บทที่ 10 ดวงตาที่สดใสมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่งดงาม
แม้ว่าอากาศจะร้อนและชุดมาสคอตก็เหมือนเตาอบ แต่มาสคอตยังต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการทำงาน อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านวัยกลางคนซึ่งนั่งอยู่ในร้านติดเครื่องปรับอากาศยังคงไม่พอใจเล็กน้อย
“ตะโกนเรียกสิ! ไม่ได้กินข้าวมาหรือไง? ฉันไม่ได้ให้เงินแก 80 หยวนทุกวันเพื่อมาทำแบบนี้” ผู้จัดการร้านวัยกลางคนรูปร่างอ้วนและเต็มไปด้วยไขมัน เขารู้สึกร้อนแม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะทำงานอยู่
เขาหงุดหงิดและดุพนักงานพาร์ทไทม์เพื่อระบายความโกรธ
เขาคิดอยู่ว่าจะระบายความโกรธของเขาอย่างไร วันนี้พนักงานพาร์ทไทม์มาสายและเขารู้สึกพึงพอใจที่จะข่มขู่เธอด้วยค่าจ้างของเธอ
ขณะนี้เกิดความโกลาหลขึ้นนอกร้าน ผู้จัดการร้านร่างอ้วนมองดูความโกลาหลภายนอกอย่างสงสัย ฝูงชนรีบไปมุงดูและหลายคนถึงกับหยิบมือถือออกมาถ่ายรูป
ในขณะนั้นมีรถยนต์สีเงินหรูหราปรากฏขึ้นที่หน้าร้าน ประตูรถหรูเปิดออกและชายคนหนึ่งเดินออกมา ชายคนนั้นมีใบหน้าที่โดดเด่นและรูปร่างสูง เขาดึงดูดสายตาของผู้หญิงนับไม่ถ้วนในขณะที่เขาเดินออกมา แน่นอนว่าเขาคือหลินหยวน
“เชี่ย! ลัมโบร์กินีอเวนทาดอร์!”
“บัดซบ! ที่ข้อมือเขานั่นมันนาฬิกาปาเต็กฟิลิปป์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นมูลค่าอย่างน้อยก็ห้าล้านเหรียญ!”
“พวกคุณมองคนเพียงผิวเผินและเห็นแต่เงินในสายตารึไงกัน ดูหน้าตาเขาสิ”
“โอ้พระเจ้า! เขาหล่อสุดๆ แม้แต่ดาราก็ยังต้องชิดซ้ายเมื่อทียบกับเขา”
ผู้คนนับไม่ถ้วนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปหลินหยวน
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้คนที่เดินผ่านไปมาเหล่านี้ ผู้จัดการร้านร่างอ้วนก็รีบเช็ดเหงื่อออกจากร่างกายและรีบวิ่งออกไปต้อนรับลูกค้าอย่างรวดเร็ว เขาผลักมาสคอตที่ประตูในขณะที่พูดอย่างกังวล
“เธอตาบอดหรือไง? ออกไปได้แล้ว! เกะกะจริงๆ!” ผู้จัดการร่างอ้วนได้สบถด่าเมื่อเขาเห็นคนๆนั้น
จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปหาหลินหยวน โค้งตัวก้มศีรษะและก้มหน้าก้มตาอย่างนอบน้อมแล้วพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาว่า “นายน้อยครับ มีอะไรให้ผมรับใช้มั้ยครับ? เสื้อผ้าแฟชั่นของเรามีหลากหลายสไตล์…”
“ออกไป!” หลินหยวนตอบเขาเพียงคำเดียว
“ได้ครับท่านๆ!” ผู้จัดการร้านร่างอ้วนออกไปทันทีหลังจากได้ยินหลินหยวนพูดแบบนั้น
ขณะที่เช็ดเหงื่อและไขมันบนหน้าผาก เขาไม่เข้าใจว่าเขาไปทำให้นายน้อยโกรธตอนไหน ผู้จัดการร้านร่างอ้วนรู้สึกวิตกเล็กน้อย เขาแสดงท่าทางประจบสอพลอไม่เพียงเพราะหลินหยวนดูมั่งคั่งแต่ยังดูเป็นนายน้อยจากตระกูลสูงส่งอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกคุ้นๆกับบุคคลนี้…
【ติ๊ง! นางเอกล้ม! โปรดตัดสินใจเลือก!】
【ทางเลือกที่ 1: เมินเฉยและจากไป รางวัล: ทักษะเอ้อร์หูขั้นสูง! 】
【ทางเลือกที่ 2: ช่วยเหลือเธอ! รางวัล: ทักษะเปียโนขั้นสูง! 】
[1]เอ้อหูเป็นเครื่องดนตรีจีนแบบสองสายซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นซอใต้ และบางครั้งเป็นที่รู้จักในโลกตะวันตกว่า ไวโอลินจีน หรือ ไวโอลินสองสายของจีน
จุดประสงค์ของหลินหยวนที่มาที่นี่เนื่องจากนางเอกคนที่สองดังนั้นเขาจึงเลือกตัวเลือกที่สองโดยไม่ต้องคิด
“ติ๊ง! รับรางวัล: ทักษะเปียโนขั้นสูง!”
หลินหยวนเข้าใจบางสิ่งเมื่อเขาได้รับข้อความแจ้งเตือน
ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับรางวัลเมื่อเจอพล็อตเรื่องในนวนิยายต้นฉบับ ตัวอย่างหนึ่งคือการพบเจอนางเอกก่อนหน้าตัวเอก ความสำคัญของตัวละครและอิทธิพลที่มีต่อเนื้อเรื่องเป็นตัวกำหนดรางวัล เหยียนหรูเยว่เป็นนางเอกหลักของนวนิยายเรื่องนี้ ดังนั้นรางวัลที่เลือกได้จึงเป็นทักษะระดับพระเจ้า ซึ่งนางเอกคนที่สองจะมีอิทธิพลต่อเนื้อเรื่องน้อยกว่าและด้วยเหตุนี้ตัวเลือกรางวัลจึงเป็นทักษะขั้นสูงแทน
หลินหยวนไม่สนใจผู้จัดการร้านร่างอ้วนและคนที่เดินผ่านไปมาที่กำลังถ่ายรูปเขาอย่างบ้าคลั่ง เช่นเดียวกับหญิงสาวทั้งหลายที่มีใบหน้าแดงก่ำ เขาเดินตรงไปยังมาสคอตหมีซึ่งถูกกระแทกและนอนอยู่บนพื้น เขาพยุงเธอขึ้น
“คุณเป็นอะไรไหม?” หลินหยวนถาม
ฉิวว่านซีได้ยินเสียงอ่อนโยนเจือความกังวลดังขึ้น
เธอรีบตอบว่า “ไม่เป็นไร! ฟู่ว!”
เธอหอบหายใจขณะพูด
“มันร้อนและอบอ้าวภายในชุดหมีหรือเปล่า” หลินหยวนถามในขณะที่ยังคงช่วยเธอต่อไป
“ก็ร้อนนะ… แต่ยังพอทนได้!” ฉิวว่านซีรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงการถอดหมวกมาสคอตของชุดหมี
เธอมองเห็นไม่ชัดในชุดหมี แต่ตอนนี้ ฉิวว่านซีสามารถเห็นคนที่ช่วยเหลือเธอได้
หล่อมาก!
นี่เป็นความประทับใจครั้งแรกของฉิวว่านซี
เขามีผมสั้นสีดำ ใบหน้าเรียบคมราวกับหยก ดวงตาของเขาดูล้ำลึก จมูกโด่งและรูปร่างสูง
หน้าเธอแดงแทบจะในทันที มันแดงกว่าตอนที่อยู่ในชุดหมีเสียอีก
“การอยู่ในชุดหมีนั้นทำให้คุณหายใจไม่ออกจนใบหน้ากลายเป็นสีแดงและมีเหงื่อออก อย่าใส่มันอีกต่อไปเลย” หลินหยวนยิ้มเล็กน้อย ถอดหัวของมาสคอตวางไว้บนพื้นและปัดผมหน้าม้าที่ติดอยู่กับหน้าผากของฉิวว่านซีออก
การกระทำของหลินหยวนทำให้ฉิวว่านซียิ่งเขินอาย
ในความเป็นจริงหลินหยวนก็ประหลาดใจเช่นกันเมื่อเขาถอดหมวกมาสคอตของเธอและปัดผมของเธอ
หลินหยวนรู้ว่าฉิวว่านซีเป็นหนึ่งในนางเอกของนวนิยายเรื่องนี้
ในนวนิยายอธิบายไว้ว่าฉิวว่านซีสวยมากและเป้าหมายของเขาในการมาครั้งนี้ก็คือฉิวว่านซี อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้พบกันแล้วเขาจึงเข้าใจว่าเธอสวยขนาดไหน
ความงามของเธอแตกต่างจากของเหยียนหรูเยว่ เหยียนหรูเยว่งดงามชนิดที่ว่าเขาไม่เคยเจอใครที่สวยงามกว่าเธอในชีวิตก่อนหน้านี้ แต่ฉิวว่านซีก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน
เธอมีใบหน้ารูปไข่แวววาวเหมือนหยก ดวงตาสดใสและฟันขาวสะอาด ทำให้ใบหน้าดูงดงาม ความเขินอายของเธอพร้อมกับแก้มสีแดงระเรื่อทำให้เธอยิ่งดูน่ารักขึ้นไปอีก ดวงตาฟีนิกซ์สีแดงกลมโตและสว่างของเธอนั้นดึงดูดใจหลินหยวนมากที่สุด
ในขณะนั้นเธอไม่กล้าสบตาเขาและแสร้งทำเป็นแหงนหน้ามองขึ้นไป
หลินหยวนทนไม่ไหวและจบลงด้วยการหัวเราะ “ดวงอาทิตย์ส่องประกายบนท้องฟ้า ตาของคุณไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อมองมันเหรอ?”
“ก็…นิดหน่อย” ฉิวว่านซีโพล่งออกมาแล้วปิดปากของเธอด้วยความเขินอายทันที
เธอเกือบจะบอกว่าหลินหยวนเป็นประกายมากกว่าดวงอาทิตย์ในเวลานี้เสียอีก
**********