ตอนที่ 158 โรงแรมเพนนินซูล่า
บริษัทหัวเว่ยได้ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องสวัสดิการของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารมื้อเที่ยง ชุดเครื่องแบบพนักงาน รถสำหรับรับ-ส่ง มันเป็นมากกว่าบริษัทอุตสาหกรรมแล้ว
เงินเดือนที่ทางหัวเว่ยให้ก็สูงกว่าบริษัทหรือโรงงานทั่วไป แน่นอนคุณต้องมีความสามารถสูงระดับหนึ่ง แต่ทางหัวเว่ยก็ยินดีที่จะจ่ายไม่อั้น บางคนอาจได้เงินสูงถึงหลายล้านหยวนในปีเดียว
นี่เป็นบริษัทในฝันของคนจีนในยุคปัจจุบัน ใครๆก็อยากมาทำงานกับหัวเว่ย
การเตรียมมื้อเที่ยงให้สามารถเติมได้ 2 จานและยังมีการเมนูเนื้อให้อีกถึง 3 วัน ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับของหัวเว่ย แต่นี่ก็เป็นสวัสดีการที่ดีที่สุดในเผิงเฉิงแล้ว
"ครับพี่สาม"
ลู่กั๋วเฉียงพูดกับซูข่าน
ไม่ว่าพี่สามจะสั่งอะไร เรามีหน้าที่แค่ทำตามเท่านั้น ที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เหนือการคาดหมายอยู่ตลอด
"พาฉันไปร้านอาหารที่อยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นนายค่อยไปส่งฉันที่ท่าเรือ"
ซูข่านพูดกับลู่กั๋วเฉียง ดูเหมือนว่าเขาหมดธุระกับโรงงานนี้แล้ว
ลู่กั๋วเฉียงได้ยินก็พูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"พี่สามครับ ผมได้จองโรงแรมในเมืองไว้แล้ว ทำไมพี่ไม่ไปกินที่นั่นละครับ อยู่ต่ออีกสักคืนก็ได้"
"ไม่จำเป็น"
ซูข่านส่ายหัว
"นายให้จางเฉียงไปพักโรงแรมแทนฉันละกัน ฉันจะรีบไปเซียงเจียงกับคนที่เหลือ"
"หมดธุระที่เซียงเจียงเดี๋ยวค่อยคุยกันอีกที"
ลู่กั๋วเฉียงแสดงสีหน้าที่ดูผิดหวัง เขาได้เพียงทำตามที่ซูข่านพูดเท่านั้น
เขาได้พาซูข่านกับคนอื่นไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้กับโรงงาน ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านอาหารเล็กๆ แต่ราคากลับตรงกับข้ามกับขนาดของร้าน ดูเหมือนว่าอาหารที่นี่จะเป็นอาหารป่า
มีเมนูที่ทำมาจากสัตว์ป่ามากมายไม่ว่าจะเป็น เนื้องู เนื้อกระต่าย เนื้อนก และอื่นๆอีกมากมาย
โดยรวมๆแล้วมื้อนี้ได้เสียไปประมาณ 200 หยวน มันค่อนข้างแพงสำหรับคนงานที่เงินเดือนอยู่ที่ 30 หยวน พวกเขาต้องทำงานถึง 6-7 เดือนถึงจะได้กินแบบพวกซูข่านได้
รสนิยมการกินอาหารป่าก็มีอยู่ไม่มากในประเทศจีน ไม่แปลกใจราคาจะสูงกว่าร้านอาหารทั่วไป
ผ่านไปสัก 20 ปี ราคาของอาหารป่าก็เริ่มถูกลง พวกนั้นเลยเริ่มมาทำเมนูเปิบพิสดาร
ซูข่านรู้สึกว่าเขาไม่ถูกจริตมากๆกับเมนูเปิบพิสดารพวกนี้ มันดูเหมือนกับไม่ใช่ของกินที่มนุษย์จะสามารถกินได้ บางเมนูแค่เห็นก็อยากจะอ้วกออกมาแล้ว
หลังจากรับประทานมื้อเที่ยงเสร็จ ก็เป็นเวลาบ่ายโมง
จางเฉียงและคนอื่นๆนั่งอยู่ที่ด้านหลังของรถ ส่วนซูข่านได้ย้ายมานั่งที่ข้างคนขับ ตอนนี้ลู่กั๋วเฉียงเป็นคนขับรถพาพวกเขาไปยังที่ท่าเรือ
ตั้งแต่ลู่กั๋วเฉียงมาได้เดินทางมาที่เผิงเฉิง เขาก็ได้เรียนรู้ทักษะการขับรถทันที ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ขับเก่งกับซูข่าน แต่ก็ไม่ได้ขับแย่จนเกินไป
ไม่นานรถก็ได้เดินทางมาถึงที่ท่าเรือ
ซูข่านได้เปิดประตูลงจากรถ จากนั้นลู่กั๋วเฉียงก็ได้ทำท่าทางเหมือนจะดับเครื่องยนต์
ซูข่านพูดกับลู่กั๋วเฉียงทันที
"นายไปทำงานของนายต่อเถอะ เดี๋ยวข้ามไปฝั่งนู้นแล้วก็มีคนมารับฉันแล้ว ไม่ต้องห่วง"
"ครับผม ขอให้เดินทางปลอดภัยนะครับ"
ลู่กั๋วเฉียงกล่าวลาด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้เหลือเพียง 4 คนที่ได้นั่งเรือข้ามมายังเซียงเจียง ซูข่าน ซงหมิงเจียง ไทเกอร์ และเสี่ยวจุน
พวกเขาขึ้นเรือและข้ามฝั่งทันที ใช้เวลาบนเรือเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
ซูข่านก็เห็นจางหม่านที่ใส่สูทยืนรอพวกเขาอยู่ ดูยังไงเธอก็ยังเหมือนแม่มดในชุดสูทอยู่ดี เธอกำลังยืนอยู่หน้ารถยุโรปคันหนึ่ง Mercedes-Benz C-Class
เมื่อจางหม่านเห็นซูข่าน เธอก็รีบโบกมือให้กับซูข่านด้วยความดีใจ จากนั้นเธอก็ได้วิ่งเหยาะๆมาหาซูข่าน
ซูข่านมองดูจางหม่านที่กำลังหายใจถี่ๆอยู่ข้างหน้าเขา ดูเหมือนว่าวิ่งแค่นี้เธอก็เหนื่อยแล้ว
"เจ้านายคะ ในที่สุดคุณก็ได้กลับมาที่เซียงเจียงซะที"
จางหม่านได้พูดกับซูข่านด้วยรอยยิ้ม เธออดจะคิดกับเขาไม่ได้ว่า
เธอได้ทำงานมาหลายบริษัทในช่วงกำลังเรียนอยู่ นี่คือเจ้านายที่ประหลาดที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว
บางครั้งเธอก็อยากจะเป็นบ้าเหมือนกันเวลาที่ต้องมาตัดสินใจอะไรบางอย่างแทนเขา ทำไมเธอต้องมามีเจ้านายแบบนี้ด้วย
"เอาน่า"
ซูข่านรีบมองซ้ายมองขวาก่อนจะพูดต่อว่า
"รีบไปกันเถอะ ที่นี่มีคนอยู่เยอะมาก"
ตั้งแต่ที่จางหม่านมายืนรอซูข่าน มีคนมากมายจ้องมาที่ตัวเธอ สายตาของพวกเขาแสดงถึงความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก
หญิงสาวคนนี้ยืนอยู่ข้างรถยุโรปสุดหรู แถมยังใส่ชุดสูทที่ดูดีอีกด้วย ผู้ชายรอบๆต่างก็สนใจในตัวของจางหม่านไม่น้อย
ในเซียงเจียงจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีปาปารัสซี่มากที่สุดในจีนก็ได้ นับตั้งแต่ยุคนี้ไปจนถึงปัจจุบัน มีรูปถ่ายของคนดังและคนรวยนับไม่ถ้วนที่ถูกถ่ายจากเมืองนี้
โชคดีที่จางหม่านไม่ได้มีชื่อเสียงมากขนาดนั้นในเซียงเจียง ไม่อย่างงั้นเธอก็อาจจะต้องถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายทุกการกระทำของเธอ
ถ้าเธอมีชื่อเสียงมากกว่านี้บางทีพรุ่งนี้อาจมีหนังสือพิมพ์ตีข่าวแบบนี้ก็ได้
"ประธานหญิงที่มูลค่าบริษัทหลายหมื่นล้าน แอบมาพบกับชายหนุ่มต่างเมือง!!"
"ค่ะเจ้านาย"
จางหม่านพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็เดินไปที่รถยุโรปของเธอและเปิดประตูให้กับซูข่าน
"เชิญค่ะเจ้านาย"
ซูข่านพยักหน้า เขาเห็นว่านอกจากรถ Mercedes-Benz แล้ว ยังมี Volkswagen อยู่ด้านหลังอีกคนหนึ่ง ซึ่งนั้นก็น่าจะเพียงพอกับพวกซงหมิงเจียงกับคนอื่น
"ไปโรงแรมก่อน”
ซูข่านพูดกับจางหม่าน
ซูข่านรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เล็กน้อยบนรถคันนี้ ทำไมจางหม่านที่นั่งข้างเขาถึงได้ดูมีท่าทางที่แปลกไปจากเดิมนิดหน่อย
จางหม่านได้ปาดเหงื่อบนหน้าผากของเธอ แล้วหันไปพูดกับคนขับรถ
"ไปที่โรงแรมที่ฉันบอก"
ใบหน้าสวยของจางหม่านมีสีแดงขึ้นเล็กน้อย แอร์ในรถก็เย็นสบาย ไม่รู้ว่าเธอกำลังร้อนกับอะไรอยู่
คนขับรถได้ขับรถออกไปช้าๆ
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็ได้มาจอดที่ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง มันดูหรูหราและมีระดับกว่าครั้งก่อนที่เขาได้มาพักเป็นอย่างมาก ซูข่านได้มองดูป้ายชื่อโรงแรมจากข้างในรถ
"โรงแรมเพนนินซูล่า"
นี่เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเซียงเจียง เป็นที่รองรับคนดังมากมายจากทั่วทั้งโลก ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ก็ยังเคยมาพักที่นี่ รวมถึงคนรวยและดาราชื่อดังมากมาย
เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดในเซียงเจียง
จางหม่านได้พูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"ฉันจองห้องเอาไว้ให้เจ้านายแล้วค่ะ"
พนักงานที่เฝ้าประตูได้มาเปิดประตูและก้มหัวให้กับซูข่าน
พนักงานที่นี่บริการดีจริงๆ
หลังจากที่ซูข่านและจางหม่านได้ลงจากรถ
จางหม่านก็ได้หยิบเงินในกระเป๋าของเธอออกมาและมอบให้กับพนักงานคนนั้น พนักงานดูตกใจเล็กน้อยและมองที่ซูข่านด้วยความประหลาดใจ
บางทีพนักงานคนนี้อาจกำลังคิดว่า จางหม่านต้องเลี้ยงดูซูข่านอยู่แน่ๆ
ไม่นานซงหมิงเจียงและคนอื่นๆก็ได้ตามมา พวกเขาต่างตกใจกับความหรูหราของโรงแรมที่อยู่หน้าพวกเขา
"ใหญ่เกินไปแล้ว"
"นี่เป็นโรงแรมทั้งหมดเลยเหรอ?"
ซงหมิงเจียงทำหน้างุนงงจนซูข่านต้องมาพูดกับเขาเบาๆ
"เดี๋ยวอีกหน่อยในประเทศก็จะมีโรงแรมแบบนี้เต็มไปหมด"
ซูข่าพูดจบก็ก้าวเดินเข้าไปยังในโรงแรมเพนนินซูล่า ทิ้งให้ซงหมิงเจียงทำหน้างงยิ่งกว่าเดิม
ขณะเดียวกับที่ธนาคาร HSBC
"ผู้จัดการหวางครับ ประธานว่านเซี่ยง กรุ๊ป ดูเหมือนว่าเธอจะไปที่ท่าเรือวันนี้เพื่อไปรับใครบางคนมาครับ"
ในห้องทำงานของหวางหมันหยู อยู่ๆก็มีคนมาบอกข่าวกับเธอ
"อะไรนะ"
หวางหมันหยูยืนขึ้นทันทีที่ได้ยิน ตาของเธอเป็นประกาย