ตอนที่ 156 โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ในเผิงเฉิง
หลังจากนั้นไม่นานซูข่านก็รู้สึกตัวอีกครั้ง
"หมิงเจียง"
ซูข่านได้ตะโกนเรียกหมิงเจียง
"ครับพี่สาม"
ซงหมิงเจียงได้เดินเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
ซูข่านได้พูดกับซงหมิงเจียงว่า
"เดี๋ยวอีก 2 วัน พวกเราจะไปเผิงเฉิงกัน นายไปหาคนติดตามมาสัก 1-2 คน"
"ครับพี่สาม"
ซงหมิงเจียงพยักหน้า จากนั้นซูข่านก็ได้หันไปมองจางเฉียงและพูดกับเขาว่า
"จางเฉียงนายก็ได้ด้วย วางงานทั้งหมดในมือแล้วไปเผิงเฉิงกับฉัน"
"ผมด้วยเหรอ?"
จางเฉียงเอามือมาชี้ที่ตัวเองด้วยความสงสัย
"ใช่"
ซูข่านพยักหน้า
"นายควรไปเปิดโลกที่เผิงเฉิงบ้าง นายจะได้รู้ว่าโลกมันไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว"
"นายอยู่หนานจิงมาตั้งแต่เกิดไม่ใช่เหรอ? นายคิดว่าที่อื่นจะเหมือนกับหนานจิงอย่างงั้นเหรอ?"
ซูข่านต้องการพาจางเฉียงไปเปิดโลกที่เผิงเฉิงอีกคน
แม้ว่าเมืองหนานจิงจะใหญ่โตแค่ไหน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับโลกใบนี้แล้ว เมืองนี้ก็เป็นเพียงซอยเล็กๆเท่านั้น ไม่มีอะไรน่าดึงดูดให้เดินเข้ามาด้วยซ้ำ
"ครับพี่สาม"
จางเฉียงพยักหน้าและพูดต่อว่า
"เดี๋ยวผมจะรีบไปจัดการงานของผมก่อน ถ้าผมจัดการอะไรเสร็จจะรีบมาบอกพี่ครับ"
ซูข่านพยักหน้า เขามองดูซงหมิงเจียงและจางเฉียงที่กำลังเดินออกจากบ้านไป
…
สามวันต่อมา
"พี่สามครับ"
ซงหมิงเจียงได้พาชายหนุ่มร่างกายกำยำมาด้วย 2 คน
"เสี่ยวจุน และไทเกอร์ นี่คือคนที่ผมเลือกให้เดินทางไปเผิงเฉิงด้วยครับ"
ซูข่านเคยได้เจอไทเกอร์แล้วครั้งก่อน ส่วนเสี่ยวจุนนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอ เขาดูอายุมากกว่าไทเกอร์ซะอีก ซงหมิงเจียงดูเด็กลงไปเลยถ้าเทียบกับสองคนนี้
เสี่ยวจุนก็น่าจะกลับมาสงครามเช่นเดียวกัน เห็นว่าบ้านของเขาอยู่ในภาคกลางของประเทศจีน เขาเป็นคนกลุ่มที่สองที่มาที่หนานจิง
"พร้อมกันยัง?"
ซูข่านมองไปยังทั้งสามคน
ซงหมิงเจียงพูดด้วยรอยยิ้ม
"พวกเราพร้อมแล้วครับพี่สาม"
"ปรื้น!!"
จากนั้นก็มีเสียงแตรดังขึ้นที่หน้าบ้าน จากนั้นจางเฉียงก็ได้เดินเข้ามาในบ้าน
"พี่สามครับ รถพร้อมแล้ว ไปกันเถอะครับ"
ซูข่านพยักหน้า ทั้งหมดก็ได้เดินออกจากบ้าน
มีรถตู้จอดอยู่ที่หน้าบ้าน รถก็อยู่ในสภาพปกติ
หลังจากขึ้นรถแล้ว ทั้งหมดก็ไปเดินทางไปยังสถานีรถไฟ
จริงๆแล้วพวกเขาสามารถนั่งเครื่องบินไปยังเมืองกวางตุ้งได้ จากนั้นก็ต่อรถไปยังเผิงเฉิง
ที่เผิงเฉิงยังไม่มีสนามบินและสถานนีรถไฟ การเดินทางไปที่นั่นสามารถไปได้เพียงรถยนต์ธรรมดาเท่านั้น
เมื่อถึงที่สถานีรถไฟ พวกเขาก็ขึ้นไปยังห้องนอนบนรถไฟทันที
ซูข่านได้จองตั๋วสำหรับนอนไว้ให้กับทุกคน เขาได้บอกให้จางเฉียงมาจัดการจองตั๋วตั้งแต่วันก่อนแล้ว
ระหว่างที่เดินทาง ซูข่านก็ได้หลับๆตื่นๆ เขามองออกไปที่หน้าต่าง รถไฟเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ
น่าเสียดายที่ยุคนี้ยังไม่มีรถไฟฟ้าความเร็วสูง
แต่ถ้าในอีก 10 ปีข้างหน้า การเดินทาง การขนส่งภายในประเทศด้วยรถไฟความเร็วสูง ทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
มีเสียงเอะอะโวยวายในรถไฟตู้นอนของพวกเขา
ซูข่านได้หันไปมองก็เห็นว่าจางเฉียง ซงหมิงเจียง และไทเกอร์ ทั้งสามคนกำลังนั่งล้อมวงทำอะไรบางอย่างอยู่
ซูข่านได้เดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นว่าทั้งสามคนกำลังเล่นไพ่กันอยู่
"เอ๊ะพี่สาม พี่เล่นด้วยไหมครับ"
ซงหมิงเจียงได้หันมาเห็นซูข่านแล้วก็ยืนขึ้น
"ลองดู"
ซูข่านยิ้มและเข้าไปนั่งแทนที่ซงหมิงเจียง
รถไฟมันวิ่งช้าจะตาย อย่างน้อยขอเล่นไพ่แก้เบื่อละกัน
จางเฉียงเริ่มแจกไพ่หลังจากที่ซูข่านได้นั่งลง ซูข่านเปิดไพ่มือของเขาก็พบว่าเขานั้นโชคดีมาก
ไพ่บนมือของซูข่านก็คือ คิง กับ 3 ส่วนบนโต๊ะที่วางก็มี คิง 7 5 3 3
ซูข่านได้ฟูลเฮ้าส์
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ได้เล่นไปอีก 2-3 เกม ซูข่านเป็นผู้ชนะทั้งหมด เขาเหลือบไปเห็นจางเฉียงและไทเกอร์ดูหงุดหงิดเล็กน้อย ทั้งสองคนนี้ยังไม่เชี่ยวชาญไพ่สักเท่าไหร่
ซูข่านไม่ได้สนใจ นี่เป็นการเล่นแก้เบื่อเท่านั้น หากว่าเป็นคาสิโนค่อยจริงจังกว่านี้ก็ได้
รถไฟวิ่งไปอย่างช้าๆ ไม่นานรถไฟก็ได้เดินทางมาถึงมณฑลกวางตุ้ง
จากนั้นก็ได้ใช้เวลาอีก 2-3 ชั่วโมงกว่าจะเดินทางมายังเผิงเฉิง
ซูข่านและคนอื่นๆลงจากรถ เขาเห็นว่าเผิงเฉิงที่อยู่ตรงหน้าเขาดูแตกต่างไปที่เขาเคยมาในครั้งก่อนเล็กน้อย มีคนจำนวนมากกำลังเดินไปมาอย่างรวดเร็วและแน่นอนในมือของพวกเขาก็ถือถุงใบใหญ่อยู่
ตรงหน้าพวกเขาตอนนี้เต็มไปด้วยคนจำนวนมาก
"โห คนเยอะจัง"
จางเฉียงตกใจ ที่นี่ดูมีคนเยอะกว่าในหนานจิงอื่น ขนาดหนานจิงเป็นเมืองขนาดใหญ่ ยังดูคนไม่เยอะเท่าที่นี่เลย
"พวกเขาเดินทางมาที่นี่แล้วเอาของกลับไปที่เมืองของพวกเขา เหมือนกับจางโกวซิงเมื่อก่อน"
ซูข่านพูดอธิบายเบาๆ
"เหมือนกับจางโกวซิงเมื่อก่อน"
จางเฉียงได้พูดทวนคำของซูข่านด้วยความประหลาดใจ
"พี่สามนั่นใช่ลู่กั๋วเฉียงรึเปล่าครับ"
ทันใดนั้นซงหมิงเจียงก็ได้ชี้ไปยังกลุ่มฝูงคน
"ใช่ๆ นั่นพี่กั๋วเฉียง"
จางเฉียงได้มองตามแล้วก็พูดด้วยความตื่นเต้น
ซูข่านพยักหน้าและพูดว่า
"เขามารับพวกเราน่ะ รีบไปหาเขากันเถอะ"
ซูข่านได้เดินนำทั้ง 4 คนไปหาลู่กั๋วเฉียง ลู่กั๋วเฉียงได้เห็นซูข่านเขาก็รีบเขามาทักทายอย่างรวดเร็ว
"สวัสดีครับพี่สาม"
ลู่กั๋วเฉียงได้ยิ้มและพูดอย่างตื่นเต้น
"นายดูเปลี่ยนไปนะ"
ซูข่านเห็นว่าลักษณะของลู่กั๋วเฉียงได้เปลี่ยนไป เขาดูดีขึ้นมากๆ ซูข่านตบที่ไหล่ของเขาเบาๆและมองไปที่รถที่อยู่ด้านหลัง
"นี่คือรถของหัวหน้าสู ผมยืมมารับพี่สามครับ"
ลู่กั๋วเฉียงพูดด้วยรอยยิ้ม
"ใช้ได้"
ซูช่านพยักหน้า รถของเหลาสูดูดีไม่เบา ซูข่านได้เดินไปมองดูรอบๆรถ จากนั้นเขาก็ได้เอามือลูบกับตัวรถเล็กน้อย
นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ขับรถ
"แกร๊ก"
จากนั้นลู่กั๋วเฉียงได้วิ่งมายังที่นั่งคนขับและเปิดประตูเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว ส่วนอีก 4 คนก็ได้ขนของขึ้นรถอย่างขยันขันแข็ง
ซูข่านได้เปิดประตูที่นั่งข้างคนขับแล้วพูดกับลู่กั๋วเฉียง
"กั๋วเฉียง ฉันจะขับรถคันนี้เอง"
"เอ๊ะพี่สาม"
"มันเป็นรถของ…"
"เฮ้"
ซูข่านพูดขัดคำพูดของลู่กั๋วเฉียง
"ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ขับรถไปชนคันหน้าหรอก เร็ว!! รีบลุกได้แล้ว"
แน่นอน ซูข่านเป็นคนที่มาจากตระกูลซู เขาได้รับการฝึกสอนขับรถไว้เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ขนของเสร็จซงหมิงเจียงและคนอื่นๆก็ได้นั่งที่ด้านหลัง ส่วนลู่กั๋วเฉียงได้นั่งข้างๆกับซูข่าน เขาได้มองไปที่ซูข่านด้วยความกังวลเล็กน้อย
จากนั้นซูข่านก็ได้สตาร์ทรถอย่างรวดเร็วและขับออกไปทันที ซูข่านขับรถเร็วมาก
ลู่กั๋วเฉียงที่นั่งอยู่ข้างหน้า เขาเบิกตากว้างออกมา และกลืนน้ำลายด้วยความตกใจ
พี่สามไปเรียนขับรถมาตอนไหนกัน ถึงแม้จะขับเร็วแต่ก็ขับดีกว่าเขาซะอีก
ซูข่านยิ้มขณะที่กำลังขับรถ เขารู้สึกมีความสุขมาก
รถมุ่งหน้าไปทางเผิงเฉิงอย่างรวดเร็ว ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาพวกเขาทั้งหมดก็ได้เดินทางมาถึงเผิงเฉิง
"กั๋วเฉียง พาฉันไปดูโรงงานของนายหน่อย"
ซูข่านพูดกับลู่กั๋วเฉียงเบาๆ