Ep.291 - หัวหน้าสืบสวนฉูเทียนหัว
3/3
Ep.291 - หัวหน้าสืบสวนฉูเทียนหัว
ฉูเทียนหัว!
ซูเจิ้งเฉิงจำเขาได้!
ชายผู้นี้คือ ฉูเทียนหัวผู้มีชื่อเสียง!
เขาคือหนึ่งในผู้นำทีมพิชิตหอคอยเขตแดนเป็นกลุ่มแรก มีพื้นเพเป็นทหารยศพันโท เดิมเป็นรองผู้บัญชการกองกลน้อยประจำกองรบพิเศษ และเป็นหนึ่งในตัวแทนที่ของยอดฝีมือมีชื่อเสียงที่สุด
ฯลฯ
แต่นี่มันไม่ถูกต้อง!
คนอย่างฉูเทียนหัวมาปรากฏตัวในเจียงเฉิงได้อย่างไร?
เห็นได้ชัดว่าฮังอวี่ก็สังเกตเห็นอีกฝ่ายเช่นกัน เขาอดแสดงท่าทีประหลายใจไม่ได้ “เหล่าฉู คุณมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง?”
ความรู้สึกนี้ บอกตามตรงว่าค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย
เพราะเป็นครั้งแรกเลยที่ได้พบเจอกับสหายในโลกวิญญาณในโลกจริง!
ใบหน้าจริงจังตามธรรมชาติของฉูเทียนหัวเผยรอยยิ้มที่หาได้ยาก “ฉันได้ยินมาว่านายอาจอยู่ที่นี่ ก็เลยแวะมา ไม่คิดว่าจะได้เจอจริงๆ!”
ลั่วหยวนเจิ้งแนะนำ “นี่คือรองผู้บัญชาการคนใหม่ของสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง และยังดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าสืบสวนเช่นกัน”
รองผู้บัญชาการ!
ม่านตาของซูเจิ้งเฉิงหดลีบลง
ฉูเทียนหัวกลายเป็นรองผู้บัญชาการสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง!
จริงอยู่ ด้วยพลังรบ ภูมิหลัง และคุณสมบัติ จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้เป็นรองผู้บัญชาการ
อย่างไรก็ตาม
รองผู้บัญชาการคนใหม่คนนี้
ในโลกวิญญาณเขาเป็นลูกน้องของฮังอวี่ไม่ใช่หรอ!
วิเคราะห์จากการต่อสู้อย่างน้อยสองครั้งที่แผยแพร่ทางเน็ต มั่นใจได้ 100% ว่าฮังอวี่คือผู้สั่งการ และฉูเทียนหัวกับจ้าวหมิงในเซินเจิ้นทั้งคู่คือผู้ใตับังคับบัญชาของเขา
แต่ตอนนี้เขาถูกย้ายมายังเจียงเฉิงในฐานะรองผู้บัญชาการ
นี่ไม่เท่ากับว่าฮังอวี่มีลูกน้องเป็นระดับรองผู้บัญชาการหรอกหรือ?
เรื่องนี้มีผลประโยชน์อย่างมหาศาลแก่ฮังอวี่!
แม้ฉูเทียนหัวจะไม่ใช่ลูกน้องอย่างแท้จริง แต่อย่างน้อยเขาต้องไว้หน้าฮังอวี่แน่นอน!
ซูเจิ้งเฉิงใช้เวลาพักหนึ่งเลยกว่าจะยอมรับความจริง แม้เขาจะไม่รู้จักคนผู้นี้ดีนัก แต่ก็ก้าวเข้าหาแล้วเอ่ยว่า “ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันได้ยินเรื่องของคุณมามากมาย ฉันซูเจิ้งเฉิง คณะกรรมการบริหารของสมาคมโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิง”
ฉูเทียนหัวเพียงกวาดสายตามองเขา
และพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่เอ่ยตอบคำใด
ซูเจิ้งเฉิงเพียงยิ้ม ไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนใดๆ
สกายเน็ตคือองค์กรภาครัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
ขณะที่สมาคมโลกวิญญาณคือองค์กรพลเรือนที่ใหญ่ที่สุด
สกายเน็ตและสมาคมโลกวิญญาณจึงไม่ค่อยชอบหน้ากัน
แม้ซูเจิ้งเฉิงจะเป็นคณะบริหารของสมาคมโลกวิญญาณ
แต่พลังรบของสมาคมโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิงนั้นยังห่างไกลกับสกายเน็ต และพลังของเขาอาจเทียบไม่ได้กับพลังรบในระดับหัวหน้ากอง ... แล้วนับประสาอะไรกับระดับรองผู้บัญชาการ
“ที่นี่ไม่เหมามะ พวกเราเปลี่ยนสถานที่คุยกันดีกว่า”
ฮังอวี่พาคนอื่นๆเข้ามาในร้านอาหาร
ให้เจ้าอ้วนจัดห้องส่วนตัวให้
หัวหน้าทีมที่เหลือรออยู่ข้างนอก
ฮังอวี่ ซูเจิ้งเฉิง ลั่วหยวนเจิ้ง ฉูเทียนหัว เถ้าแก่ใหญ่ทั้งสี่คนขึ้นไปทานอาหารบนชั้นสอง
“สถานที่นี้ดีจริงๆ ไม่ง่ายเลยที่ขุมกำลังเล็กจะจัดการดูแลระเบียบเรียบร้อยได้ดีขนาดนี้” ฉูเทียนหัวเดาว่าทั้งหมดนี้คือฝีมือของฮังอวี่ แต่เขาไม่ได้เอ่ยถาม “ฉันได้หินสกิลที่ต้องการมาแล้ว ลองตรวจสอบดูก่อน”
ฉูเทียนหัวหยิบหินสกิลควงอาวุธคู่ที่ฮังอวี่ต้องการออกมา
ฮังอวี่ตรวจสอบเพื่อแน่ใจว่าถูกต้อง จากนั้นนำหินสกิลใจศึกห้าวหาญที่ฉูเทียนหัวต้องการออกมาทันที แล้วทั้งสองก็เสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนกัน
แต่ละคนจ่ายแต้มวิญญาณกันไปคนละราวๆ 200 แต้ม
ใช้หินสกิลทั้งสองทันที
ข้อมูลสกิลใหม่เด้งเตือนขึ้น
[ควงอาวุธคู่] (มรดกผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้) , เลเวลปัจจุบัน 1 (0/400) , สามารถถืออาวุธมือเดียวได้ 2 ข้าง , พลังโจมตีแยกจากกัน , สามารถซ้อนทับโบนัสค่าคุณสมบัติได้ , แต่ค่าคุณสมบัติของอาวุธรองจะลดลง 50%
กล่าวคือ
ฮังอวี่สามารถขี้โกงถืออาวุธได้สองแบบ
ทว่าพลังโจมตีของอาวุธทั้งสองจะไม่ซ้อนทับกัน
หรือก็คือ หากถืออาวุธที่มีพลังโจมตี +10 ในมือซ้ายและอาวุธที่มีพลังโจมตี +20 ในมือขวา พลังโจมตีของอาวุธทั้งสองชิ้นจะไม่ถูกรวมเข้าด้วยกัน แต่จะเป็นแยกจากกัน
ตัวอย่างเช่นหากฮังอวี่โจมตีด้วยมือซ้าย ดาเมจที่สร้างจะเกิดจากพละกำลังของตัวเอง + พลังโจมตีจากอาวุธในมือซ้าย
หากเขาโจมตีด้วยมือขวา ดาเมจที่สร้างจะเกิดจากพละกำลังของตัวเอง + พลังโจมตีจากอาวุธมือขวา
แม้พลังโจมตีจะไม่ทับซ้อนกัน
อย่างไรก็ตาม โบนัสค่าคุณสมบัติต่างๆเช่น พลังชีวิต พลังจิต พละกำลัง ความว่องไว สามารถซ้อนทับกันได้ แต่สกิลควงอาวุธคู่เลเวล 1 สามารถเพิ่มโบนัสคุณสมบัติของอาวุธรองได้เพียง 50% เท่านั้น แต่หากเลเวลสกิลยิ่งสูง เปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มก็จะยิ่งสูงตาม
โดยรวมแล้ว
นี่คือสกิลชั้นดีในการใช้งาน
เมื่อถืออาวุธสองชิ้นในมือ ความถี่ในการโจมตีก็จะยิ่งสูงมากขึ้น!
ส่วนใจศึกห้าวหาญที่ฉูเทียนหัวได้รับก็เป็นสกิลที่ดีเช่นกัน มันสามารถเพิ่มพลังโจมตีได้มาก ต้านทานสถานะผิดปกติ เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและค่าพลังชีวิต ซึ่งเป็นส่วนเสริมที่ดีสำหรับฉูเทียนหัว
ไหนๆก็ได้เจอสหายที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา
ดังนั้นต้องครื้นเครงกันหน่อย
ฮังอวี่บอกให้ต้าไห่เตรียมสุราวิญญาณและอาหารชั้นดีทุกประเภท
หลังจากดื่มสุราวิญญาณไปหลายจอก ทุกคนก็เริ่มสนทนากัน
“ที่ฉันมาในวันนี้ ทางหนึ่งเพื่อทักทาย อีกทางหนึ่งเพราะต้องการขอความช่วยเหลือจากนาย”
“เหล่าฉู พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกล มีอะไรก็ว่ามาเถอะ” ฮังอวี่กล่าว “พวกเราสู้ด้วยกันมาหลายครั้ง นับว่าเป็นสหายกันแล้ว ฉะนั้นผมจะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน แต่หวังว่ามันจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เกินไป”
ลั่วหยวนเจิ้งกล่าวอธิบายแทนฉูเทียนหัว “รองผู้บัญชาการฉูมาที่เจียงเฉิงเพื่อรับผิดชอบในการสืบสวนไล่ล่าผู้รุกรานจากโลกวิญญาณ ครั้งก่อนที่เจอ พวกเขาสามคนหลบหนีไปได้ แต่จากเบาะแสล่าสุด มีคนพบเห็นพวกเขาตรงซากปรักหักพังในเขาวงกตใต้ดิน”
ฮังอวี่พอได้ยินก็เข้าใจทันที
ที่แท้ก็มาเพราะเรื่องของพวกมือกระบี่ดาร์คเอลฟ์ แม่มดซัคคิสบัส กับแวมไพร์
ดูเหมือนผู้บริหารระดับสูงของสกายเน็ตจะให้ความสำคัญกับเรื่องผู้รุกรานจากโลกวิญญาณพวกนี้มาก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาจึงนำความช่วยเหลือจากภายนอก ส่งฉูเทียนหัวมาช่วย
สกายเน็ตระบุตำแหน่งคร่าวๆของทั้งสามได้แล้ว
ต่อจากนี้ ฉูเทียนหัวจะต้องเป็นผู้นำทีมเป็นการส่วนตัว
ฉูเทียนหัวได้เดินทางมาเยี่ยมฮังอวี่เป็นพิเศษในครั้งนี้ หลักๆเพราะเขาต้องการขอให้ฮังอวี่ช่วยเหลือ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ภารกิจนี้ยากเกินไป แม้สกายเน็ตจะเต็มไปด้วยผู้มีพรสวรรค์ แต่ลุยแค่เฉพาะพวกเขา ยังไม่รู้สึกสบายใจ
ฉูเทียนหัวเข้าใจความสามารถของฮังอวี่
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าฮังอวี่กำลังเลี้ยงดูบุคคลจากโลกวิญญาณ
แน่นอนว่า ฉูเทียนหัวจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะ
ฮังอวี่คิดในใจ ‘ไม่ง่ายเลย ผู้รุกรานสามตนนี้ไม่ธรรมดา สถานที่อย่างซากปรักหักพังในเขาวงกตใต้ดินเองก็ค่อนข้างน่าสงสัย ความเสี่ยงของภารกิจนี้ไม่น้อยจริงๆ’
ไม่ใช่ว่าฮังอวี่ขี้ขลาด
เหตุผลหลักคือฮังอวี่ไม่ต้องการสร้างปัญหาให้ตัวเอง
“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ฉันจะไม่ทำให้นายลำบากใจ” ฉูเทียนหัวเข้าใจนิสัยของฮังอวี่ ดังนั้นเอ่ยเสริมว่า “ฉันแค่หวังว่านายจะลองเก็บเรื่องนี้ไปคิดดู”
สิทธิ์ในการเลือกอยู่ในมือของฮังอวี่
ฉูเทียนหัวไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ตึงเครียดกับฮังอวี่
ถ้าฮังอวี่ปฏิเสธ เขาจะไม่บังคับ ยอมถอยครึ่งทาง ขอแค่ยืมสุนัขจากฮังอวี่ชั่วคราว
“ตกลง ผมจะไปกับพวกคุณ”
คำตอบของฮังอวี่ทำให้ฉูเทียนหัวและลั่วหยวนเจิ้งใจฟูขึ้นมาทันที
“เยี่ยม! ตกลงตามนี้!”
ฉูเทียนหัว ลั่วหยวนเจิ้งอารมณ์ดีมาก ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มกับฮังอวี่และซูเจิ้งเฉิง เฮฮากันนานกว่าครึ่งชั่วโมง
ทั้งสี่สนทนากันอย่างมีความสุข
อย่างไรก็ตาม สกายเน็ตค่อนข้างมีงานยุ่ง
เถ้าแก่ใหญ่สองคนจากสกายเน็ตจึงไม่สามารถรั้งอยู่ได้นาน
หลังจากทั้งคู่จากไป ซูเจิ้งเฉิงก็หันมาพูดกับฮังอวี่เรื่องวัสดุ
“เพชรคลื่นสะเทือน , หน่อแอเมทิสต์ , มิธริลกำเนิดแสง และแก่นแร่ทองคำ นี่คือทั้งสี่ชิ้นที่หามาได้ พวกมันทั้งหมดมีราคารวม 200 หินคริสตัลเขียว” ซูเจิ้งเฉิงกล่าว “ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่นาย ฉันจะไม่ยอมขายราคามิตรภาพแบบนี้เด็ดขาด”
ฮังอวี่ไม่ต่อรอง “ตกลง ขอบคุณมาก!”
ราคานี้คือราคามิตรภาพแน่นอน!
ทั้งสี่เป็นวัสดุคุณภาพสีฟ้าทั้งหมด
ปัจจุบัน วัสดุสีฟ้าหายากมาก โดยเฉลี่ยแล้วราคา 50 หินคริสตัลเขียวต่อชิ้นจึงไม่ใช่ราคาสูงอะไร
“ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรให้ช่วยอีกก็บอกมาได้ ตราบใดที่ร้องขอ ฉันจะไม่ปฏิเสธ” ซูเจิ้งเฉิงตบหน้าอกเขา เอ่ยอย่างชอบธรรม “เพราะพวกเราจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันในอนาคต!”
หือ? ทำไมประโยคหลังมันฟังดูแปลกๆ
เหล่าซูกำลังพยายามสื่ออะไรรึเปล่า?
แต่ในเวลาเดียวกัน ซูเจิ้งเฉิงกังวลเล็กน้อย “ทำไมนายถึงรับปากฉูเทียนหัว? ตามล่าผู้รุกรานจากโลกวิญญาณ นายไม่จำเป็นต้องลงมาในโคลมตมนี้เลย มันอันตรายเกินไป!”
ตอนนี้เขาให้ความสำคัญกับฮังอวี่มาก
และไม่ต้องการให้มีอุบัติเหตุใดๆเกิดขึ้นกับฮังอวี่
ฮังอวี่เอ่ยอย่างสงบ “ไม่ต้องกังวล ผมไม่เป็นไร”
ครั้งนี้เขาจะพาสุนัขกับเสี่ยวไป๋ไปด้วย โดยพื้นฐานแล้วสามารถรับมืออันตรายส่วนใหญ่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ฮังอวี่ยังติดตั้งหินมิติจดจำตำแหน่งไว้ที่บ้าน ถ้าเขาสู้ไม่ไหว ก็แค่ดึงคัมภีร์เทเลพอร์ตออกมา นี่เป็นส่วนหนึ่งที่การันตีความปลอดภัยของเขา
สุดท้าย ฮังอวี่รู้สึกสนใจเรื่องของสมาคมฤาษีลี้ลับจากโลกวิญญาณพวกนั้นอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน ...