ตอนที่แล้วEp.293 - กับดัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.295 - โบสถ์มอนสเตอร์ผี

Ep.294 - จับเป็น


3/4

Ep.294 - จับเป็น

แม่มดซัคคิวบัสถูกฝูงสุนัขรุมเร้าอย่างน่าสังเวช

มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์ถูกควบคุมการเคลื่อนไหวโดยเสี่ยวไป๋และราชินีมด

อย่างไรก็ตาม หวังเอ๋อและเสี่ยวไป๋ชัดเจนว่าไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้

ดังนั้น หน้าที่ของทั้งคู่คือถ่วงเวลา และกุญแจสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้คือพ่อมดแวมไพร์

พ่อมดแวมไพร์ถูกกวนสมาธิ ไม่สามารถควบคุมมอนสเตอร์ผีและสำแดงพลังของพวกมันออกมาได้อย่างเต็มที่ เมื่อมันเห็นว่าฮังอวี่เริ่มเปิดใช้งานคลุ้มคลั่งกระหายเลือด พุ่งเข้ามาเพียงลำพังด้วยสกิลประจัญบาน มุมปากของมันก็เผยยิ้มเย็นชา เป็นรอยยิ้มดูแคลน

หนึ่งมือวาดออกไป

อัญเชิญหมอกโลหิต!

สกิลขั้น 3 : ระเบิดค้างคาวโลหิต!

หมอกโลหิตรวมตัวกันเป็นค้างคาวหลายสิบตัว

ค้างคาวตัวน้อยแต่ละตัวราวกับจรวดติดตาม

พวกมันล็อคเป้าหมาย บินเข้าหาเตรียมระเบิดร่างตัวเองเพื่อทำดาเมจมหาศาล

แน่นอน  สกิลประจัญบานนั้นว่องไวมาก

ทว่าสกิลนี้สามารถวิ่งเป็นเส้นตรงเท่านั้น

ขณะที่ความว่องไวและปฏิกิริยาตอบสนองของแวมไพร์ไม่ต่ำต้อยเช่นกัน มันปลดปล่อยค้างคาวระเบิดหลายสิบตัวมาดักหน้าฮังอวี่ และเมื่อฮังอวี่พุ่งเข้ามา ก็ตกอยู่กลางวงล้อมระเบิดทันที

บรึ้ม บรึ้มม บรึ้มมม!

ค้างคาวนับสิบปลดปล่อยเปลวเพลิงสีเลือดอันน่าสยดสยอง

แม้ฮังอวี่เป็นถึงนักรบเลเวล 9 แต่เขาก็ไม่มีทางต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้ เอาจริงต่อให้เป็นจ้าวหมิงที่ถูกโจมตีเช่นนี้ ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะตายในวินาทีเดียว

“ช่างไม่รู้จักประมาณตน!”

เมื่อแวมไพร์เห็นว่าการโจมตีเข้าปกคลุมคู่ต่อสู้ได้สำเร็จ มันก็เข้าใจว่าชายคนนี้หมดโอกาสรอดอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่มีมนุษย์คนใดสามารถต้านทานการโจมตีของมันได้

เพียงแต่เมื่อมันคิดได้แบบนั้น

ท่ามกลางดงระเบิด ฮังอวี่พลันหายวับไปก่อนที่ดาเมจจะเข้าถึงตัว

ในเวลาเดียวกัน ร่างเขาปรากฏขึ้นอีกครั้งในตำแหน่งเบื้องหน้าที่ห่างออกมา 5 เมตร

อะไร!?

แวมไพร์ถอยหลังไปสองก้าวด้วยความตกใจ

ด้านฮังอวี่ เทคนิคบลิงค์มาพร้อมการชะงักหลังใช้งาน

ดังนั้นสกิลประจัญบานของเขาที่ใช้ในตอนแรกถูกยกเลิกทันที ฮังอวี่ขยับเท้าไปข้างหน้าพ่อมดแวมไพร์ ไม่รอให้มันตั้งตัว หอกยาวสว่างไสวไปด้วยแสงสกิล ร่างของเขากลายเป็นภาพติดตา

ปะทะเดือด!

จู่โจมอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว!

พ่อมดแวมไพร์ถูกพลังมหาศาลที่ปลดปล่อยออกมาจากหอกเข้ากระแทก มันไม่เพียงได้รับดาเมจเท่านั้น แต่ยังรู้สึกมึนงง คาถาที่ควบคุมมอนสเตอร์ผีถูกขัดจังหวะ ทำให้พวกผีเกิดความสับสนและโจมตีมั่วซั่ว

หอกในมือฮังอวี่เสมือนพายุกรรโชก

จู่โจมฉับไว!

โจมตีต่อเนื่อง!

แวมไพร์ถูกบังคับถอยไปทีละก้าว

ดาเมจที่ได้รับยิ่งมายิ่งเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะพลังโจมตีของฮังอวี่นั่นรุนแรงมาก

บวกกับเรื่องที่ว่าค่าโบนัสคุณสมบัติของสายสติปัญญานั้นไม่แข็งแกร่งเท่าสายพละกำลัง

ดังนั้นคุณสมบัติทางกายภาพของพ่อมดแวมไพร์จึงไม่สามารถต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้

เมื่อไม่มีทางเลือก

แวมไพร์ทำได้เพียงยกเลิกการควบคุมมอนสเตอร์ผีชั่วคราว

อย่างไรเสียศัตรูของมันแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเลเวลสกิล เลเวลอุปกรณ์ รวมไปถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ และโบนัสค่าคุณสมบัติ เขาเหนือกว่าที่มนุษย์ในปัจจุบันควรมี

ต่อให้มันเป็นแวมไพร์ที่แสนหยิ่งทะนงในตนเอง

เวลานี้ยังต้องปฏิบัติกับอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่ไม่ให้โอกาสพ่อมดแวมไพร์ได้ตอบโต้กลับเลย ระหว่างโจมตีอย่างดุเดือดไม่หยุด เขาได้เปิดใช้งานเครื่องรางอัญเชิญ

วินาทีถัดมา

ภายใต้คลื่นความผันผวนของพลังงานอันทรงพลัง

องครักษ์ต้องห้ามของมนุษย์มังกรที่ในมือถือทวนวงเดือนและบนตัวสวมทับไปด้วยเกราะหนาถูกอัญเชิญออกมา

เครื่องรางอัญเชิญชิ้นนี้ ฮังอวี่ได้มันมาในตอนยึดป้อมปราการ แต่เนื่องจากปริมาณไอวิญญาณที่มันต้องการมีเยอะไป ดังนั้นไม่สามารถใช้กล่องวิญญาณเติมเต็มได้ในครั้งเดียว สองวันมานี้เขาสะสมไอวิญญาณได้เพียง 8000 หน่วยเท่านั้น องครักษ์ต้องห้ามของมนุษย์มังกรที่อัญเชิญมาได้จึงอยู่แค่ในเลเวล 8

ยังไงก็ตาม

มันคือเจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์ในเลเวล 8!

ถึงจุดนี้ สถานการณ์รบถูกยกระดับไปอีกขั้น!

ขณะนี้แวมไพร์ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป

องค์รักษ์ต้องห้ามเหวี่ยงทวนวงเดือน กวาดใบมีดขนาดใหญ่ ฟันตัดขาพ่อมดแวมไพร์ต่ำกว่าหัวเข่าลงมาขาดกระเด็นทันที

“ไม่!”

พ่อมดแวมไพร์ร้องคร่ำครวญ

ฮังอวี่เปิดใช้งานปะทะเดือดอีกรอบ คมหอกเจาะทะลุหน้าอกพ่อมดแวมไพร์ ตอกร่างมันตรึงกับพื้นอย่างแรง

องค์รักษ์ต้องห้ามเหวี่ยงทวนวงเดือนอีกครั้ง

ใบมีดสะบั้นหัวพ่อมดแวมไพร์

แวมไพร์ที่เดิมสมควรมีพลังรบไม่อ่อนแอ ทว่าสุดท้ายกลับถูกฮังอวี่กำราบอย่างสมบูรณ์โดยที่ยังไม่ต้องออกแรงเต็มที่ด้วยซ้ำ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดไม่ถึง 20 วินาที

ยอดเยี่ยม!

ถึงจะถูกตัดหัว แต่เจ้าแวมไพร์ตัวนี้ยังไม่น่าจะตาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อตกอยู่ในสถานะนี้ มันไม่น่าจะสามารถต่อต้านอะไรได้อีก

ด้วยการบุกเข้าโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว ฮังอวี่สามารถกำจัดปัญหาใหญ่หนึ่งในสามจากโลกวิญญาณลงได้ มอนสเตอร์ผีที่ถูกปลุกขึ้นมาตกอยู่ในความโกลาหล สถานการณ์พลิกกลับมาทันที

“จัดการได้สวย!”

ฉูเทียนหัวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

บอสฮังยังไงก็คือบอสฮัง

ลั่วหยวนเจิ้ง เหลียงตง และคนอื่นๆต่างตกตะลึง

นี่มันผิดวิสัยเกินไป ด้วยความสามารถระดับนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงสามารถขึ้นเป็นมนุษย์ผู้นำของโลกวิญญาณ!

แผนการซุ่มโจมตีคนของสกายเน็ตและกับดักที่ศัตรูวางไว้นั้นใช่ว่าจะไม่ดี แต่เนื่องจากการคำนวณพลังรบของฮังอวี่ผิดพลาด เวลานี้จึงตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนยกหินทุ่มใส่เท้าตัวเอง สภาพการณ์ย่ำแย่มาก

มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์สามารถกำจัดการปิดกั้นของฝุ่นลวงตาได้สำเร็จแล้ว เมื่อมันเห็นว่าสหายแวมไพร์ถูกมนุษย์ทุบตีจนตกอยู่ในสถานะเสียเปรียบ มันก็ทราบทันทีว่าสถานการณ์ไม่เข้าท่า เข้าฟาดฟันฮังอวี่ด้วยกระบี่คู่ของตน

ฮังอวี่หลบเลี่ยงคมกระบี่ได้ทั้งสองครั้ง

หนึ่งในนั้นถูกขัดขวางโดยหอกยาว

มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์แข็งแกร่งเกินไป เมื่อปราณกระบี่กระทบหอก ยังสร้างดาเมจได้มหาศาล

ฮังอวี่รีบเปิดใช้งานจู่โจมมุมอับ ทั้งคนทั้งร่างหายวับ ลอบเข้าด้านข้างดาร์คเอลฟ์อย่างรวดเร็ว และเริ่มโจมตีอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง

เคร้ง เคร้ง เคร้ง!

คมหอกคมกระบี่ปะทะกัน

สะเก็ดไฟสะท้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง

กระบี่ทั้งสองเล่มของดาร์คเอลฟ์เริงระบำไม่หยุดยั้ง ปัดป้องการโจมตีที่มองไม่เห็นซึ่งหลั่งไหลมาจากทุกทิศทาง และขณะเดียวกันก็ต้านทานเวทย์สายฟ้าของเสี่ยวไป๋

มันต้องการช่วยชีวิตสหาย!

ณ เวลานี้ องค์รักษ์ต้องห้ามตัดหัว แขน และขาทุกข้างของแวมไพร์เรียบร้อยแล้ว

องค์รักษ์ต้องห้ามหันไปหาศัตรูอีกตน และปลดปล่อยสกิล ‘ทวนวงเดือนแห่งความวินาศ!’

องค์รักษ์ต้องห้ามนั้นอ่อนแอกว่ามือกระบี่ดาร์คเอลฟ์ในเลเวล 10 ก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าดาร์คเอลฟ์ถูกฮังอวี่และเสี่ยวไปก่อกวนในเวลาเดียวกัน ดังนั้นภายใต้สกิลของทวนวงเดือน ดาร์คเอลฟ์จึงได้แต่จำใจล่าถอยไป

ใบหน้าของดาร์คเอลฟ์ดูน่าเกลียดมาก

แม่มดซัคคิวบัสตระหนักว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี “รีบถอยเถอะ!”

ฮังอวี่และองค์รักษ์ต้องห้ามเข้าโจมตีอีกครั้ง ดาร์คเอลฟ์รู้ว่าไม่มีความหวังที่จะช่วยสหายอีก ร่างของมันกลายเป็นเงาในพริบตา

สกิลขั้น 3 : ท่าร่างระบำเงา!

สีหน้าของฮังอวี่แปรเปลี่ยนไป

การโจมตีทั้งหมดของเขาไม่มีผลกับดาร์คเอลฟ์ในสถานะเงา

ดาร์คเอลฟ์แยกตัวออกจากวงล้อม ก้าวไปข้างหลังฮังอวี่ ดวงตาของมันเปล่งประกายด้วยรังสีสังหาร ใบกระบี่กลายเป็นพายุ ปราณกระบี่กวัดแกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่งไปทุกทิศทาง

สกิลขั้น 3 : ปราณกระบี่วายุคลั่ง!

เชี่ยเอ๊ย! สกิลนี้รุนแรงเกินไป บุกฝ่าตามดาร์คเอลฟ์ไปไม่ได้!

มดยักษ์ชั้นยอดหลายตัวที่อยู่รอบๆถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ฮังอวี่บลิงค์หลบฉากไปไกลกว่าสิบเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนท่าโจมตีครั้งใหญ่นี้

ฮังเสี่ยวไป๋ถูกบังคับให้ถอยหนีภายใต้การโจมตีที่รุนแรงของดาร์คเอลฟ์

แม่มดซัคคิวบัสปลดปล่อยสกิลที่ทำให้สับสนแบบหมู่ ส่งผลให้สุนัขสูญเสียเป้าหมายและตกอยู่ในภาพลวงตา จากนั้นหยิบคัมภีร์สกิลสีดำออกมาและเปิดงานพร้อมโยนขึ้นไปกลางอากาศ

บังเกิดกลุ่มเมฆหมอกสีดำขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น

หมอกดำสามารถกลืนกินแสงสว่าง กลิ่นอาย และการรับรู้ทั้งหมด มันแพร่กระจายด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์ ในเวลาไม่กี่วินาที สามารถครอบคลุมพื้นที่กว่าร้อยเมตร

หมอกสีดำนี้ราวกับหมึก

ยามก้มมองไม่สามารถมองเห็นนิ้วมือทั้งห้า

ไม่อาจโจมตีต่อได้

ฮังอวี่ควบคุมองค์รักษ์ต้องห้าม เสี่ยวไป๋ควบคุมราชินีมด หวังเอ๋อเอาร่างแยกของตัวเองกลับมา ถอยเข้าหาแวมไพร์ด้วยกัน ก่อตัวเป็นแนวป้องกันหนาแน่น

แม้จะไม่สามารถตามล่าทั้งสองตนนั้นได้ แต่อย่างน้อยต้องป้องกันไม่ให้แวมไพร์ตัวนี้หนีรอด!

หมอกดำกินเวลาประมาณสองนาทีก่อนจึงหายไป

ดาร์คเอลฟ์และซัคคิวบัสไม่อยู่แล้ว

หวังจุนเหวินผู้ทรยศก็หายตัวไปเช่นกัน

ส่วนลูกน้องทั้งสี่คนของเขาถูกฆ่าตาย!

ฉูเทียนหัวขมวดคิ้วและกล่าวว่า “พวกมันหนีไปได้!”

ฮังอวี่กล่าว “เจ้าพวกนี้ฉลาดแกมโกง พวกมันมีลูกเล่นหรือสกิลบางอย่างที่ใช้หลบหนี ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การพยายามฆ่าพวกมันทั้งหมดในครั้งเดียวคงไม่ง่าย เรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่”

ใช่!

สถานการณ์อันตรายในวันนี้

การที่ยังมีคนเหลือรอดมาได้

ทั้งหมดต้องยกเครดิตให้ฮังอวี่!

โชคดีถึงขนาดนี้แล้วคุณยังคาดหวังว่าจะฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ในคราวเดียวอีกหรือ?

ยังเหลือมอนสเตอร์ผีอีกกว่า 100 ตัวในที่นี้

ทุกคนแยกย้ายกันโจมตีพวกมัน

ณ เวลานี้ สองชาวโลกวิญญาณไม่ทราบหนีไปถึงไหน อีกทั้งเขาวงกตใต้ดินก็ซับซ้อน ย่อมยากที่จะไล่ตาม

“หวังเอ๋อ ส่งร่างแยกสองสามตัวไปตามรอยพวกมัน”

“ฮ่ง น้อมรับคำสั่ง!”

ฮังอวี่ไม่คาดหวังว่าจะจับสองตนที่เหลือได้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว อาการบาดเจ็บล้มตายของทีมค่อนข้างรุนแรง และหลังจากอัญเชิญองค์รักษ์ต้องห้ามแล้ว เขาก็ไม่สามารถใช้มันได้อีกเนื่องจากสูญเสียไอวิญญาณไปมาก

“จะยังไงก็ช่าง”

“ปฏิบัติการครั้งนี้นับว่าคุ้มค่า”

“อย่างน้อยก็จับได้ตัวหนึ่ง แถมยังจับได้แบบเป็นๆ!”

ทุกคนต่างจับจ้องไปยังพ่อมดแวมไพร์ที่ถูกหั่นเป็นหกชิ้นบนพื้น เนื่องจากทั้งร่างถูกตัด มันจึงไม่สามารถใช้สกิลได้อีกต่อไป แต่ด้วยพลังชีวิตของแวมไพร์ แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ มันก็ยังมีชีวิตอยู่

ใช่

จับเป็นได้แล้ว!

เรื่องนี้มีความสำคัญมาก!

หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง การจับเป็นได้ตัวนึงอาจมีค่ามากกว่าการสังหารทั้งสามตัวในคราเดียวเสียอีก!