CD บทที่ 245 แจกจ่ายซองอั่งเปา
ในความเป็นจริง แม้ว่าจ้าวหยู่จะติดเครื่องดักฟังล่องหนบนถังจ้าวหลง เขาก็ไม่สามารถได้รับข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติมได้ เนื่องจากถังจ้าวหลงไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงย้ายไปอยู่ที่สถานีหรงหยางในฐานะหัวหน้าสถานี
คนที่ตกใจที่สุดเรื่องการโยกย้ายหัวหน้าสถานีก็คือถังจ้าวหลง เขาเป็นเหมือนผู้ช่วยโค้ชของทีมฟุตบอลที่ได้รับคำสั่งให้รับช่วงต่อในฐานะโค้ชหลักและเขาจำเป็นต้องนำทีมแข่งขันที่สำคัญในแมตช์ต่อไป
การที่จะให้ใครเข้ามารับตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ มันจำเป็นต้องได้รับการเตรียมตัวทั้งเวลาและประสบการณ์ แต่ทว่าวันนั้น ถังจ้าวหลงกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสบายใจ โดยที่เขาคิดแค่ว่าจะเคลียร์งานในสถานีถงหยางต่อเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อหัวหน้าเทศบาลโทรมาบอกเขาว่าเขากำลังถูกย้ายไปอยู่ที่สถานีหรงหยางในฐานะหัวหน้าสถานี เขาตกตะลึงและทำอะไรไม่ถูก ในระหว่างนั้นคำสั่งโยกย้ายก็มาถึงเขาแล้ว
ขณะที่เขากำลังเตรียมตัวไปสถานีหรงหยาง เขาได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าเขาต้องติดตามงานสรุปคดีลักพาตัวเมียนหลิงและหยุดการสืบสวนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมคูปิง
ถังจ้าวหลงเป็นตำรวจมาหลายปีแล้ว เขารู้ว่าในตอนแรกที่เขารับตำแหน่งใหม่ เขาจะต้องรักษาระดับตำรวจให้เท่าเทียมกัน
อย่างไรก็ตาม นอกจากประสบการณ์แล้ว ความสามารถของเขาอยู่ในระดับปานกลาง ในวันแรก เขาสั่งให้ลบข้อมูลบางส่วนโดยใช้กำลัง นำไปสู่การสู้รบระหว่างเหมี่ยวอิงและหลิวชางฮู
เมื่อตอนที่ถังจ้าวหลงเป็นหัวหน้าสถานีถงหยาง เขาเป็นคนที่เข้มงวดมาก เขาคิดว่าการลบข้อมูลโดยพลการเป็นเรื่องปกติ เขาไม่คิดว่ามันจะมีความแตกต่างใด ๆ ในสถานีหรงหยางหรือคิดว่ามันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงเช่นนี้
เนื่องจากเหตุการณ์ของเหมี่ยวอิงได้รับรู้เป็นวงกว้าง ถังจ้าวหลงถูกติเตียนจากเจ้าหน้าที่ระสูงของเขา อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกประหลาดใจ เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าอีกฝ่ายโกรธมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สั่งให้ถังจ้าวหลงระงับเรื่องนี้ไว้ก่อน
แถมเขายังได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าให้จัดการเรื่องวุ่นวายให้เรียบร้อย ถ้าหากว่าหลิวชางฮูยังคงดื้อรันก็จัดการสั่งย้ายเขาออกไปได้เลย ส่วนเหมี่ยวอิง ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงบอกว่าให้ปล่อยเธอไปและห้ามทำอะไรเธอเด็ดขาด!
