ตอนที่ 157 ปรับปรุงโรงงาน
"พี่สามครับ ก่อนไปโรงงานเดี๋ยวพวกเราไปกินข้าวกันก่อนเถอะครับ ผมได้จองโรงแรมไว้แล้ว"
ลู่กั๋วเฉียงพูดด้วยรอยยิ้ม
"ไปโรงงานก่อน"
ซูข่านพูดเบาๆ สายตาของเขามองไปที่ถนน
"อึ้ก"
ลู่กั๋วเฉียงกลืนน้ำลายอึ้กใหญ่ เขากลัวว่าซูข่านจะโกรธกับเรื่องที่เขาทำไปทั้งหมด
รู้ไหมว่าเวลาพี่สามโกรธเขาจะแตกต่างไปจากคนอื่น พี่สามไม่ได้ด่าด้วยคำหยาบหรือว่าสาปแช่งอะไรแม้แต่น้อย
เขาพูดเพียงแค่ 2-3 คำเท่าานั้น
แต่คำพูดของพี่สาม กลับทำให้ลู่กั๋วเฉียงกลัวจนแทบจะร้องไห้มาแล้ว
"ได้ครับพี่สาม เดี๋ยวเลี้ยวตรงด้านหน้านี้เลย"
ลู่กั๋วเฉียงพยายามที่จะฝืนยิ้ม
"ตอนนี้ไม่ไกลจากโรงงานแล้วครับ"
จากนั้นไม่นาน ประมาณ 20 นาที รถก็ได้ขับมาถึงเขตอุตสาหกรรม
"นั่นครับ"
ลู่กั๋วเฉียงได้ชี้ไปยังโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ด้านหน้า
ซูข่านได้ลดหน้าต่างรถลง เขาเห็นป้ายตรงประตูทางเข้า มันเขียนชื่อไว้ว่า
"โรงงานอิเล็กทรอนิกส์กั๋วเฉียง"
มันเป็นชื่อของลู่กั๋วเฉียง ซึ่งซูข่านก็รู้สึกว่ามันเหมาะสมดีแล้ว
ที่นี่ยังเป็นเพียงโรงงานเล็กเท่านั้น มันไม่เหมาะที่จะใช้ชื่อของว่านเซี่ยง
"เปิดประตู"
ลู่กั๋วเฉียงได้ลงจากรถไปที่ห้องรักษาความปลอดภัยหน้าโรงาน
จากนั้นก็มีชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40-50 ออกมาจากห้อง เขารีบไปเปิดประตูให้กับลู่กั๋วเฉียง
ซูข่านได้รอประตูเปิด จากนั้นเขาก็ได้ขับรถเข้าไปข้างในโรงงาน
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยง ตอนที่ซูข่านกำลังขับรถเข้ามาในโรงงาน เขาก็ได้เห็นคนงาน 3-5 กลุ่ม กำลังเดินไปที่ไหนสักที่อยู่
"พวกเขากำลังไปโรงอาหารเพื่อกินข้าวเที่ยงกันครับ"
ลู่กั๋วเฉียงที่นั่งอยู่ข้างๆซูข่านได้อธิบาย
"ที่นี่มีคนเยอะขนาดนี้เลยเหรอพี่กั๋วเฉียง"
จางเฉียงมองซ้ายมองขวารอบรถและถามลู่กั๋วเฉียงด้วยความประหลาดใจ
ระหว่างทางที่ขับเข้ามา พวกเขาได้เห็นคนไปประมาณ 200-300 คนแล้ว ทุกคนดูเหมือนกำลังจะเดินไปที่เดียวกัน
"ใช่"
ลู่กั๋วเฉียงพยักหน้า
"ทำได้ดีมาก ดูภาพรวมแล้วตอนนี้โรงงานของนายดูไม่เลวเลย"
ซูข่านได้มองไปรอบๆแล้วก็พูดลู่กั๋วเฉียง
ลู่กั๋วเฉียงถอนหายใจด้วยความโล่งอกก ดูเหมือนว่าพี่สามจะชอบโรงงานเล็กๆของเรา เขาได้ยิ้มออกมาเล็กน้อย
"โรงอาหารอยู่ที่ไหน?"
ซูข่านได้สงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับโรงอาหารของโรงงานในยุคนี้
"พี่สามครับ ผมได้จองโรงแรมไว้แล้ว เดี๋ยวพวกเราไปกินข้าวที่นั่นกันก็ได้"
ลู่กั๋วเฉียงรีบพูดขึ้นมาอย่างลุกลี้ลุกลน
"ไม่เป็นไร"
ซูข่านส่ายหัว
"ฉันเบื่อที่จะกินเนื้อทุกมื้อแล้ว ตอนนี้ฉันอยากกินอาหารในโรงงานบ้าง"
จากนั้นลู่กั๋วเฉียงก็ได้บอกทางไปโรงอาหารแก่ซูข่าน ไม่นานซูข่านก็ได้ขับมาถึง
เขาได้จอดรถแล้วเดินเข้าไปที่โรงอาหารทันที
ลู่กั๋วเฉียงที่นั่งอยู่บนรถเห็นแบบนั้น เขารู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา
ไม่ว่าเขาจะอยากหยุดซูข่านขนาดไหน แต่ซูข่านก็ไม่ยอมฟังเขา ตอนนี้ซูข่านได้เดินเข้าไปในโรงอาหารแล้ว
ลู่กั๋วเฉียงกัดฟันของเขาและรีบวิ่งตามซูข่านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อซูข่านเข้ามาในโรงอาหาร ภาพตรงหน้าของเขาทำให้ซูข่านช็อคไป 5 วินาที เขาตะลึงจนเผลออ้าปากค้างออกมา
"อะไรวะเนี่ย!!"
ซูข่านหันมองไปทางซ้ายทีทางขวาที เขาขยี้ตาตัวเองไปมา
คนงานที่เดินผ่านหน้าเขาได้ถือชามข้าวเดินไปนั่งกินกัน
จะบอกว่าข้าวก็ไม่เหมือนข้าวซะทีเดียว มีบางอย่างที่วางอยู่ข้างบน มันดูคล้ายกับมันฝรั่งบด
เหมือนกับเป็นแค่มันฝรั่งที่เอาไปต้มและเอามาบดกับเกลือ ราดไว้บนข้าวเท่านั้น นี้คือมื้อเที่ยงของคนงานอย่างงั้นเหรอ?
ซูข่านคิดไม่ออกเลยว่ารสชาติของมื้อเที่ยงพวกคนงานเหล่านี้จะเป็นยังไง
"ไม่คิดเลยว่าอาหารโรงงานนี้จะอร่อยขนาดนี้"
"ใช่ๆ ดีกว่าที่กินที่บ้านอีก อาหารก็อร่อย เงินเดือนก็เยอะ"
เสียงของคนงานที่กำลังกินข้าวต่างพูดคุยกัน
ซูข่านหรี่ตาลงมอง เขารู้สึกตลกเล็กน้อย คนงานพวกนี้คิดว่าอาหารธรรมดาแบบนี้อร่อยอย่างงั้นเหรอ?
ใบหน้าของพวกเขาดูมีความสุขกับการได้กินอาหารที่นี่อยู่มาก
ซูข่านได้ตัดสินใจไม่เข้าไปพูดคุยกับเหล่าคนงาน เขาได้หันหลังแล้วเดินออกมาข้างนอก
ลู่กั๋วเฉียงที่กำลังเข้ามาในโรงอาหารเห็นซูข่านเดินกลับออกมาก็ตกใจเล็กน้อย
พี่สามไม่พอใจโรงอาหารงั้นเหรอ?
เขารีบวิ่งตามซูข่านไปยังข้างนอก คนที่อยู่บนรถก็งุนงง พวกเขาเห็นพี่สามเดินเข้าไปและออกมาอย่างรวดเร็ว
ซูข่านได้เดินออกไปแล้วไปหยุดที่ต้นไม้ในสวน ตาของเขาได้มองเหล่าคนงานที่กำลังเดินมาที่โรงอาหาร
คนงานเหล่านี้ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่แถวนอกเมืองไปจนถึงสลัม คนเหล่าพวกนี้มีฐานะที่ยากจนมาก
บางครอบครัวก็มีลูกมากเกินไป บ้านของพวกเขาก็มีขนาดเพียงนิดเดียว ซูข่านคิดว่าพวกเขาแทบจะต้องนอนซ้อนกันด้วยซ้ำ
อาหารที่พวกเขาได้กินก็คงมีเพียงน้ำเปล่า ถ้าวันไหนโชคดีก็คงมีข้าวมาประทั่งชีวิตไม่กี่จาน
และแน่นอน ไม่มีกับข้าวสำหรับพวกเขาแน่ๆ นอกเหนือซะจากไปตกปลาที่แม่น้ำเอาเอง
คนพวกนี้เลยจำเป็นต้องมาทำงานที่เผิงเฉิงเพื่อส่งเงินกลับไปที่บ้าน การที่โรงงานมีข้าวเที่ยงเลี้ยงให้กับพวกเขา น่าจะทำให้พวกเขาอิ่มท้องไปจนถึงมื้อเย็น
พวกเขาเป็นคนที่สู้ชีวิตมาก พวกเขาต้องสู้เพื่อครอบครัวที่อยู่ที่บ้าน ไม่แปลกใจทำไมคนงานในประเทศจีนถึงได้มีมากมาย หากไม่มีคนเหล่านี้แล้ว ประเทศจีนคงไม่สามารถเป็นที่ 1 ในเรื่องโรงงานได้
"พี่สามครับ"
ลู่กั๋วเฉียงได้ตามมาหาซูข่าน เขาเห็นซูข่านกำลังมองอะไรบางอย่างอยู่ เขาคิดว่าซูข่านน่าจะโกรธอะไรบางอย่างอยู่ แต่เขาก็ได้ตัดสินใจที่จะเรียกซูข่านอีกครั้ง
"กั๋วเฉียง"
ซูข่านได้หันไปถามลู่กั๋วเฉียงด้วยสายตาที่จริงจัง
"บอกฉันสิ อาหารในโรงงานของเผิงเฉิงทั้งหมดเป็นเหมือนกันรึเปล่า?"
ลู่กั๋วเฉียงพยักหน้า
ซูข่านส่ายหัวของเขาและพูดต่อว่า
"เราต้องทำการเปลี่ยนแปลง เราจะไม่เป็นเหมือนกับโรงงานอื่น"
"แล้วผมต้องทำยังไงครับพี่สาม"
ลู่กั๋วเฉียงถามด้วยความสงสัย
ซูข่านพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ
"ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป มันฝรั่งราดข้าวแบบนี้ ไปจัดการให้คนงานสามารถกินได้ 2 จาน"
"ในเวลา 1 สัปดาห์ ต้องมี 3 วันที่เมนูอาหารจะต้องมีเนื้อสัตว์"
"ถึงแม้ว่ามันจะต้องใช้เงินเพิ่มก็ต้องยอม"
"มันสามารถเพิ่มขวัญและกำลังใจของคนงานได้อย่างดี พวกเขาจะได้ทำงานให้กับเราได้อย่างเต็มที่"
"ถ้าท้องอิ่มแล้ว คุณภาพของงานก็จะต้องออกมาดี ใครกันที่อยากจะทำงานไปแล้วหิวไป"
ใน 1 สัปดาห์มีเนื้อสัตว์ถึง 3 วัน
สวัสดิการอาหารเที่ยงแบบนี้ไม่สามารถหาได้ที่ไหนในประเทศจีน นี่คือไฟแห่งความหวังที่จะส่องนำทางให้กับคนงานของโรงงานแห่งนี้