ตอนที่แล้วตอนที่ 151 นักศึกษามาเยือน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 153 มอบบ้านให้อีกหลัง

ตอนที่ 152 สมรภูมิสนามหญ้า


ทันทีซูข่านได้หันหน้ามามองที่หวางรุย ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว

ไหนบอกว่าชิงชิงกับชิงเยว่ไม่ว่าง

แล้วเสียงที่อยู่หน้าบ้านนี่เรียกว่าอะไร

"พี่สามอยู่บ้านหลังนี้จริงเหรอ?"

เสียงของหลี่ชิงเยว่เบาลง เธอยื่นหัวของเธอมาในประตู ใบหน้าที่กลมของเธอได้มองอะไรบางอย่างในบ้านแล้วก็รีบยื่นหัวกลับไปอย่างรวดเร็ว

"ชิงชิง นี่บ้านของพี่สามจริงอ่ะ?"

หลี่ชิงเยว่รีบหันกลับมามองที่จ้าวชิงชิงที่ได้วิ่งตามมาที่หลัง เธอทำหน้าประหลาดใจอย่างมาก

"รอฉันด้วยสิ…."

หลี่ชิงเยว่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ขณะมองที่ร่างของจ้าวชิงชิง จากนั้นเธอได้พูดขึ้นมาว่า

"ชิงชิง ตะกี้ฉันยื่นหน้าเข้าไปดูเหมือนจะเห็นพี่สามด้วย แต่เขาอยู่กับอีกคนหนึ่งซึ่งมันดูคุ้นมากๆ"

"คุ้นๆเหรอ?"

จ้าวชิงชิงพิงประตูด้วยความเหนื่อย ใครกันที่หลี่ชิงเยว่พูดถึง

ตอนที่ได้เจอกับพี่สามครั้งล่าสุดที่ร้านวังหลวง ดูเหมือนว่าเขาก็มีคนรู้จักอยู่ไม่น้อย

ไม่แปลกหรอกที่หลี่ชิงเยว่จะคุ้นหน้าคนในบ้าน คงเป็นใครสักคนที่ร้านวันนั้นแหละ

"ใช่"

หลี่ชิงเยว่ส่ายหัวของเธอแล้วพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

"เหมือนหวางรุยเลย"

"อะไรนะ!!"

จ้าวชิงชิงตกใจกับคำพูดของหลี่ชิงเยว่มาก เธอได้ก้าวเข้าในบ้านและมองไปที่สนามหญ้าหน้าบ้าน

เธอเห็นร่างกายของผู้ชายคนหนึ่งยืนคู่กับหญิงสาวที่มีลักษณะสูงกว่าปกติ

นั่นมันหวางรุย!!

เธอมาที่นี่ได้ยังไง?

จ้าวชิงชิงรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่เห็นหวางรุย

ทำไมหวางรุยถึงได้มาอยู่ที่บ้านของพี่สาม

ถึงว่าตอนเช้าไม่เห็นเธอ ตอนแรกว่าจะไปตามหาเธอซะแล้ว แต่คิดว่าเธอคงอยากจะนอนตื่นสายสักวัน

จ้าวชิงชิงจำได้ว่าหวางรุยดูสนใจในตัวซูข่านมาก เธอได้เห็นภาพที่ทั้งสองคนอยู่ด้วนกันที่สนามหญ้าแล้ว หัวใจของเธอก็ดูเหมือนจะเคว้งๆอย่างบอกไม่ถูก

จากนั้นทั้งสองคนก็ได้เดินเข้าไปหาซูข่านในบ้าน

"สวัสดีค่ะพี่สาม"

จ้าวชิงชิงกัดฟันของเธอแล้วกล่าวทักทายซูข่าน เหงื่อของเธอเริ่มออกเยอะกว่าปกติ

"สวัสดีชิงชิง ชิงเยว่"

ซูข่านพยักหน้าให้กับทั้งสองคน จ้าวชิงชิงและหลี่ชิงเยว่ได้เดินเข้ามาในบ้านของซูข่าน ใบหน้าของเธอทั้งสองได้บ่งบอกถึงความประหลาดใจ

จ้าวชิงชิงสบตากับหวางรุย ดูเหมือนว่าจะมีความรู้สึกที่ร้อนๆออกมาจากตัวเธอทั้งสอง

ตอนแรกอากาศค่อนข้างเย็นสบาย มีแดดอุ่นๆเล็กน้อย

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสนามหญ้าของบ้านซูข่านจะกลายเป็นสมรภูมิเดือดซะแล้ว

ซูข่านไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี สถานการณ์ตอนนี้ของเขาไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี

มันเหมือนกับว่ารถไฟมาชนกัน แต่ว่าซูข่านไม่ได้อยู่บนรถไฟซักหน่อย เขากำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านของตัวเองแท้ๆ

"ใช่สิ หมิงเจียง"

ซูข่านได้อุทานออกมา เขาหันหน้าไปมองที่ด้านหลังของเขา แต่ว่าตอนนี้มีเพียงแค่ต้นไม้ใหญ่เท่านั้น

แล้วซงหมิงเจียงที่กำลังฝึกอะไรบางอย่างอยู่ ตอนนี้เขาหายไปไหนแล้ว?

ซูข่านมองเข้าไปในบ้าน เขาเห็นหลังของซงหมิงเจียงที่กำลังวิ่งอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแล่บไปที่ห้องของเขา

"ปัง"

เสียงปิดประตูเสียงดังออกมา ซูข่านพูดอะไรไม่ออก

ซงหมิงเจียงที่อยู่ในห้อง เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่เขามีสายตาที่ดี เขาเห็นว่ามีบางอย่างเริ่มผิดปกติ เขาเลยรีบวิ่งกลับมาที่ห้องของเขา

ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงสองคนนั้นกับพี่สามคืออะไร เขาไม่อยากที่จะรู้เลย เขาไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามด้วยซ้ำ

ถ้าในสองคนนั้นมีใครสักคนเป็นแฟนกับพี่สามละก็…

ต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่สนามหน้าบ้านแน่ๆ เขาขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า

มันเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ไม่สิต้องบอกว่าเป็นเรื่องระหว่างคน 3-4 คนที่อยู่หน้าบ้านตอนนี้ ไม่รู้แม่สาวหน้ากลมนั่นจะเกี่ยวด้วยไหม

จ้าวชิงชิงรีบเดินมาหาซูข่านและหวางรุยอย่างรวดเร็ว เธอได้มองดูทั้งสองคนที่มีระยะห่างกันอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ยังได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก

"เมื่อเช้าไม่เห็นเธอ ตอนแรกฉันคิดว่าเธอไปห้องสมุดซะอีก"

จ้าวชิงชิงพูดด้วยรอยยิ้ม

"เปล่า ฉันไม่ได้ไปห้องสมุดหรอก พี่สามได้เลี้ยงข้าวเราสองครั้งแล้ว ฉันเลยว่าจะมาชวนพี่สามไปกินข้าวซักหน่อย"

หวางรุยพูดด้วยรอยยิ้มแต่เป็นยิ้มที่มุมปากเท่านั้น

"อ้าว แล้วทำไมเธอไม่เรียกพวกฉันมาด้วยล่ะ เพิ่งเปิดเทอมแท้ๆ เธอดูมีเวลาว่างจังเลยเนอะ"

จ้าวชิงชิงเหลือบมองไปที่หวางรุย

"ก็ตอนแรกฉันคิดว่าพวกเธอยังไม่ตื่นนะสิ"

หวางรุยก็ตอบพร้อมทั้งมองที่เท้าของจ้าวชิงชิง

ซูข่านรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังจะเป็นบ้ากับผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้

เหมือนพวกเธอกำลังพูดจาหักเหลี่ยม เฉือนคมอะไรกันอยู่เลย

คำพูดของพวกเธอตอนนี้เหมือนกับมีดที่ขว้างออกไป แล้วอีกฝ่ายก็สวนกลับด้วยลูกปืน ต่างฝ่ายต่างสวนกันไปมา

"นี่มันเรื่องอะไรกัน"

ซูข่านพูดเสียงต่ำ

เมื่อได้ยินเสียงของซูข่าน หวางรุยและจ้าวชิงชิงก็หยุดพูดทันที พวกเธอยืนนิ่งๆราวกับว่าเป็นลูกสะใภ้ตัวน้อยของบ้านหลังนี้

"พี่สาม ฉันขอโทษ"

จ้าวชิงชิงพูดขึ้นมาเป็นคนแรกหลังจากเงียบได้สักพัก

หวางรุยเห็นก็ได้พูดมาต่อ

"ขอโทษค่ะพี่สาม"

เมื่อเห็นท่าทางที่สำนักผิดของหญิงสาวทั้งสองคน ซูข่านก็ไม่รู้หัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี

ตอนแรกพวกเธอเดือดดาลราวกับเสือที่โดนแย่งเหยื่อ แต่ตอนนี้พวกเธอนิ่งสงบเหมือนกับเป็นกระต่ายน้อยตัวเล็กๆ อยู่ดีๆก็มีมารยาทขึ้นมาเฉย

แล้วความเดือดเมื่อซักครู่นี้ล่ะ หายไปไหนแล้ว?

ซูข่านไม่รู้จะพูดอะไรออกไป ตอนนี้เขาคิดออกเพียงอย่างเดียว

"ไหนๆก็มากันครบแล้ว งั้นเดี๋ยวพวกเราไปกินข้าวกันดีกว่า ฉันเลี้ยงเอง"

"ไม่ค่ะ เดี๋ยวฉันเลี้ยง"

หวางรุยพูดขึ้นมาทันที

"พี่สามคะ วันนี้ฉันมาเชิญพี่สามก่อนนะคะ แล้วอีกอย่างพี่เลี้ยงข้าวพวกเราสองมื้อแล้ว อย่าให้มีมื้อที่สามเลย"

จ้าวชิงชิงยิ้มอย่างชั่วร้าย

เธอรู้สึกเหมือนว่าชนะหวางรุยทันทีหลังจากที่หวางรุยได้พูดจบ จากนั้นเธอก็ได้พูดขึ้นมาว่า

"โทษทีนะ แต่พี่สามได้เลี้ยงข้าวฉันไปแล้ว 3 มื้อเยอะกว่าเธอตั้ง 1 มื้อ เพราะฉะนั้นมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง"

"อะไรกันเนี่ย"

หลี่ชิงเยว่ที่ยืนอยู่ข้างหลัง เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่าหวางรุยกับชิงชิงกำลังทะเลาะกันแย่งพี่สามอยู่เลย

ผู้หญิงสองคนกำลังแย่งผู้ชายคนเดียวเนี่ยนะ….

เสน่ห์ของพี่สามนี้แรงไม่เบาเลย

ซูข่านส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ และพูดออกมาช้าๆ

"งั้นเดี๋ยวฉันจะกินข้าวกับพวกเธอทั้งหมดนี้แหละ พวกเราไปที่ร้านอาหารวังหลวงกันเถอะ"

ซูข่านได้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายออกไป เขาคิดว่าทั้งสองน่าจะหยุดทะเลาะกันได้แล้ว เรื่องน่าอายแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นอีก

ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรแต่ต่างคนต่างมองหน้ากัน

"ฟู่"

ซูข่านถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาซะแล้ว มันค่อนข้างเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียวแหละ

การที่สาวๆมาทะเลาะกันต่อหน้าเขาแบบนี้

ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาเปรียบเทียบได้เลย

มันน่ารำคาญที่สุดเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด