ตอนที่แล้วตอนที่ 150 การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ KFC
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 152 สมรภูมิสนามหญ้า

ตอนที่ 151 นักศึกษามาเยือน


ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำบริษัท

มันเป็นเรื่องอันดับแรกๆเลยที่บริษัทขนาดใหญ่จะต้องนึกถึง

มีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการขุดเหมือง โดยสถานที่ขุดเหมืองมีความเสี่ยงสูง พวกเขาได้จ้างทหารรับจ้างมาเพื่อดูแลเหมืองของเขาเป็นพิเศษ

เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยขนาดไหน

ซูข่านคิดว่าจะให้ซงหมิงเฉียงมาอยู่กับเขาชั่วคราว เมื่อถึงเวลาที่เขาสามารถจัดการกับความปลอดภัยในบ้านกับรอบๆได้ เขาถึงจะให้ซงหมิงเฉียงไปทำงานอย่างอื่น

"อ่าห์"

ซูข่านวางถ้วยชาในมือของเขาลง ดวงตาของเขามีความพึงพอใจอย่างมาก

ชีวิตแบบนี้มันช่างสบายจริงๆ

ซูข่านได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านหลายต่อหลายวัน ซงหมิงเฉียงได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเดียวกับซูข่านแล้ว ซูข่านได้ยกห้องนอนให้เขาห้องหนึ่ง

เมื่อไม่นานมานี้จางเฉียงก็ได้นำของเก่าชุดใหม่มาที่บ้าน

ซูข่านคิดว่าหากเป็นอย่างนี้อีกสัก 2-3 บ้านหลังนี้ก็อาจไม่มีที่เดินอีกแล้ว ของเก่าอาจจะเต็มในห้องลับของเขา

เฒ่าหลี่ก็ได้ทำงานอย่างขยันภายในห้องลับ เขาดูไม่ค่อยมีความสุขซักเท่าไหร่เลย ซูข่านได้เห็นเขาแค่ตอนกินกับตอนนอนเท่านั้น นอกนั้นเฒ่าหลี่จะหมกตัวอยู่แต่ในห้องลับ

นอกจากนี้ซูข่านได้บอกจางเฉียงหากล้องถ่ายรูปมาซักเครื่องหนึ่ง เขาได้ให้เฒ่าหลี่ถ่ายรูปของเก่าเก็บเอาไว้ด้วย

ซูข่านได้เปิดดูรูปที่เฒ่าหลี่ถ่าย มีรูปของเก่ามากมาย และเฒ่าหลี่ก็ได้จดบันทึกของเก่าเหล่านั้นลงสมุดเล่มหนึ่ง

ของเก่าทุกชิ้นถูกเฒ่าหลี่เขียนเองด้วยมือของเขา ยกเว้นเพียงแต่ ไข่มุกราตรีเม็ดนั้น

หากว่าเฒ่าหลี่ไม่ได้พบกับซูข่าน เขาคงจะปล่อยให้ความลับของไข่มุกเม็ดนี้ตายไปพร้อมกับเขา

ไข่มุกราตรีก็จะหลับไหลอยู่ในห้องลับไปตลอดกาล เว้นซะแต่บ้านหลังนี้ได้ถูกทำลายลงจนเผยให้เห็นทางเข้าห้องลับ

ซึ่งนั่นก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ ห้องลับถูกออกแบบมาอย่างดี

เฒ่าหลี่ไม่ต้องการที่จะใส่รายละเอียดของไข่มุกโบราณนี้ไว้ในสมุดบันทึกของเขา

มันเป็นมากกว่าสมบัติระดับประเทศ ไม่ควรมีผู้ใดครอบครองมัน

ไม่กี่วันต่อมา อากาศในหนานจิงได้สูงขึ้นมาก ถึงแม้ว่าไม่ถึงขนาดใส่เสื้อแขนสั้นได้ แต่อากาศก็ไม่ได้หนาวจัดเหมือนก่อนหน้านี้

วันนี้เป็นวันที่แดดดีมาก อากาศอบอุ่นเป็นพิเศษ

ซูข่านได้บอกให้ซงหมิงเจียงนำเก้าอี้ตัวโปรดของเขาออกมาวางไว้กลางสนามหญ้าหน้าบ้าน

ซูข่านอยากจะนั่งมองก้อนเมฆภายใต้แสงแดดที่อบอุ่น

รูปร่างของก้อนเมฆมีขนาดแตกต่างกันไป เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง บางคนก็เห็นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ บางคนก็เห็นเป็นรูปอักษรต่างๆแล้วแต่จินตนาการของคน

ช่างเป็นวันที่เงียบสงบและดีมากๆวันหนึ่ง

"แกร๊ก…"

ซูข่านได้ยินเสียงเปิดประตูที่หน้าบ้าน น่าจะเป็นเสี่ยวผิงแน่ๆเธอได้ออกไปซื้อผักมาทำอาหารวันนี้

"พี่สามคะ"

เสียงของเสี่ยวผิงดังขึ้น ซูข่านได้หลับตาอยู่บนเก้าอี้

"มีคนต้องการจะพบกับพี่ค่ะ"

เสี่ยวผิงตะโกนไปทางซงหมิงเจียงที่กำลังฝึกอะไรสักอย่างอยู่ไม่ไกล

"พี่หมิงเจียง พี่สามหลับอยู่หรือเปล่า?"

ซงหมิงเจียงได้หันไปมองซูข่าน

10 วันแล้วที่เขาได้มาอยู่ที่บ้านหลังนี้

พี่สามปล่อยตัวตามสบายทุกวัน เขามักจะพักผ่อนอยู่กับเก้าอี้ตัวนี้ในตอนกลางวัน พอตกกลางคืนเขาก็ย้ายไปในห้องของเขา

ถึงเขาจะทำตัวสบายแค่ไหน แต่เขาก็ได้วางแผนให้กับคนของเขาไปทำงานให้เรียบร้อย ซงหมิงเจียงรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก

"ใคร?"

ซูข่านลืมตาขึ้นมา เขาขยับตัวและค่อยๆหันไปมองที่เสี่ยวผิง

"เธอบอกว่า เธอเป็นนักศึกษาที่ซู่เฟิงพาที่ร้านวังหลวงวันนั้นค่ะ"

เสี่ยวผิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เธอคิดว่านักศึกษาที่ไหนมีธุระต้องมาคุยกับพี่สามถึงที่บ้านแบบนี้

ซูข่านขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วก็หันไปมองที่ประตู

"ทาด้าา~"

อยู่ๆมีเสียงที่สดใสดังขึ้นมา พร้อมทั้งร่างที่สูงก้าวเข้ามาภายในบ้าน

"เอ่อ"

ซูข่านตะงักไปชั่วขณะ เขาประหลาดใจเล็กน้อย

"หวางรุย"

"พี่สามคะ"

หวางรุยรีบเดินเข้ามาด้วยดวงตาที่สวยงามของเธอพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

"หวางรุยเธอมาที่นี่ทำไม?"

ซูข่านแปลกใจที่คนที่เข้ามาไม่ใช่จ้าวชิงชิงแต่กลับเป็นหวางรุย เขาได้ลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ

หวางรุยเธอได้สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน เธอเป็นคนที่ตัวสูงมาก การใส่กางเกงตัวนี้ทำให้เธอดูดีไม่ใช่น้อย

"ฉันถือวิสาสะมาที่บ้านโดยไม่ได้ขออนุญาติพี่ก่อน หวังว่าพี่สามจะไม่โกรธฉันนะคะ"

หวางรุยหัวเราะคิกคัก

"เธอรู้จักที่นี่ได้ยังไง?”

ซูข่านพูดกับตัวเองเบาๆ

หวางรุยได้เดินเข้ามาหาซูข่านที่กำลังยืนอยู่ เธอดูสูงใกล้เคียงกับซูข่านมาก

ถ้าหากว่าเธอใส่รองเท้าส้นสูง ขนาดตัวของเธอคงจะสูงเท่ากับซูข่านพอดี

"ว่าไงหวางรุย เธอมาคนเดียวเหรอ?"

ซูข่านมองไปที่ด้านหลังของหวางรุยด้วยความสงสัย ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครตามมา โดยปกติแล้วถ้ามีหวางรุยก็ต้องเห็นจ้าวชิงชิงกับหลี่ชิงเยว่ด้วย

"ชิงชิงกับชิงเยว่พวกเธอมีธุระต้องไปทำ ตอนนี้เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นานทั้งสองเลยกำลังยุ่งมาก"

หวางรุยอธิบายกับซูข่านด้วยรอยยิ้ม เธอมาหยุดยืนใกล้ๆกับซูข่าน

ซูข่านรู้สึกว่าเขากำลังยืนใกล้กับหวางรุยมากเกินไป มันดูไม่เหมาะสมมากๆในสถานการณ์นี้ เขาได้ถอยหลังไป 2-3 ก้าวแล้วยิ้มให้กับหวางรุยอย่างสุภาพ

หวางรุยได้มองรอบๆบ้านของซูข่านแล้วคิดในใจของเธอ

ตัวตนของพี่สามไม่ธรรมดาจริงๆ สวนหน้าบ้านถูกตกแต่งออกมาได้อย่างสวยงาม บ้านของเขามีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ

ได้ยินมาว่าเขาซื้อบ้านหลังนี้ด้วยเงินของเขาเอง แถมเขายังมีบ้านที่อยู่กับครอบครัวด้วยอีกหลังหนึ่ง

"อ๋อ..แล้วเธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่"

ซูข่านถามด้วยความสงสัย

หวางรุยยิ้มที่มุมปากของเธอแล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า

"ชิงชิงบอกกับฉันค่ะ ฉันเลยรู้จักที่นี่"

"พี่สามว่างไหมคะ? ไปทานข้าวกัน"

"ทานข้าวเหรอ?"

ซูข่านขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

"ใช่ค่ะ"

หวางรุยทำหน้าตาน่าสงสารและพูดต่อว่า

"ชิงชิงกับชิงเยว่ไม่ยอมมากินข้าวกับฉันเลย พวกเธอบ่นแต่ว่าไม่ว่าง"

ขณะที่หวางรุยกำลังพูดอยู่นั้น ซูข่านก็ได้ยินเสียงดังที่อยู่ข้างนอกบ้าน

"ชิงชิงบ้านหลังนี้รึเปล่า พี่สามอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?"

เสียงนี้เป็นเสียงของหลี่ชิงเยว่ไม่ผิดแน่ ซูข่านก็ได้หันไปมองที่หวางรุย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด