ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 30 ล่าพยัคฆ์
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 30 ล่าพยัคฆ์
แปลโดย iPAT
หลี่ฉิงซานวางซากสัตว์ทั้งหมดต่อหน้าปู่จางด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง “นี่ควรจะสามารถชดเชยอาหารที่ข้ากินในช่วงหลายวันที่ผ่านมา!”
เสียงอึกทึกดังขึ้น นักล่าที่พึ่งกลับมาตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์ พวกเขาออกเดินทางไปพร้อมกับคนจำนวนมาก ทำงานร่วมกันผ่านการเตรียมตัวอย่างพิถีพิถัน แต่เหยื่อที่พวกเขาจับได้กลับน้อยกว่าหลี่ฉิงซาน
ปู่จางพบว่าเหยื่อที่หลี่ฉิงซานจับกลับมาไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เขาถาม “เจ้าล่าสัตว์เหล่านี้มาได้อย่างไร?”
นี่เป็นคำถามที่ทุกคนต้องการคำตอบ หลี่ฉิงซานคิดก่อนจะเปิดปากกล่าว “ด้วยมือของข้า!”
ทุกคนตกตะลึงอีกครั้งแต่พวกเขาไม่สามารถตั้งคำถามต่อไป
หลี่ฉิงซานชำเลืองมองเหยื่อที่นักล่าผู้หนึ่งนำกลับมาจากภูเขาและกล่าว “เจ้าจับได้ค่อนข้างมากเช่นกัน มันเกือบเท่ากับของข้า ดูเหมือนข้าต้องใช้ความพยายามมากกว่านี้ มิฉะนั้นข้าอาจไม่ชนะ”
ปู่จางไม่สามารถอธิบายให้เขาฟังได้ว่าเหยื่อเหล่านั้นจะถูกแบ่งเป็นผลงานของนักล่าทั้งหมด โดยเฉลี่ยแล้วนักล่าแต่ละคนแทบไม่สามารถจับเหยื่อได้ถึงหนึ่งตัว ชัดเจนว่าหลี่ฉิงซานชนะไปแล้วตั้งแต่การล่าในวันแรก
หลี่ฉิงซานกินอาหารก่อนจะกลับเข้าไปในป่าอีกครั้ง
นักล่าที่กลับไปรวมกลุ่มทางทิศเหนือบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านกับทุกคน
“เป็นไปได้อย่างไร?”
“เจ้าเมาที่หมู่บ้านใช่หรือไม่?”
“มันเป็นเรื่องจริง เขาล่าสัตว์ได้มากมายจริงๆ!”
‘เด็กคนนี้!’ ฮวงปิงหูสูดหายใจลึกก่อนตะโกน “ทุกคน กลับเข้าไปข้างใน หากพวกเราทั้งหมดรวมกันยังไม่สามารถแข่งขันกับเขาเพียงคนเดียว พวกเราก็ควรฆ่าตัวตายด้วยความอัปยศ!”
กลุ่มนักล่าตอบรับเสียงดัง ขวัญกำลังใจของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
หลังจากนั้นฮวงปิงหูก็ไอหลายครั้ง เขามองไปที่กลางฝ่ามือและเห็นเลือดสีแดงเข้ม
…..
บนเส้นทางภูเขาอีกด้านหนึ่ง ขบวนรถม้าเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ มีชายสี่คนนั่งอยู่บนรถ มีผู้คุ้มกันและคนรับใช้หลายสิบคนรวมตัวอยู่รอบๆ
ชายร่างอ้วนยกผ้าม้านขึ้นและถาม “ตอนนี้เราอยู่ห่างจากเมืองชิงหยางเท่าใด?” แม้จะเป็นฤดูใบไม้ร่วงแต่ใบหน้าและร่างกายของเขาก็ยังเต็มไปด้วยเหงื่อ
คนที่แต่งตัวเหมือนพ่อบ้านกล่าว “นายท่าน มันยังอีกค่อนข้างไกล หากเราไปถึงก่อนค่ำ นั่นจะดีมาก”
ชายอ้วนปิดผ้าม่านลงและพึมพำกับตนเอง “ทั้งที่ข้าทุ่มเทกับการศึกษาเรื่องการเมืองการปกครองไปมากมาย พวกเขากลับส่งข้ามาดูแลเมืองเล็กๆที่อยู่ห่างไกลเช่นนี้ พวกเขาช่างเลอะเลือนนัก”
“นายท่าน ท่านไม่ควรกล่าวเช่นนั้น มันจะไม่ดีหากถ้อยคำเหล่านี้ไปถึงหูคนระดับสูง”
ชายร่างอ้วนสูดหายใจลึกและไม่พูดสิ่งใดอีก
เป็นเพียงเวลานี้ที่ลมภูเขาพัดมาอย่างกะทันหันพร้อมกับฝูงนกที่บินแตกรังด้วยความตื่นตระหนก
“โฮก!” เสียงคำรามดังมาจากพุ่มไม้
ม้าตื่นตกใจและทำให้รถม้าแทบพลิกคว่ำ ชายอ้วนอุทาน “กะ...เกิดสิ่งใดขึ้น? มีคนพยายามฆ่าข้างั้นหรือ?”
“นายท่าน มัน...มันเป็นเสือ!”
เสือโคร่งตัวโตกระโดดลงมาจากทางลาดชั้นและมองไปยังขบวนรถม้าด้วยสายตาดุร้าย
“สะ...สะ...เสือ? เสือ! ใครก็ได้จัดการมันเร็วเข้า!”
พ่อบ้านตะโกนตอบ “พวกเขาหนีไปหมดแล้ว!”
ชายร่างอ้วนยกม่านหน้าต่างขึ้นเพื่อมองไปรอบๆ ดังคาด ไม่มีใครเหลืออยู่ คนคุ้มกันและคนรับใช้ต่างหนีเอาชีวิตรอด พวกเขาตอบสนองทันทีตั้งแต่เสียงคำรามของพยัคฆ์ดังขึ้น
ดังคำกล่าวที่ว่า ผู้คนจะหน้าซีดเมื่อคำว่าเสือถูกกล่าวถึง ไม่มีคนธรรมดาคนใดที่ไม่กลัวเสือ ท้ายที่สุดเสือก็กินคน
“พ่อบ้าน เจ้าช่างซื่อสัตย์นัก ไม่เสียแรงที่ข้าชุบเลี้ยงเจ้ามา!” ชายอ้วนกล่าว
พ่อบ้านตอบกลับทันที “ขอบคุณนายท่านสำหรับคำชม แม้วันนี้ข้าจะถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่มันก็ไม่สามารถตอบแทนความเมตตาเพียงหนึ่งในหมื่นที่ท่านมอบให้ข้า!” ขณะที่เขากล่าวถ้อยคำเหล่านี้ ในใจเขากลับลอบสาปแช่ง “บัดซบ! ขาข้าขยับไม่ได้!”
“เจ้ารออยู่นี่ ข้าจะไปขอกำลังเสริม!” ชายอ้วนรีบลงจากรถม้าและพยายามหลบหนี
พ่อบ้านกรีดร้อง “นายท่าน อย่าทิ้งข้า!”
เมื่อมองเห็นก้อนเนื้อที่อ้วนกลม นัยน์ตาพยัคฆ์ก็ส่องประกายขึ้น แต่เมื่อมันกำลังจะกระโจนออกไป หูของมันกลับตั้งขึ้นอย่างกะทันหัน มันหยุดเท้าและหันหน้าไปทางป่าทึบ
เสียงพุ่มไม้เคลื่อนไหว ใบไม้แห้งที่ถูกเหยียบส่งเสียงกรอบแกรบดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สิ่งนี้สร้างความปั่นป่วนยิ่งกว่าช่วงเวลาที่เสือปรากฏตัว
“เสียงนั่น?” พ่อบ้านมึนงง
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็บินออกมาจากพุ่มไม้ มันเป็นชายหนุ่มที่ดูอ่อนเยาว์และหล่อเหลา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข เขาร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคงและคงทรงพลัง เขาเผชิญหน้ากับพยัคฆ์และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เป็นเหยื่อที่ดีและหายาก!”
ราวกับสัตว์ร้ายรู้ว่ามนุษย์ผู้นี้รับมือได้ยาก มันแยกเขี้ยวข่มขู่แต่ยังไม่กล้าบุ่มบ่าม อย่างไรก็ตามหลังจากคำราม มันก็พุ่งเข้าโจมตีหลี่ฉิงซานในที่สุด
ขาของหลี่ฉิงซานยังหยั่งรากอยู่ในตำแหน่งเดิมขณะที่เขาใช้มือจับอุ้งเท้าทั้งสองข้างของพยัคฆ์เอาไว้ เสือร้ายอ้าปากและเผยให้เห็นคมเขี้ยวอันแหลมคม กลิ่นสาปจากปากเสือพุ่งปะทะใบหน้าของหลี่ฉิงซาน เขาตะโกนและเหวี่ยงพยัคฆ์ที่มีน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมลงบนพื้นด้วยกำลังทั้งหมดก่อนจะกระโดดขึ้นค่อมแผ่นหลังของมัน
เขาไม่เคยต่อสู้กับเสือมาก่อน ในชีวิตก่อนหน้าเขาเคยอ่านนิยายเรื่องอู๋ซ่งสังหารพยัคฆ์ ดังนั้นเขาจึงเลียนแบบวิธีกำหราบพยัคฆ์จากข้อมูลในความทรงจำของเขา หลังขึ้นหลังเสือ เขาใช้กำปั้นทุบมันแบบสุ่มอย่างต่อเนื่อง
พยัคฆ์คำรามด้วยความเจ็บปวด มันสะบัดแผ่นหลังกระแทกพื้นก่อนจะส่งหลี่ฉิงซานบินออกไป เขาคิดในใจทันที ‘เรื่องจริงต่างจากนิยาย!’ เขาฝืนบิดร่างกายและลงจอดบนพื้นอย่างมั่นคงขณะที่ความสนใจของเขายังอยู่ที่สัตว์ร้าย
อย่างไรก็ตามเสือเพียงชำเลืองมองเขาก่อนจะคำรามและหันหลังวิ่งหนี!
ก่อนหน้านี้ชายอ้วนและพ่อบ้านของเขาต่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ตอนนี้เมื่อพวกเขารู้สึกตัว พวกเขารู้สึกดีใจมาก
“วีรบุรุษหนุ่ม นักรบผู้กล้าหาญ ข้าคือเจ้าเมืองที่สมบูรณ์แบบของเมืองชิงหยาง เจ้าไล่เสือไป ข้าจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม!”
อย่างไรก็ตามหลี่ฉิงซานไม่แม้แต่จะมองพวกเขา เขาตะโกน “เจ้าคิดว่าเจ้าจะไปที่ใด!?” จากนั้นเขาก็ออกวิ่งไล่ล่าเสือ แต่พื้นค่อนข้างลื่น มันยากที่จะเคลื่อนไหว
หลังจากทั้งหมดหลี่ฉิงซานจะเต็มใจปล่อยเหยื่อชั้นยอดเช่นนี้ไปได้อย่างไร
ชายอ้วนและพ่อบ้านของเขาที่พึ่งฟื้นจากความประหลาดใจมองหน้ากันด้วยความมึนงง
…..
ช่วงเวลาออกล่าสิ้นสุดลงแล้ว บรรยากาศในหมู่บ้านบังเหียนม้าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
หลี่ฉิงซานกลับไปที่หมู่บ้านด้วยบาดแผลหลายจุดบนร่างกายและใบหน้าที่เผยให้เห็นถึงความเหนื่อยล้าเล็กน้อย อย่างไรก็ตามทุกคนกลับมองเขาด้วยสายตาชื่นชมและรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ มันไม่เกี่ยวกับบาดแผลของเขาแต่เป็นเพราะเหยื่อที่อยู่บนบ่าของเขา
เขาแบกเสือโคร่งที่โตเต็มวัยไว้บนบ่า!
เขาไล่ล่าเสือตัวนี้ทั้งวันทั้งคืน เขาทำสำเร็จเพียงเพราะความทนทรหดที่ได้รับจากหมัดปีศาจวัวและเสี่ยวอันที่ช่วยแกะรอย หากไม่ใช่เพราะผีน้อยตัวนี้ เขาคงคลาดกับมันหลายครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตามเสี่ยวอันไม่สามารถเข้าใกล้ราชาแห่งขุนเขาตัวนี้มากเกินไป เสือมีกลิ่นอายที่สามารถกำหราบผี ในความเป็นจริงเสือโคร่งมีโอกาสเปลี่ยนเป็นภูตพยัคฆ์ เมื่อมันกินคน วิญญาณคนตายจะกลายเป็นทาสผีของมัน
เด็กๆในหมู่บ้านวิ่งไปรอบๆหลี่ฉิงซานด้วยดวงตาส่องประกาย
ฮวงปิงหูออกมาต้อนรับเขาด้วยตนเองก่อนที่จะประกาศให้เขาเป็นผู้ชนะ แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าคัดค้าน เสือไม่เพียงเป็นสัตว์ที่น่ากลัวอย่างที่สุดสำหรับคนธรรมดา กระทั่งนักล่าก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ธนูล่าสัตว์ทั่วไปไม่สามารถฆ่าเสือ ในทางตรงข้าม มันจะยิ่งกระตุ้นความโกรธของเสือ การต่อสู้กับเสือด้วยมีดล่าสัตว์ในระยะประชิดเป็นเพียงการฆ่าตัวตายเท่านั้น
หลี่ฉิงซานสามารถฆ่าเสือ ทุกคนจึงรู้สึกว่าเขาแข็งแกร่งไม่ต่างจากเสือ
“ข้าไม่มีของล้ำค่าใด ดังนั้นธนูแยกหินคันนี้จะเป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะการล่าในครั้งนี้!” ฮวงปิงหูถอดธนูขนาดใหญ่ออกจากแผ่นหลังของเขาทันที
“ธนูแยกหิน!”