ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0070
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0072

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0071


บทที่ 25 เหตุผลที่นักผจญภัย ออกผจญภัย (3)

* * *

อัศวินและนักบุญหญิงต่างก็สัมผัสได้ในแบบของตัวเอง ถึงข้อเท็จจริงที่ว่า การต่อสู้นี้ยังไม่จบ

เสียขาไปมากกว่าห้าข้าง และเศษโลหะกำลังทะลวงผ่านเครื่องใน แต่ต้องไม่ลืมว่าปรสิตตัวนี้ดูดซับสารอาหารเข้าไปในปริมาณมากกว่าปรกติ

อัศวินคิดมาตลอด

ขอแค่ปรสิตฉลาดสักนิดและตัดสินใจพุ่งเข้าชนมนุษย์ ศึกนี้คงจบลงอย่างง่ายดาย

จริงอยู่ มนุษย์ที่พูดภาษารูนได้นั้นน่าทึ่ง

แต่ร่างกายก็ไม่มีอะไรพิเศษ

ไม่ได้เกิดมาพร้อมความว่องไวและยืดหยุ่นของนักบวชเอลฟ์ที่แก่กล้า ไม่มีพละกำลังช้างสารเหมือนกับลูกหลานสุริยัน และไม่มีผิวหนังแข็งๆ เหมือนกับสายเลือดยักษ์ภูเขา

เป็นเพียงปุถุชนธรรมดาที่ฝึกร่างกายมาเป็นอย่างดี

แค่นั้น

ในทางกลับกัน สิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้า เกิดมาเพื่อเป็นผู้แข็งแกร่ง

เนื่องจากเป็นภาชนะที่ไร้ขีดจำกัด มันสามารถเติบโตได้เรื่อยๆ ขอแค่มีสารอาหารเพียงพอ

ทั้งสองแตกต่างกันตั้งแต่เกิด

เพียงปรสิตหลับตาลงและพุ่งชนด้วยร่างกายขนาดมหึมา ไม่มีทางเลยที่แขนขาของมนุษย์จะทนแรงปะทะนั่นได้

ความแข็งแกร่งแตกต่างกันถึงเพียงนั้น

ภาษารูนแล้วยังไง?

มันยอดเยี่ยมก็จริง แต่ก็ไม่ได้ครอบจักรวาล

ไม่ว่าจะเสกลูกไฟ เสกน้ำ ปล่อยกระแสไฟฟ้า หรือเปิดประตู ไม่มีสิ่งใดช่วยยื้อชีวิตชายคนนี้ได้

แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

ปรสิตขาขาดไปหลายข้าง ร่างกายส่วนหน้าถูกเผาหลายจุด บาดเจ็บภายในร้ายแรง

ชายคนนี้ทำเพียงยืนสองขาพลาง ‘ก้มมอง’ ปรสิต

จริงอยู่ที่ระดับดวงตาของปรสิตสูงกว่า แต่รีเบคก้ารับรู้ได้ว่า มันกำลังถูกมนุษย์ ‘ก้มมอง’

ช่างน่าขัน ความต่างชั้นของพลังไม่มีผลในการต่อสู้เลยสักนิด

ปรสิตกำลังซวนเซ

ปึด—!

โกเล็มโลหะขนาดเท่าฝ่ามือทะลุหน้าอกปรสิตออกมา

โกเล็ม

หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ลิฟวิงเมทัล

เป็นผลจากรูนที่ไม่รู้ว่ามนุษย์เพศชายเขียนไว้บนหน้าอกปรสิตตอนไหน โกเล็มขุดตัวเองออกมาและหล่นลงพื้น

โครม!

ก้ามขนาดมหึมากระแทกพื้นเสียงดัง

“กิกิ๊!”

ดวงตาของปรสิตที่ถลนออกมา กำลังกวาดซ้ายขวาไปรอบตัวอย่างลนลาน แค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่ามันตื่นตระหนกแค่ไหน

มนุษย์ยกมีดขึ้น

รีเบคก้ากำดาบแน่นโดยไม่รู้ตัว

“ตอนนี้แหละ… แทง!”

ถ้าแทงมีดใส่หน้าอกตอนนี้ล่ะก็

แม้คมมีดจะค่อนข้างสั้น แต่ก็เพียงพอที่จะตัดจุดสำคัญ

จากการกะเกณฑ์ของรีเบคก้า แค่มีดเล่มนี้ก็พอแล้ว

ถ้าแทงเข้าไปตอนนี้…

แต่ทันใดนั้น

มนุษย์หายตัวเข้าไปในความมืด

“อะ…!”

รีเบคก้าถอนหายใจโดยไม่รู้ตัว

นี่มันโอกาสทองไม่ใช่หรือ สิ่งสำคัญที่สุดในการต่อสู้คือการปิดฉาก แต่เขากลับพลาดมัน

จากนั้น เธอตระหนักว่ารอยัลบลัดกำลังยิ้มอย่างมีเลศนัย

ทันใดนั้น

“โฮกกกก!”

ปรสิตที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอด ระเบิดพลังงานที่กักเก็บไว้ออกมาในคราวเดียว รุนแรงกว่าการโจมตีใดทั้งหมดที่ผ่านมา เพียงหนึ่งการเคลื่อนไหวก็ทำให้บริเวณโดยรอบสั่นสะเทือน

หากหลงเข้าไปพัวพันคงไม่รอดแน่…

เขาคาดเดาสิ่งนี้ได้?

รีเบคก้ามั่นใจว่าไม่ใช่

มนุษย์เป็นคนบอกเองว่า ตนมีข้อมูลทางฝั่งปรสิตไม่มากนัก

คงเป็นสัญชาตญาณที่ร้องเตือนว่า นี่ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

อีกทั้งรอยัลบลัดยังเคยพูดไว้ว่า แก่นแท้ของนักล่าก็คือ การควบคุมจังหวะและสภาพแวดล้อมให้เข้าทางตัวเอง

อัศวินผู้พิทักษ์มือใหม่ไร้ประสบการณ์อย่างเธอ มีโอกาสได้เรียนหัวใจสำคัญของการล่าโดยบังเอิญ

“โฮกกก! ฮูกกกก!”

ปรสิตตัดสินใจล้มเลิกการทำลายบาเรียกีดกัน

และวิ่งย้อนกลับไปยังใจกลางป่า

สถานที่ที่ตัวเองรู้สึกปลอดภัยที่สุด

ระหว่างนั้น

บึ้มบึ้ม! บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!

ฉึกฉึกฉึก!

กว่าจะรู้ตัวว่าทุกองค์ประกอบในละแวกนี้ถูกเปลี่ยนเป็นอาวุธสำหรับสังหารมัน ทุกสิ่งก็สายเกินไปแล้ว

ขาของปรสิตที่กำลังลนลาน เตะโดนด้ายที่มองไม่เห็น

จากนั้น ศรหลายสิบดอกพุ่งเข้ามาเสียบร่าง

ความเสียหายอาจไม่ร้ายแรง

ทว่า ปรสิตยังไม่ลืมความเจ็บปวดครั้งแรกที่เกิดจากลูกธนู

มันจึงหวาดกลัว

บึ้ม!

เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง พลังทำลายไม่มากพอที่จะเจาะผ่านผิวหนังชั้นนอก

แต่แรงระเบิดสามารถสั่นสะเทือนการมองเห็นและโสตประสาทของปรสิต

มนุษย์หายไปแล้ว

มันยิ่งหวาดกลัว

ทันใดนั้น ปรสิตถูกมัดโดยเชือกส่องแสง

ตามด้วย

“เทอร์มาtterma”

เปรี้ยะ!

กระแสไฟฟ้าเล่นงานระบบประสาทของปรสิตโดยตรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อกระตุก ข้อต่อหยุดชะงักชั่วคราว

ระบบประสาทภายนอกที่พัฒนาขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับป่า กลายเป็นจุดอ่อนใหญ่หลวงต่อกระแสไฟฟ้า

“กิกิ๊! กิกิกิ๊!”

ปรสิตกลอกตาไปทุกทิศทางในสภาพน้ำลายฟูมปาก ทันใดนั้น มันเห็นมนุษย์กำลังพุ่งเข้าหาตน

หากตั้งสติได้และเหวี่ยงแขนให้โดน มันฆ่าอีกฝ่ายได้แน่

หรือไม่ก็แค่ยิงหนวดรยางค์ที่ซ่อนอยู่ในปาก ก็จะสวนกลับได้อย่างง่ายดาย

เบื้องหน้ามันเป็นเพียงมนุษย์ที่มีสองแขน สองขา ผิวหนังบอบบาง — อาหาร

ขณะปรสิตมัวคิดเยอะ มนุษย์พุ่งเข้าประชิดตัวพร้อมกับเฉือนมีดตัดเนื้อบริเวณโคนก้ามจนขาด

ในใจของมันกำลังเต็มไปด้วยความสับสนและหวาดกลัว

“กิ… กิกิ๊…”

ในท้ายที่สุด ปรสิตล้มลงโดยที่ไม่รู้ว่าตนถูกสังหารโดยผู้ใด

* * *

“วางมันลงเถอะ”

ได้ยินคำพูดลิลี่ รีเบคก้ารีบคลายมือข้างที่ถือเชือก

ตาข่ายอักษรรูนที่ปกปิดทางเข้าป่า ไถลลงพื้น

กลิ่นของพลังธรรมชาติที่แผ่มาจากด้านใน เข้มข้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หมายความว่าสิ่งมีชีวิตที่คอยบริโภคมัน เสียชีวิตลงแล้ว ลิลี่จึงผ่อนคลาย

“จบแล้วสินะ”

ได้ยินคำพูดลิลี่ รีเบคก้าพยักหน้ารับเงียบงัน

เธอทราบได้โดยไม่ต้องเห็นกับตา

เพราะป่ากำลังเปิดทางให้พวกเธอทั้งสาม

เห็ดทยอยงอกขึ้นจากพื้น — เห็ดเรืองแสง

เห็ดเรืองแสงห้าสี เรียงตัวกันเป็นเส้นตรงสองแถวเพื่อสร้างเส้นทาง

คล้ายกับป่ากำลังพูดว่า ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว เข้ามาสิ

ป่ายังมีชีวิตอยู่

“…แต่ข้ามองไม่เห็นวิญญาณ”

“เจ้ามองไม่เห็นโฉมวิญญาณ?”

ได้ยินคำถามรีเบคก้า ลิลี่พยักหน้ารับ

“คงใกล้ตายเต็มที… หรืออาจจะตายไปแล้วก็ได้”

จากภายนอก ดูเหมือนว่าป่าจะยังมีชีวิตชีวา

แต่ความตายของป่าแห่งนี้ เกิดจากการเน่าเปื่อยภายใน

ทุกคนทราบเรื่องนี้ดี จึงมิอาจเก็บซ่อนความกังวลขณะเดินเข้าไป

ใช้เวลาราวสิบนาทีกว่าจะถึงใจกลางป่า เป็นป่าที่ใหญ่ผิดคาด

พลังธรรมชาติซึ่งรั่วซึมจากที่ใดสักแห่ง เริ่มลอยเข้ามาเตะจมูก

ป่าแห่งนี้อุดมสมบูรณ์เพราะอยู่ใกล้แหล่งพลังงานแห่งชีวิต

ทว่า ด้วยเหตุผลเดียวกัน มันจึงตกเป็นเหยื่อของปรสิตชั่ว

ราวกับตลกร้าย นี่คือกลไกการรักษาสมดุลของธรรมชาติ

ยิ่งเข้าไปลึก ก็ยิ่งเห็นธาตุแท้ของป่า เห็ดเหี่ยวเฉา เชื้อรากลายพันธุ์ และศพสัตว์ที่ปกคลุมไปด้วยรา

เดินผ่านทั้งหมดเข้าไป พวกเธอได้เห็นลานกว้างขนาดเท่าคฤหาสน์ขนาดเล็ก

หัวใจแห่งป่ามักมีลักษณะเช่นนี้เสมอ

ใจกลางลานกว้าง มีกวางเรนเดียร์ตัวใหญ่กำลังนอนอยู่

ส่วนท้องขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้า ตามร่างกายอันผอมซูบเต็มไปด้วยบาดแผล

ขนของมันมีสีม่วง

อีกหนึ่งอัตตาของป่า หรือก็คือ ร่างอวตารของป่า

สัตว์วิเศษ

และสัตว์วิเศษตัวนี้กำลังจะตาย บนผิวหนังเต็มไปด้วยบางแผลวงกลม

“…ปรสิตจับสัตว์วิเศษเป็นตัวประกันสินะ”

มันแทรกประสาทสัมผัสและเส้นเลือดของตัวเองเข้าไปในสัตว์วิเศษเพื่อดูดซึมสารอาหาร

อยู่ในสภาพที่จะตายก็ไม่ได้ เพราะมีพลังธรรมชาติคอยเยียวยา แต่ก็ไม่เป็นอิสระจากปรสิต

ต้องทุกข์ทรมานอยู่นานแค่ไหน?

อัศวิน ลิลี่ และนักบุญหญิงมองไปรอบๆ

พวกเธอเห็นศพปรสิตนอนอยู่ไม่ไกล ข้อต่อของสิ่งมีชีวิตอัปลักษณ์อยู่ในสภาพบิดงอผิดรูป

ไม่สำคัญว่าปรสิตอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง

สิ่งสำคัญก็คือ ไม่มีบาดแผลแม้แต่รอยขีดข่วนบนตัวมนุษย์

มนุษย์ที่ไม่มีพรสวรรค์ทางร่างกาย ประสบความสำเร็จในการล่าปรสิตที่เติบโตจากบ่อเงินบ่อทอง

และไม่ใช่แค่นั้น

“…เจ้ากำลังทำอะไร”

มนุษย์กำลังใช้ไฟเผาสมุนไพร

“ก็ต้องรักษาอยู่แล้ว”

เขามิได้แยแสความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่เพิ่งเกิดขึ้น

ศพปรสิตถูกปฏิบัติเหมือนกับของเล่นที่เบื่อแล้วก็ทิ้ง

“ลิลี่ ส่งหม้อมาให้หน่อย ใบเล็กๆ น่ะ”

ลิลี่นำหม้อใบเล็กออกจากกระเป๋าตามคำสั่ง

“เซียร์thir”

มนุษย์ใช้รูนเติมน้ำลงไป จากนั้นก็ยกไปทางศพปรสิต

ฉึบ!

เขาเริ่มชำแหละ หลังจากผ่านไปสักพัก มนุษย์นำไข่มุกคริสตัลที่เล็กกว่ากำปั้นเล็กน้อยออกมา

“มันคือ?”

ลิลี่ถาม คนตอบคือรีเบคก้า

“ข้าเคยได้ยินว่า ปรสิตแข็งแกร่งที่มีอายุยืนจะสร้างลูกปัดกักเก็บพลังงานไว้ในตัว คล้ายกับไข่มุกที่เกิดจากการควบแน่นพลังงาน”

“เธอก็รู้ด้วยหรือ”

คังซอนฮูเองก็ทราบ

รีเบคก้าพยักหน้าพลางเล่าต่อ ดวงตาของเธอเผยความทึ่งเล็กน้อย

“…แม้แต่ดยุคก็ยังมองเป็นสมบัติล้ำค่า กล่าวกันว่ามีมูลค่าเทียบเท่าดินแดนเล็กๆ หนึ่งแห่ง”

“พวกเขาเอาไปใช้ทำอะไร”

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ… แต่ได้ยินว่าบรรดานักแปรธาตุที่ศึกษาการปรุงอีลิกเซอร์ (Elixir) มองว่าเป็นวัสดุที่มีมูลค่าสูงลิบ”

คังซอนฮูพยักหน้า

จากนั้น

กร๊อบ!

เขานำไข่มุกวางบนหินและใช้สันมีดทุบ

“…”

รีเบคก้าทำได้เพียงเหม่อมอง

“ขอถามได้ไหม… เจ้ากำลังทำอะไร”

“พลังงานที่อัดแน่นอยู่ในไข่มุก คือสิ่งถูกขโมยไปจากป่า ถ้านำไปบดละลายน้ำและพรมในจุดใกล้กับหัวใจป่า ก็ยังพอจะปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้บ้าง”

“…เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ”

“เรื่องอะไร”

“มันมีค่าเทียบเท่าดินแดนเล็กๆ หนึ่งแห่ง!”

กร๊อบ! กร๊อบ!

ไข่มุกที่ถูกป่นเป็นผงในพริบตา ผสานเข้ากับขี้เถ้าจากสมุนไพรและถูกเทลงหม้อต้ม เพียงไม่นานก็เริ่มละลายรวมกัน

ของเหลวสีใสทยอยส่องแสงลึกลับห้าสี

“แล้วมันยังไง”

“…”

‘แล้วมันยังไง’ เนี่ยนะ?

ได้ยินการตอบสนองเช่นนี้ เธอเองก็ไปต่อไม่ถูก

คังซอนฮูเล่าต่อ คล้ายกับฉุกคิดได้ว่าตนคงอธิบายน้อยไป

“ดินแดน? ฉันไม่คิดจะอยู่ติดที่หรอกนะ… เงินทอง? ถ้าต้องการ ฉันมีงานที่สามารถทำเงินได้ไม่สิ้นสุด…”

เขาไม่ปรารถนาในความมั่งคั่ง ด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้?

อัศวินอดไม่ได้ที่จะสงสัย

“นอกจากนั้น ด้วยความสัตย์จริงนะ ฉันคิดว่าการทำแบบนี้ได้กำไรกว่านำไปขาย”

“อธิบายให้ฟังหน่อย”

“ถ้านำไปขายและได้เงิน ฉันอาจได้กินอาหารอร่อยหรือมีชีวิตที่ดีขึ้น… แต่ถ้าฉันช่วยป่าแห่งนี้ สักวันมันจะพูดถึงฉัน”

“…”

“และบางที นั่นอาจกลายเป็นตำนานที่คงอยู่ตลอดกาล”

สีของเหลวในหม้อ ดูคล้ายกับชั้นของน้ำมันที่แบ่งออกเป็นห้าสี ก่อนจะผสานเป็นหนึ่งเดียวอย่างรวดเร็ว

“คงอยู่ตลอดกาล… ฟังดูเจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะ”

หลังจากคังซอนฮูทำให้หม้อเย็นลงเล็กน้อย ของเหลวด้านในถูกนำไปพรมไว้รอบๆ หัวใจป่า — คริสตัลสีดำ

แม้จะยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในทันที แต่ด้วยเหตุผลบางประการ พวกเธอรู้สึกคล้ายกับกระแสลมในบริเวณนี้มั่นคงขึ้นกว่าเดิม

คังซอนฮูจ้องสัตว์วิเศษด้วยสายตาเป็นกังวล

“…อย่าตายนะ ฉันเป็นห่วง”

“ป่ารักษาตัวเองไม่ได้หรือ”

ได้ยินคำถามลิลี่ คังซอนฮูไตร่ตรองสักพัก

“อาจยังรอดในช่วงแรก แต่มันบาดเจ็บเกินกว่าจะอยู่ได้นาน”

ทันใดนั้น นักบุญหญิงเริ่มขยับตัว

เธอเดินเข้ามากใกล้สัตว์วิเศษอย่างเชื่องช้า

จากนั้นก็ประสานสายตากับมนุษย์ครู่หนึ่ง จนกระทั่งมนุษย์หลีกทางให้

นักบุญหญิง วีว่าซิสซิโม่

เธอไม่เข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์เพศชาย จึงเกิดความอยากรู้อยากเห็น

โดยทั่วไปแล้ว นักผจญภัยจะเสี่ยงชีวิตเพราะมีเป้าหมาย

ส่วนมากมักพูดกันว่า เป็นการไล่ตามแสงสว่างอันเร่าร้อน

แต่วีว่าซิสซิโม่ไม่เคยเห็นแสงสว่างอันเร่าร้อนเลยสักครั้ง

จนกระทั่งวินาทีนี้

นักบุญหญิงก้มมองสัตว์วิเศษ

จากนั้นก็มองกลับไปทางอัศวิน

เห็นเช่นนั้น รีเบคก้ารีบถามมนุษย์

“นักบุญหญิงอยากรู้”

“ว่า?”

“เหตุผลที่เจ้าตัดสินใจใช้ชีวิตบนความเสี่ยง… เหตุผลที่เจ้ามาเป็นนักผจญภัย”

วีว่าซิสซิโม่จ้องมนุษย์เพศชายด้วยดวงตาอวกาศ

“เหตุผลน่ะหรือ…”

คังซอนฮูแหงนมองเพดาน

กะพริบตาสองสามครั้งพลางจ้องแมลงส่องแสง

ค่อนข้างผิดคาด คำตอบไม่ออกมาง่ายๆ

“…ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน”

ได้ยินคำตอบของมนุษย์ รอยัลบลัดด้านข้างเปิดปากเสริม

“ข้าคิดว่าข้ารู้”

มนุษย์เบือนหน้ากลับมาประสานดวงตากับรอยัลบลัด

รอยัลบลัดจ้องมนุษย์ด้วยดวงตาที่ค่อนข้างอ่อนเพลีย พลางยิ้มมุมปาก

“อิสรภาพ”

“…อิสรภาพ?”

รอยัลบลัดพยักหน้า

“ตามความคิดของข้า เจ้ายกให้มันมีความสำคัญสูงสุด”

มนุษย์กลอกตาครุ่นคิดเล็กน้อย ตามด้วยพยักหน้ารับ

“…ก็ไม่ผิด”

ได้ยินคำตอบ วีว่าซิสซิโม่ก้มหน้าตรึกตรอง

อิสรภาพ

เหตุผลในการผจญภัยของเขาไม่ใช่ขุมทรัพย์ เกียรติยศ อำนาจ หรือความสำเร็จ แต่เป็นอิสรภาพ

ที่จริงเธอก็พอจะเดาได้

นับตั้งแต่วินาทีที่มนุษย์ยอมสละสมบัติมีค่าเพื่อช่วยยื้อชีวิตให้ป่า

วีว่าซิสซิโม่ก้มหน้ามองสัตว์วิเศษ พลางสัมผัสถึงน้ำหนักของมีดในปาก

“…”

เมื่อเห็นวีว่าซิสซิโม่วางมือลงบนสัตว์วิเศษ ดวงตาอัศวินพลันเบิกกว้าง

“ท่านนักบุญหญิง… ด…เดี๋ยวก่อน”

นักบุญหญิงสัมผัสถึงความเย็นที่แผ่ไปทั่วฝ่ามือ สัมผัสถึงการเต้นของหัวใจใต้ผิวหนัง

“การใช้ปาฏิหาริย์กับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ลูกหลานของเทพ ถือเป็นข้อห้ามร้ายแรง ท่านยังไม่ลืมใช่ไหม? ถ้าไม่หยุดตอนนี้ ท่านอาจสูญเสียตำแหน่งนักบุญหญิงไป!”

วีว่าซิสซิโม่เงยหน้ามองมนุษย์

ชายผู้อุทิศตัวเองให้กับป่า

สำหรับเขา อิสรภาพมีคุณค่ามากเสียจน ยอมสละได้แม้กระทั่งสิ่งสำคัญ

ข้าเองก็อยากลองสัมผัสดูสักครั้ง

คุณค่าของสิ่งที่ผู้คนพยายามไขว่คว้า

วีว่าซิสซิโม่อยากรู้ว่า สิ่งนี้จะนำมาซึ่งความสุขที่แท้จริงได้หรือไม่

เธอหลับตาลงพร้อมกับสวดวิงวอนถึงเก้าเทพ

ทันใดนั้น ผลไม้ส่องแสงทุกผลในห้องใต้ดิน เริ่มเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อน

กลิ่นหอมคละคลุ้งฟุ้งกระจาย

บางที ความรู้สึกนี้อาจหมายถึงความสุข

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (4/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด