ตอนที่ 44 ฟังก์ชันผสมสกิล
หลังจากนั้นไม่นาน
หลิงอี้คลายคำสาปครั้งสุดท้ายให้หลินซูโหรวในห้องโถง
คำสาปฝันร้ายที่ล้อมรอบหลินซูโหรวหายไปและเธอกลับมาเป็นปกติ
ความจริงแล้วหลิงอี้สามารถปกป้องหลินชูโหรวจากผลของ‘คำสาปฝันร้าย’ได้ด้วยการใช้ผลของ[ยันต์คุ้มกันบ้าน]ตอนที่เธออยู่ในบ้าน
แต่ตอนนี้มันไม่จำเป็นแล้ว
“ขอบคุณ”
หลังจากคลายคำสาปแล้วหลินซูโหรวก็โค้งคำนับหลิงอี้อีกครั้ง
ตอนนี้เธอสวมชุดนอนฤดูร้อนสีขาว ภายใต้แสงยามราตรีนี้ยากจะแยกได้ว่าอันไหนผิวหนังอันไหนชุดนอน
เพราะทั้งสองอย่างขาวราวกับหิมะเหมือนกัน
เมื่อเห็นแบบนั้นหลิงอี้จึงลุกจากเก้าอี้ไม้ข้างหน้าต่างแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร เธอสุภาพเกินไปแล้ว”
กลางคืนในเดือนมิถุนายนค่อนข้างจะร้อนอบอ้าวแล้ว การนั่งบนโซฟาจึงไม่ดีนัก
หลินซูโหรวที่เป็นคนเอาใจใส่สังเกตเห็นหลิงอี้ค่อนข้างร้อน พอเห็นว่าห้องของหลิงอี้ไม่มีแอร์เธอจึงเม้มปากแล้วพูดว่า “ถ้างั้น คืนนี้นายไปนอนห้องฉันไหม”
“ในห้องฉันมีแอร์”
แม้ว่ามีไอเทมพิเศษมากมายในเสินลู่ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คน
แต่คนทั่วไปส่วนใหญ่ยังใช้ของใช้ในชีวิตประจำวันแบบเดิม
เพราะไอเทมพิเศษเหล่านั้นมีราคาสูงมาก คนธรรมดาจึงไม่ค่อยเลือกซื้อ
อย่างเช่นไอเทม[เครื่องมือทำความเย็น]ระดับE
ในร้านค้าเสินลู่มีราคา80เหรียญทอง ซึ่งแปลงเป็น4,000เหรียญเฉวียนฉิว
แต่ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศและกลุ่มที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ ขอให้ผู้เชี่ยวชาญให้เหตุผลต่างๆและเพิ่มราคาอีกครึ่งหนึ่ง
ราคาไอเทมกลายเป็น6,000เหรียญเฉวียนฉิว
สิ่งนี้ทำให้หลายคนเลิกคิดจะซื้อมัน
ไม่ใช่ว่าไม่สามารถจ่ายได้ แต่ของที่ได้ไม่คุ้มกับราคา
“เอ่อ...ไม่เป็นไร เดี๋ยวซื้อไอเทมในร้านค้าเอาก็ได้”
หลิงอี้ไม่ได้สนใจเรื่องความร้อนมากนัก
สิ่งที่เขาสนใจคือผสมสกิล การกลายพันธุ์ธงรบ และหาสกิลตรวจสอบ
สามสิ่งนี้คือสิ่งที่เขาจะทำในภายหลัง
“ดี”
หลินซูโหรวพยักหน้าเบาๆและถามด้วยความสงสัย “ที่ปกป้องบ้านของพวกเรามีผลยังไง นายป้องกันไม่ให้คนร้ายแอบเข้ามาได้ไหม?”
“ฉันได้ยินคนในชุมชนบอกว่าคนชั่วที่มีค่าหัวสี่ล้านหนีเข้ามาในเมืองอึ๋งหั่วอีกแล้ว ฉันกลัวว่า...”
เธอรู้ว่าไอเทมปกป้องไม่ใช่ของ’ไร้ประโยชน์’อย่างที่คิดหลังจากได้รับการปกป้องเมื่อวานนี้
การเข้าใจเรื่องนี้เกิดขึ้นเองในความคิด
“อีกแล้ว?”
หลิงอี้ที่นั่งรับลมอยู่ตรงหน้าต่างเลิกคิ้วขึ้นและถามด้วยสีหน้าแปลกๆ “ครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่?”
“ครั้งก่อน…เมื่อสี่วันก่อนมีคนมีค่าหัวมากกว่าหนึ่งล้าน สัปดาห์ที่แล้วมีค่าหัวยี่สิบล้าน และครึ่งเดือนที่แล้วเหมือนจะเป็นแปดถึงเก้าล้าน...”
จ้าวเจ๋อที่บุกเข้าบ้านเมื่อวานนี้เป็นแค่นักเลง เขาเทียบคนที่มีค่าหัวพวกนี้ไม่ได้เลย
หลิงอี้ไม่ประหม่าเพราะเขารู้เอฟเฟกต์ของ‘ยันต์ปกป้องบ้าน’ แต่หลินซูโหรวไม่รู้เรื่องยันต์ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะประหม่า
หลิงอี้จึงบอกเอฟเฟกต์ของยันต์ให้เธอฟัง
“อะไรเนี่ย!? มียันต์แบบนี้ในเสินลู่ด้วยเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยล่ะ?”
หลินซูโหรวอดสงสัยไม่ได้หลังจากฟังสิ่งที่หลิงอี้พูด “นายพูดเกินจริงหรือเปล่า?”
“ไม่ได้พูดเกินจริงเลย เดี๋ยวเธอก็รู้เอง”
เขาขี้เกียจอธิบายเรื่องนี้ให้เธอฟังช้า
ปล่อยให้เธอรู้ด้วยตัวเองดีกว่า
“แล้วนายไปเอามาจากไหน?”
“ความลับ”
“โอ้...”
เมื่อเห็นว่าหลิงอี้ไม่พูด หลินซูโหรวก็ไม่ถามต่อ
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังสงสัยสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อหลิงอี้ แต่เอฟเฟกต์ของไอเทมที่เขาพูดมันน่าเหลือเชื่อเกินไป!
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย แต่‘การป้องกันที่แม้แต่ผู้เล่นเลเวล100ยังทำลายไม่ได้’มีจริงเหรอ?
ตอนนี้ยังไม่มีผู้เล่นเลเวล100อยู่ในโลกด้วยซ้ำ แล้วเขากล้าพูดแบบนั้นได้ยังไง?
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกโมโห ยิ่งคิดมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาพูดเกินจริง
'ในเมื่อเขาพูดเกินจริงขนาดนั้น อย่างน้อยยันต์คงไม่อ่อนแอ’
'ผู้เล่นเลเวล100ทำลายไม่ได้ แต่ผู้เล่นเลเวล50ทำได้ใช่ไหม? '
เธอถอนหายใจราวกับว่าไม่ได้ถาม
แม้ว่าความกังวลในใจจะน้อยลงแต่ก็ยังกังวลอยู่
'ช่างเถอะ มีการป้องกันยังดีกว่าไม่มีการป้องกัน ก่อนหน้านี้ฉันอยู่อย่างปลอดภัยโดยไม่มีการป้องกัน ตอนนี้ก็ควรปลอดภัยมากกว่าเดิม’
หลินซูโหรวรู้สึกโล่งใจแบบไม่เต็มใจเมื่อคิดแบบนั้น
ถึงจะแย่แค่ไหนแต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเดิม
......
ทั้งสองไม่ได้อยู่ในห้องโถงนานนัก
กิจวัตรของผู้คนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ ช่วงตีสามกว่าเป็นเวลาที่ควรนอนและทั้งคู่เริ่มง่วงนอนแล้ว
ทั้งสองฝ่ายทักทายกันและกลับไปที่ห้องของตน
แต่หลิงอี้กลับรู้สึกมีพลังเต็มเปี่ยมเมื่อกลับมาที่ห้อง
“แปลก ฉันรู้สึกง่วงนอนแล้วแต่พอจะนอนกลับไม่ง่วง”
เขาปิดไฟที่สว่างจ้าในห้องและเปิดโคมไฟเล็กๆบนโต๊ะข้างเตียง
เมื่อแสงสีเหลืองนุ่มนวลส่องบริเวณเล็กๆข้างหัวเตียง หลิงอี้ก็เอนตัวลงนอนและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แสงสีขาวในตอนกลางคืนค่อนข้างสว่างเกินไป เขาชอบแสงที่นุ่มนวลแบบนี้มากกว่า
เขารู้สึกว่าตัวเองคงนอนไม่ถ้าไม่ทำให้เรื่องที่ค้างไว้ให้เสร็จ
“อย่างแรกเลย สกิลสองอันนี้...”
หลิงอี้วางแผนผสม[พายุคร่ำครวญ]และ[ร่างมอนสเตอร์ไฟคลั่ง ]เข้าด้วยกันแล้ว เขาไม่รอช้าอยู่และพูดด้วยเสียงเบา
“เสิ่นลู่ เปิดหน้าจอผสมสกิล”
เมื่อเสียงจบลง
ม่านแสงสีน้ำเงินอมม่วงที่สว่างไสวราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
ที่ด้านบนของม่านแสงมีอักษรตัวใหญ่สองตัว‘ผสมสกิล’ มีช่อง‘+’สองช่องอยู่ตรงกลางและปุ่ม‘ผสม’สีเหลืองอยู่ด้านล่าง
——นอกจากการเรียนรู้ การรีไซเคิล และการซื้อขาย การผสมสกิลเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำได้กับสกิล
อ้างอิงจากผู้เล่นใน20ปีที่ผ่านมา รูปแบบการใช้งานของมันคือ: ใช้สองสกิลในการผสม หลังจากผสมแล้วจะได้สกิลแบบสุ่ม ดาวขั้นต่ำและดาวสูงสุดของสกิลที่ผสมออกมาจะเป็นดาวต่ำสุดและดาวสูงสุดของสกิลที่นำไปผสม
ตัวอย่างเช่นนำสกิล2ดาวผสมกับสกิล5ดาว สกิลที่ได้จะเป็น2-5ดาว
เมื่อผสมสกิล5ดาวสองสกิล สกิลที่ได้จะเป็น5ดาวเท่านั้น
เพราะผลลัพธ์ที่ได้เป็นแบบสุ่ม ฟังก์ชันผสมสกิลอันนี้จึงได้รับคำวิจารณ์จากผู้เล่น
บางคนใช้สกิลน้ำแข็งสองอันแล้วได้สกิลไฟ บางคนใช้สกิลการเคลื่อนย้ายสองอันแล้วได้สกิลรักษา บางคนใช้สกิลดาวสูงกับดาวต่ำผสมกันแล้วได้สกิลดาวต่ำ...
ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงไม่ใช้ฟังก์ชันผสมสกิล
หลายคนเข้าเสินลู่เกือบสองปีแล้ว แต่พวกเขาใช้ฟังก์ชันนี้แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น
โดยปกติแล้วคนที่ใช้ฟังก์ชันนี้ส่วนใหญ่เป็นคนที่อยากได้สกิลหายากและมีสกิลอยู่เยอะ