ตอนที่แล้ว822 - วิญญาณเทพ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป824 - การอาละวาดของวิญญาณเทพ 

823 - คู่แค้นพบกันบนทางคับแคบ 


823 - คู่แค้นพบกันบนทางคับแคบ

วิญญาณแห่งเทพเป็นตำนานที่ไม่มีตัวตน มีบันทึกไว้ไม่มากนักในคัมภีร์โบราณ เพราะผู้คนต่างสงสัยอย่างจริงจังถึงความถูกต้องของมัน มันจึงมีบันทึกไว้เพียงเล็กน้อยในนิกายโบราณบางแห่ง

“เจ้าเห็นแค่แวบเดียว เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไร” ชายชราตาบอดถาม

“ที่นี่น่าจะเป็นที่ฝังศพของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ๋ในสมัยโบราณ ข้าเตรียมตัวมาอย่างดี เจ้าสามารถเห็นปฏิกิริยาของหนูตัวนี้ได้” ต้วนเต๋อหยิบกรงเหล็กขนาดเล็กออกจากแขนเสื้อของเขา

หนูตัวเล็กๆ ที่มีเปล่งแสงจางๆ กำลังกลอกตา ร่างกายของมันกระตุกอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่ามันกำลังได้รับผลกระทบจากดินแดนแห่งนี้

“ดูเหมือนมันจะเป็นวิญญาณเทพจริงๆ!” ชายชราตาบอดตกตะลึง

“เจ้ารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ” เจ้าอ้วนต้วนแปลกใจเล็กน้อย

“ข้าศึกษาศาสตร์แห่งการทำนาย และแน่นอนข้ามีความรู้เกี่ยวกับฮวงจุ้ยโบราณ สุสานโบราณใต้ดินนี้เป็นสถานที่ฝังศพของผู้อมตะอย่างแน่นอน!” ชายชราตาบอดมองไปรอบๆ ด้วยความสง่าผ่าเผย

“จะกลับหรือไปต่อ?” ต้วนเต๋อพูด

“ทุกคนเข้ามาแล้ว คงไม่มีทางกลับออกไปหรอก จริงไหม?” ชายชราตาบอดประหลาดใจ

“วิญญาณแห่งเทพคืออะไรกันแน่?” ตงฟางเย่ถาม

“จิตสำนึกที่หลงเหลืออยู่หลังจากการร่วงหล่นของผู้อมตะที่แท้จริง…” ชายชราตาบอดกล่าว

“เหตุใดจึงมีผู้อมตะที่แท้จริงกับสิ่งมีชีวิตอมตะ ข้ารู้สึกสับสนกับคำพูดนี้มานานแล้วพวกเขามีตัวตนจริงๆ หรือ?” ตงฟางเย่ไม่เข้าใจ

“ไม่มีใครบอกได้ว่าผู้อมตะที่แท้จริงมีอยู่หรือไม่แม้แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ก็ตาม ไม่มีร่องรอยของหลักฐาน โลกไม่ได้รับรู้และไม่มีใครสามารถยืนยันได้ บันทึกของพวกเขาก็มีอยู่น้อยนิด

พวกเราเพียงสันนิษฐานว่าปราชญ์โบราณในโลกของเราคือสิ่งมีชีวิตอมตะ แต่ยังคงดูเหมือนความแข็งแกร่งพวกเขายังห่างไกลจากผู้อมตะที่แท้จริง ดังนั้นพวกเราจึงเรียกสิ่งมีชีวิตระดับพวกเขาว่าเซียนเทียม

สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ คือผู้อมตะที่แท้จริงเหล่านั้นไม่แน่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับพวกเรา ด้วยความแข็งแกร่งระดับนั้นหากเขาเป็นศัตรูพลังของเขาเพียงพอที่จะบดขยี้โลกของเราได้อย่างแน่นอน”

ทุกคนรู้สึกอึ้ง แต่นี่ยังถือเป็นเรื่องไกลตัวพวกเขามากเกินไปดังนั้นพวกเขาจึงเดินหน้าเข้าค้นหาสมบัติภายในสุสานต่อ และเลิกที่จะสนใจเรื่องนี้

ภายในสุสานเซียนมีกลไกลับมากมาย แต่ต้วนเต๋อถือได้ว่าเป็นผู้ดำรงอยู่ระดับปรมาจารย์ในด้านการขุดสุสาน และเขามีวิธีการที่คาดไม่ถึงอยู่ไม่น้อย

พวกเขาผ่านด่านอุปสรรคมากมายจนกระทั่งมาพบผนังถ้ำใบใหญ่ที่มีอักขระโบราณหลายตัวถูกเขียนไว้

ผู้คนที่เข้ามาก่อนพวกเขาล้วนตายไปหมดแล้วมีซากศพเพียงไม่กี่ศพที่ถูกทิ้งไว้บนพื้น ไม่มีรอยแผลบนร่างกายแต่มีข้อความสลักไว้บนศพ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างไม่สามารถละสายตาจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้

“ข้ากลัวแทบตาย!”

ชายชราตาบอดขมวดคิ้ว หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาพบว่าประสาทสัมผัสทางวิญญาณของพวกเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกทำให้หวาดกลัวจนตาย

“...มีมารอยู่ที่นี่!”

เมื่อเห็นข้อความนี้บนร่างคนเช่นนี้แล้ว ไม่มีใครในพวกเขาที่สามารถสงบใจลงได้ เพราะคนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งอาณาจักรแปลงมังกร แต่พวกเขากลับตายโดยไม่มีโอกาสดิ้นรนด้วยซ้ำ

หลังจากเดินเท้ามามากว่าสิบลี้แล้ว พวกเขาก็พบหน้าผาขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้าโดยมีเครื่องหมายที่สลักไว้อย่างคลุมเครือ เช่น ทวิบาท จตุบาท ปลา และแมลงโบราณมากมาย มองดูเพียงผิวเผินไม่สามารถบอกความหมายได้

ในสถานที่นี้ ผู้ฝึกตนหลายคนถูกดึงดูด และในหมู่พวกเขามีปรมาจารย์ครึ่งเซียนสองสามคนที่ยืนอยู่แถวหน้า

“นี่อาจเป็นภาพแห่งการรู้แจ้ง ดังนั้นพวกเราควรหยุดอยู่ที่นี่ก่อน” ตงฟางเย่กล่าว เมื่อเขาเห็นภาพลึกลับนี้ เขาก็หยุดเดินทันทีและยืนอยู่ที่นั่นเพื่อสังเกตอย่างละเอียด

“นี่เป็นภาพธรรมชาติของเต๋าสวรรค์ซึ่งมีความหมายที่แท้จริงของเต๋า แต่ข้ากลัวว่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์จะไม่เข้าใจเช่นกัน” เจวี่ยโหย่วฉิงที่ติดตามมาด้วยและไม่เคยพูดอะไรเลยในที่สุดก็เอ่ยปาก

เย่ฟ่านก็เฝ้าดูอย่างระมัดระวังแล้วหัวใจของเขาก็ต้องตกตะลึง ลายเส้นที่สลักบนหน้าผานี้และคัมภีร์โบราณที่องค์หญิงอวี้เตี่ยมอบให้เขา มันมาจากแหล่งที่มาเดียวกัน

มันไม่ใช่ทักษะลับที่ถูกเก็บซ่อนไว้อย่างดี มีผู้คนมากมายเคยเห็นทักษะลับชนิดนี้ แต่วิธีการฝึกฝนของมันกลับมีลักษณะเฉพาะตัวซึ่งยากที่จะทำความเข้าใจได้

“ข้าไม่เข้าใจสิ่งนี้” ทุกคนส่ายหัว สิ่งนี้ลึกซึ้งเกินไปและดูไร้ที่มา

“นี่เป็นคัมภีร์โบราณที่สร้างขึ้นเพื่อเส้นทางการเป็นอมตะหรือไม่ บุคคลธรรมดาก็สามารถปลูกฝึกฝนได้หรือ? ดูเหมือนมันจะเป็นทักษะที่มุ่งทำลายอารมณ์ของมนุษย์ทั้งหมดเท่านั้น”

“ปัง!”

ทันใดนั้น อาวุธหนักได้เจาะทะลุความว่างเปล่าและกระแทกแผ่นหลังเย่ฟ่านอย่างไร้ความปราณี ทำให้เขากระเด็นออกไปสามร้อยจั้งแล้วชนเข้ากับหน้าผาอย่างรุนแรง

หน้าผาหินแตกออกและรูขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ก็ปรากฏขึ้น เย่ฟ่านถูกผลักเข้าไปในหน้าผาและจมลึกลงไปในนั้น ใครจะจินตนาการได้ว่าการโจมตีครั้งนี้ทรงพลังขนาดไหน

“ปัง”

เย่ฟ่านรีบหลบออกไปด้านข้าง มีร่องรอยของเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา เป็นใครกันที่ลอบโจมตีเช่นนี้!

หากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่น การโจมตีครั้งนี้จะทำลายทั้งร่างกายและจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิง ไม่เหลือแม้แต่เศษกระดูก

ไม่ไกลนัก ผนึกหินสีดำกำลังลอยขึ้นลงบนความว่างเปล่า และเห็นได้ชัดว่ามันเป็นสิ่งที่โจมตีเย่ฟ่านจากด้านหลัง ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

นอกจากนี้ยังมีทวนศึกที่ทำจากแร่เงินและมีขนาดเล็กมาก แต่มันมีความยาวมากกว่าทวนปกติ ตอนนี้มันยังพยายามพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านที่ยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าผา

คราวนี้เย่ฟ่านเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว เขาขยับเปลี่ยนตำแหน่ง และลบรอดจากท่าสังหารได้อย่างรวดเร็ว

“นี่เป็นอาวุธต้องห้าม แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ครึ่งเซียนมันก็สามารถสังหารได้!” ชายชราตาบอดพึมพำ เขาค่อนข้างแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ผนึกหินสีดำและทวนสีเงินขนาดเล็กเป็นอาวุธต้องห้าม สามารถใช้ได้ในจำนวนจำกัด แต่ทรงพลังมาก ไม่เช่นนั้นพวกมันจะทำให้เย่ฟ่านบาดเจ็บได้อย่างไร

ไกลออกไป ผู้คนกลุ่มหนึ่งต่างตกตะลึง และพวกเขาพูดไม่ออกเป็นเวลานาน นี่คืออาวุธต้องห้ามของพวกเขา คนเหล่านั้นคิดว่าเย่ฟ่านจะถูกทำลายล้างในครั้งเดียว แต่กลับกลายเป็นว่าเย่ฟ่านเพียงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

“ต้นกำเนิดของเขาคืออะไร เขาต้านทานการโจมตีนี้ได้อย่างไร?!”

“เขากับคนป่าคนนั้นเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันหรือ ความต้านทานทางร่างกายของเขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร!?”

พวกเขาควบคุมผนึกหินสีดำและทวนเงินขนาดเล็ก พวกมันยังคงพยายามโจมตีเพื่อกำจัดเย่ฟ่าน ชายสองคนเหาะเข้ามาหาเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว

“เย่เจ๋อเทียน ยอมรับชะตากรรมของเจ้าซะ!” คนนี้คือเซียวจื้อ ปรมาจารย์ครึ่งเซียนของตระกูลเซียว เขาคือคนที่ไล่ตามเย่ฟ่านเมื่อไม่นานมานี้

“เย่เจ๋อเทียน คืนชีวิตของน้องชายข้ามา!”

อีกคนที่อยู่ในวัยสี่สิบ เขามีฐานการฝึกฝนที่แข็งแกร่ง เขาเป็นพี่ชายของเซียวหมิงหยวนและตอนนี้ระดับของเขาคือการเปลี่ยนแปลงครั้งที่เก้าของอาณาจักรแปลงมังกร

เขามาพร้อมกับธงค่ายกลของตระกูลเซียว พยายามจะล้อมเย่ฟ่านไว้ แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีประโยชน์

“ล้อมเขาไว้ อย่าปล่อยให้เขาหนีไป!”

ผู้คนในตระกูลเซียวรีบรุดไปข้างหน้า ขวางเส้นทางไว้และเยาะเย้ย

“เจ้าช่างหยิ่งผยอง เจ้ากล้าที่จะลงมือกับลู่เย่และแม้แต่หมิงหยวนในเขตตระกูลเซียวของข้า วันนี้ถึงวาระของเจ้าแล้ว!”

“มันง่ายเกินไปที่จะฆ่าเขาตอนนี้ กระชากวิญญาณของเขาออกมาแล้วผนึกไว้ในตะเกียงทองแดง เขาจะต้องถูกทรมานนับร้อยปีในนั้น!”

ผู้คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา พวกเขาล้วนเป็นครึ่งก้าวผู้สูงสุด และที่เหลือเป็นปรมาจารย์อาณาจักรแปลงมังกรระดับแปดและเก้า ทุกคนล้วนเสียสละอาวุธของตนเพื่อโจมตีเย่ฟ่าน

“ว้าว!”

ชายชราตาบอดคำนวณการทำนายด้วยกระดองเต่าบนพื้น และตะโกนบอกเย่ฟ่าน

“ไปทางตะวันออก ประตูแห่งชีวิตจะเปิดออก ต้องมีทางรอด แน่ๆ” เย่ฟ่านเหลือบมองชายชราและพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ

ตงฟางเย่หยิบกระบองแล้วพูดว่า “พี่เย่ ข้าจะช่วยเจ้าเอง”   

“คนตระกูลเซียว พวกเจ้าทุกคนจะมีใครรอดออกไปจากที่นี่!”

เย่ฟ่านเพิ่งถูกโจมตีและได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แม้ว่ามันจะไม่ร้ายแรง แต่เขาก็ยังโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด  

ครืน!

เขายกภูเขาที่สูงร้อยจั้งขึ้นมามาด้วยมือเดียว และทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็ตกตะลึง  

“วิปริต นี่คือมนุษย์จริงๆหรือ? ทำไมเขาถึงได้มีพละกำลังมหาศาลเช่นนี้!”   

“บูม!”

เย่ฟ่านขว้างภูเขาขนาดใหญ่ออกไป เขาใช้ผาหินนี้กดทับร่างปรมาจารย์บางส่วนจากนั้นก็หยิบหน้าผาหินอีกแห่งขว้างเข้าหาครึ่งเซียนของการเซียว

“ปัง”

ปรมาจารย์ครึ่งเซียนสะบัดแขนเสื้อเบาๆพร้อมกับบดขยี้หน้าผาให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ฝุ่นควันกระจัดกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้าแต่เมื่อสายตาของเขาจับจ้องไปยังเย่ฟ่าน เขาก็เห็นว่าเด็กน้อยคนนี้เริ่มดึงสายเกาทัณฑ์อีกแล้ว

“อาา”

คนจากตระกูลเซียวกรีดร้อง เขาถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวและเลือดเนื้อกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง

“บังอาจ!”

ปรมาจารย์ครึ่งเซียนเซียวจื้อโกรธจัด มือขนาดใหญ่ของเขาปกคลุมถ้ำโบราณด้วยสภาวะอันแข็งแกร่ง มันพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า

“ไปทางนี้!”

ต้วนเต๋อตะโกนจากระยะไกลและวิ่งนำหน้าไปพร้อมกับตงฟางเย่ เจวี่ยโหย่วฉิงได้ปลดปล่อยแสงสีทองแห่งการรู้แจ้งเพื่อปิดกั้นสายตาของทุกคนและตามพวกต้วนเต๋อไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะเดียวกันชายชราตาบอดก็เริ่มใช้กระดองเต่าทำนายอีกครั้งและกล่าวว่า

“ไปทางทิศตะวันออกแล้วมุ่งหน้าไปทิศใต้ ที่นั่นมีลางมงคลดูเหมือนจะเป็นถ้ำโบราณของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่”

“เจ้าคิดว่าจะหนีไปไหนได้ เย่เจ๋อเทียนข้าจะส่งเจ้าไปลงนรกเอง!” พี่ชายของเซียวหมิงหยวนคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด

“วิญญาณเทพนั่นมาอีกแล้ว!”

ต้วนเต๋อตัวสั่น ริมฝีปากของเขาเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน สายตาที่จับจ้องไปข้างหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด