ตอนที่แล้วEp.302 - รวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.304 - นางฟ้านักบวช

Ep.303 - ปกป้องโบสถ์แห่งรุ่งอรุณ


1/3

Ep.303 - ปกป้องโบสถ์แห่งรุ่งอรุณ

ฉูเทียนหัวยังคงเป็นผู้บัญชาการของสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง

ฮังอวี่ไม่สามารถออกคำสั่งแก่เขาได้ในเจียงเฉิง

โลกมนุษย์ก็ส่วนโลกมนุษย์

โลกวิญญาณก็ส่วนโลกวิญญาณ

กองกำลังกลุ่มมังกรฟ้า กองกำลังสกายเน็ต และกองกำลังสมาคมโลกวิญญาณ สามขุมกำลังสาขาเจียงเฉิงสามารถร่วมมือกันได้ แต่เรื่องการแบ่งปันสินสงครามควรจัดสรรให้ชัดเจนและโปร่งใส เพื่อความร่วมมือในระยะยาว

ฮังอวี่พาสองสาวงามหนึ่งเล็กหนึ่งใหญ่มากับเขา ฮัสกี้วิ่งไปรอบๆ มองสภาพแวดล้อมใหม่ด้วยตาโต มันคิดไม่ถึงเลยว่าสถานที่ที่มืดมิดและอึมครึมในครั้งก่อน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในเวลาไม่กี่วัน

สปอร์ตไลท์ 7 - 8 ดวงถูกติดตั้ง

ส่องสว่างบริเวณรอบๆโบสถ์มอนสเตอร์ผี

สมาชิกสกายเน็ตหลายสิบคนคอยดูแลการก่อสร้าง วุ่นอยู่กับการซ่อมถนน สร้างทางเดินที่ปลอดภัย พยายามหลีกเลี่ยงมอนสเตอร์ผีให้มากที่สุด ผู้คนจากภายนอกจะได้สามารถเข้ามาอย่างราบรื่น

ฉูเทียนหัวเดินเข้ามาและพูดว่า “ในที่สุดนายก็มา!”

ซูหยุนปิงเอ่ยถาม “อลังการจริงๆ อย่าบอกนะว่าสกายเน็ตจะสร้างที่นี่เป็นฐานทัพใต้ดิน?”

ฉูเทียนหัว “เหอ เหอ สกายเน็ตไม่ทำถึงขนาดนั้นหรอก พวกเราแค่จะทำการปิดล้อมที่นี่เพื่อเรียกเก็บเงินค่าเข้า ที่เห็นอยู่นี้คือโครงการสร้างรายได้หลักของแผนกพัฒนา ตอนนี้ยังมีคนรู้เรื่องน้อยก็จริง แต่ในไม่ช้านักข่าวจากสื่อต่างๆจะถูกเชิญมา ประชาสัมพันธ์ให้พวกเรา”

นี่คือเขตแดนลับแห่งการทสอบแห่งแรกของเจียงเฉิง

เจ้าสิ่งนี้จะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ

แค่การปรากฏขึ้นของมันย่อมดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย

ฮังอวี่เอ่ยถาม “พวกคุณแน่ใจหรือว่ามันจะทำเงินได้?”

“ตอนนี้มีหลายเมือง หลายประเทศเริ่มปรากฏสถานที่คล้ายๆกับเขตแดนลับแห่งการทดสอบแล้ว” ฉูเทียนหัวกล่าว “บางเมืองถูกควบคุมโดยรัฐบาล บางเมืองถูกพลเรือนพบและถูกโดนไว้โดยขุมกำลังขนาดใหญ่ บางแห่งก็ปรากฏขึ้นโต้งๆ มีการต่อสู้แย่งชิงกัน เกิดการสูญเสียไปมาก ฉะนั้นแน่ใจได้ว่าเขตแดนลับมีมูลค่าสูง”

หวังเอ๋ออ้าปากพูดว่า “ฮ่ง แต่ยึดเป็นของตัวเองแบบนี้ คุณไม่กลัวว่าสกายเน็ตจะสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนหรอ?”

ฉูเทียนหัวกล่าวอย่างจริงจังว่า “หวังเอ๋อ ที่นายพูดน่ะผิดแล้ว ถ้าเจ้าสิ่งนี้ถูกครอบครองโดยขุมกำลังส่วนบุคคล นั่นต่างหากจะเป็นปัญหา เพราะพวกเขาจะเก็บไว้ให้แค่คนของตัวเอง ... แต่ถ้าสกายเน็ตเข้ายึดครอง พวกเรายินดีต้อนรับทุกคนให้เข้ารับการทดสอบ จะปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมือนสถานที่ท่องเที่ยว และเก็บค่าแรกเข้าเพียงเล็กน้อย แบบนี้สิถึงสามารถเข้าถึงทุกคนได้”

ฮังอวี่กลอกตา

สรุปก็คือหวังฟันเงินค่าเข้า พูดสั้นๆแค่นี้ก็จบ จะอ้อมค้อมทำไม

อย่างไรก็ตาม สกายเน็ตทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าไม่ติดที่ขุมกำลังของฮังอวี่ใหญ่ไม่พอ เขาก็อยากเข้ายึดครองสถานที่ธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลแบบนี้เช่นกัน

ฮังอวี่เอ่ยถาม “ได้ยินว่าโบสถ์เปิดใช้งานได้แล้ว ข้างในนั้นเป็นยังไงบ้าง?”