เมื่อได้รับคำสั่งนั้น ถังจ้าวหลงก็ตกตะลึง จากนั้นเขาก็รู้ว่าสถานีหรงหยางมีเสือหมอบมังกรซ่อนอยู่ พวกเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างจากเขาจากสาขาถงหยาง เหมี่ยวอิงคนนี้เป็นคนที่มีภูหลังที่ทรงพลังอย่างแท้จริง
ในความเป็นจริง เรื่องนี้ควรจะจบลงตรงนั้น แต่เมื่อถังจ้าวหลงเห็นเงินรางวัลสองล้านเหรียญ ความโลภของเขาก็เข้าครอบงำ มันเป็นนิสัยที่ไม่ดี เขาพยายามที่จะลดมัน เขารู้สึกลังเลที่จะปล่อยให้เงินสองล้านหลุดมือเขาไป ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจชะลอการจ่ายเงินรางวัลเพื่อพยายามใส่บางส่วนในกระเป๋าของเขาเอง
เนื่องจากเขาถูกย้ายมาอย่างกะทันหันเพื่อจัดการกับธุระของคนอื่น เขาคิดว่ามันน่าจะมีเหตุผลมากพอในการทำเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้
แต่เขายังไม่ทันจะทำอะไร ครอบครัวของเหยื่อก็มารับเงินคืน เนื่องจากโจวอันดงจัดการก่อนหน้านี้และถังจ้าวหลงได้ย้ายมาแทนที่ เขาจึงไม่มีอะไรไปโต้แย้ง เขาจำเป็นต้องคืนเงินให้พวกเขาไป
ถังจ้าวหลงถือถ้วยชาที่มีป้ายราคา 88 หยวนที่ด้านล่าง ขณะที่เขาเดินไปมา คิดเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปของเขา
ขณะนั้นเลขาฯ ซงเฉาก็เคาะประตูเข้ามาพร้อมเอกสารกองหนึ่ง “หัวหน้าถัง นี่คือข้อมูลสำหรับแถลงข่าวพรุ่งนี้ครับ เอาไว้สำหรับนักข่าวถามคำถาม…”
ในฐานะหัวหน้าสำนัก ถังจ้าวหลงไม่เคยเข้าร่วมงานแถลงข่าวใด ๆ มาก่อน เขาจับซงเฉาทันทีและถามว่า “ซง พวกเขาจะถามอะไร มันถูกจัดเตรียมไว้หมดหรือเปล่า? ฉันแค่ต้องอ่านตามบทใช่ม้ย?”
“อืม เกี่ยวกับเรื่องนี้…” ซงเฉาดูเหมือนจะไม่เต็มใจ เมื่อเขากำลังจะตอบ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาปลดล็อคและตรวจสอบโทรศัพท์ของเขา ซงเฉาประหลาดใจและร้องออกมาอย่างผิดหวัง “โธ่ ฉันได้แค่ 7, 800 หยวน เองเหรอ มันไม่น้อยไปหน่อยรึไง!?”
“อะไรนะ? คุณพูดถึงเรื่องอะไร?” ถังจ้าวหลงดูเหมือนอารมณ์เสีย
“หัวหน้าถัง โอ้… ขอโทษด้วยครับ อืม…” ซงเฉาพูดติดอ่างและแสดงโทรศัพท์ให้ถังจ้าวหลงดู “หัวหน้าถัง จ้าวหยู่ได้ส่งอั่งเปาให้กับทุกคนครับ!”
“ส่งอั่งเปา?” หัวหน้าถังส่ายหัว "แล้วยังไง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่เหรอ?
“อืม…” ซงเฉาลังเลและพูดว่า “เงินที่จ้าวหยู่ส่งมา มันมาจากเงินรางวัลสองล้านครับ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวเหมียนหลิงจะได้รับบางส่วน นอกจากนี้ เขายังใช้การจัดสรรเดิมในการแจกจ่ายเงินรางวัล”
“อะไรนะ!? สองล้าน!?” ถังจ้าวหลงกำลังพูดว่าจ้าวหยู่ต้องรวยมาก แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินว่า มันเป็นเงินสองล้านจากคดีลักพาตัวเมียนหลิง... นี่แสดงว่าเงินสองล้านที่หลุดออกจากมือของเขาไป มันตกอยู่ในมือของจ้าวหยู่ใช่หรือไม่?
ทันใดนั้น ถังจ้าวหลงรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว เขาคิดในใจว่า
‘สถานีหรงหยางเป็นแหล่งรวมสัตว์ประหลาดหรืออย่างไรกัน?’
…
ในเวลาเดียวกัน ณ ห้องทำงานทีม A ของจ้าวหยู่ก็แออัด ทุกคนพยายามส่งไอดีของวีแชทให้กับจ้าวหยู่ จ้าวหยู่กำลังถือตารางการจัดสรรเงินรางวัลและอ่านให้หลี่เบ่ยหนีเพื่อที่เธอจะได้โอนเงินให้กับทุกคน
จ้าวหยู่เตือนหลี่เป่ยหนีว่า "ระวังด้วยล่ะ อย่าใส่เลขผิดนะ เดี๋ยวเงินจะตกอยู่ในมือของคนอื่น!"
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกค่ะ ห่วงรุ่นพี่ก่อนดีกว่า รุ่นพี่ใช้งานฉันมากขนาดนี้ รุ่นพี่ต้องจ่ายเงินเพิ่มให้ฉันด้วยนะคะ!” หลี่เบ่ยหนีส่งสายตาซุกซนให้ระหว่างที่เธอโอนเงิน
เพื่อนร่วมงานที่ได้รับเงินรางวัลต่างเข้ามาขอบคุณจ้าวหยู่ โดยเฉพาะจางจิงเฟิงและเหลียงฮวน พวกเขายังโค้งคำนับพร้อมเอามือที่ประสานกันด้วยความเคารพ
จ้าวหยู่ส่งรางวัลเงินสดตามตารางการจัดสรรอย่างเคร่งครัด โดยไม่ขาดแม้แต่หยวนเดียว แต่หลังจากส่งเงินให้ทุกคนครบแล้ว เขาก็พบว่ายังเหลือเงินรางวัลอีกราวหนึ่งล้าน!
‘ฮะ? เหลือใครอีก?’
จ้าวหยู่ตรวจสอบรายการซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่เมื่อเขาตรวจสอบแล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาลืมหัวหน้าโจว, หลิวชางฮูและเหมาเว่ย
ในฐานะหัวหน้าสถานี หัวหน้าโจวได้รับเงินราว ๆ สี่หมื่นหยวนแต่ตอนนี้เขาถูกแทนที่แล้ว เงินจึงไม่สามารถส่งออกได้ชั่วคราว
สำหรับหลิวชางฮู จ้าวหยู่ไม่คิดจะส่งเงินของเขาไปอย่างแน่นอน แต่เขาไม่เคยมีเรื่องกับเหมาเว่ยมาก่อน ดังนั้นจ้าวหยู่จึงส่งเงินไปให้เขา เขารู้ว่าสิ่งนี้จะทำให้ทั้งสองไม่ลงรอยกัน เมื่อเหมาเว่ยโชว์เงินของเขา สีหน้าของหลิวชางฮูจะต้องเป็นอะไรที่น่าดูอย่างแน่นอน
จ้าวหยู่ตระหนักว่ายังเงินเหลืออีกราว ๆ ห้าหมื่นถึงหกหมื่น เขาพลิกดูรายชื่อและพบชื่อของเหมี่ยวอิงในหน้าสุดท้าย
จ้าวหยู่รู้เหมี่ยวอิงเพิ่งย้ายเข้ามา เธอจึงเป็นคนสุดท้ายในตารางการจัดสรร เหมี่ยวอิงกลายเป็นคู่หูที่ดีที่สุดของเขา เห็นได้ชัดว่าจ้าวหยู่ไม่ได้ตระหนี่ เขาส่งเงินให้เธอทันที แต่เหมียวหยิงไม่ยอมรับคำขอโอนมาระยะหนึ่งแล้ว จ้าวหยู่นึกได้ว่าเธอกำลังออกภาคสนาม เขาจึงหันไปถามจางเหยาฮุ่ยว่าเธอออกไปที่ไหน?
จางเหยาฮุ่ยและคนอื่น ๆ บอกเขาว่าหัวหน้าทีมเหมี่ยวออกไปตั้งแต่เช้าและยังไม่ได้กลับมาเลย ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปที่ไหน
จ้าวหยู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโทรหาเธอแต่ไม่ว่าเขาจะโทรไปเท่าไหร่เธอก็ไม่รับสาย
ทันใดนั้น จ้าวหยู่รู้สึกไม่สบายใจ ด้วยนิสัยของเหมี่ยวอิง เธอไม่มีทางโดดงานโดยไม่มีเหตุผล เธอออกไปตามหาจ้าวฉิงหรือเปล่า?
จ้าวหยู่รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าเหมี่ยวอิงจะต่อสู้ได้ดีแค่ไหน แต่จ้าวฉิงก็เป็นสมาชิกหน่วยสวาต มันอันตรายเกินไป!
ในขณะที่จ้าวหยู่กำลังคิดหนักอยู่ โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น มันเป็นสายจากหลันโบ อีกฝ่ายได้กล่าวว่า
"คนดูแลคลังอาวุธได้บอกมาว่าหัวหน้าทีมเหมี่ยวได้ทำเรื่องขอเบิกปืนในช่วงเช้าแต่เธอถูกปฏิเสธ หัวหน้าถังได้ออกคำสั่งว่าหัวหน้าทีมเหมี่ยวยังอยู่ในระหว่างคุมประพฤติ ดังนั้นเขาจึงไม่อนุมัติคำขอของเธอ ในท้ายที่สุด หัวหน้าทีมเหมี่ยวก็ออกไปตัวเปล่า”
“พี่หยู่ ฉันคิดว่า…” หลันโบพูดเบา ๆ “หัวหน้าทีมเหมี่ยวกำลังตามหาตัวผู้ชายคนนั้นอยู่ เราควรตามไปสมทบหัวหน้าเหมี่ยวดีมั้ย? ฉันหวังว่าหัวหน้าเหมี่ยวจะยังปลอดภัยดี!”