ตอนที่ 9 ชีวิตคือการเรียนรู้
ไงแอนโธนี่ แกนี่มันโง่ดีนะ ว่าไหม?
ทำไม~ ทำไมหนอ ทำไมแก่ถึงได้โง่แบบนี้
ผมนี่แหละคือคนโง่ที่วิ่งเต้นแร้งเต้นกาเข้าใส่ทหารยาม ทั้งๆ ที่ตัวเองคือมอนสเตอร์ขนาดเมตรกว่า!
ว้าวแอนโธนี่! แกนี่มันราชาแห่งคนโง่เลยนี่หว่า
ถ้าคนโง่ทั่วโลกได้ยินเรื่องที่แกทำลงไป ทุกคนคงสรรเสริญแก เผลอๆ จะตั้งเป็นลัทธิและเคารพบูชาแกด้วยนะ
แกจะถูกขนานนามว่าเป็นเทพแห่งความโง่เขลาตลอดไป
ทุกคนก็เห็นด้วยใช่ไหม?
...
แม่เจ้า ถ้ารอดจากฝันร้ายนี่ไปได้คงถือว่าเราดวงดีจัดๆ
โดนทหาร 2 คนไล่ล่า หลบหน้าไม้และลูกไฟให้ว่อน ทว่าสุดท้ายผมก็หากลิ่นเน่าๆ ของไอ้ตะขาบพวกนั้นเจอ
พวกมันกำลังนอนอยู่ในรังตอนผมยิ่งกรดใส่เข้าไป โอ้ รีบกรูกันออกมาต้อนรับแบบเดือดจัดๆ เลย
ผมเกือบโดนพวกมัน 10 กว่าตัวรุมทึ้งอยู่แล้ว ดีนะที่ได้ลูกไฟจากทหารยามมาช่วยไว้ อิอิ~
แถมนั่นยังเป็นการเปิดช่องว่างให้ผมหนีเข้าไปในอุโมงค์ต่อได้อย่างรวดเร็ว
จังหวะนั้นเองที่มีทหารยามอีก 3 คนตามมาเสริมและช่วยกันกำจัดไอ้ตะขาบโสโครกจนหมด
อ้อ นี่คิดจะตามกันไม่เลิกสินะ? รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้...
ผมก็เลยไปล่อตะขาบมาให้กินกันอีกสามรังไงล่ะ!
ปล่อยให้คนอื่นเค้าสู้กันไป ส่วนผมขอปลีกตัวออกไปหาที่ซ่อนในเงามืดก่อนละกัน
ผมเห็นสกิลโจมตีมากมายถูกปล่อยออกมา แสงจากดาบพุ่งเข้าไปตัดมอนสเตอร์ที่อยู่ห่างไป 5 เมตร เปลวไฟถูกพ่นออกจากมือของทหารและตรงเข้าไปย่างสดเหล่าตะขาบ
น่ากลัวชิบ!
แล้วดูสิว่าผมทำอะไรได้บ้าง? กัด! ทำไมขากรรไกรไม่เรืองแสงแล้วพุ่งใส่ศัตรูที่อยู่ห่างไป 5 เมตรมั่งวะ
นี่เอ็งกำลังกวนบาทากันอยู่เหรอ แกนดาล์ฟ!?
เฮ้อ~ ประสบการณ์คือผู้สอนที่ดีที่สุด เห็นเค้าว่าไว้งี้นะ
การผจญภัยครั้งนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเลย ทั้งเรื่องเวทมนตร์ เรื่องสังคมมนุษย์ แล้วก็เรื่องความกากของตัวเองเมื่อเทียบกับทหารมืออาชีพ
อ้อ ผมยังได้รู้ด้วยนะว่าลูกไฟมันเจ็บมากมาก ไม่รู้จะเจ็บไปถึงเมื่อไหร่~
หลังจากโดนกองหินถล่มใส่และลูกไฟเข้าไปเต็มๆ 1 ลูก HP ของผมก็ลดลงจนเหลือเพียง 15/30 เท่านั้น เหมือนตายไปแล้วครึ่งตัว!
โชคดีที่ขายังใช้งานได้ตามปกติ... แต่เปลือกด้านหลังเมือนจะแตกหน่อยๆ หลังจากโดนหินถล่มใส่แฮะ?
ต้องดูหน่อยแล้วว่าจะฟื้น HP กลับมายังไง บางทีมันอาจจะฟื้นได้เอง ไม่งั้นผมก็ต้องหาทางรักษาแบบดั้งเดิม
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ยังต้องศึกษากันต่อ
อย่างน้อยงานนี้ผมก็ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้างแหละ
พวกตะขาบโดนฆ่าเสียแหลกลาน แถมทหารยามก็พากันเดินกลับไปโดยไม่สนใจเศษซากเลยแม้แต่น้อย
นี่แหละโอกาสทอง!
ศพเน่าๆ พวกนี้คือสมบัติล้ำค่าของผม เป็นกองสมบัติขนาดย่อมๆ เลยด้วย
ไบโอแมสจ๋า! ต้องรีบไปเอาไบโอแมสพวกนั้นแล้ว!
ผมเริ่มเคลื่อนไหวทันทีเพราะไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ตัวอื่นๆ จะแห่กันมาจัดบุฟเฟ่ต์เมื่อไหร่
ตอนนี้มีตัวอะไรไม่รู้เล็กๆ เข้ามาใกล้กองศพแล้วด้วย
เพื่อลดความเสี่ยงจากการแก่งแย่งอาหาร ผมเลยเข้าไปตรงจุดที่อยู่ใกล้กับป้อมทหารแทน
ผมต้องระวังตัวแบบสุดๆ เพราะไม่รู้เลยว่าพวกทหารจะวกกลับมาตอนไหน
ต้องเร่งมือแล้ว!
ผมตัดเนื้อตะขาบชิ้นใหญ่ออกมา (แหวะ) แล้วก็รีบพุ่งเข้าไปในรอยแตกของกำแพงที่อยู่ใกล้เคียงทันที
ผมวางเนื้อชิ้นนั้นลง เริ่มขุดช่องว่างด้านใน ยัดเนื้อใส่เข้าไป และออกมาตัดเนื้อเพิ่มอีกรอบ
หลังจากทำแบบนั้นอยู่ 3 เที่ยว พวกมอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ก็เริ่มโผล่ออกมาแย่งอาหารกันแล้ว
ขนาดพวกตะขาบด้วยกันยังเลื้อยออกมาจากโพรงเพื่อกินซากศพของเพื่อร่วมเผ่าพันธุ์เลย อึ๋ยย!
อีกไม่ช้าการต่อสู้ก็จะไล่มาถึงจุดที่ผมอยู่
ผมทำแบบเดิมต่ออีก 2 เที่ยวก่อนจะขุดดินกลบทุกอย่างเอาไว้ในกำแพง จากนั้นก็หวนกลับมาตัดเอาเนื้อชิ้นใหญ่สุดและเดินทางกลับรัง
หวังว่าจะไม่มีตัวอะไรมายุ่งกับเสบียงที่ผมซ่อนเอาไว้นะ
มอนสเตอร์พวกนี้มันมาจากไหนกันเนี่ย? ออกมาไม่จบไม่สิ้นสักที
หวังว่าทุกอย่างจะสงบลงก่อนที่ผมจะกลับมาเอาเสบียงที่เหลือนะ
ตอนนี้ถึงเวลาอาหารแล้ว! เมื่อกี้วิ่งซะหมดแรงเลย ต้องกินเพื่อเติมเลือดเติมพลังงานกันหน่อย
งั่มมม!
‘...’
อึก....
หยะแหยงตามคาด
[กลืนกินไบโอแมสแหล่งใหม่: อันกีบัส สโคโลเพนดร้า, ได้รับ 1 ไบโอแมส]
[ปลดล็อคข้อมูลพื้นฐานของอันกีบัส สโคโลเพนดร้า]
อ้อใช่ ได้ข้อมูลพื้นฐานเป็นของแถมด้วย
เพราะต้องกินของชวนอ้วก ผมก็เลยเปิดข้อมูลพื้นฐานขึ้นมาดูฆ่าเวลา
[อันกีบัส สโคโลเพนดร้า: ตะขาบกรงเล็บ มีกรงเล็บที่แข็งแรงพร้อมหนามพิษตรงส่วนหาง]
ข้อมูลพื้นฐานนี่มันไร้ประโยชน์สิ้นดีเลย ตะขาบกรงเล็บสินะ?
อืม ฟังดูมีเหตุผล ชื่อว่าตะขาบกรงเล็บเพราะเป็นตะขาบที่มีกรงเล็บ
จะว่าไปแล้วมันออกจะ... ตั้งชื่อตรงเกินไปหรือเปล่า?
ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอแกนดาล์ฟ?
จะโทษนายก็ไม่ได้แฮะ เพราะเรื่องตั้งชื่อนี่มันยากจริงๆ แหละ
[ได้รับ 1 ไบโอแมส]
เห้ออ~
ในที่สุดก็กินจนหมด
ผมรีบเปิดสถานะขึ้นมาดูทันที
ชื่อ: แอนโธนี่
เลเวล: 2
ค่าพละกำลัง: 15
ค่าความทนทาน: 12
ค่าความหลักแหลม: 25
ค่าความมุ่งมั่น: 18
HP: 17
MP: 0
สกิล: ขุด เลเวล 3 ; พ่นกรด เลเวล 2 ; แรงจับ เลเวล 3 ; กัด เลเวล 3; อำพรางตัว เลเวล 3;
กลายพันธุ์: ตา +2
สปีชีส์ : ตัวอ่อนมดงาน
แต้มสกิล: 0
ไบโอแมส: 2
HP ของผมเริ่มฟื้นกลับมาแล้ว! ตั้ง 2 แต้มแหนะ! เป็นข่าวที่ดีมาก
ถ้าได้กินต่อเรื่อยๆ แผลของผมก็น่าจะหายไปเอง
ได้ไบโอแมสมาเพิ่มด้วย ต้องช้อปสักหน่อย การกลายพันธุ์กำลังรอผมอยู่!
‘...’
ในฐานะอดีตมนุษย์ ประโยคเมื่อกี้ฟังดูโคตรแปลกเลย ‘การกลายพันธุ์กำลังรอผมอยู่’ เนี่ยนะ?
ผมรู้อยู่แล้วล่ะว่าวันนี้จะเอาอะไรดี
กรดกลายพันธุ์ +1 กับหนวดเสาอากาศ +1 ไง!
[ต้องการพัฒนากรดกลายพันธุ์และหนวดเสาอากาศหรือไม่? จำเป็นต้องใช้ 2 ไบโอแมส]
จัดไป! แต่ขอแบบไม่คันได้ไหมอ้ะ!?
...
เฮือกก
อ้ากก!
แม่งเ-
@##$%%!!
คันนนนนนโว้ยยยย!
---------------
สนับสนุนผลงานอย่างถูกต้องได้ที่ MyNovel และ Thai-Novel
---------------
ผมพยายามใช้ขาหน้าเกาเสาอากาศ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย
ไอ้การเกาเสาอากาศนี่เป็นสิ่งที่ช่วงนี้ผมทำบ่อยขึ้นมาก
ผมรู้ว่ามดต้องพยายามรักษาความสะอาดของเสาอากาศอยู่ตลอด
ขนพิเศษที่งอกออกมาจากข้อศอกตรงส่วนขาหน้านั้นมีไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะเลย... แย่หน่อยที่ตอนนี้ขัดให้ตายแม่งก็คันอยู่ดี!!
ส่วนต่อมกรดที่อยู่ลึกเข้าไปในร่างกายน่ะเหรอ? อย่าไปพูดถึงมันเลย...
เกลียดโว้ยยยย-
อ้ะ หายพอดี!
เห้ออ~ ทีนี้ประสาทสัมผัสของผมก็เพิ่มมาอีกขั้นซึ่งน่าจะช่วยเรื่องจับกลิ่นและตรวจการสั่นสะเทือนของอากาศได้ดีขึ้น
ผมยังเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของตัวเองด้วยกรดที่เข้มข้นกว่าเดิม บอกเลยว่าตอนนี้ขาดมันไม่ได้จริงๆ
ขั้นต่อไปนั้นคือออกจากรัง แอบย่องผ่านความวุ่นวายข้างนอกนั่น และกลับไปเอา ‘สมบัติ’ ที่เหลือ
ขณะไต่ผ่านเพดาน ผมก็สัมผัสได้ว่าทุกอย่างเริ่มสงบลงแล้ว
แบบนี้ค่อยใจชื้นหน่อย
ผมไปกลับระหว่างรังนอน-ที่ซ่อนสมบัติอยู่หลายรอบจนนำเนื้อกลับมาได้ครบทุกชิ้น ถือว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่สำหรับผม
ลองมานับๆ ไบโอแมสที่จะได้ดูแล้วอาจไม่มากนัก แต่นี่เป็นการลงทุนที่แทบไม่มีความเสี่ยงเลย แค่นี้ก็โอเคอยู่นะ
ถึงเวลากินเพิ่มแล้ว!
หลังจากกินเสร็จ ผมก็ได้ไบโอแมสมาเพิ่มอีก 2 แต้มพร้อมกับ 5 HP แต่ตอนนี้ขอเลือกที่จะเก็บแต้มไว้ก่อน
หากหามาเพิ่มได้อีกแต้ม ผมก็จะสามารถทำตา +3 ได้และมองเห็นชัดขึ้นกว่าเดิม
พอข้างนอกนั่นสู้กันเสร็จแล้ว บางทีอาจมีเศษเหลือๆ ให้มดน้อยตัวนี้กินบ้างก็ได้มั้ง?
คงต้องรอดูกันไปก่อน
---------------
อัพเดทข่าวสารล่าสุดและติดตามแฟนเพจนักแปลได้ที่: EP:IC Translation