก้อนสำหรับกิจกรรม 30 นาทีเพียงรอบเดียว แต่ลูกค้าก็มาเข้าคิวตรงหน้าร้านของเขาเหมือนฝูงมด"

“อะไรนะ 5 ก้อนหินวิญญาณระดับกลางสำหรับนวด 30 นาที ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงโปรยเงินไปแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นเต็มไปด้วยเงิน”

"เชี่ย ช่างโชคดี ข้าเพียงเห็นแต่ซ่องโสเภณีระดับสูงในตรอกโคมแดงที่หารายได้มหาศาลแบบนั้น"

ฝูงชนที่อยู่นอกซ่องพากันออกจากสถานที่แห่งนั้นในที่สุดหลังจากที่พวกเขารู้ว่าพวกเขากำลังต่อสู้อยู่กับใคร

ในความคิดของพวกเขา พวกเขาเพียงต้องรอไปอีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะได้พบเม่ยอิงอีกครั้ง และมันก็ไม่คุ้มที่จะล่วงเกินคนอย่างซูหยางเพื่อผู้หญิงในเมืองเกษมสันต์

ในขณะเดียวกัน ซูหยางก็แบกเม่ยซิงไว้บนหลังขณะที่ค่อยๆ ขึ้นบันไดไป

เมื่อเขาไปถึงชั้นสาม เขาก็เคาะประตู

"นั่นใคร ข้ามีลูกค้าแล้ว" เสียงของเม่ยอิงดังมาจากข้างใน

"ข้าเอง" ซูหยางกล่าว

"ผ-ผู้จัดการ" เม่ยอิงประหลาดใจอย่างยิ่งที่ได้ยินเสียงของซูหยางในเวลาไม่นานอีกครั้ง

"ได้โปรด เข้ามาข้างใน" จากนั้นนางก็พูดขึ้น

ซูหยางเปิดประตูและเข้าไปในห้องพร้อมกับเม่ยซิง

เมื่อเม่ยอิงเห็นเม่ยซิงหมดสติอยู่บนหลังของเขา นางก็เริ่มตื่นตระหนก

“ก-เกิดอะไรขึ้นกับเม่ยซิงรึ” นางร้องเสียงดังด้วยความตกใจ

"ใจเย็นๆ นางแค่หลับไป" ซูหยางพูด

"เมื่อคืนนางไม่ได้นอน ใช่หรือไม่ แม้ว่านางจะทำงานทั้งวันโดยไม่หลับ แต่นางก็จวนเจียนจะหลับตอนจบงาน ข้าก็เลยเสนอแบกนางกลับ และนางก็ผล็อยหลับไปในขณะที่ข้าอุ้มนางมาที่นี่"

ซูหยางอธิบายสถานการณ์ให้นางฟัง

เมื่อเม่ยอิงตระหนักว่าเม่ยซิงไม่ได้รับอันตราย นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันที

“สวรรค์โปรด… เจ้าทำให้ข้ากลัวจากการพานางกลับมาในสภาพนั้น ข้าขอโทษในความไม่สะดวก ผู้จัดการ” เม่ยอิงโค้งคำนับเขา

"ไม่เป็นไร วันนี้นางทำงานได้ดีมากเช่นกัน" ซูหยางยิ้ม

หลังจากวางเม่ยอิงไว้บนเตียงข้างๆ แม่ของนางแล้ว ซูหยางก็เตรียมตัวกลับ

อย่างไรก็ตาม เม่ยอิงหยุดเขาและพูดว่า "โปรดรอชั่วครู่ ผู้จัดการ"

"มีอะไรรึ" ซูหยางหยุดเดินหันหลังกลับ

"ข้าคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้าพูดเมื่อวานตั้งแต่ข้าตื่นมา…"

เม่ยอิงมองเข้าไปในดวงตาของเขาและพูดต่อไปอีกว่า "เจ้า… เจ้าคิดว่าข้ามีโอกาสเอาชีวิตรอดภายนอกเมืองเกษมสันต์จริงงั้นรึ"

จากนั้นซูหยางก็พูดขึ้น "เจ้าคิดว่าโลกภายนอกเมืองเกษมสันต์เป็นอย่างไร ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่สามารถทำงานในสิ่งที่เจ้าเชี่ยวชาญต่อนอกเมืองเกษมสันต์ไม่ได้ ตามจริง แม้ว่าเมืองเกษมสันต์จะเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้สวรรค์ศักดิสิทธิ์ทั้งสี่เมื่อพูดถึงเรื่องประเภทนี้ แต่มันไม่ใช่ที่เดียวในพิภพที่มีสภาพแวดล้อมเช่นนี้"

"แน่นอนว่าเมืองเกษมสันต์เป็นที่ซึ่งได้รับความนิยมและมีประชากรมากที่สุด แต่มีสถานที่แห่งอื่นที่ดีกว่ามากในด้านคุณภาพของคนบริการและความสะอาดโดยรวมของสถานที่"

"และด้วยรูปร่างหน้าตาของเจ้า ข้าแน่ใจว่าเจ้าสามารถทำเงินได้ไม่ว่าเจ้าจะไปไหน"

เม่ยอิงถอนหายใจแล้วพูดว่า "แม้ว่าข้าจะเก่งในกิจกรรมนี้ และร่างกายข้าก็เหมาะกับการสร้างความบันเทิงให้คนอื่น แต่จริงๆ แล้วข้าต้องการเลิกงานนี้ ข้าเกลียดงานนี้ตั้งแต่เริ่มงาน แต่เพราะข้าไม่มีเงินและไม่มีที่ไปหลังจากพ่อแม่ทิ้งข้าไว้ที่นี่เมื่อพวกเขาไม่สามารถเลี้ยงดูข้าได้อีกต่อไป ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเอาชีวิตรอดด้วยงานนี้เท่านั้น"

ซูหยางเลิกคิ้วหลังจากได้ยินว่านางถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง หรือนี่คือเหตุผลที่นางไม่ยอมละทิ้งเม่ยซิงทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่าจะไม่สามารถสนับสนุนพวกเขาทั้งสองคนพร้อมกันได้

"แล้วเจ้าต้องการทำอะไร" ซูหยางถามนางหลังจากนั้นชั่วขณะ

“ข้า… ข้าเคยมีความฝันที่จะเป็นนักแสดงมาก่อน… ข้าหมายถึงว่าตอนนี้ข้าเป็นนักแสดงในทางหลักการแล้ว แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าคิดไว้ในใจ ข้าอยากจะอยู่บนเวทีใหญ่ แต่ข้าจำกัดอยู่บนเตียงขนาดเล็กนี้เกือบทั้งวัน ข้าต้องการแสดงและแสดงต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก ไม่ใช่สำหรับคนเพียงคนเดียว”

"อย่างไรก็ตาม ความฝันเหล่านี้เป็นเพียงความฝันที่ข้ามีตอนเป็นเด็ก ตอนนี้ข้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้าไม่มีความคาดหวังแบบนั้นอีกแล้ว นอกจากนี้ ในฐานะแม่ ข้าไม่ปรารถนาสิ่งใด แค่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเม่ยซิงเท่านั้น ข้าไม่สนหรอกว่าจะต้องทำอะไร แม้ว่าจะต้องทำงานให้บริการต่อไป ข้าก็อยากให้เม่ยซิงมีชีวิตที่ดี"

เม่ยอิงพลันลุกจากเตียงและตรงเข้าไปหาซูหยางด้วยการเคลื่อนไหวที่ไม่มั่นคง

เมื่อนางยืนอยู่ต่อหน้าเขา นางก็ลดตัวลงจนกระทั่งคุกเข่าลงกับพื้น

จากนั้นนางก็ก้มตัวจนหน้าผากแตกพื้น

"ผู้จัดการ ข้าต้องการทิ้งเมืองเกษมสันต์ไปกับเม่ยซิง แต่ข้าไม่มีความสามารถในการทำเช่นนั้นในสถานะปัจจุบัน ดังนั้น ข้าได้แต่ขอความช่วยเหลือจากเจ้าอย่างไร้ยางอาย"

"ข้าคิดว่าคงจะดีที่สุดสำหรับเราทั้งสองคนถ้าข้าตาย แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเจ้าเมื่อวานนี้และได้เห็นความมุ่งมั่นของเม่ยซิงเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ข้าก็ตระหนักว่าข้าได้ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง ข้าไม่ต้องการที่จะตายก่อนเวลาอันควร… ข้าไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในแต่ละวันโดยคิดสงสัยว่าลูกค้ารายต่อไปจะฆ่าข้าหรือไม่ ข้าอยากมีชีวิตอยู่… กับเม่ยซิง…"

รอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูหยาง  และเขาก็พูดด้วยเสียงที่เยือกเย็นว่า "ข้าถามเจ้าเมื่อวานนี้แล้ว แต่ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง… เจ้าอยากทำงานให้ข้าหรือไม่ แม้ว่าข้าจะไม่ได้อยู่ในเมืองเกษมสันต์ตลอดไป แต่ข้าสามารถรับประกันเจ้าว่าเจ้าจะมีรายได้มากเกินพอที่จะอยู่อย่างสบายไปตลอดชีวิตกับเม่ยซิงเมื่อข้าจากไป"

"นั่นเป็นความปรารถนาของข้า" เม่ยอิงตอบทันที

หลังจากคิดทุกอย่างมาทั้งวันแล้ว เม่ยอิงได้ตัดสินใจที่จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะจากเมืองเกษมสันต์ไปกับเม่ยซิง โดยยังมีชีวิตอยู่

ซูหยางพยักหน้า "เยี่ยมมาก เช่นนั้นเจ้าสามารถเริ่มทำงานพรุ่งนี้เช้ากับเม่ยซิงได้ อย่างไรก็ตาม จริงแล้วตอนนี้ข้าไม่มีงานให้เจ้าทำเลย และเจ้าก็ยังต้องการพักผ่อน ดังนั้นงานสำหรับเจ้าในสองสามวันข้างหน้าก็คือการพักผ่อน”

"สำหรับสถานที่ทำงานปัจจุบันของเจ้า เนื่องจากเจ้าจะไม่ทำงานที่นี่แล้ว เจ้าต้องการที่พักใหม่ จนกว่าเจ้าพบที่พักถาวร เจ้าสามารถพักในโรงแรมในช่วงเวลานี้ไปก่อนได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องจ่ายเงินเพราะข้าจะจัดการทุกอย่างเอง”

"ข้าไม่สามารถขอบคุณเจ้าได้มากเท่าที่ต้องการเลยจริงๆ ผู้จัดการ…" เม่ยอิงถอนหายใจ รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ได้รับความช่วยเหลือมากมายจากซูหยางโดยไม่ได้ทำอะไรตอบแทนเขา

"เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้า ข้ากำลังทำเช่นนี้ด้วยตัวเอง ตามความต้องการของข้า"

"ไปพักผ่อน พรุ่งนี้เช้าข้าจะกลับมารับเจ้าสองคน" ซูหยางพูดกับนางก่อนออกจากอาคารหลังจากนั้นไม่นาน

เมื่อซูหยางออกจากสถานที่แห่งนั้นแล้ว เม่ยอิงก็นำยาที่ซูหยางให้เมื่อวานและกลืนลงไปโดยไม่ลังเล

หลังจากดื่มน้ำแล้ว เม่ยอิงก็กลับไปใต้ผ้าห่มและกอดร่างเล็กๆ ของเม่ยซิงไว้จนกระทั่งนางผล็อยหลับไปในเวลาสองสามนาทีหลังจากนั้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด