ตอนที่ 151 นักศึกษามาเยือน
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำบริษัท
มันเป็นเรื่องอันดับแรกๆเลยที่บริษัทขนาดใหญ่จะต้องนึกถึง
มีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการขุดเหมือง โดยสถานที่ขุดเหมืองมีความเสี่ยงสูง พวกเขาได้จ้างทหารรับจ้างมาเพื่อดูแลเหมืองของเขาเป็นพิเศษ
เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยขนาดไหน
ซูข่านคิดว่าจะให้ซงหมิงเฉียงมาอยู่กับเขาชั่วคราว เมื่อถึงเวลาที่เขาสามารถจัดการกับความปลอดภัยในบ้านกับรอบๆได้ เขาถึงจะให้ซงหมิงเฉียงไปทำงานอย่างอื่น
"อ่าห์"
ซูข่านวางถ้วยชาในมือของเขาลง ดวงตาของเขามีความพึงพอใจอย่างมาก
ชีวิตแบบนี้มันช่างสบายจริงๆ
ซูข่านได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านหลายต่อหลายวัน ซงหมิงเฉียงได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเดียวกับซูข่านแล้ว ซูข่านได้ยกห้องนอนให้เขาห้องหนึ่ง
เมื่อไม่นานมานี้จางเฉียงก็ได้นำของเก่าชุดใหม่มาที่บ้าน
ซูข่านคิดว่าหากเป็นอย่างนี้อีกสัก 2-3 บ้านหลังนี้ก็อาจไม่มีที่เดินอีกแล้ว ของเก่าอาจจะเต็มในห้องลับของเขา
เฒ่าหลี่ก็ได้ทำงานอย่างขยันภายในห้องลับ เขาดูไม่ค่อยมีความสุขซักเท่าไหร่เลย ซูข่านได้เห็นเขาแค่ตอนกินกับตอนนอนเท่านั้น นอกนั้นเฒ่าหลี่จะหมกตัวอยู่แต่ในห้องลับ
นอกจากนี้ซูข่านได้บอกจางเฉียงหากล้องถ่ายรูปมาซักเครื่องหนึ่ง เขาได้ให้เฒ่าหลี่ถ่ายรูปของเก่าเก็บเอาไว้ด้วย
ซูข่านได้เปิดดูรูปที่เฒ่าหลี่ถ่าย มีรูปของเก่ามากมาย และเฒ่าหลี่ก็ได้จดบันทึกของเก่าเหล่านั้นลงสมุดเล่มหนึ่ง
ของเก่าทุกชิ้นถูกเฒ่าหลี่เขียนเองด้วยมือของเขา ยกเว้นเพียงแต่ ไข่มุกราตรีเม็ดนั้น
หากว่าเฒ่าหลี่ไม่ได้พบกับซูข่าน เขาคงจะปล่อยให้ความลับของไข่มุกเม็ดนี้ตายไปพร้อมกับเขา
ไข่มุกราตรีก็จะหลับไหลอยู่ในห้องลับไปตลอดกาล เว้นซะแต่บ้านหลังนี้ได้ถูกทำลายลงจนเผยให้เห็นทางเข้าห้องลับ
ซึ่งนั่นก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ ห้องลับถูกออกแบบมาอย่างดี
เฒ่าหลี่ไม่ต้องการที่จะใส่รายละเอียดของไข่มุกโบราณนี้ไว้ในสมุดบันทึกของเขา
มันเป็นมากกว่าสมบัติระดับประเทศ ไม่ควรมีผู้ใดครอบครองมัน
ไม่กี่วันต่อมา อากาศในหนานจิงได้สูงขึ้นมาก ถึงแม้ว่าไม่ถึงขนาดใส่เสื้อแขนสั้นได้ แต่อากาศก็ไม่ได้หนาวจัดเหมือนก่อนหน้านี้
วันนี้เป็นวันที่แดดดีมาก อากาศอบอุ่นเป็นพิเศษ
ซูข่านได้บอกให้ซงหมิงเจียงนำเก้าอี้ตัวโปรดของเขาออกมาวางไว้กลางสนามหญ้าหน้าบ้าน
ซูข่านอยากจะนั่งมองก้อนเมฆภายใต้แสงแดดที่อบอุ่น
รูปร่างของก้อนเมฆมีขนาดแตกต่างกันไป เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง บางคนก็เห็นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ บางคนก็เห็นเป็นรูปอักษรต่างๆแล้วแต่จินตนาการของคน
ช่างเป็นวันที่เงียบสงบและดีมากๆวันหนึ่ง
"แกร๊ก…"
ซูข่านได้ยินเสียงเปิดประตูที่หน้าบ้าน น่าจะเป็นเสี่ยวผิงแน่ๆเธอได้ออกไปซื้อผักมาทำอาหารวันนี้
"พี่สามคะ"
เสียงของเสี่ยวผิงดังขึ้น ซูข่านได้หลับตาอยู่บนเก้าอี้
"มีคนต้องการจะพบกับพี่ค่ะ"
เสี่ยวผิงตะโกนไปทางซงหมิงเจียงที่กำลังฝึกอะไรสักอย่างอยู่ไม่ไกล
"พี่หมิงเจียง พี่สามหลับอยู่หรือเปล่า?"
ซงหมิงเจียงได้หันไปมองซูข่าน
10 วันแล้วที่เขาได้มาอยู่ที่บ้านหลังนี้
พี่สามปล่อยตัวตามสบายทุกวัน เขามักจะพักผ่อนอยู่กับเก้าอี้ตัวนี้ในตอนกลางวัน พอตกกลางคืนเขาก็ย้ายไปในห้องของเขา
ถึงเขาจะทำตัวสบายแค่ไหน แต่เขาก็ได้วางแผนให้กับคนของเขาไปทำงานให้เรียบร้อย ซงหมิงเจียงรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก
"ใคร?"
ซูข่านลืมตาขึ้นมา เขาขยับตัวและค่อยๆหันไปมองที่เสี่ยวผิง
"เธอบอกว่า เธอเป็นนักศึกษาที่ซู่เฟิงพาที่ร้านวังหลวงวันนั้นค่ะ"
เสี่ยวผิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เธอคิดว่านักศึกษาที่ไหนมีธุระต้องมาคุยกับพี่สามถึงที่บ้านแบบนี้
ซูข่านขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วก็หันไปมองที่ประตู
"ทาด้าา~"
อยู่ๆมีเสียงที่สดใสดังขึ้นมา พร้อมทั้งร่างที่สูงก้าวเข้ามาภายในบ้าน
"เอ่อ"
ซูข่านตะงักไปชั่วขณะ เขาประหลาดใจเล็กน้อย
"หวางรุย"
"พี่สามคะ"
หวางรุยรีบเดินเข้ามาด้วยดวงตาที่สวยงามของเธอพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
"หวางรุยเธอมาที่นี่ทำไม?"
ซูข่านแปลกใจที่คนที่เข้ามาไม่ใช่จ้าวชิงชิงแต่กลับเป็นหวางรุย เขาได้ลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ
หวางรุยเธอได้สวมกางเกงขายาวสีน้ำเงิน เธอเป็นคนที่ตัวสูงมาก การใส่กางเกงตัวนี้ทำให้เธอดูดีไม่ใช่น้อย
"ฉันถือวิสาสะมาที่บ้านโดยไม่ได้ขออนุญาติพี่ก่อน หวังว่าพี่สามจะไม่โกรธฉันนะคะ"
หวางรุยหัวเราะคิกคัก
"เธอรู้จักที่นี่ได้ยังไง?”
ซูข่านพูดกับตัวเองเบาๆ
หวางรุยได้เดินเข้ามาหาซูข่านที่กำลังยืนอยู่ เธอดูสูงใกล้เคียงกับซูข่านมาก
ถ้าหากว่าเธอใส่รองเท้าส้นสูง ขนาดตัวของเธอคงจะสูงเท่ากับซูข่านพอดี
"ว่าไงหวางรุย เธอมาคนเดียวเหรอ?"
ซูข่านมองไปที่ด้านหลังของหวางรุยด้วยความสงสัย ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครตามมา โดยปกติแล้วถ้ามีหวางรุยก็ต้องเห็นจ้าวชิงชิงกับหลี่ชิงเยว่ด้วย
"ชิงชิงกับชิงเยว่พวกเธอมีธุระต้องไปทำ ตอนนี้เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่นานทั้งสองเลยกำลังยุ่งมาก"
หวางรุยอธิบายกับซูข่านด้วยรอยยิ้ม เธอมาหยุดยืนใกล้ๆกับซูข่าน
ซูข่านรู้สึกว่าเขากำลังยืนใกล้กับหวางรุยมากเกินไป มันดูไม่เหมาะสมมากๆในสถานการณ์นี้ เขาได้ถอยหลังไป 2-3 ก้าวแล้วยิ้มให้กับหวางรุยอย่างสุภาพ
หวางรุยได้มองรอบๆบ้านของซูข่านแล้วคิดในใจของเธอ
ตัวตนของพี่สามไม่ธรรมดาจริงๆ สวนหน้าบ้านถูกตกแต่งออกมาได้อย่างสวยงาม บ้านของเขามีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ
ได้ยินมาว่าเขาซื้อบ้านหลังนี้ด้วยเงินของเขาเอง แถมเขายังมีบ้านที่อยู่กับครอบครัวด้วยอีกหลังหนึ่ง
"อ๋อ..แล้วเธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่"
ซูข่านถามด้วยความสงสัย
หวางรุยยิ้มที่มุมปากของเธอแล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า
"ชิงชิงบอกกับฉันค่ะ ฉันเลยรู้จักที่นี่"
"พี่สามว่างไหมคะ? ไปทานข้าวกัน"
"ทานข้าวเหรอ?"
ซูข่านขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"ใช่ค่ะ"
หวางรุยทำหน้าตาน่าสงสารและพูดต่อว่า
"ชิงชิงกับชิงเยว่ไม่ยอมมากินข้าวกับฉันเลย พวกเธอบ่นแต่ว่าไม่ว่าง"
ขณะที่หวางรุยกำลังพูดอยู่นั้น ซูข่านก็ได้ยินเสียงดังที่อยู่ข้างนอกบ้าน
"ชิงชิงบ้านหลังนี้รึเปล่า พี่สามอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?"
เสียงนี้เป็นเสียงของหลี่ชิงเยว่ไม่ผิดแน่ ซูข่านก็ได้หันไปมองที่หวางรุย