Ep.293 - กับดัก
2/4
Ep.293 - กับดัก
แม้ฮังอวี่จะเดาได้ว่าหวังจุนเหวินมีบางอย่างแปลกๆ
แต่ก็นึกไม่ถึงว่านี่มันจะเป็นกับดักตั้งแต่แรก
แม้มนุษย์จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่จิตใจไม่แน่นอน แต่มนุษย์ที่แปรพักตร์ไปอยู่กับฝ่ายโลกวิญญาณ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจริงๆ
ฉูเทียนหัวตวาดขุ่นเคือง “นี่แกยังมีจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์อยู่ไหม? ชาวโลกวิญญาณให้ผลประโยชน์อะไรกับแก!”
“หินสกิล อุปกรณ์ ทรัพยากร และโอกาส เหตุผลเท่านี้พอไหม?” หวังจุนเหวินไม่ละอาย “ใครๆก็อยากทำเพื่อตัวเองกันทั้งนั้น!”
มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์ พ่อแมดแวทไพร์ และแม่มดซัคคิวบัสลอยเข้ามา
หัวใจของฉูเทียนหัวหล่นวูบ : แย่ล่ะสิ
ยังไม่ทันสู้
ก็สูญเสียพลรบ
แถมยังต้องเผชิญกับสถานการณ์โดนปิดหน้าล้อมหลังอีก!
เดิมนี่เป็นทีม 22 คนพร้อมสุนัขหนึ่งตัว
แต่โชคไม่ดีมี 3 คนถูกฆ่าตายจากการลอบโจมตี และอีก 5 คนได้เปลี่ยนฝ่ายเป็นศัตรู ตอนนี้จึงเหลือเพียง 14 คนเท่านั้น พลังรบของทีมลดลงเป็นอย่างมาก
ฝ่ายหนึ่ง : 14 คน + สุนัข 1 ตัว
ฝ่ายหนึ่ง : 5 คน + ชาวโลกวิญญาณ 3 ตน
ภายใต้สถานการณ์นี้
พลังรบของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันไม่มากนัก
และเหมือนฝ่ายชาวโลกวิญญาณจะได้เปรียบด้วย
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ชาวโลกวิญญาณทั้ง 3 ตนมีพลังรบอย่างน้อยระดับเจ้าถิ่นเลเวล 9 !
“ช่างน่าสงเพก”
พ่อมดแวมไพร์เอ่ยขึ้น
ภาษาจีนกลางของมันแย่กว่าเสี่ยวไป๋มากนัก
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมันจะไม่รู้สึกตัว “พกเจ้าช่างโง่เคลา”
เชี่ย
พูดอะไรของมันเนี่ย
คิ้วของฮังอวี่ขมวดเข้าหากัน
แต่นี่ช่วยไม่ได้ เพราะเดิมที แผนเดิมของผู้รุกรานจากโลกวิญญาณคือส่งลิซไปเรียนรู้ภาษามนุษย์ จากนั้นนำมาสอนต่อ แต่สุดท้ายลิซตาย และพวกมันต้องหลบหนี จึงแทบไม่มีเวลาศึกษาต่อ
ภาษาจีนกลางของพ่อมดแวมไพร์นับว่าพูดออกมาได้ชัดที่สุดแล้ว
อย่างน้อยมันก็เป็นสายนักเวทย์ มีค่าสติปัญญาและพลังจิตสูง ดังนั้นมีความจำที่ดี ศึกษาเพียง 10 - 15 วัน จะมากจะน้อยก็พอสื่อสารพื้นฐานได้
ในฐานะชาวโลกวิญญาณ
เมื่อมาถึงโลกนี้
ปัญหาใหญ่ที่สุดที่พบคือ : การเรียนรู้ภาษา!
พ่อมดแวมไพร์กล่าวด้วยสำเนียงจากโลกวิญญาณ “มนุษย์ผู้โง่เขลา พวกเจ้าพ่ายแพ้แล้ว ทางเดียวที่จะรอดคือเข้าร่วมกับเรา กลายเป็นส่วนหนึ่งในขุมกำลังของพวกเรา!”
แม้พึ่งศึกษาได้ไม่นาน
แต่แวมไพร์ก็ยังพอรู้สำนวน
กลุ่มสกายเน็ตจ้องมองมันด้วยความโกรธ
ชาวโลกวิญญาณผู้นี้จะเหิมเกริมเกินไปแล้ว!
ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้ชาวโลกวิญญาณจะกุมความได้เปรียบ แต่ในตอนท้าย ก็ยังไม่แน่หรอกว่าใครจะอยู่ใครจะตาย!
“พวกมนุษย์โง่เง่า”
“ข้าจะทำลายความหวังของพวกเจ้าซะ!”
พ่อมดแวมไพร์ยกคทาขึ้น กระทุ้งปลายคทาลงพื้น พลังงานถูกปลดปล่อยออกมา ครอบคลุมไปทุกทิศทาง
กลุ่มมอนสเตอร์ผีที่มีใบหน้าสยดสยองโผล่ออกมาจากซากปรักหักพัง
ถึงแม้พวกมันจะเป็นมอนสเตอร์ระดับสามัญเลเวล 6 ซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีจำนวนมากมาย หนาแน่นถึง 200 - 300 ตัว ทั้งหมดถูกควบคุม ปิดล้อมกลุ่มคนที่นำโดยสกายเน็ต
มีกับดักอยู่จริงๆด้วย!
ฮังอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนี้
ชัดเจนว่าชาวโลกวิญญาณทั้งสามได้เตรียมการบางอย่างมาแล้ว
พวกมันค้นพบสถานที่นี้ และเจอว่ามีมอนสเตอร์ผีจำนวนไม่น้อยหลับใหลอยู่ที่นี่ และมอนสเตอร์ผีเป็นประเภทแทบไม่มีกลิ่นอาย ดังนั้นเมื่ออยู่ในสถานะหลับใหล หวังเอ๋อจึงตรวจสอบไม่พบ
พ่อมดแวมไพร์มีเทคนิคมนตร์สะกดที่สามารถควบคุมมอนสเตอร์ผีได้
ดังนั้น แม้ต้องใช้ความพยายามและจัดเตรียมการเล็กน้อย แต่ตอนนี้ก็สามารถควบคุมพวกมันได้
ในเวลาเดียวกัน มันได้ดึงกลุ่มของหวังจุนเหวินมาใช้งาน แม้ไม่ทราบกระบวนการ แต่คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการบังคับและใช้เหยื่อล่อ
ฮังอวี่รู้ดีว่าซัคคิวบัสมีสกิลเสน่ห์ แต่ด้วยเลเวลของมัน เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้สกิลเสน่ห์ที่มีผลถาวร แต่อย่างน้อยก็สามารถใช้เสน่ห์ในการดึงดูดและเจรจาต่อรองได้
กลุ่มของหวังจุนเหวินไม่ใช่คนดีตั้งแต่แรก
ด้วยสิ่งล่อใจ ทำให้พวกเขาละทิ้งความซื่อสัตย์และเลือกที่จะแปรพักตร์ทันที
พวกเขาอาจเป็นผู้ทรยศกลุ่มแรกในเจียงเฉิง แต่พวกเขาไม่มีทางเป็นกลุ่มสุดท้าย
มีสายลับให้ใช้งาน
มีสถานที่กับดักเตรียมไว้
ทั้งหมดนี้เพื่ออะไร?
แน่นอนว่าเพื่อตอบโต้สกายเน็ต!
สกายเน็ตไล่ล่าพวกเขาหนักเกินไป ทำให้ยากที่จะดำเนินการตามแผนที่วางไว้
ด้วยกับดักในพื้นที่นี้ แม้ว่าจะไม่สามารถทำลายสกายเน็ตได้ แต่อย่างน้อยสามารถฆ่ากลุ่มชนชั้นยอดที่ตามล่าพวกตน ทำให้สกายเน็ตมีคนไม่พอ ไม่อาจส่งชนชั้นยอดมาไล่ล่าพวกตนได้อีก
แผ่นนี้ไม่สมควรผิดพลาด
หากการเดินทางครั้งนี้มีเพียงฉูเทียนหัวเป็นหัวหน้าและลั่วหยวนเจิ้งเป็นรองหัวหน้า เกรงว่าทั้งหมดคงจบชีวิต
และสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงต้องทุกข์ทรมานอย่างมากจากการสูญเสียพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดทีมล่าใหม่ในช่วงสั้นๆ ชาวโลกวิญญาณทั้งสามสามารถมีเวลามากพอให้พักหายใจ และบรรลุจุดประสงค์ของพวกมัน
และตอนนี้
พวกมันกำลังคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี
แผนการทั้งหมดยังไม่มีจุดผิดพลาด
ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม!
มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์เริ่มทนไม่ไหว “เจ้าจะพูดอะไรกับพวกมันนักหนา คิดหรือว่าคนเหล่านี้จะยอมจำนน? ฆ่าพวกมันซักที อย่าปล่อยให้รอดชีวิตไปได้”
แม่มดซัคคิวบัสยังกล่าวว่า “พวกเขาใช้เสน่ห์ควบคุมยาก ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว กำจัดพวกเขาซะ!”
จะเสียเวลาไม่ได้
อีกไม่ช้าทางสกายเน็ตคงทราบเรื่องนี้
คาดว่าหลังจากผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง กำลังเสริมกลุ่มใหญ่จะมาถึง
แม้ฉูเทียนหัวจะไม่เข้าใจภาษาโลกวิญญาณ แต่ดูจากพฤติกรรมและรังสีสังหารของพวกมัน เขาก็พอจะรู้ได้ว่าพวกมันกำลังจะโจมตี
ฉันช่างโชคร้ายซะจริง!
มาประจำตำแหน่งที่เจียงเฉิงได้สองวัน
ก็ดันมาเจอเรื่องยุ่งยากแบบนี้
ตอนนี้รอบด้านรายล้อมไปด้วยมอนสเตอร์ผี ส่วนหวังจุนเหวินก็อยู่ข้างหลัง ไม่มีทางหนีได้เลย
ในเวลานั้นเอง ฮังอวี่กล่าวว่า “เหล่าฉู ไม่ต้องกังวลไป ถึงเราจะติดอยู่ในกับดัก แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันประเมินเราต่ำไป”
จริงแท้แน่นอน
พวกมันพลาดเสียแล้วที่ดูแคลนฮังอวี่
ฉูเทียนหัวเอ่ยถามทันที “นายมีแผนอะไรรีบว่ามา”
“ชาวโลกวิญญาณทั้งสามให้พวกเราจัดการเอง คุณนำคนของสกายเน็ตต่อสู้กับมอนสเตอร์ผี ส่วนเหล่าลั่วกับเหล่าจูไปจัดการกับหวังจุนเหวินและลูกน้องอีกสามคน”
“ว่าไงนะ นาย เสี่ยวไป๋ หวังเอ๋อจะรับมือกับชาวโลกวิญญาณทั้งสาม? นี่มันฟังดูบ้าเกินไป!”
ฮังอวี่กล่าว “ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว!”
“โอเค ระวังตัวด้วย”
แม้ฉูเทียนหัวจะคิดว่ามันเหลือเชื่อ แต่เขาไม่ลังเลจนเกินไป เช่นเดียวกับตอนอยู่ในโลกวิญญาณ เขาเชื่อฟังคำสั่งของฮังอวี่โดยไม่รู้ตัว อย่างไรเสีย บอสฮังไม่ใช่คนธรรมดา เขามีความน่าเชื่อถือ และเป็นไพ่ใบเดียวที่อาจพลิกเกมในวันนี้ได้
แวมไพร์ได้ยินบทสนทนาดังกล่าวเช่นกัน “น่าขัน พวกเจ้าจงไปลงนรกเสีย!”
