ตอนที่ 42 เจอกันโดยบังเอิญ
'คงจะดีฉันดูคุณสมบัติของเธอได้’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หลิงอี้ก็นึกถึงสกิล[คัดลอกคุณสมบัติ]
เขาหวังว่าจะได้เห็นคุณสมบัติของอีกฝ่ายก่อนจะใช้[คัดลอกคุณสมบัติ]
เพราะสิ่งนี้จะทำให้เขาใช้สกิลคัดลอกได้ดียิ่งขึ้น
ยิ่งตอนนี้เขามีจักรพรรดิน้ำแข็งอยู่ด้วย ความต้องการของสกิลนี้ก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก
“พอกลับไปแล้วคงต้องหาสกิลประเภทนี้ก่อน”
หลิงอี้ตัดสินใจว่าเมื่อกลับไปแล้วเขาจะหาสกิลที่ส่องคุณสมบัติได้
หลังจากนั้นค่อยนำสกิลไปกลายพันธุ์แล้วดูว่าเป็นแบบที่เขาอยากได้หรือเปล่า
“จะว่าไป”
เขาจับคางคิดขณะที่เดินอยู่ท่ามกลางฝูงชน “ฉันคัดลอกคุณสมบัติของจักรพรรดิน้ำแข็งได้ไหม!?”
หลิงอี้รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเกิดความคิดนี้
เขามั่นใจว่าสามารถคัดลอกคุณสมบัติของจักรพรรดิน้ำแข็งได้แน่นอน – ถ้าเธอไม่มีสกิล‘ป้องกันการคัดลอก’
และเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมถ้าคัดลอกสำเร็จ!
‘ฉันจะลองอีกทีหลังจากกลับไป’
เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ยิ่งเดินไปข้างหน้า
ความสุขของเขาก็ยิ่งมากขึ้น
เหลือเวลาไม่ถึง5นาทีก่อนจะหมดเวลาของวันนี้ เขาต้องใช้เวลาในช่วงนี้ดูดซับคะแนนความรู้สึกก่อน
[คุณดูดซับความรู้สึกตื่นเต้น77คะแนนของจางเทียนป้า]
[คุณดูดซับความรู้สึกเศร้า33คะแนนของลั่วเหยา]
[คุณดูดซับ…]
เดิมทีเขาคิดจะออกไปหลังจากกวาดล้างมอนสเตอร์ในด่านสามทั้งหมด
แต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะดึงดูดให้ผู้เล่นวิ่งขึ้นมาที่นี่
เมื่อพวกเขาขึ้นมาถึงยอดเขา เขาจึงยกเลิกการอัญเชิญจักรพรรดิน้ำแข็งและรวมเข้ากลุ่มผู้เล่นเงียบๆด้วยยันต์เทเลพอร์ต
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นถึงเจอทหารโครงกระดูกไฟคลั่งหลายร้อยตัวเมื่อขึ้นมา
นั่นคือส่วนที่เหลือที่จักรพรรดิน้ำแข็งฆ่าไม่ทัน
ทหารโครงกระดูกบางตัวมีเลเวล15-16 และบางตัวมีเลเวล17-18
สำหรับหลิงอี้ที่เป็นผู้เล่นเลเวล17จึงได้ค่าประสบการณ์จากพวกมันไม่มากนัก
ต่อให้ทหารโครงกระดูก100ตัวมีเลเวล17 แต่เขาก็ได้แค่100ค่าประสบการณ์จากพวกมัน ไม่ต้องพูดถึงพวกมันส่วนใหญ่เลย ตามจริงแล้วพวกมันที่มีเลเวลสูงมีน้อยมาก
ด้วยค่าประสบการณ์น้อยกว่า100เขาจึงไม่เสียดายที่จะปล่อยมันไป
ขณะที่หลิงอี้เดินเตร่อยู่ในฝูงชน จู่ๆก็มีคนมาตบไหล่เขา
“ว่าไง ทำอะไรอยู่เหรอ?”
เสียงตรงไปตรงมาของผู้หญิงดังมาจากข้างหลังเขา
หลิงอี้สะดุ้งแล้วหันกลับไป
เขาเห็นผู้หญิงหน้าตาดีมีดวงตาสีแดงกำลังมองเขาด้วยความสงสัย
เธอใส่เสื้อคลุมสีชมพูและเสื้อแขนสั้นสีขาวด้านใน
ใส่กางเกงยีนขาสั้นสีฟ้าและคาดเข็มขัดไว้รอบเอว
มีขาเรียวยาวและรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ
“ฉันเห็นนายเดินอยู่ไปมาอยู่แถวนี้ นายหาอะไรอยู่เหรอ?” หญิงสาวถามด้วยดวงตาเป็นประกาย
“เอ่อ...เธอนี่เอง”
หลิงอี้ก็นึกว่าใคร
ที่แท้เป็นหลินชิงอวี่ ผู้เล่นที่มาจากเมืองอึ๋งหั่วเหมือนเขา
เมื่อวันก่อนเธอพาเขาวิ่งหนีจากค่ายหมาป่าทุ่งหญ้าหลายกิโลเมตร วันนี้พอเขาตื่นนอนเลยปวดตามตัวไปหมด
แต่เขาก็ประทับใจในตัวเธอ
“เปล่า ไม่ได้หาอะไรหรอก แค่เดินเล่นเฉยๆ”
หลิงอี้ตอบผ่านๆแล้วถามกลับ “แล้วเธอล่ะ?”
“ฉัน?”
หลินชิงอวี่ถอนหายใจแล้วพูด “ฉันไม่มีอะไรทำเลยตามทุกคนมา”
“ตอนแรกนึกว่าจะได้เจอคนลึกลับคนนั้น แต่พอมาถึงกลับกลายเป็นว่าไม่เจออะไรเลยอีกครั้ง”
“อีกครั้ง?”
หลิงอี้เลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้ตัวและถาม “เธอกำลังตามหาเขาอยู่?”
หลินชิงอวี่กลอกตามอง “ใครบ้างที่ไม่อยากเจอเขา”
“นายไม่อยากรู้เหรอว่าคนแข็งแกร่งลึกลับที่อยู่ในเขตพวกเราเป็นใคร?”
“เอ่อ...อยากรู้สิ”
“เหมือนนายจะตอบแบบขอไปทีนะ…”
หลิงอี้: ( ̄ω ̄;)
หลินชิงอวี่ไม่สนใจแล้วพูดต่อ “ฉันไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง สูงหรือเตี้ย อ้วนหรือผอม และไม่รู้ว่าเป็นคนดีหรือเปล่า”
“ถ้าเขาเป็นคนเลว ผู้เล่นเขตเราคงลำบากกันหมดแน่”
“จะถูกเขาฆ่าเหรอ?”
“แย่ยิ่งกว่านั้นอีก”
หลินชิงอวี่ทำหน้าบึ้งและพูดอย่างจริงจัง “บางทีเราอาจต้องกลับไปเป็นเลเวลต่ำและอยู่แบบนั้นไปตลอดชีวิต”
เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าผู้เล่นสามารถสู้กันในเสินลู่ได้
การฆ่าผู้เล่นคนอื่นไม่ใช่แค่ได้ค่าประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังได้เหรียญทองจากอีกฝ่ายด้วย
บทลงโทษการตายไม่รุนแรงเช่นกัน
แค่เหรียญทองตกและเลเวลลดลง
“เขาหยุดการพัฒนาของผู้เล่น9,000คนด้วยตัวเองไม่ได้หรอก”
“แต่ผู้แข็งแกร่งมักจะมีผู้ติดตามจำนวนมาก และผู้ติดตามพวกนั้นจะเลวยิ่งกว่า”
หลินชิงอวี่กำหมัดแน่น เธิอพูดอย่างขุ่นเคือง “จักรพรรดิไม่รีบร้อนแต่ขันทีรีบร้อน ผู้ติดตามพวกนั้นจะเอาใจเจ้านายและโหดร้ายกับคนอ่อนแอ”
“ผู้เล่นบางเขตเริ่มสร้างกลุ่มของตัวเองเพื่อกดขี่ผู้เล่นในเขตตัวเอง เมื่อคนอื่นไล่ตามพวกเขาทันพวกเขาจะฆ่าคนคนนั้นจนเลเวลกลับเป็นเลขหลักเดียวเพื่อไม่ให้มีโอกาสไล่ตามได้อีก”
“ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันคงเป็นเรื่องที่โคตรซวยเลย”
หลิงอี้ประหลาดใจเล็กน้อยหลังจากได้ฟังคำพูดของหลินชิงอวี่
ในความคิดของเขา ผู้เล่นแต่ละเขตควรร่วมมือกันเพราะพวกเขามีเป้าหมายร่วมกัน
ส่วนเรื่องอื่นก็ปล่อยไปก่อน
“เพื่อไม่ให้เป็นแบบนั้นทุกคนเลยพยายามเพิ่มเลเวล”
หลังจากพูดแบบนั้น น้ำเสียงของหลินชิงอวี่ก็เปลี่ยนไปและพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่เอาเถอะ สิ่งที่ฉันพูดไปเป็นกรณีหายากและสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด”
“เป็นเรื่องยากมากที่คนคนหนึ่งจะแข็งแกร่งกว่าคนอื่นมากขนาดนั้น เพราะดอกไม้หลายร้อยดอกจะเบ่งบานแข่งขันกัน และนั่นคือสิ่งที่ทุกคนทำกัน”
“แต่ไม่ใช่กับ…”
หลินชิงอวี่หยุดชั่วขณะจากนั้นหันหน้าไปทางยอดทองและถอนหายใจ “ผู้แข็งแกร่งลึกลับในเขตเรา ในเขตอื่นก็มีคนคล้ายแบบนี้เหมือนกัน”
“แต่ส่วนใหญ่จะเปิดเผยตัวตน มีแค่ไม่กี่คนที่เป็นคนดีจริงๆ”
หลิงอี้ก็ยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น
ดวงตาสีเข้มของเขาเริ่มครุ่นคิด
'ผู้แข็งแกร่งกดขี่ผู้อ่อนแอ? '
'สถานการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นกับคน1ใน10,000 นั่นเป็นเรื่องปกติของโลกนี้ไม่ใช่เหรอ?’
มีภาพบางอย่างแวบเข้ามาในใจของหลิงอี้อย่างรวดเร็ว
เป็นคนใจแคบที่อิจฉาความสามารถโดดเด่นของคนอื่น...เอาแต่ใจตัวเองและชอบกดขี่คนอื่น...เป็นคนอารมณ์ร้อน...
'เหมือนกับที่ลุงข้างบ้านเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ พอมีพลังพิเศษแล้วการสร้างอุดมการณ์ของทุกคนล้วนมีความสำคัญ’
ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจ
ทำไมผู้เล่นบางคนต้องทำดีเล็กน้อยเพื่อได้รับคำชมจากคนนับพัน
ปรากฏว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากความคาดหวังของคนธรรมดาส่วนใหญ่
พวกเขาต้องการให้ผู้เล่นทุกคนเป็นคนดี
ดังนั้นผู้เล่นทุกคนที่ทำความดีจะได้รับการสรรเสริญอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและรางวัลต่างๆ
นี่เป็นยุคที่น่าภาคภูมิใจสำหรับการเป็น‘ผู้เล่นชอบธรรม’!