ตอนที่แล้วอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 133 คาสิโนฟรามิงโก้ปิดทำการ…
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 135 คู่ต่อสู้ต่อไปคือ 5 ครอบครัวใหญ่

อาณาจักร ฮาร์ดี้ 1945 ตอนที่ 134 เจ้าพ่อมาเฟียถูกลอบสังหาร


ตอนที่ 134 เจ้าพ่อมาเฟียถูกลอบสังหาร

ริ้งริ้งริ้ง!

โทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น

ฮาร์ดี้หยิบมันขึ้นมาและพูดว่า "ฮาร์ดี้พูด"

"ฮาร์ดี้นี่ซีเกล ตอนนี้ฉันกลับมาที่ลอสแอนเจลิสแล้ว" เสียงต่ำของซีเกลดังมาจากโทรศัพท์

"แล้วตอนนี้คุณซีเกลอยู่ที่ไหน?" ฮาร์ดี้ถาม

"ฉันอยู่กับเฟร็ด"

ถึงแม้คาสิโนฟลามิงโกจะล้มเหลวแต่ซีเกลก็ยังคงมีแก๊งชาวยิวและแก๊งของบิลอยู่ในมือ…

"ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้"

ฮาร์ดี้ขับรถไปที่บ้านของเฟร็ด

ซึ่งบ้านของเฟร็ดก็คล้ายกับบ้านของเทย์เลอร์ที่มันไม่ใช่คฤหาสต์ แต่ก็ไม่ใช่บ้านเล็กๆ

ในห้องประชุม

ซีเกลกำลังสูบบุหรี่และดูเงียบๆ เล็กน้อย

ซึ่งในตอนแรกเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการสร้างลาสเวกัสขึ้นมาใหม่…

แต่ต่อมาเขาก็พบกับปัญหานับไม่ถ้วนและในที่สุดก็จบลงด้วยความล้มเหลว

แม้ว่าซีเกลจะมีบุคลิกที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

"มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในวันเปิดงาน และฉันก็มีลางสังหรณ์ว่ามันจะล้มเหลวและสุดท้ายมันก็ล้มเหลวจริงๆ..." ซีเกลถอนหายใจ

"แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้แย่เกินไป เพราะอย่างน้อยคาสิโนก็ยังอยู่ที่นั่นและมันสามารถเปิดอีกครั้งได้ในอนาคตใช่ไหมครับ?" ฮาร์ดี้กล่อมเขา

“ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด! และฉันก็จะสร้างฟลามิงโก้ต่อไปตามแผนก่อนหน้านี้ ฉันเชื่อว่าฟลามิงโก้จะต้องเกิดใหม่จากเถ้าถ่านได้อย่างแน่นอน!” ซีเกลกัดฟันขณะพูด

หลังจากที่ฮาร์ดี้ได้ยินคำพูดของซีเกล เขาก็มีลางสังหรณ์ว่าชายคนนี้อาจต้องการยืมเงินจากเขาอีกครั้ง...

"ฮาร์ดี้ ฉันไปพบเพื่อนของฉันมามากมายและพวกเขาทั้งหมดก็บอกว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้ ฉันก็หวังว่านายจะช่วยฉันได้" ซีเกลมองไปที่ฮาร์ดี้

"พูดมาเลยครับคุณซีเกล" ฮาร์ดี้กล่าว

"ให้ฉันยืมเงินสัก 2 ล้านดอลลาร์ และฉันจะเอาหุ้นฟลามิงโก้ทั้งหมดในมือของฉันเป็นหลักประกัน ฉันเชื่อว่าเมื่อการก่อสร้างคาสิโนเสร็จมันจะมีกำไรและนายจะได้เงินทั้งหมดคืนในไม่ช้า" ซีเกลกล่าว

เขาเดาถูกจริงๆ และมันก็มากถึง 2 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

ซีเกลคงเคยมองหาคนอื่นมาก่อน และคาดว่าพวกเขาก็คงไม่ให้ยืมเงิน

ในท้ายที่สุดไม่มีทางอื่นนอกจากใช้หุ้นตัวสุดท้ายเป็นหลักประกัน

อย่างไรก็ตามคาสิโนฟลามิงโก้ก็เคยล้มเหลวมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้ทุกคนไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของเขา

ดังนั้นซีเกลจึงช่วยไม่ได้ที่จะล้มเหลวในการยืมเงิน

"ทั้งสามครอบครัวตอนนี้มีหุ้นอยู่คนละ 13% นายเคยซื้อหุ้นจากฉันไป 18% และฉันก็ยังมีหุ้น 43% อยู่ในมือ ครั้งนี้ฉันวางแผนที่จะใช้หุ้น 43% เป็นหลักประกันสำหรับเงิน 2 ล้าน นายว่ายังไงฮาร์ดี้?" ซีเกลพูดอีกครั้ง

ฮาร์ดี้เงียบไปครู่หนึ่ง

2 ล้านยังไงเขาก็ให้อย่างแน่นอน เพราะเมื่อเร็วๆ นี้อุตสาหกรรมของเขากำลังทำเงินและราคาหุ้นก็พุ่งสูงขึ้นด้วย

นี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ซีเกลเข้ามาหาฮาร์ดี้เพราะรู้ว่าตอนนี้เขามีเงิน

ส่วนเงินที่จะลงทุนในการถ่ายทำภาพยนตร์ เขาสามารถให้บริษัทภาพยนตร์กู้ยืมเงินเพื่อการลงทุนไปก่อนได้

เพราะตราบใดที่บริษัทภาพยนตร์ของเขากำลังดำเนินกิจการไปได้ด้วยดี ธนาคารก็ยินดีที่จะให้คุณยืมเงิน

ซึ่งบริษัทภาพยนตร์รายใหญ่ทั้งแปดแห่งก็ใช้โมเดลนี้ในการถ่ายทำเช่นกัน และพวกเขาก็สามารถหาเงินมาชำระเองได้ทั้งหมด

แต่ยกเว้นซีเกล

เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าซีเกลจะประสบความสำเร็จไหม...

"คุณซีเกลตอนนี้ผมไม่มีเงินในมือมากนัก ดังนั้นผมจะให้บริษัทนิตยสาร 'เพลย์บอย' ช่วยให้คุณได้ยืมเงิน 2 ล้านดอลลาร์ในครั้งนี้ แล้วคุณคิดยังไงกับการทำสัญญากู้เงินจากนิตยสาร 'เพลย์บอย' ล่ะ?" ฮาร์ดี้กล่าว

ฮาร์ดี้รับเงินจากบริษัทและต้องจ่ายภาษีอยู่แล้ว

ซึ่งมันจะดีกว่าที่จะให้นิตยสาร ‘เพลย์บอย’ มาลงทุนในครั้งนี้โดยตรง

และฮาร์ดี้ก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Playboy ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 90% ของทุนทั้งหมด

ทำให้การลงทุนของเพลย์บอยในคาสิโนก็เทียบเท่ากับการลงทุนของฮาร์ดี้อยู่ดี…

ซีเกลยิ้มแย้ม “ขอบใจนะฮาร์ดี้”

"นายใจดีมากจริงๆ"

บรรยากาศในห้องผ่อนคลายลงทันทีและซีเกลก็ยิ้มมากขึ้นบนใบหน้าของเขา พร้อมกับพูดคุยกับฮาร์ดี้เกี่ยวกับนิตยสาร ‘เพลย์บอย’

"ฮาร์ดี้ ฉันต้องบอกว่าความคิดของนายมันยอดเยี่ยมจริงๆ ฉันได้ลองอ่านเพลย์บอยแล้ว ภาพถ่ายในนั้นมันมีเสน่ห์มาก ถึงจะไม่ได้เปิดหมดก็ตามแต่ความรู้สึกที่ได้นั้นเร่าร้อนมาก มันยากจริงๆ ที่จะต้านทานความอยากรู้จากร่างกายของพวกเธอ" ซีเกลพูดด้วยรอยยิ้ม

"อีกอย่าง 'เพลย์บอย' น่าจะทำกำไรได้เยอะเลยใช่ไหม?” ซีเกลถามเขา

"มันก็กำไร 1 ดอลลาร์ต่อเล่มครับ"

"แล้วในฉบับแรกขายได้กี่เล่ม?"

"มากกว่า 2 แสนเล่ม"

ซีเกลรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยิน "แสดงว่ามันมีกำไรมากกว่า 2 ล้านดอลลาร์ในปีนั้นใช่ไหม? นายรู้ไหมว่าฉันทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างคาสิโนและลงทุนมากกว่า 8 ล้านดอลลาร์ แต่ฉันก็สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก แต่นายเพิ่งซื้อบริษัทนิตยสารกลับทำรายได้กับมันมากขนาดนี้?"

ซีเกลถอนหายใจ

ตอนนี้เขาไม่สามารถปฏิบัติต่อฮาร์ดี้ให้เหมือนน้องชายได้อีกต่อไปแล้ว

เขาได้พัฒนามาถึงจุดนี้ในเวลาเพียงหนึ่งหรือสองปี

ซึ่งความสามารถแบบเขาน้อยคนที่จะได้เจอในสหรัฐอเมริกา

และในความเป็นจริง ซีเกลก็ได้รับประโยชน์จากฮาร์ดี้มากกว่า เพราะถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายตัวเล็กๆ คนนี้…

เขาเกรงว่าจะไม่มีใครมาสนับสนุนเขาเลย

"คุณซีเกล มันจะดีกว่าที่ถ้าคุณไปอยู่ที่คฤหาสน์ ผมได้รีโนเวทที่นั้นไปแล้วและตอนนี้ก็ยังไม่ได้ย้ายเข้า ถ้าคุณย้ายไป มันน่าจะเป็นที่คุ้นเคยสำหรับคุณมากกว่าไหม?" ฮาร์ดี้เชิญอย่างใจกว้าง

ซีเกลส่ายหัว

"ช่างมันเถอะ เพราะฉันจะกลับไปลาสเวกัสเร็วๆ นี้หลังจากที่ฉันได้รับเงิน" ซีเกลกล่าว

"ถ้าอย่างนั้นผมจะให้ทนายความของเพลย์บอยเขียนสัญญาให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้" ฮาร์ดี้กล่าว

วันต่อมาซีเกลก็เซ็นสัญญาในการเอาหุ้นคาสิโนฟลามิงโก้ 43% เป็นหลักค้ำประกันและเอาเงินสองล้านกลับไปที่ลาสเวกัส

ทำให้ในตอนนี้ ฮาร์ดี้ก็ถือหุ้น 61% ของคาสิโนฟลามิงโก้แล้ว...

แน่นอนว่าหุ้น 43% นี้ก็ได้มาโดยการกู้ยืมจากเพลย์บอย เมื่อซีเกลคืนเงินในอนาคตหุ้นเหล่านี้จะถูกส่งคืนและจะมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเพียงก้อนเดียว

อย่างไรก็ตามยังมีข้อตกลงที่ว่าหากซีเกลไม่ชำระคืนเงินและดอกเบี้ยเป็นเวลาสามปี

หุ้นคาสิโนจะเป็นของนิตยสารเพลย์บอยในทันที

......

วันที่ 13 มีนาคม

มีการจัดงานประกาศผลรางวัลอคาเดมี่อวอร์ดประจำปี

สถานที่แห่งนี้คือหอประชุมพลเมืองในลอสแอนเจลิส

มันยิ่งใหญ่กว่ารางวัลลูกโลกทองคำเมื่อสองเดือนก่อนซะอีก

มันมีผู้ชมและผู้สื่อข่าวนับไม่ถ้วนอยู่นอกหอประชุม และทุกครั้งที่ดาราดังปรากฏขึ้นก็จะมีเสียงเชียร์ดังตามมา

ซึ่งในคืนนี้ดาราหญิงทุกคนล้วนแต่งตัวสวยมาก และกลายเป็นวิวที่งดงามที่สุด!

"ว้าว! นั่นใช่อิงกริด เบิร์กแมนไหม? เธอคือเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ในดวงใจของฉันเลย!" อิงกริดเบิร์กแมนออกมาจากรถและผู้คนก็ส่งเสียงต้อนรับเธอทันที

"นั้นวิเวียนที่แสดงเป็นสการ์เล็ตใช่ไหม? สการ์เล็ตเรารักคุณ!"

วิเวียนลีห์ยิ้มและโบกมือให้กับผู้คน

"ว้าวนั่นริตา เฮย์เวิร์ทเทพธิดาที่อยู่ในใจฉัน!"

เมื่อถึงคราวฮาร์ดี้ลงจากรถ

ฮาร์ดี้ก็ออกจากรถและเปิดประตูให้สุภาพสตรีลงจากรถ

ซึ่งก็คือเอวาการ์ดเนอร์ที่เดินลงมา แต่มันยังไม่จบแค่นี้…เพราะต่อมาก็มีอีกคนหนึ่งคือเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ซึ่งวันนี้เธอสวมชุดเจ้าหญิงแสนสวยมาด้วย จากนั้นคนที่สามก็คือไฮดี้ รามาห์ ที่วันนี้ชุดของเธอดูธรรมดามากแต่เธอก็ยังมีเสน่ห์อยู่ดี

ฮาร์ดี้กำลังเดินพรมแดงกับผู้หญิงสามคน

คนทั้งสี่เดินไปข้างหน้า และผู้คนเมื่อเห็นเอวาการ์ดเนอร์จึงเริ่มส่งเสียงเชียร์

หลายคนตะโกนเรียกชื่อเอวา

ปีนี้เอวาเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่น่าจับตามองอย่างที่สุด เพราะทั้งเพลงและภาพยนตร์ที่เธอทำนั้นประสบความสำเร็จทุกอย่าง

ทำให้งานที่ scarborough fair ได้กลายเป็นสถานที่คลาสสิคสุดฮิต และเอวาก็เป็นคนที่ร้องเพลงต้นฉบับได้ดีที่สุดในตอนนี้

และไฮดี้รามาก็ยังมีผู้ติดตามอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 'เพลย์บอย' ฉบับแรก ซึ่งมันทำให้ไฮดี้รามากลับมาสู่สายตาของสาธารณชนอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าเธอจะมีอายุมากกว่าสามสิบปีแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังอยู่ในใจของผู้คนจำนวนมากที่เป็นเทพธิดาสุดเซ็กซี่ของพวกเขา…

ในทางตรงกันข้ามอนาคตของควีนแห่งฮอลลีวูดเอลิซาเบธเทย์เลอร์นั้นดูมืดมนไปหน่อย…

เพราะเหนือสิ่งอื่นใดเธอยังเป็นแค่ดาราเด็กและไม่มีผลงานที่ดีในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนเกือบจะลืมเธอไปแล้ว

เมื่อเข้าไปในสถานที่จัดงาน เทย์เลอร์ก็ดึงแขนเสื้อของฮาร์ดี้และกระซิบข้างหูเขาว่า "คุณฮาร์ดี้ ในอนาคตหนูอยากให้ผู้คนเรียกชื่อหนูบ้าง!"

ฮาร์ดี้ยิ้มเล็กน้อยและกระซิบข้างหูเทย์เลอร์ "ฉันเชื่อว่าเธอสามารถทำได้ และฉันจะช่วยเธอด้วย"

ความหงุดหงิดเล็กๆ น้อยๆ ของเทย์เลอร์ในตอนนี้ก็คลี่คลายด้วยคำพูดของฮาร์ดี้ และก็เปลี่ยนกลับเป็นเอลิซาเบธน้อยที่มีความสุข

….

ด้วยอิทธิพลของฮาร์ดี้…

มันทำให้ที่นั่งของพวกเขาจึงค่อนข้างอยู่ข้างหน้า

ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีและดาราส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับการดูแลแบบนี้

พิธีมอบรางวัลเริ่มขึ้นแล้ว

รางวัลสำหรับภาพยนตร์ 'นักฆ่าเพชรตัดเพชร' ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงทั้งสิ้น 7 รางวัลได้แก่รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รางวัลภาพยอดเยี่ยม รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลเพลงยอดเยี่ยม รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม รางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยมและรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

น่าเสียดายที่อีสต์วู้ดและโนแลนต่างก็พลาดรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม แต่ทั้งสองคนก็มีความสุขมากที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์

และในตอนนี้ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ได้รับรางวัลก็คือ 'Golden Age'

รางวัลการถ่ายภาพที่ดีที่สุดและการตัดต่อภาพยนตร์ที่ดีที่สุดก็เป็นของ 'Golden Age' เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม 'นักฆ่าเพชรตัดเพชร' ไม่ได้รางวัลอะไรมากนัก แต่ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและเพลงต้นฉบับยอดเยี่ยมาแทน

ฮาร์ดี้มาที่เวทีเพื่อรับรางวัลและเขาก็ได้รับการปรบมืออย่างกระตือรือร้น เพราะในตอนนี้เอชดีพิคเจอร์ได้กลายเป็นบริษัทระดับสูงมากในฮอลลีวูด

แถมฮาร์ดี้ยังควบคุมอุตสาหกรรมมากมายหลายที่

ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกสร้างขึ้นในเวลาเพียงสองปี ทำให้ในตอนนี้เขาถือว่าเป็นตำนานของฮอลลีวูด

ต่อมาอวาการ์ดเนอร์ขึ้นเวทีเพื่อรับรางวัล

เธอถือรางวัลไว้ในมือพร้อมกับกล่าวว่า “คนที่ฉันอยากขอบคุณมากที่สุดก็คือคุณฮาร์ดี้ที่ค้นพบและเลี้ยงดูฉัน เพราะไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่มีโอกาสที่จะได้มายืนบนเวทีนี้”

หลังจากพูดจบเธอก็เช็ดน้ำตาและพูดด้วยรอยยิ้ม "และฉันก็จะบอกความลับเล็กๆ กับพวกคุณ ที่ทางบริษัทไม่เคยเปิดเผยว่าใครเป็นนักแต่งเพลง 'Scarborough Fair' แต่วันนี้ฉันอยากจะประกาศมันออกมาให้รู้ว่าจริงๆ แล้วมันก็คือคุณฮาร์ดี้ที่แต่งเพลงให้ฉัน!"

ว้าว!

ดาราดังทั้งหลายอุทานออกมา

เกือบทุกคนที่นี่ได้ฟังเพลง 'Scarborough Fair' และพวกเขาก็ชอบเพลงนี้

ซึ่งพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเพลงที่สวยงามเช่นนี้จะถูกสร้างขึ้นโดยฮาร์ดี้

"แล้วยังมีเสียงผิวปากใน 'นักฆ่าเพชรตัดเพชร' ที่ฉันไม่รู้ว่ามีใครจำมันได้บ้าง เพราะมันคือคุณฮาร์ดี้ที่แต่งมันขึ้นมา"

ว้าว!!

ทุกคนในนี้ประหลาดใจอีกครั้ง

ต้องบอกว่าเขาเป็นถึงบอสใหญ่ของบริษัทเอชดีซีเคียวริตี้ที่ตอนนี้มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์

และทุกคนก็นึกถึง ‘บาร์บี้’ และ 'เพลย์บอย'

ซึ่งเขาสามารถสร้างสองบริษัทนี้ออกมาได้ แสดงว่าเขามีความสามารถหรือเป็นอัจฉริยะจริงๆ

.......

จะมีการเลี้ยงต้อนรับในตอนท้ายของงานเลี้ยงรางวัล

คนดังหลายร้อยคนเข้าร่วมงาน และฮาร์ดี้ได้พบกับคนดังหลายคนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ซึ่งหลายคนก็เริ่มที่จะทักทายเขาและต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการได้พบกับคนดังคนใหม่ของฮอลลีวูด

เมื่อเขากำลังกลับไป ฮาร์ดี้ก็รู้สึกเมานิดหน่อยแล้ว

หลังจากส่งเทย์เลอร์และไฮดี้ลามากลับบ้าน ฮาร์ดี้และเอวาก็กลับไปที่บ้านพักของเธอและเอวาก็รอฮาร์ดี้ถอดเสื้อผ้าออกและเอาชุดนอนมาใส่ให้เขาอย่างระมัดระวัง

ก่อนเข้านอนเธอมองไปที่รางวัลสองชิ้นที่อยู่บนหัวเตียง ซึ่งเอวาก็มองดูชายสีทองตัวน้อยด้วยรอยยิ้มที่ภูมิใจ

เพราะความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอก็ถือว่าสำเร็จแล้ว

….

เธอตื่นแต่เช้า

เอวาสวมชุดเอี๊ยมและกำลังทำอาหารเช้าให้ฮาร์ดี้ แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นข้างเตียงและฮาร์ดี้หยิบมันขึ้นมาด้วยความงุนงง

"ผมฮาร์ดี้..."

"ฮาร์ดี้ นี่ไมค์และฉันต้องการให้นายช่วย" เสียงต่ำๆ ของไมค์ คอร์เลโอเนดังมาจากปลายสาย

ฮาร์ดี้ตื่นขึ้นมาทันที "ไมค์ เกิดอะไรขึ้น?" "

"เมื่อวานพ่อของฉันถูกลอบสังหาร มีนักฆ่าสองคนยิงใส่เขามากกว่า 12 นัด ซึ่งพ่อทูนหัวของฉันก็โดนกระสุนไป 5 นัด แต่โชคดีที่เขาไม่ตายทว่าตอนนี้เขายังไม่ได้สติ แล้วฉันก็ไปที่โรงพยาบาลมาเมื่อคืนและก็พบว่ายังมีคนลอบมาทำร้ายเขาอยู่ ทำให้ในตอนนี้มันไม่มีคนที่ไว้ใจได้อยู่รอบๆ ตัวฉัน และฮาร์ดี้นายมาช่วยฉันได้ไหม?" ไมค์กล่าวอย่างเคร่งขรึม

ฮาร์ดี้ตกใจมาก เจ้าพ่อมาเฟียถูกลอบสังหาร?!

เป็นไปได้ไหมที่เรื่องราวของเจ้าพ่อมาเฟียจะเปลี่ยนไปแล้ว

"ไมค์ไม่ต้องห่วง ฉันสัญญาว่าจะไปนิวยอร์กในคืนนี้เพื่อที่จะปกป้องคุณคอร์เลโอเนและเราค่อยพูดคุยเรื่องอื่นๆ เมื่อฉันถึงนิวยอร์กแล้ว!" ฮาร์ดี้กล่าว

"ขอบคุณมาก ฮาร์ดี้"

"ไม่ต้องขอบคุณ เพราะเราทั้งสองเป็นเพื่อนกัน!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด