675 - เมื่อได้ลงมือแล้วต้องทำให้ถึงที่สุด
1985 - เมื่อได้ลงมือแล้วต้องทำให้ถึงที่สุด
หวังอู่ประสานอินเพื่อแสดงญาณวิเศษขั้นสูงสุด อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างกระจัดกระจายออกไปเมื่อมันเผชิญหน้ากับสือฮ่าว
เส้นทางสีทองนั้นได้ลบล้างทุกสิ่ง ทำลายทุกวิถีทาง สือฮ่าวครอบงำฝ่ายตรงข้ามอย่างสมบูรณ์!
เป้ง!
เมื่อเขาเข้าไปใกล้ ฝ่ามือของสือฮ่าวก็กระแทกใบหน้าของหวังอู่ส่งเขาบินไปจนกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ทำให้ผู้ชมทั้งหมดตัวสั่นอยู่ภายใน
“เจ้าแก่ชราขนาดนี้แล้วยังกล้าข่มขู่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเจ้ามีความละอายหรือไม่” สือฮ่าวถาม
ในเวลาเดียวกัน เขาได้เปิดเผยลักษณะที่แท้จริงของเขาต่อหวังอู่
“เจ้า…” หวังอู่ตกตะลึง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ไม่กล้าที่จะเชื่อสิ่งที่เขาเห็น
ปะ!
คราวนี้ คำพูดของเขาถูกตีกลับลงไป ใบหน้าของเขาเสียหายยับเยินไปหมดแล้วไม่สามารถย้อนคืนได้
ปู!
หวังอู่พ่นเลือดออกมาเต็มปาก นี่ไม่ใช่แค่จากการได้รับบาดเจ็บเท่านั้น
แต่สาเหตุหลักมาจากความโกรธ ร่างกายของเขาสั่นไปหมด มุมของดวงตาเขารู้สึกเหมือนกำลังจะแยกออก
นี่ใคร? เจ้าเด็กเหลือขอคนนั้นไม่เพียงแต่ไม่พิการ เขายังกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนี้ มีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ระดับผู้สูงสุดไปแล้วด้วยนี่มันน่ากลัวเกินไป!
เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธจนอยากจะอาเจียนเป็นเลือด เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเด็กรุ่นหลัง แต่ฝ่ายตรงข้ามดูถูกเขาราวกับว่าเป็นคนรุ่นอาวุโส
ความรู้สึกแบบนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน อดีตของสือฮ่าวถูกมองว่าเป็นแค่แมลง ถ้าไม่ใช่เพราะเมิ่งเทียนเจิ้งหยุดพวกเขาไว้ ป่านนี้เจ้าเด็กเหลือขอนั่นแหลกเป็นผุยผงไปแล้ว
ทว่าตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เด็กรุ่นหลังคนหนึ่งกับผงาดขึ้นมากลายเป็นสิ่งมีชีวิตคนละระดับกับเขาแล้ว
“เจ้า…” หวังอู่ต้องการตะโกนออกมา ยิ่งกว่านั้นยังปล่อยเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของเขา
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุด สิ่งที่เขาพบกลับเป็นการตบอีกครั้ง ร่างกายของเขากระเด็นออกไป เลือดของเขาสาดกระจายไปทุกที่แม้แต่ฟันที่อยู่ในปากก็ยังหลุดร่วงออกมา
หางตาของเขาแทบฉีกด้วยความโกรธ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ แม้แต่ค่ายกลลึกลับที่อยู่ในร่างกายของเขาก็ไม่สามารถส่งผลกระทบอะไร
คนผู้นั้นก้าวไปบนเส้นทางสีทองปิดผนึกร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์ไม่สามารถดิ้นรนหรือส่งเสียงได้
เป็นเพราะสือฮ่าวได้ศึกษารูปแบบของหวังต้าและเข้าใจวิธีจัดการกับมังกรทั้งเก้าแล้ว
เขาสามารถปราบปรามพวกมันได้ตั้งแต่แรก คนพวกนี้ไม่สามารถเป็นภัยคุกคามเขาได้อีก
เป้ง!
หวังอู่บินออกไป เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ตะโกนหรือระบายความโกรธสือฮ่าวเอื้อมมือออกไปบดขยี้เขาจนกระดูกทั้งหมดแตกเป็นเสี่ยงๆทีละนิ้ว
ในท้ายที่สุดสือฮ่าวก็ปราบปรามเขาโดยตรงและโยนเขาเข้าไปในเตาหลอมยาและผนึกเขาไว้
บนภูเขาซูมี่นั้นเงียบสนิททันที ทุกคนต่างตกตะลึงหวังอู่ถูกจับไปอย่างนั้น!
“ตั้งแต่ที่ข้าได้ลงมือแล้ว ก็ไม่มีใครจะสามารถรอดไปได้” สือฮ่าวรำพึงเบาๆ
เขายื่นมือออกไปอย่างไม่ลังเลพร้อมกับบดขยี้ผู้สืบทอดของตระกูลเฟิงจนกลายเป็นหมอกเลือด
ไม่ต้องกล่าวถึงหนี้เก่าระหว่างพวกเขา
แค่เรื่องของตระกูลนี้พยายามมอบหีบไม้ให้กับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดก็เพียงพอที่จะกระตุ้นเจตนาฆ่าของสือฮ่าวแล้ว
จากนั้นเขาจ้องไปที่จินซานเพราะเขาเพิ่งมาจากตระกูลจิน ทำให้จินไท่จุนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเขาจึงไม่รังเกียจที่จะฆ่าทายาทของตระกูลนี้
จินไท่จุนติดต่อกับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดเป็นการส่วนตัว ดังนั้น สือฮ่าวจึงไม่มีความลังเลที่จะสังหารจินซาน
“เจ้าเป็นใคร…” เป็นเพราะในวินาทีสุดท้าย เขาได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของสือฮ่าว
ใบหน้าของเขาตกตะลึงเหมือนกับมองเห็นผีในเวลากลางวันแสกๆ มันจะเป็นเขาได้อย่างไร? เขามีชีวิตอยู่จริงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุด
“ไม่ เดี๋ยวก่อน ข้ามีเรื่องจะพูด!” จินซานตะโกน เขาไม่เต็มใจที่จะถูกฆ่าแบบนี้จริงๆ
เขาต้องการถามจริงๆว่าสือฮ่าวผ่านคำสาปทำลายอมตะได้อย่างไร ยิ่งกว่านั้นการฝึกฝนของเขายังมาถึงระดับนี้นับว่าน่าเหลือเชื่อเกินไป
ปู!
ด้วยการสะบัดนิ้วของสือฮ่าว ศีรษะของจินซานก็ปลิวออกจากร่างเพียงแต่วิญญาณดั้งเดิมของเขายังไม่สูญสลายเท่านั้น
ในเวลานี้สือฮ่าวก็มองไปทางหวังสือของตระกูลหวังและคนอื่นๆ
หลังจากที่คนของตระกูลหวังตกเป็นเป้าหมายเส้นขนทุกเส้นของพวกเขาก็ตั้งตรงร่างกายแข็งค้างขยับไม่ได้
ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพียงกระต่ายที่พบกับราชสีห์ มันเป็นความรู้สึกสั่นไหวตามสัญชาตญาณที่เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่า
พวกเขาทั้งหมดรู้ว่านี่เป็นสัตว์ร้ายในร่างมนุษย์ ยิ่งกว่านั้นสัตว์ร้ายตัวนี้ยังยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้!
ก่อนหน้านี้ ความรู้สึกที่หวังสือมอบให้กับทุกคนนั้นเป็นอารมณ์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่ง เมื่อเขาไม่แสดงพลังเขาก็อ่อนโยนเหมือนลมฤดูใบไม้ผลิ
แต่เมื่อเขาปลดปล่อยเจตนาฆ่าเล็กน้อยเขาจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับสือฮ่าวในปัจจุบัน หลายคนรู้สึกว่าพลังของหวังสือไม่มีอะไรเลย
มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
คนของตระกูลหวังต่างตกตะลึง ไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากถอยกลับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของหวังหลาน ใบหน้าของเขาซีดเผือด ร่างกายอดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนอย่างควบคุมไม่ได้และกำลังจะล้มลง
หวังซีก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีเช่นกันมันราวกับว่ามีภูเขาถล่มทับอยู่ด้านบนศีรษะของนางแม้แต่การหายใจก็ลำบาก ความกดดันนี้มันแทบจะทำให้นางต้องการจะคุกเข่าให้กับฝ่ายตรงข้าม
สำหรับหวังสือนั้นราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ร่างกายของเขาก็ขัดกับความความต้องการของจิตใจ ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างยิ่ง
แม้ว่าเขาจะถูกขนานนามว่าเป็นสัตว์ร้ายที่ทรงพลัง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับราชาอสูรมันจะเปรียบเทียบกันได้อย่างไร
สำหรับคนอื่นๆพวกเขาสั่นคลอนไปนานแล้ว กลายเป็นเหมือนรูปปั้นร่างกายแข็งกระด้างไปหมด นั่นคือหวังอู่ที่เรากำลังพูดถึง! ทว่าเขาก็ถูกกดขี่ข่มเหงเช่นนั้น
ในขณะเดียวกันผู้สืบทอดของตระกูลเฟิงเขาไม่มีโอกาสจะได้พูดอะไรสักคำก่อนที่เขาจะถูกบดขยี้เป็นหมอกสีเลือด
นี่มันพลังอะไรกันแน่ พลังศักดิ์สิทธิ์แบบไหนกันนะ? จินซานนั้นเป็นที่รู้จักในนามความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ของรุ่นครั้งหนึ่งเขามีคุณสมบัติพี่จะเป็นผู้นำของกลุ่มคนรุ่นหลัง
แต่เพียงแค่สะบัดนิ้ว ริ้วแห่งแสงจากนิ้วของสือฮ่าวก็เอาหัวของเขาออก พลังแบบนี้ ความสำเร็จในการต่อสู้แบบนี้ไม่ใช่การข่มขู่แบบธรรมดา แต่เป็นความสยดสยองครั้งใหญ่!
ทุกคนที่เป็นผู้บ่มเพาะอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนก นี่เป็นเด็ก รุ่นหลังคนหนึ่งแต่ความแข็งแกร่งของเขา… สูงอย่างน่าเหลือเชื่อ เกินกว่าการเหตุผลปกติมาก!
“เป็นเขา… จริงๆ แล้วเป็นเขา!” จินซานอยากจะตะโกนออกไป แต่เขาทำได้แค่พ่นน้ำลายออกมาเท่านั้น
เขาเหลือเพียงศีรษะที่ถูกกดทับไว้ ลืมเรื่องการพูดไปเสียเถอะ เขาไม่สามารถแม้แต่จะปลดปล่อยเจตจำนงอันศักดิ์สิทธิ์ใดๆได้
มันถูกจำกัดไว้อย่างสมบูรณ์ในความว่างเปล่า จินซานรู้สึกหวาดกลัวเกินไป เขาไม่คิดว่าจะเป็นฮวงไม่น่าเชื่อว่าเขาจะยังปรากฏตัวได้
นี่คือคนที่ควรจะตายไปแล้วแต่กลับกลายเป็นผู้สูงสุดจริงๆ เขาต้องการที่จะคำรามออกมา นี่คือสิ่งที่เขาไม่สามารถยอมรับได้ ร่างกายทั้งหมดของเขารู้สึกอับจนหนทางไม่เหลือความแข็งแกร่งอีกแล้ว
ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาถูกสือฮ่าวฟาดลงมาจากสวรรค์ทั้งเก้าตกสู่นรกโดยตรง เขาสูญเสียสิทธิ์ในการปกครองคนรุ่นเดียวกัน สูญเสียอัตลักษณ์พิเศษของเขาไป
วันนี้มันก็เหมือนกัน การฝึกฝนของเขาก้าวหน้าอย่างมากจึงได้ออกมาจากความสันโดษและเข้าสู่ภูเขาซูมี่ เขาปรารถนาที่จะแสดงความสามารถให้กับทุกคนได้เห็น
อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าคนคนนั้นจะปรากฏตัวอีกครั้งและทำให้เขาพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช?
คราวนี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม เพียงแค่ฮวงชี้นิ้วออกมาก็สามารถตัดศีรษะของเขาได้แล้ว เขาไม่มีปัญญาที่จะต่อต้านได้แม้แต่น้อย