ตอนที่ 25 ดินแดนใหม่
ผมยอมรับตรงนี้เลยนะ ว่าตัวเองดูถูกที่นี่เกินไป
สกิลก็เพิ่มมาแล้ว คอร์ก็มีแล้ว รู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งมากกว่าครั้งไหนๆ อาจจะไม่ถึงกับล่าได้ทุกอย่าง แต่อย่างน้อยๆ ก็พอป้องกันตัวได้...
มันไม่จริงเล้ยยย!
เห็นตะขาบตัวเมื่อกี้นี้ไหม? ใหญ่เกือบเท่าบ้าน!
น่าจะเป็นตัวที่วิวัฒนาการจากพวกตะขาบที่เคยเห็นนั่นแหละ
นี่มันยุติธรรมแล้วเหรอแกนดาล์ฟ!?
หรือนายจะบอกว่าถ้าเลือกวิวัฒนาการเป็นมดงานโตเต็มวัยแล้วฉันจะตัวโตขึ้นอีก 3 เมตร!?
ถ้ากินเจ้านั่นทั้งตัวแล้วจะได้ไบโอแมสกี่แต้มกันเนี่ย?
อ้อ ต้องไม่ลืมด้วยนะว่าตัวใหญ่ขนาดนั้นก็ยังเสร็จไอ้พวกปีศาจเวหาอยู่ดี!
นี่ถ้าผมเลือกไต่ผนังตอนแรก ป่านนี้คง...
ผมต้องฮึดเข้าไว้!
ผมรู้แต่แรกแล้วนี่ว่ามอนสเตอร์ในนี้จะแข็งแกร่งกว่าพวกที่อยู่ข้างบนนั้น
ผมเข้าใจในความเสี่ยง แต่ก็ยังเลือกที่จะบีบอัดคอร์แทนการวิวัฒนาการตามปกติอยู่ดี
ผมไม่เชื่อหรอกว่าในนี้ไม่มีอะไรที่ผมล่าไม่ได้!
โอเค ลุยกันต่อเลยแอนโธนี่!
อำพรางตัวและประสาทสัมผัสพิเศษ นี่แหละคือวิถีของผม!
หลังจากปลอบตัวเองเสร็จแล้ว ผมก็ออกสำรวจต่ออย่างไม่เกรงกลัว
แต่สำรวจในโหมดอำพรางตัวนะ เมื่อกี้เพิ่งพูดไปหยกๆ ว่าเป็นวิถี
ผมเดินผ่านแมกไม้ต่างๆ ไปเรื่อย ในใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่าที่นี่คือโลกใต้พิภพจริงๆ น่ะเหรอ?
ถ้าบอกว่าเป็นพื้นผิวก็แอบเชื่ออยู่หรอก เพราะตอนนี้สายตาของผมยังไม่ดีพอที่จะมองเห็นเพดานสูงที่อยู่ด้านบน
ว่าไปแล้วเจ้าต้นไม้ใบไม้พวกนี้ก็ดูน่าสนใจดีนะ เดาว่าพวกมันคงไม่ต้องใช้แสงอาทิตย์ เพราะยังไงที่นี่ก็ไม่มีให้ แล้วทำไมถึงต้องมีใบไม้ด้วยล่ะ? แทนที่จะมีใบไม้เยอะๆ ต้นไม้เหล่านี้กลับมีใบที่ใหญ่และยาวมากจนเกือบถึงพื้น ตัวใบไม้ส่วนใหญ่จะมีสีม่วง แต่บางครั้งก็มีสีแดงแซมอยู่นิดหน่อย เป็นภาพที่ดูงดงามจริงๆ
ดูแล้วต้นไม้คงหล่อเลี้ยงตัวเองจากเส้นและเถาวัลย์พวกนี้นี่แหละ อืมม เถาวัลย์แสงก็คือสายกระแสมานานี่เอง
จนกว่าจะแน่ใจได้ว่าใบของไอ้ต้นพวกนี้ไม่ได้มีไว้ดักแมลง ผมจะไม่ไปแตะต้องมันเด็ดขาด ขนาดเห็ดยังร้ายเลย คิดว่าต้นไม้จะร้ายบ้างไม่ได้เหรอ?
ไม่นานเสาอากาศของผมก็ตรวจพบบางอย่างได้ ผมก้มตัวลงต่ำเพื่อพรางตัวไปกับสภาพแวดล้อมขณะเคลื่อนที่เข้าไปใกล้จุดหมาย
จะมัวแต่กลัวไม่ได้ เพราะถ้าอยากได้ข้อมูล เราก็ต้องออกไปคว้ามันไว้
ขณะเดิน สายตาของผมพยายามจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวไปด้วย เสาอากาศชี้ตรงไปข้างหน้าและโผล่ทะลุพุ่มไม้เล็กน้อย พยายามจับแรงสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง
[อำพรางตัวขั้นสูง เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 2]
เยี่ยมยอด! สกิลขั้นสูงเลเวลอัพ! กว่าจะอัพได้นี่นานเอาเรื่องนะ!
ผมเดาว่าสกิลขั้นสูงน่าจะต้องใช้เวลาอัพนานกว่าสกิลพื้นฐานทั่วไป
สกิลนี้แหละคือเพ็ชรเม็ดงามของผม เป็นสกิลที่ใช้เกือบตลอด และมันก็อัพพอดี!
เรื่องนี้ทำให้ผมเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
มอนสเตอร์ที่ผมพบก็คือไอ้เข้ยักษ์ตัวบึกบึนราวกับเดอะฮัลค์
ทำไมไปไหนก็เจอแต่ไอ้พวกนี้วะเนี่ย? คนทำเกมมันขี้เกียจหรือยังไง?
ต้องขอบคุณเคราอันงดงามของแกนดาลฟ์มากนะที่ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่กว่าตัวอื่นๆ ที่เคยเจอเท่าไหร่
ขอสารภาพเลยว่าผมกลัวไอ้นี่มากสุดแล้ว
ไอ้เข้ยักษ์คือมอนสเตอร์ตัวแรกที่ผมพบ และตอนนั้นมันก็กำลังกินมดอยู่พอดี!
ถ้ามดฝันร้ายได้ละก็ ไม่ต้องสืบเลยว่าผมจะฝันเห็นอะไร
ดูเหมือนเจ้าตัวนี้จะบาดเจ็บอยู่ ที่แขนของมันมีรอยถูกฟันลึกมากๆ จนเลือดสีเขียวยังไม่หยุดไหลเลย
รอบๆ ตัวก็มีบาดแผลหลายแห่ง ดูเหมือนว่ามันเพิ่งจะออกไปสู้มาเมื่อกี้นี้เอง
ลมหายใจนี่แรงเหมือนเพิ่งวิ่ง 10 กิโลเสร็จ ปากก็อ้าเต็มที่เพื่อระบายความร้อน
อย่าเหลือบไปดูฟันมันนะแอนโธนี่! (> <)
นี่แหละโอกาสทอง! สวรรค์เป็นใจให้เราแล้ว
ผมไม่เคยได้ลองสู้แบบ 1-1 กับไอ้เข้ยักษ์มาก่อน
มีความเป็นไปได้ที่ผมจะเอาชนะและจะได้เลิกกลัวมันสักที
แน่นอนว่าต้องได้ไบโอแมสเป็นของแถมด้วย
มาลุยกันเลย!
ก่อนที่สมองจะกรีดร้องว่า ‘หนูไม่อาวว~’ ผมก็ยิงกรดออกไปแล้ว
มาสิวะ ขอลองหน่อยเถอะ!
น้ำกรด +3 ของผมพุ่งด้วยความเร็วสูงและกระทบเข้ากับแผลของมันพอดี
นี่คือเป้าที่ผมเล็งไว้แต่แรกโดยหวังว่ามันจะสร้างความเสียหายให้มากกว่าเดิม
เจ้าอสูรร้ายคำรามลั่น ปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวของมันชี้มาทางผม และพอมันทำแบบนั้น
จิ้วๆ!
กรดอีกชุดพุ่งใส่ใบหน้าของมัน
รอบนี้วืดไปครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งพุ่งเข้าปากพอดี ก็ไม่ได้แย่นะ เป็นไงล่ะ!?
ถ้าไอ้พวกนี้มันชอบปล่อยให้กรดไหลลงคอกันนัก เดี๋ยวผมคงต้องเอาท่านี้ไปจดลิขสิทธิ์หน่อยแล้ว
‘แอนโธนี่กรอกปาก’ อันน่าเกรงขาม!
...
ฟังดูยังไงๆ ชอบกลนะ
ไอ้เข้ยักษ์สะบัดหัวไปมาขณะที่ลำคอของมันถูกกรดเผาจากภายใน ถ้าบวกกับแผลเก่าและกรดนัดแรก เจ้านี่คงกำลังเจ็บจี๊ดไปถึงสมอง
พอค่อนข้างแน่ใจแล้วว่ากรดถูกยิงมาจากไหน จระเข้ยักษ์ก็พุ่งมาทางนี้ทันที
แม่เจ้า!
ผมรีบกระโดดออกไปด้านข้าง ขาทั้ง 6 พยายามทำงานเกินขีดจำกัด
เจ้านั่นชูมือขึ้น กรงเล็บแหลมคมที่สะท้อนแสงสีฟ้านั้นดูน่าขนลุก
ผมต้องวิ่งไปรอบๆ และพยายามกะจังหวะหลบไปด้วย
ขวับ!
ลมพุ่งผ่านหัวของผมอย่างรุนแรง!
นี่ถ้าโดนจังๆ คงดับอนาถในดอกเดียว
สงสัยมันจะมี HP เยอะกว่าที่ผมคาดไว้
ตั้งสติหน่อยสิแอนโธนี่ เราหนีไม่ได้แล้วนะ
ขณะที่ไอ้เข้ยักษ์พยายามตั้งตัวและหันมาหาอีกครั้ง ผมเองก็เหลือบมองมันหน่อยๆ และยึดขาให้มั่น...
จิ้วๆ!
อีกฝ่ายทำให้ผมทึ่งด้วยการสไลด์หลบไปทางซ้ายแบบเท่ๆ
โอ้ ฉลาดเหมือนกันนี่หว่า
นี่ถ้าไม่ได้บาดเจ็บมาก่อน มันก็คงหลบได้หมด แต่น่าเสียดายจริงๆ ที่เท่ไม่ถึงตอนจบ
กรดนัดล่าสุดเฉี่ยวไปโดนที่แผงอกและหน้าท้องของมันแทน แบบนี้ HP น่าจะลดไปเยอะแล้วนะ
ผมเคลื่อนที่แบบไม่หยุด พยายามหนีการเข้าประชิดแบบสุดโต่ง พร้อมกับถ่วงเวลาให้กรดทำงานต่อไปเรื่อยๆ
ถ้าต้องมาชกกันซึ่งหน้าล่ะก็ ไม่ต้องบอกคงรู้นะว่าใครได้เปรียบ!
สายตาของมันบ่งบอกถึงความโกรธและความไม่ยอมแพ้ รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากทั่วทุกรูขุมขน
น่ากลัวชิหายเลย!
มันอาจจะไม่ได้สูงเกิน 2 เมตร แต่สภาพโดยรวมนั้นถือว่าดูบึกบึนและแข็งแกร่งมาก
ไม่รู้จะไปเทียบความสูงกับมันทำไม นี่ผมสูงแค่ประมาณเข่าคนเองนะ เลิกทำขู่แล้วตายสักทีสิวะ!
เพราะรู้ตัวว่าต้องแข่งกับเวลา ไอ้เข้ยักษ์จึงเริ่มกู่ร้องและพุ่งเข้ามาเพื่อตัดเส้นทางการวิ่งของผม
รอไรล่ะ หลบครับบบ! แต่จะไปขวาหรือซ้ายดีน้า~?
ขาทั้ง 6 เริ่มทำงานเร็วขึ้นจนเกือบจะเป็นภาพเบลอ ผมกำลังสับขาหลอกว่าจะไปทางนั้นทางนี้ เพื่อพยายามทำให้มันพลาดเป้า
แต่เอาจริงๆ จะไปทางไหนดีล่ะ? หัวใจของผมตื่นเต้นจนแทบระเบิด
น่าแปลกที่ตอนนี้สมองยังใจเย็นอยู่ได้
ความคิดบ้าๆ แล่นเข้ามาแวบนึง ผมก็เลยเลือกสิ่งที่มันไม่มีทางคาดถึง... แล้วก็พุ่งใส่แม่งเลย!
เล็บแหลมคมวืดผ่านหัวไปอีกครั้ง แต่คราวนี้มันได้เสาอากาศข้างหนึ่งไปบางส่วน!!
ความเจ็บปวดทำให้สมองเริ่มวิงเวียน แต่ผมก็ถีบตัวเข้าไปกัดขาเพื่อทำให้มันล้มก่อนจะตั้งตัวได้
[กัด เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 5 สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้]
ไม่-ใช่-ตอน-นี้-โว้ยยย แกนดาล์ฟ!!
---------------
ติดตามแฟนเพจนักแปล: EP:IC Translation