บทที่ 14 ฉันดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับคุณ!
หลินหยวนขัดจังหวะโดยไม่รอให้เธอพูดจบ
“ฉันไม่ได้ถ่ายวิดีโอและนี่ไม่ใช่การทดสอบของครอบครัว ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะ? บางทีคุณอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นแมรี่ซูก็ได้”
[1] แมรี่ ซู เป็นตัวละครประเภทหนึ่ง มักจะเป็นตัวละครธรรมดาและต่ำต้อยที่จู่ๆก็กลายเป็นผู้มีอำนาจ นวนิยายตัวเอกหญิงประเภทหนึ่งใช้ธีมนี้เป็นพื้นฐานของโครงเรื่อง โดยที่ตัวเอกหญิงได้พบกับชายหนุ่มรูปหล่อ รวย ทรงพลัง และพลิกฟื้นชีวิตของเธอ
“ถ้าอย่างนั้น…” ฉิวว่านซีรู้สึกประหม่ามากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยวน
“จริงๆแล้วมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นหรอก แค่เพราะฉันคิดว่าคุณน่ารักและต้องการเป็นเพื่อนกับคุณ นั่นคือทั้งหมด คุณสามารถคิดว่ามันเหมือนเป็นรักแรกพบก็ได้” หลินหยวนจ้องมองตรงไปที่ฉิวว่านซีด้วยรอยยิ้มที่ไม่สะทกสะท้าน
“อา!” คำตอบนี้ทำให้ฉิวว่านซีประหลาดใจอย่างสมบูรณ์
ใบหน้าทั้งหมดของฉิวว่านซีจนถึงติ่งหูของเธอกลายเป็นสีแดง มือเล็กๆของเธอจับที่มุมเสื้อผ้าของเธอแน่นมากจนข้อมือของเธอกลายเป็นซีดขาว
เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงสภาพของตัวเองก่อนหน้านี้
ผิวสีแดงก่ำพร้อมกับเหงื่อทั่วตัวจากการสวมชุดมาสคอต กางเกงที่เต็มไปด้วยรอยปะและชุดที่เรียบง่ายพร้อมกับผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง
อย่างไรก็ตาม ฉิวว่านซีไม่คิดว่าหลินหยวนโกหก เธอเชื่อทุกอย่างที่หลินหยวนพูดโดยไม่รู้ตัว
“เพื่อน…?”
“ใช่แล้ว ทำไมล่ะ ฉันไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนกับคุณเหรอ?” หลินหยวนแสร้งทำเป็นโกรธเล็กน้อย
“อา! ขอโทษ! ฉันไม่…ฉันแค่คิดว่าฉันไม่น่ารักเลย!” ฉิวว่านซีโบกมือและขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตาม ฉันอยากให้คุณมีมั่นใจในตัวเองนะ” หลินหยวนยิ้มและลูบหัวของเธอ
ภายใต้แสงตะวันยามพระอาทิตย์ตกดิน ฉิวว่านซีเช็ดดวงตาของเธอและเงยหน้าขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่สวยงามประดับบนใบหน้าของเธอ
“ฉันดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับคุณ!”
ใบหน้าของหญิงสาวเป็นสีดอกกุหลาบ ภายใต้ความงดงามของดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน ดวงตากลมโตของเธอสะท้อนแสงสีสดใสราวกับอัญมณี รอยยิ้มที่มุมปากของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวังและความอ่อนโยน
หัวใจของหลินหยวนเต้นผิดจังหวะ เขาไม่ได้ยินแม้แต่เสียงแจ้งเตือนจากระบบ
【ติ๊ง! ความชื่นชอบของฉิวว่านซี +20 คะแนน】
【ติ๊ง! รางวัล 500 คะแนนโต้กลับ】
“ว้าว! ฉิวว่านซีเธอน่ารักมาก! โฮสต์ยอดเยี่ยมที่สุด! ครั้งนี้โฮสต์ได้คะแนนโต้กลับถึง 500 แต้ม!” เสียงของเซินหลันเซ่อดังขึ้นในใจของหลินหยวน
โชคดีที่เซินหลันเซ่อมีเสียงผู้หญิงที่ไพเราะคล้ายกับเสียงของโลลิต้า
หลินหยวนค่อนข้างประหลาดใจ ยิ่งมูลค่าความชอบสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งยากที่จะเพิ่ม เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำจากเขาจะเพิ่มความชื่นชอบได้มากถึง 20 แต้ม อีกทั้งเขายังได้รับคะแนนโต้กลับอีก 500 คะแนน
หลินหยวนมองดูฉิวว่านซีที่น่ารักอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พลางคิดว่าจะพาเธอไปทานอาหารเย็นที่ไหน อย่างไรก็ตามฉิวว่านซีก็พูดขึ้นทันที
“ถ้าอย่างนั้น... ฉันอยากพาคุณไปที่หนึ่ง ได้ไหม?” ฉิวว่านซีถามอย่างอ่อนโยนและระมัดระวัง
“แน่นอน” หลินหยวนตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อมองไปที่รอยยิ้มของหลินหยวน หัวใจที่สั่นไหวของฉิวว่านซีก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก
หลินหยวนตามฉิวว่านซีไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยวที่ดูสะอาดเรียบร้อย
หลินหยวนประเมินร้านก๋วยเตี๋ยวและเห็นว่าค่อนข้างสะอาดสะอ้าน ด้านสุขอนามัยของมันดีกว่าร้านแผงลอยริมถนนที่ราคาถูกและไม่ได้มาตรฐาน
“เอาบะหมี่มังกรสองชามค่ะ ชามหนึ่งใส่ไข่สองฟองกับอีกชามไม่เอาไข่” ฉิวว่านซีเหลือบมองหลินหยวนอย่างประหม่าซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ธรรมดา เธอเดินไปทางห้องครัวและพูดกับเจ้าของร้าน
เธอหยิบเงินยู่ยี่ห้าสิบหยวนออกจากกระเป๋าของเธอขณะพูด หลินหยวนสังเกตทุกอย่างแต่ไม่ได้พูดอะไร ฉิวว่านซีไปไม่นานก็กลับมาและนั่งลง
เธอกระพริบตากลมโตของเธอและเห็นหลินหยวนจ้องมองที่เธอด้วยรอยยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร
แม้ว่าเธอจะรู้สึกเขินอายมากแต่เธอก็ยังอธิบายว่า “แม่ของฉันสอนให้ฉันรู้จักการตอบแทนบุญคุณอยู่เสมอ”
“คุณพาฉันไปกินของอร่อย ฉันก็เลยอยากพาคุณไปเหมือนกัน...”
“ถึงแม้ว่ามันจะไม่อร่อยนัก… แต่…แต่นี่เป็นสิ่งที่ฉันพอจะจ่ายได้…”
ฉิวว่านซีมองไปที่หลินหยวนอย่างเขินอาย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความจริงใจและความอับอาย
"ไม่เป็นไร ฉันชอบอาหารทุกที่ที่เธอเชิญฉันไป” หลินหยวนสัมผัสใบหน้าที่ดูอ่อนแอของเธออีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะพูดคำที่ค่อนข้างน่าอายที่เรียนรู้มาจากโลกเก่าของเขาแต่เมื่อฉิวว่านซีได้ยินเธอรู้สึกวาบหวามราวกับได้กินน้ำผึ้ง เธอยิ้มอย่างมีความสุขและน่ารัก ดวงตากลมโตสองข้างของเธอหรี่ลงคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว
หลินหยวนรู้ว่าฉิวว่านซีพูดความจริง
ทั้งตัวของฉิวว่านซีมีเงินเพียง 50 หยวน
ในนวนิยายเรื่องนี้ ฉิวว่านซีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับเมื่ออายุเพียง 6 ขวบ ค่ารักษาของเธอเป็นเงินหลายล้านหยวน มันเป็นจำนวนมหาศาลสำหรับครอบครัวธรรมดา สิ่งที่น่าเศร้าก็คือพ่อแม่ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินในการรักษาเธอได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ไม่นานหลังจากนั้น ทำให้เธออยู่ตัวคนเดียวในโลกนี้
เธอเติบโตขึ้นมาโดยลำพังด้วยเงินที่เหลือของพ่อแม่ ความท้าทายที่ยากลำบากเหล่านั้นทำให้เธอเติบโตมาอย่างเข้มแข็ง เมื่อเธอเริ่มทำงานนอกเวลาเธอมักจะพบกับเรื่องต่างๆเช่นการสวมชุดที่ร้อนราวกับเตาอบในงานพาร์ทไทม์ของเธอ
เงินที่ได้รับจากงานพาร์ทไทม์ไม่เพียงพอต่อการรักษาโรคของเธอ เพียงทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้นานขึ้น
แม้จะมีปัญหามากมายในชีวิตของเธอ แต่ฉิวว่านซียังคงปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความคาดหวังสำหรับอนาคต
ในนวนิยายต้นฉบับ เธอกลายเป็นนางเอกคนที่สองภายใต้ออร่าของตัวเอก รายละเอียดตัวละครของเธอไม่ชัดเจน ท้ายที่สุดนักเขียนนิยายรักโรแมนติกในเมืองเขียนบทเธออย่างโง่เขลาโดยแทบไม่ได้ใช้สมอง
แต่หลังจากที่เขาได้รู้จักกับเธออย่างดีในวันนี้ หลินหยวนรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้เต็มไปด้วยหัวใจแห่งความคาดหวังและความน่ารักอย่างคาดไม่ถึง
“ชามนี้สำหรับคุณ” ชิวว่านซีเลื่อนบะหมี่มังกรที่มีไข่สองฟองให้หลินหยวนและเก็บชามที่ไม่มีไข่ไว้สำหรับตัวเธอเอง
ฉิวว่านซีกังวลอย่างมาก เธอกลัวว่าหลินหยวนที่เกิดมาพร้อมกับชีวิตที่หรูหราและฟุ่มเฟือยจะทิ้งตะเกียบและจากไป อย่างไรก็ตาม เธอเห็นว่าหลินหยวนเริ่มกินด้วยรอยยิ้ม
เธอยิ้มหวานพร้อมกับเริ่มกิน แม้ว่าค่าอาหารจะเท่ากับค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งของค่าอาหารรายเดือนของเธอก็ตาม
……
“ฉันคิดว่าคุณจะไม่กินซะอีก” หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ขณะที่หลินหยวนและฉิวว่านซีเดินไปบนถนนเธอก็กล่าวอย่างสุภาพ
"เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันชอบทุกสิ่งที่เธอพาฉันไป” หลินหยวนหัวเราะ
“แต่สมมติว่าฉันไม่กินเธอจะทำยังไงล่ะ” หลินหยวนถาม
ฉิวว่านซีกระพริบตาและส่ายหัว “ฉะ…ฉันไม่รู้…”
“บางที… ฉันอาจจะนั่งร้องไห้คนเดียวและกินให้เสร็จ...” เธอคิดเกี่ยวกับมันและพูดออกมา
“เด็กโง่” หลินหยวนยิ้มและลูบศีรษะฉิวว่านซี
**********