ตอนที่ 22 สู่สมรภูมิอีกครั้ง
เจ้าตะขาบโดนหวดจนตัวแทบจะบี้ไปกับพื้นหิน
เปลือกของมันเต็มไปด้วยรอยแตกหลังจากที่แรงฟาดมหาศาลพุ่งผ่านลงไป
ผมได้แต่แอบอึ้งอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
เป็นการโจมตีที่น่าเกรงขามมาก! ถ้าเป็นผมไปโดนมั่งนี่มีหวังเละเป็นแพนเค้กมดแน่นอน
หลอนเลย!
ที่หลอนกว่าผมตอนนี้คงเป็นไอ้ตะขาบตัวที่โดนนั่นแหละ มันทั้งมึนทั้งตัวหงิกจนแทบลุกไม่ขึ้น
หมาป่าขยับเข้าไปใกล้ด้วยดวงตาอำมหิต ราวกับจะบอกให้โลกรู้ว่า ‘เป็นไงล่ะไอ้แมลง รู้ยังว่าแถวนี้ใครใหญ่สุด!?’
แต่ก่อนที่มันจะได้ปลิดชีพอีกฝ่ายก็บางอย่างที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น
จู่ๆ สายกรดร้อนๆ ก็พุ่งผ่านอากาศลงมากระทบกับสีข้างด้านซ้ายของมัน
อุ้ย!
หึหึหึหึหึ อะหึ้ยๆ
โทษทีที่ต้องขัดจังหวะนะ เจ้าหมาน้อย แต่ฉันว่าแกอย่าเพิ่งรีบได้ใจจะดีกว่า
แน่นอนว่าโดนกรดไปหนึ่งชุดคงไม่ถึงกับทำให้มันตาย เช่นเดียวกับเจ้าตะขาบ
ไม่นานตะขาบตัวที่นอนแหงกก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะเดินเมาๆ ออกไปช่วยเพื่อน
มันเลือกที่จะออกไปช่วยเพื่อนสู้กับหมา 2 ตัวนั้นก่อน
ถึงจังหวะสำคัญแล้ว ตะขาบใกล้ตายตัวนึง หมาป่าบาดเจ็บหนักอีกตัว เท่ากับว่าพวกมันกลับมาสูสีกันอีกครั้ง
แต่ดูเหมือนว่าพวกตะขาบจะไม่ค่อยอยากสู้ต่อเท่าไหร่นะ ตอนนี้ยังทำท่าโอหังไปงั้นแหละ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่กล้าโจมตีต่อ
หมาป่าตัวแรกเองก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะไม่นานมันก็กลับมาช่วยเพื่อนด้วยสภาพไม่สู้ดีนัก
จังหวะนี้เอง...
แผละ!
กรดชุดใหม่พุ่งเข้าใส่หมาป่าตัวแรกอีกครั้ง ทำไมถึงโชคร้ายแบบนี้เนี่ย!?
มันร้องโหยหวนเสียงดังลั่นก่อนจะลงไปไถกับพื้นเพื่อพยายามเอากรดออก
ตอนนี้เองที่ตะขาบทั้งสามพุ่งเข้าใส่เหล่าหมาป่า
ขาเป็นร้อยๆ ของพวกมันขยับเร็วมากจนดูเหมือนตัวกำลังไหลไปกับพื้น
พวกหมาป่าตอบสนองช้าไปเพียงจังหวะเดียวและทำให้หนึ่งในนั้นถูกกรงเล็บของตะขาบจับเอาไว้
มันพยายามดิ้นสุดชีวิต ส่วนหางก็ฟาดไปรอบๆ โดยหมายจะซัดตะขาบให้กระเด็นออกไป
เป็นอีกครั้งที่มันช้าไป เพราะมีตะขาบอีกตัวรีบพุ่งเข้ามาทิ่มหนามพิษใส่เป็นที่เรียบร้อย!
จังหวะนี้เองที่ผมแอบย่องเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งและเข้าไปใกล้การต่อสู้มากขึ้น
หมาป่าที่ถูกจับและโดนพิษนั้นยังคงดิ้นไม่เลิก คราวนี้มันใช้อาวุธทุกอย่าง ทั้งเขี้ยว เล็บ และหาง
พอตะขาบอีกตัวพยายามเข้ามาใกล้ มันก็โดนหางฟาดกระเด็นออกไปแบบงงๆ
ตอนนี้เป็นใครก็มองออกว่าสถานการณ์ทางฝั่งของหมาป่านั้นดูไม่ดีเอาซะเลย
ส่วนพวกตะขาบทั้งสี่ ตัวนึงบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีกสามตัวที่เหลือก็ได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน
หมาป่าทุกตัวรู้ดีว่างานนี้หนีไม่ได้แล้ว พวกมันก็เลยสู้แบบไม่คิดชีวิต
[สังหารตะขาบกรงเล็บ เลเวล 3]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
...
หลังจากแอบเข้าไปงับๆ มันอยู่ 2-3 ที ตะขาบที่บาดเจ็บสาหัสก็ต้องลาจากโลกนี้ไปก่อน~
มอนสเตอร์ทุกตัวกำลังสู้อย่างดุเดือดจนไม่ได้หันมาสนใจผมเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ตะขาบสามตัวที่เหลือเองก็ใช่ว่าจะได้เปรียบนะ เพราะการสู้กับ ‘หมาจนตรอก’ นี่แหละที่อันตรายที่สุด
หมาป่าที่โดนพิษนั้นร่อแร่เต็มทีแล้ว คิดว่าอีกไม่นานพิษในร่างก็คงปลิดชีพมันเอง
หมาป่าตัวสุดท้ายโดนทั้งเขี้ยวและกรงเล็บจนตัวเละไปหมด ไม่น่าแปลกใจเลยที่นั่นทำให้มันโซเซเล็กน้อย แล้วก็เป็นการเปิดช่องให้อีกฝ่ายเข้ามาแทงหนามพิษเข้าตรงหัวไหล่
มันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและโจมตีสวนกลับด้วยพลังทั้งหมดที่มี
หางของหมาป่าหวดไปโดนตะขาบพร้อมกันสองตัวและส่งพวกมันไปจูบผนังแทน
ทั้งสองตัวพากันโซเซไปมา ขาแตกอยู่หลายข้าง ส่วนเปลือกที่ลำตัวก็ร้าวไปหมด
สังเวียนแห่งสุดท้ายก็คือการสู้แบบตัวต่อตัวระหว่างตะขาบที่บาดเจ็บและหมาป่าตัวที่โดนกรดของผมเข้าไป
ทั้งสองเดินคุมเชิงกันไปมา ต่างรอให้อีกฝ่ายเสียจังหวะเพื่อเข้าไปซ้ำ
ขาของหมาป่านั้นกะเผลกไปข้างนึง แต่ของกิ้งก่าเองก็ใช่ว่าจะดีกว่าสักเท่าไหร่
ราวกับมีกรรมการว่าส่งสัญญาณว่า ‘เริ่มได้!’ เพราะพวกมันออกตัวแทบจะพร้อมๆ กัน!
ทั้งสองตัวพุ่งเข้าประสานงาแบบจังๆ ต่างคิดจะใช้ปากเพื่อขย้ำอีกฝ่ายให้ได้ก่อน
ตะขาบใช้กรงเล็บจิกเข้าที่ลำคอของหมาป่า ส่วนหมาป่าก็กำลังเคี้ยวหลังหัวของตะขาบเพื่อเป็นการเอาคืน
ใครจะอยู่ ใครจะไป!?
...สรุปคือล้มทั้งคู่
พวกมันหงายหลังตึง ไร้เรี่ยวแรง และไร้หนทางที่จะสู้ต่อ
ผมรู้สึกเหมือนกับ... จะได้ดูซุปเปอร์ฮีโร่สู้กับตัวร้ายที่ชอบดีดนิ้ว แต่จู่ๆ ทุกคนก็มองนาฬิกาที่ข้อมือแล้วก็ ‘เลิกงานละ ไว้มาต่อพุ่งนี้’ ประมาณนี้เลย
หมาป่าทั้งสามตัวล้มระเนระนาด เหนื่อยอ่อนและใกล้ตาย
อีกฝั่งนึง พวกตะขาบก็อยู่ในสภาพเดียวกัน ขนาดป้องกันตัวเองยังทำไม่ได้
...
ฮื่มม...เหะ...เหะๆ....หุหุ ฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
ไอ้พวกหน้าโง่! ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้เลย!
...ถึงจะได้เฝ้ามองทุกอย่าง แต่ผมก็งงเหมือนกันนะว่าทำไมทุกอย่างมันลงตัวแบบนี้
ตอนนี้พวกมันน่าจะเหลือกันตัวละ 1-2 HP เท่านั้นแหละ
งานนี้รับเละเฉยเลย ค่าประสบการณ์กับไบโอแมสกองเป็นภูเขา
คนเรานี่ก็แปลกดีนะ จู่ๆ ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเฉย
เมื่อไม่นานมานี้ ผมเองก็เคยเป็นคนธรรมดาทั่วไป
ผมอยู่ในสังคมปกติ ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายใคร ไม่เคยชกต่อยกับใครแบบเป็นเรื่องเป็นราว
แต่พอได้มาที่นี่ แค่ไม่กี่วันก็ทำให้ผมเป็นพวกชินการต่อสู้ไปแล้ว
ถ้าเราถูกสถานการณ์บังคับให้สู้และฆ่าเพื่อหาอาหารกับเอาชีวิตรอด แน่นอนว่าเราต้องยอมเปลี่ยน...
บางทีผมอาจจะพูดเข้าข้างตัวเองอยู่ก็ได้นะ บอกตัวเองว่าพวกนี้ไม่ใช่คนแต่เป็นแค่มอนสเตอร์ แต่ผมก็เป็นมอนสเตอร์เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?
เอาไว้คิดต่อทีหลังละกัน! ผมต้องรีบออกไปลงดาบสุดท้ายก่อนที่บางตัวจะตายเพราะพิษตะขาบเสียก่อน ค่าประสบการณ์จ๋า!
ผมรีบแวะไปที่มอนสเตอร์ตัวต่างๆ และโจมตีพวกมันโดยตรงด้วยขากรรไกร
ไม่นานเสียงสวรรค์ของแกนดาล์ฟก็ดังขึ้นในหัว
[สังหารลูปัสดราโคคับ เลเวล 4]
[สังหารลูปัสดราโคคับ เลเวล 3]
[สังหารลูปัสดราโคคับ เลเวล 4]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
จากนั้นก็ถึงตาพวกตะขาบ
น่าเสียดายที่หนึ่งในนั้นทนพิษบาดแผลไม่ไหวและตายเสียก่อน แต่ที่เหลือนี่ยังได้อยู่นะ
[สังหารตะขาบกรงเล็บ เลเวล 2]
[สังหารตะขาบกรงเล็บ เลเวล 3]
[ได้รับค่าประสบการณ์]
[เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 5, ได้รับ 1 แต้มสกิลเป็นรางวัล]
[เลเวลมาถึงขีดจำกัดแล้ว เปิดใช้งานเมนูวิวัฒนาการ]
วะ-วะ-วะ-ว่าไงน้าาาาาาาาา!?
แกนดาล์ฟ!? ล้อกันเล่นป่ะเนี่ย!? นี่ฉันวิวัฒนาการได้แล้วเหรอ!?
ใจเย็นแอนโธนี่! อย่าเพิ่งกระโตกกระตาก (TL: พูดกับตัวเอง)
ถึงนายจะฟินกับเรื่องนี้ขนาดไหน แต่การกู้ไบโอแมสก็ต้องมาก่อน
ศพมากมายก่ายกองขนาดนี้ เดี๋ยวต้องมีมอนสเตอร์ตัวอื่นมาขอแจมแน่เลย!
ตอนนี้เองที่เสาอากาศของผมตรวจจับบางอย่างได้
ผมหยุดนิ่งทันที
นั่น! ได้ยินอีกแล้ว! เสียงบางอย่างกระทบพื้นเบาๆ ดังมาจากทางที่ควรจะนำไปสู่โพรงอันแรก
เดี๋ยวสิ
ไม่ ไม่น้า ต้องไม่ใช่ตอนนี้สิ ต้องไม่ใช่แบบนี้!
จะมาตอนนี้ไม่ได้นะว้อยยยย!
---------------
ติดตามแฟนเพจนักแปล: EP:IC Translation