ตอนที่ 148 ได้หุ้นเป๊ปซี่
"ผมเต็มใจที่จะทำงานนี้ครับพี่สาม"
ซู่เฟิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เขาตื่นเต้นมากตอนนี้
เขาอยากจะกระโดดกอดซูข่านมากๆ แต่ก็ยังสามารถหักห้ามใจของเขาได้อยู่
"ขยันทำงานล่ะ"
ซูข่านสั่งเสียงแข็ง
"ครับพี่สาม"
ซู่เฟิงยืนตรงและตะโกนเสียงดัง ท่าทางของเขาเหมือนกับทหาร
ถ้าสมมุติว่างานนี้เขาสามารถทำได้ดี บางทีเขาอาจโดนคนอื่นเคารพแล้วเรียกเขาว่าพี่แบบจางเฉียงก็ได้
ในหนานจิงตอนนี้จางเฉียงเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วจำนวนมาก ซู่เฟิงอิจฉาอยู่ไม่ใช่น้อย ตอนนี้เมื่อมีโอกาสที่เขาจะได้เป็นแบบจางเฉียง เขาจะไม่พลาดโอกาสนี้
นอกจากนี้จางเฉียงได้เคยบอกกับเขาว่า
"ถ้าพี่สามได้ให้โอกาสในการทำงาน อย่าปฏิเสธเด็ดขาด พี่สามจะไม่ให้โอกาสแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง"
"พี่สามไม่ใช่พ่อและแม่ของเรา เขาไม่จำเป็นต้องมาง้อหรือขอให้เราไปทำงานให้กับเขา ถ้านายว่าบอกนายไม่มีความสามารถที่จะทำ โอกาสของนายก็จะกลายเป็นของคนอื่นทันที"
คำพูดของจางเฉียงทำให้ซู่เฟิงรู้สึกได้ความน่ากลัวของพี่สาม
ก่อนหน้านี้จางเฉียงเป็นเพียงคนเก็บขยะที่ตามติดกับพี่ลู่กั๋วเฉียงเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วหนานจิงไปแล้ว รวมถึงเมืองรอบๆอีกด้วย
จากก่อนหน้านี้พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ตอนนี้ชีวิตของจางเฉียงได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เขามีบ้านที่ซื้อด้วยเงินของเขา มีเสื้อผ้าใหม่ๆที่สามารถใส่ได้ไม่ซ้ำวัน มีเงินพอที่จะซื้อจักรยานขับไปไหนมาไหนก็ได้
ชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปหลังจากได้เจอกันพี่สาม
"ขอบคุณที่ให้โอกาสผม"
ซู่เฟิงพูดขอบคุณซูข่านอีกครั้ง
ซูข่านโบกมือไล่ซู่เฟิงและพูดด้วยรอยยิ้ม
"รีบไปหาเสี่ยวเว่ยได้แล้ว ฉันได้สั่งงานเขาไปแล้ว พวกนายทั้งสองต้องช่วยกันทำออกมาให้ดีล่ะ"
"ครับพี่สาม"
ซู่เฟิงพยักหน้า
ซูข่านมองหลังของซู่เฟิงที่กำลังเดินออกจากบ้าน ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย เหตุผลที่เขาให้ซู่เฟิงไปทำงานกับหวงเสี่ยวเว่ยก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเขาเช่นกัน
หากว่าพวกเขาทั้งสองทำงานร่วมกัน พวกเขาต้องแข่งกันอย่างลับๆแน่ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะต้องดีอย่างแน่นอน
แต่การเติมสินค้าให้กับซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องขึ้นอยู่กับจางเฉียงเพียงคนเดียว หวงเสี่ยวเว่ยยังไม่สามารถที่จะหาสินค้าได้ดีเท่ากับจางเฉียง
แล้วยิ่งให้ซู่เฟิงที่เคยทำงานกับจางเฉียงมาก่อน ซู่เฟิงจะต้องได้เปรียบหวงเสี่ยวเว่ยอยู่ไม่ใช่น้อย แต่หวงเสี่ยวเว่ยก็มีภาพซุเปอร์มาร์เก็ตที่เขาเคยเห็นในเซียงเจียง
หลังจากที่ซูข่านได้คุยกับซู่เฟิงเสร็จ เขาก็ได้ไปชงชาลงในชุดน้ำชาชุดโปรดของเขา
อากาศหนาวๆแบบนี้เหมาะสมกับการดื่มชาอุ่นๆเหลือเกิน
หลังจากนั้นไม่กี่วันหวางเอ๋อก็ได้นำข่าวดีมาบอกกับซูข่าน
หวางเอ๋อเดินเข้ามาที่บ้านด้วยความตื่นเต้น เขาถือกระเป๋ามาด้วยใบหนึ่ง
หวางเอ๋อเห็นซูข่านที่กำลังนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เขาจึงรีบตรงดิ่งไปหา
อากาศข้างนอกหนาวขนาดนี้ แล้วหวางเอ๋อก็ยังมีเหงื่อไหลออกมาที่หน้าผากของเขา
ซูข่านมองดูหวางเอ่อแล้วก็รินชาร้อนหนึ่งถ้วยให้กับหวางเอ๋อ
"จิบชาก่อนแล้วค่อยพูด"
ซูข่านตอนนี้เป็นเหมือนกับขงเบ้งที่รอฟังทหารของเขามารายงานสถานการณ์การรบ
"ครับ"
หวางเอ๋อหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้น เขาดื่มชาในถ้วยหมดในรวดเดียว ไม่ได้ลิ้มรสชาติและกลิ่นหอมของชาเลยแม้แต่น้อย
จุดประสงค์เดียวที่เขาดื่มตอนนี้คือเพื่อดับกระหายเท่านั้น
แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าชาของซูข่านไม่สามารถหาซื้อได้ในตลาดทั่วไป แม้แต่ในเซียงเจียวก็ยังไม่สามารถหาซื้อได้
ชาอันนี้ซูข่านได้มาจากเส้นสายของตระกูลของเขา
หากว่านำไปขายที่เซียงเจียง บางทีมูลค่าของมันอาจจะสูงกว่าทองคำซะอีก ต่อให้มีเงินก็ไม่สามารถซื้อมาดื่มได้
แต่ในยุคหลังๆ การเกษตรเริ่มพัฒนาไปมาก มีการพัฒนาใบชาพิเศษและการเพาะปลูก ทำให้มีชาใหม่ๆปรากฏขึ้นเต็มทั่วท้องตลาดภายในประเทศจีน
"เข้าเรื่องเลยนะพี่สาม"
หวางเอ๋อวางถ้วยลง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดอย่างตื่นเต้น
"เป๊ปซี่ยินดีจะทำตามเงื่อนไขของเรา"
"ก็ดีสิ"
ซูข่านยิ้มกว้าง นี่ถือเป็นข่าวดีในรอบสัปดาห์
หวางเอ๋อมองไปที่ซูข่านที่ยิ้มด้วยความดีใจ เขาเล่าต่อด้วยรอยยิ้มว่า
"พี่สามครับ ตอนแรกพวกนั้นไม่คิดจะรับข้อเสนอนี้หรอก พวกนั้นเสนอเงินเพื่มเป็น 100,000 หยวนเพื่อซื้อเครื่องหมายการค้าคืน แต่ตอนนั้นผมไม่ยอม"
"ต่อมาพวกนั้นก็ได้เสนอ 200,000 หยวน แล้วก็ 300,000 หยวนอีก ผมก็ปฏิเสธไปหมด"
"หลังจากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนคนเจรจาเป็นคนใหม่ แต่ว่าผมก็ยังเพิกเฉยต่อพวกเขา"
ระหว่างที่หวางเอ๋อเล่าไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่ดูภูมิใจในเรื่องนี้
เมื่อก่อนหวางเอ๋อไม่ใช่คนแบบนี้เลย เขาเป็นน้องชายที่ตามติดซูข่านไปเล่นทุกที่ ความคิดของเขาเป็นเพียงแค่เด็กน้อยเอาแต่ใจเท่านั้น
หวางเอ๋อคนเก่าได้ตายไปแล้ว ตอนนี้หวางเอ๋อได้กลายเป็นคนใหม่เรียบร้อยแล้ว
หวางเอ๋อเล่าต่ออย่างมีความสุขว่า
"ผมเห็นว่าพวกเขากำลังจะถอดใจ ผมเลยพูดถึงโคคา-โคล่าที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของเขา พอทางเป๊ปซี่ได้ยินพวกเขาก็เปลี่ยนท่าทีเป็นสนใจทันที ผมเลยบอกว่าจะขายเครื่องหมายการค้าให้ก็ได้"
ซูข่านจิบชาและฟังหวางเอ๋อที่กำลังเล่าไป ท่าทีของหวางเอ๋อดูร้ายกาจไม่ใช่น้อยตอนเจรจา
ซูข่านรู้สึกประหลาดใจที่น้องชายของเขาได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้
ไปจำความชั่วร้ายแบบนี้มาจากใครกัน…
"ทางเป๊ปซี่รีบถามข้อเสนอของผมทันที ผมเลยบอกว่าให้แลกกับหุ้นของทางเป๊ปซี่ ตอนแรกพวกนั้นดูเหมือนจะไม่เคยพอใจในข้อเสนอนี้"
"แต่สุดท้ายพวกนั้นก็ยอมตกลง พวกเขากลัวผมไปขายให้กับทางโคคา-โคล่า"
หวางเอ๋อยิ้มอย่างภูมิใจ นี่เป็นผลงานที่ดีที่สุดของหวางเอ๋อ
"พี่สามว่าผมได้หุ้นมาเท่าไหร่?"
"เท่าไหร่?"
ซูข่านมองไปที่หวางเอ๋อ
"6% ครับ"
หวางเอ๋อหัวเราะออกมาเสียงดัง
"ฮ๋าๆๆๆ ตอนแรกผมบอกว่าจะเอา 10% แต่พวกนั้นเถียงขาดใจเลย"
"ผมเห็นแบบนั้นเลยบอกว่าเดี๋ยวลด % ลงละกัน"
ซูข่านปรบมือให้กับหวางเอ๋อ เขาไม่คิดเลยว่าหวางเอ๋อจะทำงานนี้ได้ดีเกินกว่าที่เขาคาดไว้ซะอีก
การเจรจาแบบนี้ทำให้หวางเอ๋อต้องเห็นอะไรบางอย่างแน่นอน ในอนาคตเขาอาจต้องเจรจาธุรกิจที่สำคัญแบบนี้อีกแน่ๆ
"พี่สาม นี่คือหนังสือสัญญาครับ"
หวางเอ๋อเปิดกระเป๋าและหยิบกระดาษออกมา ก่อนจะยื่นให้กับซูข่าน"