ฉูเทียนหัวตอบว่า “กลุ่มพี่น้องสกายเน็ตหลายกลุ่มได้ทดลองเข้าไปแล้ว แต่ความยากค่อนข้างสูง การเข้าท้าทายเลยยังไม่มีใครทำสำเร็จ”

ซูหยุนปิงถาม “ถ้าท้าทายล้มเหลวแล้วมันจะอันตรายถึงชีวิตรึเปล่า?”

ฉูเทียนหัวตอบ “เมื่อเข้าไปข้างใน พวกเราจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ของจริง มันเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น และในสภาพแวดล้อมข้างใน ดูเหมือนต่อให้บาดเจ็บก็จะไม่ส่งผลร้ายแรงมาถึงภายนอก”

ฮังอวี่เอ่ยถามอีกครั้ง “งั้นเรื่องคนจากโลกวิญญาณเป็นยังไงบ้าง?”

ฉูเทียนหัว “แวมไพร์กำลังถูกสอบปากคำโดยผู้เชี่ยวชาญ ส่วนอีกสองคนที่หลบหนีไป ... ถึงพวกเราจะยืมร่างแยกของหวังเอ๋อติดต่อกันหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าเป็นพิเศษ ดูท่าพวกมันจะซ่อนตัวอย่างดี”

ฮังอวี่กล่าว “ผมเดาว่าคงเพราะพวกมันไม่อยากพลาดท่าอีก เลยหดหัวไม่ยอมโผล่ออกมา”

“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย พวกเราไปทดสอบโบสถ์มอนสเตอร์ผีกันดีกว่า”

โบสถ์มอนสเตอร์ผีคือดันเจี้ยนหรือพื้นที่ทำภารกิจสำหรับผู้ทดสอบ

มันอนุญาตให้ผุ้ทดสอบเข้าท้าทายครั้งละ 4 คนเท่านั้น

ฮังอวี่ เสี่ยวไป๋ ซูหยุนปิง ย่อมเข้าร่วมอย่างแน่นอน

ส่วนคนสุดท้ายคือฉูเทียนหัว เขามาในฐานะตัวแทนของสกายเน็ต

“โบสถ์มอนสเตอร์ผีเปิดครั้งหนึ่งต้องจ่าย 10 หินคริสตัลเขียว และหลังจากเข้าท้าทายแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว จะไม่สามารถเข้าท้าทายซ้ำในช่วง 10 วัน” ฉูเทียนหัวกล่าวกับฮังอวี่ “แน่นอน เมื่อนายมาถึงที่นี่แล้ว ครั้งนี้พวกเรายินดีเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เอง”

ระหว่างกล่าว

ฉูเทียนหัวชำเลืองไปอีกทาง

สมาชิกสกายเน็ตเปิดใช้งานสองแท่นบูชาทันที

ประตูโบสถ์ที่ปิดอยู่ค่อนๆเคลื่อนออกจากกัน

เวลานี้ตรงประตูเหลือแค่ม่านน้ำโปร่งแสง และมีแรงดึงดูดถูกปล่อยออกมาจากข้างใน

เสี่ยวไป๋กะพริบตาโต แต่สีหน้าของเธอยังคงเฉยเมย

ขณะที่หวังเอ๋อเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น มันแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะเข้าไปข้างใน

ซูหยุนปิงค่อนข้างตื่นเต้น ในโลกวิญญาณเธอยังบุกไม่ถึงข้างในหอคอยเขตแดน ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกในฐานะผู้ทดสอบของเธอ

“ไปกันเถอะ”

ฮังอวี่เก็บสุนัขในมิติสัตว์วิญญาณและเดินเข้าไปพร้อมกับอีกสามคน

เมื่อก้าวเข้าไป ทั้งสี่รู้สึกว่าภาพตรงหน้าพร่ามัว และเมื่อวิสัยทัศน์กลับมา พวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นภายในโบสถ์แล้ว

นี่ช่างแตกต่างจากความรู้สึกมืดมนและหดหู่ก่อนเข้าดันเจี้ยน โบสถ์แห่งนี้สว่างไสวไปด้วยหินคริสตัลอันงดงามที่เปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ และคล้ายมีเสียงกระซิบอันไพเราะแว่วเข้ามาในหูตลอดเวลา ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกปลอดโปร่งสบายใจ

นี่มันยังไงกันแน่?

ทั้งสี่คนยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับเท้าก้าวไปไหน

และในตอนนั้นเอง ข้อมูลบางอย่างปรากฏขึ้นในใจของทุกคน

[ชื่อเขตแดนลับ : ศึกปกป้องโบสถ์แห่งรุ่งอรุณ]

[คำอธิบายคร่าวๆ : เกิดความขัดแย้งระหว่างเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณกับเทพเจ้าแห่งยมโลก สงครามระหว่างทวยเทพอันหาได้ยากยิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อเผ่าพันธุ์โลกวิญญาณนับร้อย ก่อให้เกิดพายุนองเลือด ณ ขณะนี้ หนึ่งในสมุนผู้บ้าคลั่งของเทพเจ้าแห่งยมโลก ผู้ทรงพลังระดับตำนาน ‘จักรพรรดิลิซ - อามอนทิส’ กำลังร่ายพิธีกรรมอันดำมืด สาปส่งโบสถ์แห่งรุ่งอรุณหลายแห่งในโลกวิญญาณ ... ]

[คำแนะนำภารกิจ : โบสถ์มอนสเตอร์ผีตกอยู่ภายใต้คำสาปชั่วร้ายของอามอนทิส สถานที่แห่งนี้กำลังถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตอันเดธที่ทรงพลัง ภายในระยะเวลาหกชั่วโมง โปรดช่วยเหลือผู้ศรัทธาในเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ ปกป้องโบสถ์จากการถูกกองกำลังมืดรุกราน ]

[รางวัลภารกิจ : ไม่ทราบ]

...

ดวงตาอันงดงามของซูหยุนปิงทอประกายประหลาดใจ “แปลกจริง เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึงรู้ข้อมูลพวกนี้?”

ฮังอวี่กล่าว “ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ เขตแดนลับแห่งการทดสอบไม่ใช่แค่ดันเจี้ยน แต่ที่จริงแล้วมันส่วนคือหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์สำคัญหรือเรื่องราวที่อาจไม่เคยถูกเปิดเผยในโลกวิญญาณ ยิ่งพวกเราเข้าทดสอบดันเจี้ยนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถเข้าใจโลกวิญญาณอันกว้างใหญ่ไพศาลได้ลึกซึ้งมากขึ้นเท่านั้น ... ประวัติศาสตร์เหล่านี้บางครั้งก็มีค่ามากกว่ารางวัลภารกิจด้วยซ้ำไป”

แต่สิ่งที่ฮังอวี่ไม่ได้เอ่ยอธิบายก็คือ

บริเวณตำแหน่งที่ปรากฏเขตแดนลับไม่ใช่อะไรที่เรียบง่าย

มีหลายตำแหน่งที่อาจส่งผลต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบ

ในเวลาเดียวกัน ยังมีเขตแดนลับบางแห่งที่เชื่อมโยงถึงกันและเกี่ยวข้องกับความลับมากมาย

นอกจากนี้ เขตแดนลับก็ใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป บางแห่งหากล้มเหลวอาจมีบทลงโทษที่โหดร้าย

สรุปแล้ว การทดสอบครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนการลงดันเจี้ยนในเกม ดังนั้นจำเป็นต้องปฏิบัติการอย่างระมัดระวัง

ฉูเทียนหัวขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เขตแดนลับที่พวกเราพบในหอคอยเขตแดนเป็นแค่ความขัดแย้งระหว่างขุนนางใหญ่กับราชามังกร แต่ไม่นึกเลยว่าโบสถ์แห่งนี้จะเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ระหว่างทวยเทพในโลกวิญญาณ”

“อย่ากังวลไป สิ่งที่พวกเราต้องจัดการไม่ใช่ตัวเทพ แต่เป็นแค่คำสาปจากผู้ทรงพลังระดับตำนานเท่านั้น” ฮังอวี่เอ่ยต่อหลังจากหยุดไปพักหนึ่ง “ถ้าพูดให้ละเอียดกว่านี้ มันคือคำสาปที่ถูกลดทอนพลังลงเหลือหนึ่งในพัน!”

ผู้ทรงพลังระดับตำนานที่เป็นสมุนของเทพยมโลกได้ร่ายคำสาปใส่โบสถ์ของเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ

มันโจมตีโบสถ์หลายร้อย หรืออาจจะหลายพันแห่งพร้อมกัน ขณะที่คำสาปที่พวกเขาต้องรับมือมีแค่หนึ่งในจำนวนนั้น

แบบนี้แล้วยังมีอะไรต้องกังวลอีก?

พวกเราไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับผู้ทรงพลังระดับตำนานตรงๆ!

การทดสอบใดๆล้วนมีทางออกให้เสมอ และเนื่องจากเขตแดนลับเป็นแค่ภาพสะท้อนของอดีต ทุกสิ่งในที่นี้ไม่ใช่ของจริง ดังนั้นย่อมมีทางจัดการได้

อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างทวยเทพ

เรื่องนี้ทำให้ฮังอวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ในตอนนั้นเอง จู่ๆหวังเอ๋อก็เห่าขึ้น “ฮ่ง เจ้านาย มีคนกำลังตรงเข้ามาหาพวกเรา!”

คนที่เหลือในทีมหันไปมองรอบๆโบสถ์ เห็นแค่เพียงแสงและเงากะพริบไหว ร่างที่สวมชุดคลุมสีขาวสะอาดสะอ้านปรากฏกายขึ้นรอบๆโบสถ์ และหนึ่งในนั้นคือผู้หญิงที่ดูสวยสะดุดตา โดดเด่นกว่าใครๆ