มอนสเตอร์ผีรับคำสั่ง
พวกมันเริ่มตีวงล้อมแคบลง
ฉูเทียนหัวแบ่งทีมออกเป็นสามส่วน เขาใส่ปืนพ่นไฟเสี่ยวไป๋ที่ฮังอวี่โยนมาให้ จากนั้นนำทีมสู้กับมอนสเตอร์ผีรอบๆ อีกด้านหนึ่ง ลั่วหยวนเจิ้งเรียกหอกสงครามออกมาและนำนักเวทย์จูหยางเข้าโจมตีกลุ่มของหวังจุนเหวิน
มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์เห็นฮังอวี่วิงเข้ามา “มนุษย์ ความกล้าหาญของเจ้าช่างน่ายกย่อง แต่เจ้าคนเดียวไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราได้”
เสี่ยวไป๋ไม่เอ่ยคำใด
อันดับแรกเธอปล่อยราชินีมด
ราชินีมดปล่อยมดชั้นยอดอีก 5 -6 ตัวออกมา
เสี่ยวไป๋กางปีกภูติ บินขึ้นจากพื้นดิน นำฝูงมดเข้าโจมตีมือกระบี่ดาร์คเอลฟ์
หวังเอ๋อสัมผัสได้ ว่ามือกระบี่ดาร์คเอลฟ์แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาชาวโลกวิญญาณทั้งสาม ฮังอวี่จึงขอให้เสี่ยวไป๋นำมดยักษ์เข้าสู้กับมัน ไม่ได้หวังให้ชนะ แค่ถ่วงเวลาไว้ก็พอ
พลังรบของเสี่ยวไป๋ฟื้นตัวได้เยอะแล้ว
ตอนนี้เธอคือตัวตนเลเวล 9
สกิลอีกสองสามอย่างกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน แส้พลังจิตของราชินีมดในระดับชนชั้นยอดขั้นโกลด์เลเวล 7 นั้นสูงมาก บวกกับมันสามารถอัญเชิญมดยักษ์ชั้นยอดได้จำนวนหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเทียบกันแล้ว พลังรบของราชินีมดหน้าคนไม่ด้อยกว่าระดับเจ้าถิ่นมากนัก
ใบมีดสายลมต่อเนื่อง!
เสี่ยวไป๋โบกคทาในมือ
ใบมีดสายลมกว่าสิบสายม้วนเข้าหามือกระบี่ดาร์คเอลฟ์
พ่อมดแวมไพร์และแม่มดซัคคิวบัสต่างตกตะลึง
ซัคคิวบัสกล่าว “ระวัง! นางไม่ใช่มนุษย์ เป็นชาวโลกวิญญาณเหมือนพวกเรา!”
ในเมื่อมีมนุษย์ที่แปรพักตร์เข้าร่วมกับขุมกำลังจากโลกวิญญาณ
เช่นนั้นเป็นธรรมดาที่จะมีชาวโลกวิญญาณแปรพักตร์เข้าร่วมกับมนุษย์
มือกระบี่ดาร์คเอลฟ์ชักกระบี่ยาวออกมา ก่อนแยกมันเป็นสองเล่ม ถือไว้ในมือทั้งสองข้าง ใบกระบี่เรียวเหวี่ยงสะบัดอย่างรวดเร็ว ผ่ากลุ่มใบมีดสายลมกระจัดกระจายออกไป
แต่ในตอนนั้นเอง หมอกละอองหนาเข้าครอบคลุมศีรษะมัน
“ฝุ่งลวงตา?” ดาร์คเอลฟ์จดจำสกิลขั้น 3 นี้ได้ “พวกเจ้าสองคนระวังตัวให้ดี!”
“ฮ่ง ดูซะให้เต็มตา นี่แหละพลังอันน่าทึ่งของเปิ่นหวัง!”
หวังเอ๋อเห่าหอนและปลดปล่อยร่างแยก 5 ตัว
จากนั้น ร่างจริงรวมไปถึงร่างแยกพลันกลายร่างเป็นหมาป่าสีดำตัวใหญ่
พลังชีวิตของร่างแยกไม่สูงนัก แต่เอฟเฟกต์จากการแปลงร่างสามารถเพิ่มพลังชีวิตแก่พวกมันได้ และตอนนี้ทุกตัวพลังชีวิตทะลุ 100 ไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนโบนัสค่าคุณสมบัติอื่นๆเหมือนร่างจริงทุกประการ
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ร่างแยกสุนัขทั้งห้าว่องไวและมีพละกำลังมาก พวกมันทั้งหมดสามารถต่อสู้ระยะประชิดกับมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่น ... บวกกับหวังเอ๋อร่างจริงที่สามารถดูดซับความเสียหายได้ มันนับเป็นตัวตนทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้เลเวลของสุนัขจะไม่สูงนัก
แต่อาศัยความฉลาดและความสามารถของมัน
การหยุดแม่มดซัคคิวบัสไว้ชั่วคราวไม่ใช่เรื่องยาก!
แม้ชาวโลกวิญญาณทั้งสามจะเตรียมแผนการมาดี แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันจินตนาการไม่ถึง ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งขนาดไหน!