ตอนที่แล้วตอนที่ 153 มอบบ้านให้อีกหลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 155 ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น

ตอนที่ 154 เจ้าของที่ดินที่เยอะที่สุดในหนานจิง


เมื่อเฒ่าจางได้ยิน เขาก็พูดตะกุกตะกัก

"บะ..บะ..บ้านหลังข้างๆ ก็เป็นของคุณอย่างงั้นเหรอ"

ตอนนี้อากาศในหนานจิงเริ่มสูงขึ้นแล้ว ผู้คนพากันออกมากินข้าวนอกบ้านกันมากขึ้น

มีลูกค้านั่งอยู่ในร้านอาหารถึง 90% ของจำนวนโต๊ะทั้งหมด

เฒ่าจางประเมินว่าหากอากาศอุ่นจนคนออกมาเดินเล่นข้างนอกได้ ร้านวังหลวงก็อาจจะต้องต่อแถวก่อนเข้าร้าน

หากว่าเปลี่ยนบ้านข้างๆให้เป็นร้านอาหารที่สามารถรองรับผู้คนที่จะออกมาได้อีก บางทียอดขายต่อวันอาจจะเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า

ตอนแรกเฒ่าจางได้ยินว่าบ้านหลังข้างๆได้ขายให้กับคนอื่นแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนมาซื้อ

เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนที่ซื้อจะเป็นเจ้านายใหญ่ของเขา

"คุณซูนั่นเอง"

"อึ้ก"

เฒ่าจางกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ เขาตกใจกับเรื่องที่ซูข่านได้บอกกับเขามาก

ซูข่านได้พูดต่อว่า

"ตอนมาที่ร้านนี่ครั้งแรก ฉันเห็นลูกค้านั่งในร้านแค่ 50% เอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนคนจะแน่นร้านแล้ว"

"ธุรกิจที่เป็นร้านอาหารส่วนใหญ่แล้วตอนกลางวันลูกค้าจะยังไม่เยอะมาก มักจะไปเยอะที่สุดก็คือตอนเย็น"

"แต่ว่าร้านวังหลวงคนเต็มร้านตั้งแต่ช่วงกลางวัน ยิ่งตอนเย็นน่าจะเยอะกว่านี้ อาจจะเยอะกว่าตอนกลางวันถึง 2 เท่า"

ซูข่านได้วิเคราะห์ข้อมูลให้กับเฒ่าจางฟัง

"คุณซู พูดทุกอย่างเลยครับ"

เฒ่าจางยกนิ้วให้กับซูข่านพร้อมกับพูดชื่นชม

เฒ่าจางชมซูข่านด้วยความจริงใจ ไม่มีคำเยินยอเอาไว้เลียขาเจ้านายเลยแม้แต่น้อย

คุณซูมาร้านนี้เพียง 2 ครั้งก็สามารถบอกถึงรายละเอียดของร้านได้หมด

ราวกับว่าเขาอยู่ที่ร้านตลอดเวลา

ซูข่านมองไปที่สายตาของเฒ่าจาง

แววตาของเขาบ่งบอกได้ถึงแก่นแท้ในการเป็นเจ้าของร้านอาหารอย่างแท้จริง

เขาจะได้พูดกับเฒ่าจางต่อว่า

"ฉันเห็นพนักงานของที่นี่บริการดีมาก น่าจะมีลูกค้าที่มากินประจำอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย เมื่อมีลูกค้าใหม่เข้ามา พวกเขาได้เจอกันการบริการที่ดีแบบนี้ ไม่นานเดี๋ยวพวกเขาก็กลับมากินใหม่ และสุดท้ายร้านนี้ก็จะเต็มไปด้วยลูกค้าประจำเป็นจำนวนมาก"

"แต่ถ้าพนักงานคนไหนที่บริการไม่ดี เฒ่าจางต้องรีบตักเตือนและเปลี่ยนความคิดของพนักงานคนนั้นทันที"

"พวกเขามีหน้าที่ต้องบริการลูกค้า หากว่าไม่สามารถบริการด้วยใจได้ ลูกค้าเหล่านี้ก็จะหนีหายจากร้านนี้ไป"

"เราจะเป็นแบบร้านของรัฐไม่ได้เด็ดขาด"

เฒ่าจางยืนตัวตรงและพูดว่า

"ครับ"

ซูข่านยิ้มให้กับเฒ่าจางและพูดต่อ

"ตอนนี้ฉันไม่ได้เอากุญแจบ้านข้างๆมา เดี๋ยวร้านปิดแล้วเฒ่าจางค่อยไปเอากุญแจที่บ้าน"

เอาจริงๆการเอาใจกับลูกค้าที่อยู่ในยุคนี้ไม่ยากอะไรเลย ความต้องการของลูกค้ายังคงมีน้อยมาก พวกเขาไม่เคยเห็นการบริการที่ดีแบบนี้มาก่อน

หากว่าไปร้านของรัฐถึงแม้ว่าราคาจะถูกกว่าร้านวังหลวงหลายหยวน แต่พนักงานที่นั่นก็พูดจาเสียงดัง ร้านก็ดูไม่ค่อยสะอาด แถมบางครั้งพนักงานมาด่าลูกค้าด้วยซ้ำ

ลูกค้าบางคนจึงยินดีที่จะจ่ายเพิ่มเพียงไม่หยวนเพียงซื้อบริการพวกนี้จากร้านวังหลวง

"ครับคุณซู"

เมื่อเฒ่าจางได้ยิน น้ำตาแห่งความตื่นเต้นของเขาก็ปริ่มเต็มดวงตาของเฒ่าจาง

เขาอยากจะร้องไห้แล้วกอดกับซูข่านด้วยความดีใจ

"เฒ่าจางอย่าเพิ่งมาร้องไห้ตอนนี้สิ"

ซูข่านรีบห้ามน้ำตาของเฒ่าจางก่อน

"ครับ"

เฒ่าจางหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

"ผมพยายามกลั้นอยู่คุณซู"

ซูข่านได้ยินก็หัวเราะตาม จากนั้นเขาก็เอามือตบไปที่ไหล่ของเฒ่าจางเบาๆ

"ถ้าร้านวังหลวงได้ขยายแล้วคนยังเยอะแบบนี้อยู่ บ้านที่อยู่ต่อจากนี้จะหลังซ้าย หรือหลังขวา เฒ่าจางก็เลือกได้เลย"

"อะไรนะ"

เฒ่าจางจองไปที่ซูข่านด้วยตาที่เบิกกว้าง

ใบหน้าของเฒ่าจางเต็มไปด้วยความตกใจ และประหลาดใจอย่างมาก

อย่าบอกนะว่าคุณซูได้ซื้อบ้านรอบๆนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว

ทำไมเขาทำเหมือนกับมันเป็นเรื่องง่ายๆเลย

ถ้าหากว่าบ้านรอบๆนี้ถูกทำให้กลายเป็นร้านอาหารวังหลวงมันจะเป็นยังไงกัน

เฒ่าจางเองก็ยังไม่สามารถจินตนาการถึงร้านที่ใหญ่อย่างนั้นได้

เมื่อมองดูท่าทางตกใจของเฒ่าจาง ซูข่านก็ยิ้มที่มุมปาก เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ

หลังจากที่ซูข่านได้จัดเตรียมให้ร้านนี้เป็นร้านวังหลวง เขาก็ได้บอกให้จางเฉียงตะเวณซื้อบ้านรอบๆแถวนี้ทันที

ถึงแม้ว่าบ้านรอบๆนี้จะมีคนอาศัยอยู่ แต่ซูข่านก็ได้บอกให้จางเฉียงเสนอเงินสองเท่าให้กับพวกเขา

ดังนั้นในตอนนี้ซูข่านได้บ้านรอบๆนี้ไว้หมดแล้ว

จำนวนบ้านและที่ดินของซูข่านตอนนี้มีมากจนนับไม่หวั่นไม่ไหว

หากไม่มีอะไรผิดพลาดตอนนี้ซูข่านคงเป็นคนที่มีที่ดินเยอะที่สุดในหนานจิง

"ขอบคุณคุณซูที่ให้การสนับสนุนเฒ่าแก่ๆตัวน้อยๆคนนี้ เฒ่าตัวน้อยคนนี้จะไม่ลืมบุญคุณของคุณซูไปชั่วชีวิต"

เฒ่าจางตื่นเต้นจนคุกเข่าลง

ชีวิตนี้ของเขาได้ถึงฝั่งฝันแล้ว การได้มาทำงานเป็นพ่อครัวในร้านอาหารแห่งนี้

นี่คือสิ่งที่เขารักที่สุดแล้วในชีวิต

"ยืนขึ้นเถอะเฒ่าจาง"

ซูข่านมองดูเฒ่าจางที่ตื่นเต้นจนอยากจะร้องไห้ออกมา นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องลงไปคุกเข่ากับพื้นด้วย แค่ให้บ้านไม่กี่หลังเอง

ซูข่านได้เดินออกจากร้านไปหลังพูดคุยกับเฒ่าจางจบ

"พี่สาม"

จ้าวชิงชิงรีบพูดขึ้นมาหลังเห็นซูข่านเดินออกมา

"พี่สามคะ"

"พี่สาม"

หวางรุยและหลี่ชิงเยว่ก็โบกมือเรียกซูข่าน

"กลับบ้านกันเถอะ"

ซูข่านได้เดินเข้าไปบนถนนและมองบ้านโดยรอบ

"หลังนี้ดูเหมือนจะเป็นของเราแล้ว"

"หลังนี้ก็ด้วย"

ซูข่านมองบ้านรอบๆแถวนั้น รวมแล้วดูเหมือนว่าบ้านแถวนั้นทั้งหมดจะเป็นของซูข่านเรียบร้อยแล้ว

ซูข่านเดินนำหน้าอย่างมีความสุข

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด