825 - ประตูลึกลับ
825 - ประตูลึกลับ
“เขาเป็นใครกัน คนที่ฆ่าปรมาจารย์ครึ่งเซียนได้ทั้งเป็น อย่างน้อยคนคนนี้จะต้องอยู่ในอาณาจักรปราชญ์โบราณอย่างแน่นอน!” คนอื่นไม่รู้พวกเขาแปลกใจมาก
“รีบกลับเดี๋ยวนี้” สมาชิกของตระกูลเซียวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“อะไรกัน?”
“อ๊าก!!”
ในขณะนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นในหมู่ผู้คนจากตระกูลเซียว มีมือลึกลับพุ่งออกมาจากเงามืดและเริ่มสังหารพวกเขาอย่างรวดเร็ว
“ไปกันเถอะ ออกไปจากที่นี่เร็ว มิฉะนั้นจะไม่มีใครรอด!”
ใบหน้าของต้วนเต๋อซีดเผือด เมื่อนึกถึงข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับแนวคิดของเทพเจ้า ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน
เย่ฟ่าน ตงฟางเย่ ชายชราตาบอดและเจวี่ยโหย่วฉิงก็ติดตามอย่างรวดเร็วเช่นกัน
แต่ผู้ฝึกตนหลายคนไม่ทราบรายละเอียด พวกเขาคิดว่าหลุมศพเซียนได้เปิดออกแล้ว จึงรุมกันเข้ามาเพราะทุกคนต้องการได้รับโชควาสนาแห่งเซียน
“อ๊า!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นเรื่อยๆ วังใต้ดินเป็นเหมือนทุ่งสังหาร เต็มไปด้วยซากศพมากมาย
ณ ขณะนี้ ในที่สุดผู้คนก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขามองเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์ลงมือสังหารผู้คนอย่างต่อเนื่อง
เพียงเขายกมือขึ้นครั้งเดียวยอดฝีมือระดับอาณาจักรแปลงมังกรก็ถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย
ต้วนเต๋อเหงื่อตก เขากล่าวว่า “ข้าท่องเที่ยวในสุสานโบราณมากกว่ายี่สิบปี ในที่สุดวันนี้ก็เจอตอเข้าให้แล้ว”
ทุกคนพูดไม่ออก ชายอ้วนคนนี้มีผิวหน้าที่หนามาก เขาเข้าออกและขโมยสมบัติในหลุมฝังศพของผู้อื่นแต่กับกล่าวมันออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
“นี่ไม่ใช่พระราชวังใต้ดิน มันเป็นที่ฝังศพขนาดใหญ่ ข้าเห็นแล้ว มันเป็นสุสานโบราณ มีบางสิ่งกำลังคลานออกมาจากสุสาน!”
มีคนเห็นฉากนี้และตะโกนออกมาดัง ๆ ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น
ปกติแล้วหากพวกเขาเห็นทหารหยินระดับธรรมดาพวกเขาจะไม่สนใจแม้แต่น้อย แต่ที่นี่คือสุสานเซียนและปีศาจที่กระโดดออกมาจากหลุมศพนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะต่อต้านได้
“บัดซบ ข้าเพิ่งเคยเห็นหลุมศพที่น่ากลัวเช่นนี้” ต้วนเต๋อดูอึดอัด เวลานี้เขายังรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและพูดว่า
“สถานที่แห่งนี้ผิดจากการคาดเดาของข้าอย่างมหันต์ จักรพรรดิโบราณเคยอาศัยอยู่ที่นี่จริง แต่ก็ใช่ว่าสถานที่แห่งนี้จะมีความเป็นมงคลไปด้วย”
“หน้าผาไม่มีที่สิ้นสุด และนี่คือดินแดนแห่งเก้าสัมบูรณ์ ข้าเดาไม่ได้ว่าเส้นทางต่อไปจะเป็นอย่างไร” ชายชราตาบอดพึมพำ
ในตอนนั้นทุกคนต่างนึกย้อนถึงภาพเซียนอมตะนอนตะแคงที่เย่ฟ่านวาดไว้ บางพลีสถานที่แห่งนี้อาจเป็นสุสานเซียนอย่างแท้จริง
“บูม!”
ทันใดนั้น ก้อนหินที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาลอยขึ้นไปบนฟ้าและตกลงมาเหมือนคลื่นก่อนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
“เกิดอะไรขึ้น!?”
ผู้คนตกตะลึง ภูเขาหินสามร้อยหกสิบห้าลูกพังทลายลงทันที เหมือนกับคลื่นที่ซัดเข้าหากัน ความผันผวนของพลังปราณที่น่าสะพรึงกลัวทำให้ผู้คนจำนวนมากลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
“โอ้สวรรค์ เกิดอะไรขึ้น?!”
“ครืน!”
ใบหน้าของทุกคนซีดเผือด พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลย พวกเขาแทบจะขาดอากาศหายใจจากการสั่นสะเทือนเพียงครั้งเดียว
เหนือซากปรักหักพังนั้น มีคนมากกว่าสิบคนยืนอยู่ในอากาศ จักรพรรดิแห่งสี่ราชวงศ์หลักในจงโจว นักบวชจากซีม่อ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเป่ยหยวน และราชาอสูรแห่งหนานหลิง กำลังตรวจสอบสถานะการด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด
“บูม!”
ทันใดนั้นภูเขาโบราณค่อยๆ ผุดขึ้นจากพื้นดิน ราวกับพระจันทร์ขึ้นกลางทะเล งดงามตระการตา ดึงดูดใจผู้คน
“ถ้ำจักรพรรดิโบราณ พวกเขาพบประตูที่แท้จริง!” ชายชราตาบอดหน้าเปลี่ยนสี
ต้วนเต๋อก็ตกตะลึง หลังจากสังเกตอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขากล่าวว่า
“มีคนอยู่ที่นั่น ข้าคิดว่าข้าเป็นคนเดียวที่เข้าใจกลไกในสุสาน ไม่คิดว่าผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นจะค้นหายอดฝีมือที่สามารถเปิดประตูสุสานนี้ได้”
ที่รากของภูเขา มีประตูหินขนาดใหญ่คู่หนึ่ง มีอักขระโบราณสองตัวถูกสลักไว้ แต่มันเป็นตัวอักขระโบราณที่ไม่มีใครสามารถอ่านออกได้
“นี่คือเนื้อหาของคัมภีร์โบราณ!” มีคนอุทานออกมา และบุคคลอาวุโสบางคนก็ขมวดคิ้ว
“ข้ารู้แล้วว่าทำไมจึงมีวิญญาณเทพวนเวียนอยู่ที่นี่ นี่ไม่ใช่ซากศพของผู้อมตะ แต่มันเป็นซากศพของเทพคนนั้น!” ชายชราตาบอดพูดกับตัวเอง
“จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ๋ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องเคยมาที่นี่แล้ว มันจะต้องมีบางอย่างอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน ต้องค้นหามันให้ได้” การแสดงออกของต้วนเต๋อคาดเดาไม่ได้
“ก่อนยุคโบราณกาลมีเทพเจ้าจริงๆ?” เจวี่ยโหย่วฉิงตกใจ
“บรรพบุรุษของข้าบอกว่าไม่สมัยโบราณดินแดนของเราเชื่อมต่อกับอาณาจักรเซียนโดยตรงไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่?” ตงฟางเย่เต็มไปด้วยความสงสัยและสับสน
“บางทีที่นี่อาจเป็นประตูที่เชื่อมต่อไปยังอาณาจักรเซียนก็ได้”
เย่ฟ่านพูดกับตัวเอง และทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเสียงของเทพเจ้าที่เขาได้ยินต่อหน้าต้นไม้โบราณในลู่เฉิงซึ่งมีคำว่า “จักรพรรดิอมตะ”
เขาเงยหน้าขึ้นและจ้องไปที่คฤหาสน์โบราณแห่งนี้ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ จักรพรรดิอมตะเคยมาที่นี่หรือไม่ เขาเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์หรือเปล่า?
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ในจงโจว เผ่าพันธุ์อสูร เทพสงครามในหนานหลิง และเหล่าผู้ฝึกตนจากทะเลทรายตะวันตก พวกเขาทั้งหมดยังคงสงบนิ่งและไม่เคลื่อนไหว จ้องมองไปที่ประตูหินคู่นั้น
ประตูหินโบราณสูงแปดจั้ง แข็งแรงน่าเกรงขาม ทุกคนขมวดคิ้ว และคาดว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดประตูนี้
ในที่สุด บุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ฮั่วโบราณก็เดินออกจากฝูงชน เขาเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ก่อนจะเริ่มใช้พลังที่แข็งแกร่งของตัวเองผลักดันประตูให้เปิดออก
ปัง!
ประตูหินถูกขยับไปครึ่งจั้ง และมีแสงสว่างเล็ดลอดออกมาจากช่องว่าง ทุกคนประหลาดใจเพราะคิดว่าจะต้องใช้พยายามอย่างมากในการเปิดประตู แต่พวกเขาไม่คิดว่ามันจะง่ายดายขนาดนี้
กลิ่นหอมของยาที่เล็ดลอดออกมามีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก มันไหลผ่านช่องว่างประตูหิน ผู้คนมากมายเริ่มมัวเมา ราวกับว่าพวกเขากำลังจะลอยขึ้นไปบนฟ้า
เมื่อปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคล้วนอยู่ที่นี่ มันก็ไม่มีผู้ใดกล้าแทรกแซงการกระทำของพวกเขา และทำได้เพียงรอให้คนเหล่านี้เข้าไปข้างในทั้งหมดก่อน
“อมิตาภะ!” นักบวชชราผู้หนึ่งท่องพระนามพระพุทธเจ้า
ที่เรียกว่าอมิตาภะ เพราะเป็นชื่อของจักรพรรดิโบราณ แต่เป็นการยากที่จะบอกว่าเขาเกิดในทะเลทรายตะวันตกหรือไม่ เพราะมีตำนานเล่าขานว่าเขามาจากดาวโบราณนอกอาณาเขต
“ข้าจะเปิดทางเอง!”
ราชาอสูรแห่งหนานหลิงก้าวไปข้างหน้าประตูเปิดออกด้วยเสียงปัง และเขาเป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไปข้างใน
“ช่างเป็นกลิ่นหอมที่เข้มข้นเสียจริง ที่นี่มียาเซียนอยู่อย่างแน่นอน!”
“น่าเสียดายที่มีคนมากมายที่นี่ และไม่มีปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนไหนจะละเลยพวกมัน คงไม่มีอะไรตกมาถึงพวกเราแล้ว” ที่ด้านนอกมีคนมากมายตอนหายใจ
ประตูหินคู่หนึ่งเปิดออกกว้าง และหมอกหนาทึบก็พุ่งออกมา นี่คือพลังวิญญาณโดยกำเนิด ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปที่ด้านหน้าประตูเพื่อซึมซับพลังแห่งจิตวิญญาณนี้
“บัดซบ เสียเวลาไปตั้งมากมายสุดท้ายกลับปล่อยให้คนอื่นครอบครองยาวิเศษ” ต้วนเต๋อรู้สึกหงุดหงิด กระสับกระส่าย และบ่นอย่างโกรธเคือง
“บูม!”
เกิดเสียงดังขึ้นหลังประตู การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว เหล่าผู้ทรงพลังกำลังทำสงครามเพื่อชิงยาเซียน
“เข้าไปดูเถอะ!” ตงฟางเย่อดไม่ได้ เขารีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ที่ด้านข้างชายชราตาบอดทำการคำนวณอีกครั้ง และเขาตะโกนว่า “ไม่มีอันตราย มีโชควาสนาครั้งใหญ่กำลังรออยู่ รีบไปกันเถอะ!” ชายชราคนนี้ตื่นเต้นและมั่นใจมาก
“ตาแก่นี่ไปกินอะไรผิดสำแดงมา”
ตงฟางเย่บ่นพึมพำและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับชายชราตาบอด เย่ฟ่าน เจวี่ยโหย่วฉิง และต้วนเต๋อก็เดินเข้าไปข้างในเช่นกัน