บทที่ 6 ทำไมลูกถึงไม่รินชาให้เสี่ยวหยวน?
“อา!” แก้มของเหยียนหรูเยว่แดงขึ้นทันที
“คุณมาเพื่อยกเลิกการหมั้น คุณเอาหนังสือหมั้นมาด้วยไหม?” เหยียนหรูเยว่ถามด้วยเสียงสูงเล็กน้อย
เหยียนหรูเยว่รู้สึกราวกับถูกไฟดูดเมื่อสบตาเขา แก้มของเธอร้อนผ่าว และเธอก็พบหัวข้อที่จะสนทนาในทันที
หลินหยวนไม่สนใจมากนักเมื่อเห็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของเธอ
เขาโบกเอกสารสีแดงในมือแล้วพูดว่า “แน่นอนฉันนำมาแล้ว คุณวางใจได้ ฉันจะยกเลิกการหมั้นในวันนี้”
“โอ้! ดีมาก” เหยียนหรูเยว่พ่นลมแล้วเร่งฝีเท้า เดินนำหน้าหลินหยวนแทนที่จะเดินไปพร้อมกันกับเขา
“นี่คือผลจากค่าเสน่ห์ 150 หรือเปล่านะ?” หลินหยวนคิดในขณะที่เขาสัมผัสใบหน้าที่เรียบเนียนเหมือนหยก
หากคุณต้องการเป็นสุดยอดตัวร้ายที่เพียบพร้อม คุณไม่เพียงต้องมีลิ้นที่ลื่นไหลและรู้คำพูดที่ไพเราะ แต่ยังต้องมีการรับรู้ที่ดีด้วย
เขารู้ว่าเมื่อกี้นี้เหยียนหรูเยว่กำลังแอบมองมาที่เขา แต่เขาไม่ต้องการเปิดโปงมันและจงใจสบตากับเธอ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเหยียนหรูเยว่ที่เพิกเฉยและปฏิเสธที่จะคุยกับเขาเมื่อวานนี้จะแอบมองเขาในวันนี้ เขาไม่ได้คาดหวังถึงสิ่งนี้เลย
ผลของค่าเสน่ห์ของเขาไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่คิด ความแตกต่างของลักษณะนิสัยและรูปลักษณ์เป็นเหตุผลหลักที่เหยียนหรูเยว่ลอบมองมาที่เขา เขาไม่ได้คาดหวังว่าเมื่อพวกเขาสบตากัน เหยียนหรูเยว่รู้สึกเขินอายมากจนต้องเดินนำหน้าเขาไป อย่างที่คาดไว้ หญิงสาวผู้เย็นชายังคงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ราวกับเด็กสาว
หลินหยวนส่ายหัวและจ้องไปที่ขาขาวราวกับหยกของเธอขณะที่เธอเดินไปข้างหน้า
หลินหยวนไม่ต้องการมองไปที่อื่นและแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษที่ซื่อตรงแทนที่จะจ้องมองที่ขาขาวของเธอ
เขาต้องยอมรับว่าขาที่ขาวเหมือนหยกของเหยียนหรูเยว่เป็นสิ่งที่ผู้ชายนับไม่ถ้วนใฝ่ฝันถึง
เขาไม่ได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามมากนักเนื่องจากพวกเขามาถึงห้องรับแขกในเวลาไม่นาน
การตกแต่งห้องรับแขกขนาดใหญ่นั้นเรียบง่าย มีโต๊ะกาแฟขนาดเล็กพร้อมโซฟาสองสามตัวสำหรับแขก หญิงวัยกลางคนนั่งอยู่บนโซฟารอพวกเขาอยู่
“แม่ หนูพาเขามาแล้ว” เหยียนหรูเยว่พูดแล้วนั่งบนโซฟาและเล่นโทรศัพท์มือถือของเธอ
ซ่งซวนขมวดคิ้ว “มารยาทของลูกหายไปไหน? ลูกนั่งลงก่อนแขกได้ยังไงกัน”
“อึก!” เหยียนหรูเยว่คร่ำครวญและไม่พูดอะไร แน่นอน เธอรู้ว่ามันไม่สุภาพ แต่เธอกลัวว่าจะมีใครเห็นใบหน้าแดงก่ำของเธอ เธอจึงนั่งลงเพื่อปกปิดสิ่งนั้น
“เสี่ยวหยวน ฉันไม่ได้พบเธอมานานแล้ว เธอดูดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่! มาเถอะ ให้ป้าดูใกล้ๆหน่อย” ซ่งซวนเปลี่ยนสีหน้าของเธอทันทีและยิ้มขณะเผชิญหน้ากับหลินหยวน
ซ่งซวนไม่ได้แสร้งพูดตามมารยาทแต่เธอรู้สึกว่าหลินหยวนหล่อมากจริงๆ
“สวัสดีครับป้าซ่ง” หลินหยวนตอบกลับและเดินไปด้วยรอยยิ้ม
ซ่งซวนหัวเราะและมองไปที่หลินหยวนด้วยท่าทางอ่อนโยนหลังจากได้ยินเขาเรียกเธอว่าป้า เธอชอบที่เขาเรียกเธอว่าป้า แม้ว่ามันจะดูเหมือนบ่งบอกอายุของเธอ
หญิงวัยกลางคนคนนี้คือ ซ่งซวน แม่ของเหยียนหรูเยว่
ซ่งซวนเป็นผู้หญิงที่รอบรู้และเฉลียวฉลาด เธอสวมสูทแม้อยู่ที่บ้าน ซ่งซวนมีอิทธิพลต่อบุคลิกของเหยียนหรูเยว่อย่างมาก
“ป้ายุ่งอยู่กับงานและไม่ได้เจอเธอมาสามปีแล้ว เฮ้อ…” ซ่งซวนพูดอย่างอ่อนโยนกับหลินหยวน คล้ายกับผู้อาวุโสที่ใจดีและเป็นห่วงเป็นใย
“เยว่เอ๋อร์ ทำไมลูกถึงไม่รินชาให้เสี่ยวหยวน?” เธอขมวดคิ้วขณะพูดกับเหยียนหรูเยว่
“ค่า ค่า” เหยียนหรูเยว่ไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้นแต่เธอยังคงลุกขึ้นและรินชา ภายนอกเธอเป็นประธานสาวผู้เย็นชาแต่ก็ไม่กล้าแสดงด้านนั้นต่อแม่ของเธอ
“แค่กๆ…” ซ่งซวนไอสองสามครั้งเมื่อเหยียนหรูเยว่รินน้ำชา เธอดูเหมือนจะไม่สบาย
หลินหยวนและซ่งซวนเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่นเรื่องของครอบครัว
ในฐานะที่เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ซ่งซวนสามารถสนทนาได้เป็นอย่างดี
หลินหยวนเป็นคนที่มีไหวพริบ เขารู้เกี่ยวกับบุคลิกลักษณะของซ่งซวน ดังนั้นทั้งสองจึงมีการสนทนาที่กลมกลืนกันมาก
สายตาของซ่งซวนที่มีต่อหลินหยวนเริ่มนุ่มนวลมากขึ้น
ในที่สุดหัวข้อหลักก็ได้รับการกล่าวถึง
“เสี่ยวหยวน ทำไมเธอตัดสินใจที่จะถอนหมั้นล่ะ?” ซ่งซวนถามอย่างเคร่งขรึม
“ถ้าเธอไม่อยากถอนหมั้นก็ยังไม่สายเกินไปที่จะแก้ไขในตอนนี้นะ”
เหยียนหรูเยว่แสร้งเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือของเธอขณะฟังการสนทนาอย่างจริงจัง เธอเครียดเมื่อได้ยินคำพูดของซ่งซวน เธอรู้ว่าแม่ของเธอกำลังพูดอย่างจริงจัง การถอนหมั้นจะเป็นโมฆะทันทีที่หลินหยวนกลับคำพูด อย่างไรก็ตาม คำพูดของหลินหยวนทำให้เธอผ่อนคลาย
“คุณป้าครับ ผมตัดสินใจมาดีแล้ว หรูเยว่เป็นผู้หญิงที่ดีแต่เราอาจไม่เหมาะสมกัน การแต่งงานเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับคนสองคน เราไม่สามารถบังคับใครได้” หลินหยวนกล่าว
“ใช่… การแต่งงานเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับคนสองคน…” ซ่งซวนดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ไม่นานเธอก็เลิกขมวดคิ้วและพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “ตั้งแต่เธอตัดสินใจแล้ว ป้าจะไม่คัดค้านเธออีกต่อไป”
ซ่งซวนหันไปทางเหยียนหรูเยว่และพูดอย่างเย็นชาว่า “เสี่ยวหยวนเป็นเด็กดีมาก เป็นพรสำหรับลูกที่จะแต่งงานกับเขา น่าเสียดายที่ลูกไม่รู้วิธีที่จะทะนุถนอมมัน แค่กๆ…”
ซ่งซวนไออย่างรุนแรงสองสามครั้งหลังจากพูดแบบนั้น
“ไม่ว่าเขาจะดีแค่ไหนหนูก็ไม่ชอบเขา” เหยียนหรูเยว่ดูต่อต้านอย่างมากและกล้าที่จะพูดแบบนี้กับแม่ของเธอ
“ลูก… แค่กๆ…” ซ่งซวนขมวดคิ้วและอยากจะดุเหยียนหรูเยว่แต่เธอไอหลายครั้งโดยไม่ได้พูดอะไร
“คนเราควรมีอิสระในการเลือกคู่แต่งงาน…” เหยียนหรูเยว่ต่อต้านอย่างมากในเรื่องนี้และยังคงพึมพำต่อไป
หลินหยวนไม่ได้ต้องการที่จะยุ่งในเรื่องของครอบครัวคนอื่น แต่เขาเพิ่งมีการสนทนาที่ดีกับซ่งซวนและไม่สามารถละเว้นจากการพูดว่า “ทำไมคุณถึงยังพูดแบบนี้อยู่อีก? คุณไม่เห็นคุณป้าไอไม่หยุดเหรอ”
อย่างไรก็ตาม เหยียนหรูเยว่ไม่ได้เตรียมที่จะหยุดการพูดคุยเพียงเท่านี้ เธอรู้สึกว่าจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้วในอนาคต เธอจึงต้องการพูดกับแม่ของเธอ
เธอต้องการทำให้ชัดเจนในวันนี้!
“ถ้าไม่มีอิสระภาพในการเลือกคู่แต่งงาน คนเราจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร” เหยียนหรูเยว่กล่าวด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ
“แค่กๆๆ…” ในอีกด้านหนึ่ง ซ่งซวนไอรุนแรงขึ้นไปอีก
ซ่งซวนหลับตาลงอย่างกะทันหันและทรุดตัวลงกับพื้น
**********