SWO ตอนที่ 67
ควับ!
ไม่ใช่แค่อาจารย์ใหญ่เจิ้ง อาจารย์เสิ่น และคนอื่น ๆ เท่านั้นที่หันไปมอง
แม้แต่เหล่านักเรียนก็หันกลับไปมองทางต้นเสียงเช่นกัน
พวกเขาเห็นใบหน้าที่งดงามของฟางอวี่เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด เธอกัดฟัน และกล่าวออกมา “อาจารย์ ซูหลิงเป็นเพียงนักเรียนที่อยู่แก่นโลหิตขึ้นสาม ขณะที่โจวเฮามีระดับการฝึกฝนอยู่แก่นโลหิตขั้นหนึ่งเท่านั้น พวกเขาจะทำลายสถิติมือใหม่ และแซงหน้าเราได้อย่างไร!”
“พวกเขาต้องโกงแน่!”
เหลยจินเผิงรีบสนับสนุน “ใช่ ใช่ นักเรียนสองคนที่ไม่ใช่แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ แค่จะจัดการกับนักรบอสูรยังยากเต็มกลืนแล้ว นี่ยังไม่นับว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง นักรบอสูรขั้นสูง หรือแม้แต่แม่ทัพอสูรจะปรากฏตัวขึ้นอีกนะ!”
หยวนเฉิง และหยุนหยานก็ขมวดคิ้วเช่นกัน
ท้ายที่สุดเรื่องมันก็ฟังดูไร้สาระจนน่าสงสัย
ต้องรู้ว่าแม้อัจฉริยะที่เป็นผู้ทำสถิติสำหรับมือใหม่ในหยานจิงตอนนั้นจะเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นต่ำ แต่สาเหตุที่เขาทำลายสถิติได้เพราะเขามีเทคนิคลับที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเทียบเคียงได้กับผู้ฝึกยุทธขั้นสูง นอกจากนี้เขายังได้ร่วมทีมกับคนอื่นด้วย
"โย่ โย่ นี่หรืออัจฉริยะหยานจิง?”
“จิ จิ จิ พอไม่สามารถชนะด้วยความแข็งแกร่งได้ คราวนี้เลยพยายามชนะด้วยคำพูด?”
“ฮ่าฮาฮา ใครเล่าจะไปคิดว่าพวกเจ้ากระทั่งกล้ากล่าวหาว่าเราโกง!”
นักเรียนโรงเรียนมัธยมเมืองฉูกลับมารู้สึกตัว และรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แม้ใจของพวกเขาเองก็ยังไม่เชื่อ แต่ความภูมิใจในตัวซูหลิง และโจวเฮาที่ปราบอัจฉริยะหยานจิงได้นั้นมีมากกว่า ท้ายที่สุดพวกเขาก็มาจากโรงเรียนมัธยมเมืองฉู!
ใบหน้าฟางอวี่ของยิ่งมายิ่งน่าเกลียด
ใบหน้าของเหลยจินเผิงก็ย่ำแย่ลงเช่นกัน
นี่นับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาถูกกลุ่มมือใหม่เยาะเย้ย
เวลานี้เองที่อาจารย์เสิ่นลุกขึ้นยืน และกล่าวอย่างเรียบเฉย “ฟางอวี่ เจ้าน่าจะรู้ดีว่าในการฝึกต่อสู้เสมือนจริงนั้นไม่มีการโกง”
ฟางอวี่ตัวสั่น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ แต่เธอยังคงกัดฟัน “อาจารย์ ข้าขอดูบันทึกการต่อสู้ของซูหลิง และโจวเฮา!”
อาจารย์เสิ่นขมวดคิ้ว เขามีอำนาจในการขอดูบันทึกดังกล่าวจริง แต่เขาต้องได้รับการอนุมัติจากหัวหน้าครูฝึกของค่ายฝึกหยานจิง หลังจากนั้นเขายังต้องปรึกษากับอาจารย์อีกหลายคนก่อนจึงจะสามารถขอดูจากระบบได้
ท้ายที่สุดนักเรียนทุกคนก็มีความลับของตัวเอง
หากระบบเปิดให้ทุกคนดูได้ นั่นหมายถึงความลับมากมายที่จะถูกเปิดเผย
"ได้!" ในที่สุดอาจารย์เสิ่นก็พยักหน้า ก่อนมองไปที่ฟางอวี่อย่างลึกซึ้ง “แต่จำไว้ ข้าจะอนุญาตแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น!”
ณ สำนักงานใหญ่ของค่ายฝึกหยานจิง
ภายในห้องนั่งเล่นที่หรูหรา
หัวหน้าครูฝึกเฉิงขมวดคิ้วเป็นปม อาจารย์หลายคนได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็วว่ามีเด็กระดับมือใหม่สองคนจากโรงเรียนมัธยมเมืองฉูได้ทำลายสถิติอันยาวนานของการฝึกต่อสู้เสมือนจริง ท้ายที่สุดประกาศนั้นได้ถูกส่งต่อไปยังผู้ใช้กระท่อมเสมือนจริงทั้งหมด
แต่เช่นเดียวกับอาจารย์คนอื่น ๆ หัวหน้าครูฝึกเฉิงเชื่อว่าอาจารย์เสิ่นตั้งใจปรับความยากให้อยู่ในระดับเริ่มต้น เพื่อให้เขาได้รับการยกย่องจากสิ่งที่ทำ โดยทำให้โรงเรียนมัธยมเมืองฉูเป็นจุดสนใจ
โดยปกติ กระท่อมเสมือนจริงจะไม่บันทึกเวลาที่ใช้ไปในการฝึกต่อสู้ หากตั้งค่าความยากไว้ที่ระดับเริ่มต้น
อย่างไรก็ตามในฐานะอาจารย์ เสิ่นจิงมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ ตราบใดที่มีการเพิ่มชุดคำสั่งบางอย่างเข้าไป เขาก็จะสามารถบันทึกเวลาได้ แต่โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครในโลกที่จะทำสิ่งนี้ เพราะหากถูกจับได้คงต้องอับอายไปชั่วชีวิต
ดังนั้นหัวหน้าครูฝึกเฉิงจึงโกรธ และผิดหวังในตัวเสิ่นจิงมากที่ทำสิ่งนี้
ดิ่ง
ทันใดนั้น เขาก็เห็นคำขออนุญาตดูฟุตเทจที่ส่งมาจากสาขาเมืองฉู
“เสี่ยวเสิ่นคิดจะทำอะไร!” หัวหน้าครูฝึกเฉิงต้องการโทรหาเสิ่นจิง และสบถใส่เขาทันที แต่เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาก็ลังเล
เสิ่นจิงถูกสอนโดยเขา ดังนั้นหัวหน้าครูฝึกเฉิงจึงไม่ต้องการทำให้เขาอับอาย
“ช่างเถอะ ถ้าเขาต้องการดู ข้าก็จะให้เขาดู เมื่อถึงเวลา หากระบบตรวจพบข้อมูลที่ผิดปกติ ข้าจะใช้อำนาจเพื่อช่วยเขาปกปิดมัน!” หัวหน้าครูฝึกเฉิงถอนหายใจ และส่งข้อความไปยังอาจารย์คนอื่น ๆ
…
ในห้องฝึกเสมือนจริงของโรงเรียนมัธยมเมืองฉู
อาจารย์เสิ่นมองหน้าจออิเล็กทรอนิกส์อย่างใจจดใจจ่อ เขามั่นใจว่าหัวหน้าครูฝึกเฉิงต้องรู้เรื่องสถิติมือใหม่ถูกทำลายแน่
เนื่องจากเรื่องนี้มันอุกอาจเกินไป และจะทำให้เกิดความโกลาหลแน่นอน
ดิ่ง
ทันใดนั้น คำขอก็ได้รับการอนุมัติ
อาจารย์เสิ่นรู้สึกอบอุ่นในใจ หัวหน้าครูฝึกกำลังใช้อาชีพของตัวเองเพื่อปกป้องเขา
“เอาล่ะ ใครอยากดูมาทางนี้” เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเปิดบันทึกการต่อสู้ของโจวเฮา และซูหลิงขึ้นมา
อาจารย์ใหญ่เจิ้ง คณบดี และเหล่านักเรียนรีบวิ่งไปเหมือนผึ้ง
หยวนเฉิง หยุนหยาน และอัจฉริยะหยานจิงที่เหลือก็กำลังกระวนกระวายเช่นกัน
ทุกคนอยากรู้ว่าโจวเฮา และซูหลิงรอดอยู่ในพื้นที่รกร้างนานขนาดนั้นได้อย่างไร!
ฟางอวี่ และเหลยจินเผิงจ้องไปยังหน้าจอ
วูช
หลังเกิดคลื่นผันผวน
ภาพก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น เวลานี้พวกเขาสามารถเห็นโจวเฮา และซูหลิงกำลังเดินอยู่ในป่าโบราณอันมืดมน
สีหน้าของทุกคนไม่เปลี่ยนแปลง ทุกคนรู้ดีว่าป่าโบราณนั้นอันตรายเพียงใด
แต่เมื่อภาพเคลื่อนเข้าไป พวกเขาถึงกับตะลึง
โจวเฮา และซูหลิงเป็นราวคู่รักหนุ่มสาวที่กำลังเดินอยู่ในห้วงรัก พวกเขาดูไม่เหมือนคนตกอยู่ในอันตรายเลยสักนิด
“แย่แล้ว นั่นมันลิงอสรพิษทองระดับแม่ทัพอสูร!”
นักเรียนที่สายตาดีคนหนึ่งสังเกตเห็นร่างสีทองที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางกิ่งก้าน และใบของต้นไม้โบราณที่อุดมสมบูรณ์ ก่อนตะโกนออกมาทันที
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบโจวเฮานัก แต่นักเรียนหลายคนก็อดห่วงทั้งสองไม่ได้
ฟางอวี่เยาะเย้ย เธออยากเห็นนักว่าทั้งสองซึ่งไม่ใช่แม้แต่ผู้ฝึกยุทธจะรับมือกับการโจมตีของลิงอสรพิษทองอย่างไร!
หยวนเฉิง หยุนหยาน เหลยจินเผิง และอัจฉริยะที่เหลือจ้องไปที่หน้าจอตาไม่กระพริบตา
อาจารย์เสิ่น อาจารย์ใหญ่เจิ้ง และคนอื่น ๆ ก็มองไปที่หน้าจอเช่นกัน
ทุกคนต่างกลั้นหายใจ
แม้แต่ผู้ฝึกยุทธขั้นสูงก็ยังอาจรับมือกับการโจมตีของลิงอสรพิษทองไม่ได้
ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งของโจวเฮา และซูหลิงมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะหลบพ้น
“อย่าเข้าใกล้มัน!”
"วิ่งเร็ว!"
เมื่อเห็นว่าโจวเฮา และซูหลิงกำลังเข้าใกล้ลิงอสรพิษทองมากขึ้น นักเรียนหลายคนก็อดตะโกนไม่ได้
อาจารย์เสิ่นหรี่ตา ต่างจากคนอื่น ความสนใจของเขามุ่งไปที่โจวเฮา ทั้งหมดก็เพื่อต้องการดูว่าโจวเฮานั้นเป็นอัจฉริยะคนที่เขากำลังตามหาหรือไม่!