ตอนที่ 163 นายใหญ่
เมื่อเดินเข้าไปข้างใน มีผู้คนที่เดินผ่านมาพวกเขาได้กล่าวทักทายจางหม่านเหมือนกันแผนกต้อนรับ ส่วนจางหม่านก็พยักหน้าให้เพียงอย่างเดียว
ซูข่านได้มองดูพนักงานของบริษัทเขา ใบหน้าของพวกเขาดูสดใสมาก พวกเขาดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานและความกระตือรือร้น
จางหม่านทำได้ไม่เลวทีเดียวกับพนักงานที่นี่
ซูข่านพยักหน้าขณะที่มองซ้ายมองขวา
ในฐานะบริษัทที่เปิดใหม่ มันคงจะแย่ไม่ใช่น้อยหากว่าพนักงานที่มาทำงานมีสีหน้าตาอมทุกข์
จำเป็นต้องรักษาความสดใหม่ของพนักงานเอาไว้ พวกเขาจะได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆออกมา
การรักษาความสดใหม่ของพนักงาน จำเป็นต้องมีแรงจูงใจที่จะดึงดูดพวกเขา
เงินนี่แหละจะเป็นหนึ่งในอาวุธพิเศษที่สามารถเติมพลังงานที่หมดไปในแต่ละวันได้
ในหมู่บริษัทที่เปิดใหม่ บริษัทอย่างว่านเซี่ยงได้ให้ค่าตอบแทนสูงกว่าบริษัทอื่นอยู่แล้ว
พนักงานที่มาทำงานที่นี่เลยมีกำลังใจที่ดี พร้อมสู้งานในทุกวัน
"ประธานจางคะ ผู้จัดการหลู่กับแผนกการเงินพร้อมแล้ว เธอกำลังรอท่านประธานอยู่ที่ห้องประชุมค่ะ"
หญิงสาวใบหน้าเล็กแต่สวมแว่นตาขนาดใหญ่ได้เดินเข้ามาพูดกับจางหม่าน ในมือของเธอถือเอกสารไว้กองหนึ่ง
เธอเป็นเลขาของจางหม่าน เธอชื่อหลี่เสว่เอ๋อ
หลังจากที่หลี่เสว่เอ๋อได้รายงานกับจางหม่าน เธอได้หันไปมองที่ซูข่านที่ยืนข้างๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
เป็นไปได้ไหมว่านี่คือแฟนของท่านประธาน
"เอาล่ะ พาพวกเราไปห้องประชุม"
จางหม่านตบที่ไหล่ของหลี่เสว่เอ๋อ ใบหน้าของหลี่เสว่เอ๋อแดงเล็กน้อยขณะที่มองซูข่าน
"ค่ะ"
หลี่เสว่เอ๋อพยักหน้า
เธอได้เดินนำจางหม่านและคนอื่นๆมาจนถึงห้องประชุม เมื่อมองดูที่ห้องประชุมแล้วดูเหมือนว่าจะมีห้องนั่งพักอยู่ด้านหน้า
"หมิงเจียงนายรอฉันตรงนี้ก่อน"
ซูข่านได้หันไปพูดกับซงหมิงเจียง
"ครับพี่สาม"
ซงหมิงเจียงพยักหน้า
จางหม่านได้หันไปพูดกับหลี่เสว่เอ๋อ
"เสว่เอ๋อคนพวกนี้คือแขกของเรา เธอต้องดูแลพวกเขาให้ดีๆด้วยล่ะ"
"ค่ะ"
หลี่เสว่เอ๋อตอบอย่างรวดเร็ว
เธอแปลกใจเล็กน้อยว่าคนเหล่านี้เป็นใครกัน เห็นได้ชัดว่าทั้งสามคนนี้ได้ติดตามชายที่อยู่ข้างประธานจาง เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาอย่างงั้นเหรอ?
แล้วทำไมบอดี้การ์ดพวกนี้เราถึงต้องดูแลดีๆกับพวกเขาด้วย แสดงว่าชายที่บอดี้การ์ดพวกนี้คุ้มกันอยู่ ต้องเป็นคนที่สำคัญมากๆ
หลี่เสว่เว่ยได้เปิดประตูห้องประชุม เธอได้เแอบมองซูข่านด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หลังจากที่ประตูเปิด จางหม่านได้หันหน้าไปมองซูข่าน
ซูข่านได้พยักหน้าให้กับเธอ
จางหม่านเดินนำซูข่านเข้าไปในห้องก่อน จากนั้นซูข่านก็เดินตามหลังเธอ
ห้องประชุมนี้มีขนาดใหญ่ มีโต๊ะยาววางอยู่ตรงกลางห้อง เป็นโต๊ะที่มีรูปทรงที่สวยงามและเรียบหรู
หลังจากที่เดินเข้ามา ซูข่านได้มองไปรอบๆห้องๆ เขาเห็นว่ามีเก้าอี้ยังว่างอยู่อีกหลายตัว และหนึ่งในเก้าอี้หนึ่งที่มีคนนั่งอยู่ มีคนที่เขาคุ้นหน้าอยู่คนหนึ่ง
ผู้หญิงที่ดูเย่อหยิ่งและเย็นชาคนนั้นมีเพียงคนเดียว
หลู่เฉียนซาน!!
ขณะเดียวกันหลู่เฉียนซานได้มองตามจางหม่านและซูข่านที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง สายตาของเธอดูชื่นชมอยู่ไม่ใช่น้อย
"นายใหญ่"
หลู่เฉียนซานรู้จักกับซูข่านมาก่อนแล้ว ชายคนนี้เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังประธานจาง
ฟิวเจอร์น้ำมันทั้งหมดถูกสั่งการโดยเขา ความสามารถของเขาไม่ใช่ธรรมดา
ส่วนซูข่านก็ได้เห็นว่าตัวของหลู่เฉียนซานก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน
เมื่อคืนจางหม่านได้โทรไปหาหลู่เฉียนซานแล้วบอกเรื่องที่เธอต้องทำในวันนี้
"นายของเราเป็นอัจฉริยะจริงๆ"
หลู่เฉียนซานได้พูดกับตัวเอง หลังจากที่รู้เรื่องที่เธอต้องมาทำในวันนี้
เมื่อราคาน้ำมันได้สูงขึ้นอีกเธอต้องแบ่งฟิวเจอร์น้ำมันของบริษัทออกเป็นส่วนๆแล้วทถอยขาย
เธอคิดว่าบริษัทว่านเซี่ยงอาจจะได้เงินน้อยกว่าขายทั้งก้อนเดียวถึง 10% แต่การกระทำแบบนี้ก็ดูเหมาะสมแล้ว บริษัทจะได้มีสภาพคล่องทางการเงินที่มากขึ้น
หลู่เฉียนซานรู้สึกชื่นชมนายใหญ่ของเธอมาก
"ท่านประธาน"
หลู่เฉียนซานยืนขึ้นและกล่าวทักทายจางหม่าน
เธอได้หันไปมองซูข่านด้วยความเคารพแต่ไม่ได้พูดอะไร
ดูเหมือนว่าประธานจางจะไม่ได้แนะนำนายใหญ่ให้คนอื่นได้รู้จัก บางทีเขาอาจต้องการที่จะอยู่เบื้องหลังของบริษัทนี้ต่อ
แม้ว่าฉันอยากจะแนะนำตัวให้คนอื่นรู้ แต่ดูเหมือนว่าหน้าที่นี้เหมาะกับประธานจางมากกว่า
"สวัสดีค่ะ/ครับท่านประธาน"
แผนกการเงินที่เหลือได้ยืนขึ้นและทักทายจางหม่าน
จางหม่านไม่ได้พูดอะไรตอบ เธอได้แค่พยักหน้าของเธอ
ซูข่านได้มองไปที่จางหม่าน ดูเหมือนว่าเธอจะมีความเย่อหยิ่งกับความเย็นชาในฐานะประธานบริษัทอยู่
จางหม่านได้เดินไปที่หัวโต๊ะและนั่งลง เธอไม่ได้นั่งที่เก้าอี้ตรงหัวโต๊ะแต่นั่งอยู่ข้างๆ ซูข่านได้เดินตามไปและนั่งที่หัวโต๊ะ
คนพนักงานแผนกการเงินคนเหล่านี้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เป็นสภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปในสำนักงาน
ส่วนใหญ่แล้วพวกพนักงานผู้ชายที่ทำงานด้วยกันจะทำงานได้ดีกว่าเล็กน้อย
ทุกคนที่อยู่ในแผนกการเงินประหลาดใจเล็กน้อยและมองไปที่ซูข่าน
"เกิดอะไรขึ้น ทำไมประธานจางไม่นั่งหัวโต๊ะ"
"ไม่รู้สิ"
"เขาเป็นคนจากบริษัทอื่นอย่างงั้นเหรอ?"
คนที่อยู่ในห้องประชุมต่างทำหน้าประหลาดใจ บางคนก็ได้มองมาที่ตัวซูข่านและหันไปมองจางหม่าน
ตามปกติแล้วในที่ประชุม ประธานจางต้องนั่งที่หัวโต๊ะอยู่แล้ว
แต่ดูเหมือนว่าประธานจางจะเป็นคนเลือกที่นั่งของเธอเอง เธอนั่งอยู่ข้างๆกับหัวโต๊ะ
จางหม่านได้ยินคนในแผนกการเงินกระซิบกัน เธอได้ตบโต๊ะเบาๆแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม
"เงียบหน่อย ฉันมีคนจะแนะนำให้รู้จัก"
ภายในห้องประชุมไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา
มีเพียงเสียงลมหายใจอันเย็นเฉียบเท่านั้น
"นี่คือเจ้าของที่แท้จริงของบริษัทว่านเซี่ยง กรุ๊ป ของเรา"
หลังจางหม่านพูดจบ สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ซูข่าน ดวงตาคนพวกเขาเบิกกว้างและมองมาอย่างไม่เชื่อสายตา
นี่คือนายใหญ่ของเราอย่างงั้นเหรอ?