ตอนที่ 12 ร่องรอย
นี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก! ทางโคโลนี่กำลังเรียกหาผม กำลังฉายไฟสัญญาณเพื่อนำแอนโธนี่ผู้หลงทางกลับบ้าน!
แต่ก็อย่าเพิ่งคิดไกลจะดีกว่า
จำได้ไหมว่าครั้งล่าสุดที่ตื่นเต้นแบบนี้แล้วผลออกมาเป็นไงฮึ แอนโธนี่?
นี่ HP แกยังฟื้นไม่เต็มเลยนะ!
หลังจากตรวจสอบร่องรอยกลิ่นที่อยู่บนพื้น ผมก็กลับขึ้นไปซ่อนบนเพดานและเดินหน้าต่อ
ผมต้องเดินตามทางนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบกลับร่องรอยกลิ่นอันต่อไป
ตัวอุโมงค์เองก็ดูคดเคี้ยวขึ้นเรื่อยๆ ทั้งทางตรงและซิกแซกเป็นบางช่วง
ไม่นานผมก็ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนในอากาศ ข้างหน้าต้องมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ผมต้องระวังตัวให้มาก!
30 เมตรต่อมา อุโมงค์ก็แยกเป็นสองทางอีกครั้ง
ผมเริ่มรู้สึกว่าอีกเดี๋ยวคงเจอกับอะไรแบบนี้อีก ช่างเป็นอุโมงค์ที่วุ่นวายดีแท้
ถ้าต้องกลับทางเก่านี่จะจำได้หรือเปล่านะ?
[สัมผัสห้วงลึก เลื่อนขั้นเป็นเลเวล 2]
มาได้จังหวะเลย! สกิลนี้แหละที่จะช่วยผมได้ดีที่สุด
เพราะยังไม่พบฟรีโรโมนอันใหม่ ผมเลยตัดสินใจใช้วิธีขีดค่าด้านที่เลือกไว้ก่อน
หลังจากขีดรูปลูกศรง่ายๆ ด้วยขากรรไกร ผมก็เดินเข้าไปในอุโมงค์ด้านขวา
...10 นาทีต่อมา ผมจึงได้กลับมาที่ทางแยกเดิมอีกครั้ง
เหอะๆ คงไม่กลับไปทางนั้นแล้วล่ะ! แค่เดินต่ออีกหน่อยผมก็รู้สึกได้เลยว่านี่เป็นตัวเลือกที่ผิดพลาด
จู่ๆ ทางก็กว้างขึ้นและมีโพรงเล็กๆ อยู่เต็มไปหมด
พอเข้ามาใกล้อีกหน่อยถึงรู้ว่าพวกหมาป่าหางกิ้งก่าได้ยึดเอาที่นี่มาทำรังเรียบร้อยแล้ว
พวกมัน 5 ตัวกำลังนั่งผักผ่อนอยู่ในรังอย่างสบาย ปากก็แทะสิ่งที่ดูเหมือนกระดูกไปด้วย
ผมไม่นึกอยากจะลองย่องผ่านพวกมัน ก็เลยเลือกกลับมาที่ทางแยกอีกครั้ง
เดี๋ยวขอไปเปลี่ยนสัญลักษณ์ตรงนี้เป็นรูปหัวกะโหลกมดก่อน...
สุดท้ายแล้วผมก็ทำได้แค่สัญลักษณ์ X ตัวโตๆ สำหรับทางอันตราย และ ~ ข้างๆ เพื่อบอกให้รู้ว่ามีหมาป่ากิ้งก่าอยู่ จากนั้นจึงทำเครื่องหมายลูกศรที่ด้านซ้ายและเดินทางต่อ
หวังว่ารอบนี้จะดีกว่าเดิมนะ!
เดินมา 100 เมตรแล้วก็ยังไม่ตายแฮะ ดูปลอดภัยดี-
เดี๋ยวก่อน!!
ผมหยุดชะงักในขณะที่ขาหน้าข้างหนึ่งกำลังค้างอยู่ในอากาศ
นี่มัน... ใช่อย่างที่คิดหรือเปล่าเนี่ย?
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมก็คือเส้นสีเงินบางๆ ที่กางออกไปทั่วอุโมงค์
ผมถอยหลังออกไป 2-3 ก้าวเพื่อดูให้ชัดๆ ว่าทั้งหมดนี่คืออะไรกันแน่
หากไม่มีตา +2... บอกเลยว่าหยุดไม่ทันแน่นอน
ต้องหามุมที่มันสะท้อนกับแสงเถาวัลย์ให้มากที่สุด จะได้เห็นกันชัดๆ เลย
อ้อ ถ้าเมื่อกี้เดินโง่ๆ แล้วเอาหัวชนเข้าไปคงไม่รอดแน่!
ใยของมอนสเตอร์แมงมุม!
ตอนนี้ตัวผมมันสั่นๆ จัด
ทำอะไรไม่ได้นอกจากด่ามันในใจ
ไอ้แมงมุมสารเลว! คิดว่าตัวเองเป็นราชาแมลงหรือไงวะฮ้ะ!?
เอาแต่ใช้ใยดักแมลงไปวันๆ งานการไม่รู้จักทำเอง!
สู้มดก็ไม่ได้ ทั้งซื่อสัตย์ ทั้งขยัน
นี่ถ้าเรามีพรรคพวกเป็นกองหนุนสัก 200 ตัวนะ... ระวังตัวให้ดีเถอะ!
หลังจากตรวจดูทั่วแล้วผมก็ไม่เห็นตัวแมงมุมเลยแฮะ
มันอาจจะไม่ได้อยู่แถวนี้ก็เป็นได้
รู้สึกลังเล ทำอะไรไม่ถูก แต่ถ้าไม่ผ่านใยนี่ไป ก็ต้องไปเสี่ยงดวงกับหมาป่ากิ้งก่า
เพราะทางนั้นดูเสี่ยงเหมือนกัน ผมก็เลยอยากลองเก็บข้อมูลของน้องแมงมุมดูก่อน จะได้ตัดสินใจถูก
คิดได้แบบนั้นแล้วผมจึงลงไปรวบรวมก้อนหินตามทางมากองไว้
ลองใช้ขากรรไกรจับและขว้างมันออกไปในระยะสั้น อืมม เสียงดังใช้ได้
พอขว้างจนชำนาญแล้วก็ถึงเวลามาลองกับของจริง
ผมงับหินขึ้นมา จากนั้นก็โยนมันใส่ใยแมงมุม
ลูกหินกระทบเข้ากับใยสีเงิน ทำให้มันสั่นหน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับขาด
ส่วนตัวหินกลับตกลงมาที่พื้น ไม่ได้ติดแหงกอยู่บนนั้น
1 วินาทีให้หลังจากที่ปาหินออกไป ผมก็รีบกลับขึ้นมาซ่อนอยู่บนเพดานทันที
---------------
สนับสนุนผลงานอย่างถูกต้องได้ที่ MyNovel และ Thai-Novel
---------------
ช่วงแรกๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น การสั่นสะเทือนของใยทำให้เห็นโครงสร้างทั้งหมดได้ง่ายกว่าเดิมมาก ดูสวยดีถ้าไม่ติดว่า...
ผมยังรอต่อไปอีก จนกระทั่งแรงสั่นสะเทือนหยุดลง
มานั่นแล้ว! ตอนแรกก็เกือบมองไม่เห็นเพราะมันไต่เพดานได้เหมือนกัน ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ยย!
ขาแรกโผล่ออกจากความมืด ตามมาด้วยขาที่สอง... จากนั้นเจ้ามอนสเตอร์ก็เดินออกมาดูเหยื่อที่ควรจะติดอยู่บนใย
อึ๋ยยย น่าขนลุกขนพอง
8 ขาที่เต็มไปด้วยขน (จะเยอะไปไหน) ถูกต่อเข้ากับร่างกายอ้วนๆ กลมๆ ขณะที่มันตรวจสอบใยไปเรื่อย
แมงมุมน่ะต่างจากผมที่เป็นแมลงอยู่นะ
ผมมีร่างกาย 3 ส่วน (ส่วนหัว ส่วนอก ส่วนท้อง) และขา 6 ข้าง ในขณะที่แมงมุมมีขา 8 ข้าง (แหวะ) กับร่างกาย 2 ส่วน (ส่วนหัวและส่วนท้อง)
ไอ้เจ้านี่ไม่ได้อยู่ในตระกูลแมลง มันควรร่วงไปอยู่ด้านล่างของห่วงโซ่อาหารได้แล้ว!
ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่ามันมีขนาดพอๆ กับผมซะด้วย
เป็นไปได้ว่าเลเวลของมันคงไม่ได้สูงอะไรนัก
น้องแมงมุมเริ่มเคลื่อนตัวออกจากหินและไปอยู่บนใยแทน คงจะหาใหญ่เลยสิว่าเหยื่อหายไปไหน
ทันใดนั้นเองความคิดก็แล่นเข้ามาในหัว เดี๋ยวรอให้เพื่อนใหม่เราอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ...
น้องแมงมุมค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามเส้นใย
มันพยายามตรวจหาอย่างถี่ถ้วนว่าทำไมใหญ่ถึงสั่น นับเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมหันหลังให้กับมัน
เย็นไว้.... เย็นไว้ก่อน........ ยิงได้!
จิ้วๆ!
ผมยิงกรดออกไปในระยะทำการสูงสุด แน่นอนว่าพอยิงออกไปแล้วก็ถอยไปซ่อนสิครับ รอไร!?
ระยะที่ยิงออกไปนั้นใช่ว่าจะโดน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ผมก็หวังลึกๆ ว่ามันจะโดนเข้าที่ขามากกว่าตรงส่วนท้อง... แล้วมันก็โดนเข้าที่ขาขวาจริงๆ ด้วย!
น้องแมงมุมเริ่มดิ้นไปมาด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ
มันอ้าปากโชว์เขี้ยวที่มีพิษหยดลงมา ขณะเดียวกันก็พยายามหาตัวการไปด้วย
ลูกตามากมายของมันกำลังทำงานอย่างหนัก
นี่เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของน้องแมงมุม
ต่อให้กลายพันธุ์เป็นตา +3 สายตาของผมก็ยังสู้สายตาทั้ง 8 ของมันไม่ได้อยู่ดี (แมงมุมเกือบทุกสายพันธุ์จะมี 8 ตานะครับ)
นักล่าที่ออกล่าคนเดียวจะต้องมีสายตาเฉียบคม เหมือนกับที่ผมพยายามทำมาตลอดไง!
ดีนะที่สกิลอำพรางตัวยังใช้ได้ผล ดูเหมือนมันจะหาคนทำไม่เจอซะแล้ว~
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตอนแรกมันกำลังง่วนอยู่กับใยตัวเอง เลยไม่ทันได้ดูอุโมงค์ด้านหน้า
หลังจากดูวุ่นวายอยู่พักนึง น้องแมงมุมก็สงบลงและพยายามเคลื่อนตัวไปข้างใยที่อยู่ติดกับผนัง
ดวงตาของมันสะท้อนเข้ากับแสงเถาวัลย์ชัดเจนมาก นึกว่าซ่อนตัวมิดชิดแล้วงั้นรึ?
ไอ้แมงมุมโง่! ฉันมองแกมาตลอดนั่นแหละ!
อยู่นิ่งๆ ได้สักทีนะ!
โอเคหมุนช้าๆ นะช้าๆ จากนั้นก็เตรียมรับกรดดอกที่สองไปกินซะ
รอบนี้ผมคำนวนมุมและองศาเป็นอย่างดี เรื่องลมไม่มีให้ห่วงอยู่แล้ว
ยิงได้! จิ้วๆ
ผมหันมาดูผลงานที่แหมะเข้าตรงส่วนหัวของมันและกระเด็นใส่ท้องต่อทันที
น้องแมงมุมส่งเสียงขู่ฟ่ออีกครั้งขณะดิ้นไปมาและพยายามออกตามหาผมอีกรอบ
ส่วนผมน่ะเหรอ? เผ่นไปนานแล้ว!
พอรู้ว่ายิงโดนเต็มๆ ผมก็พุ่งตัวออกไปจากตรงนั้นทันที
อยากไล่ตามก็มาสิวะ! ถ้าแกกล้าออกห่างจากใยขนาดนั้นก็เชิญเลย!
---------------
อัพเดทข่าวสารล่าสุดและติดตามแฟนเพจนักแปลได้ที่: EP:IC Translation