ตอนที่ 35 หุบเขาสายลม
หลิงอี้ลุกขึ้นนั่ง “เธอไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้กลับไปเป็นผู้เล่นบ้างเหรอ?”
เธอมองเขาด้วยความแปลกใจ “นายจะสมัครเข้าเขตพวกฉันจริงเหรอ”
“อย่าเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอก บทลงโทษตอนล้มเหลวมันรุนแรงมากเลยนะ”
หลิงอี้รู้ความยากของเรื่องนี้ดีจึงเลิกพูดต่อ
เขาหันไปถามอย่างอื่นแทน “ฉันได้ยินว่ามีสมบัติลึกลับมากมายในแผนที่เริ่มต้น...”
......
[เริ่มวันใหม่ คุณได้รับเวลาจุติ3ชั่วโมง]
วันที่3เดือน6 00.00น.
ในวันที่สามของการเปิดเสินลู่เดือน6
วันนี้หลิงอี้เข้าเสินลู่อย่างมีเป้ามาย
เขาจะเข้าเสินลู่เพื่อไปหาหีบสมบัติลึกลับ
เขาใช้ยันต์เทเลพอร์ตทันทีเมื่อเข้ามาถึง
ยันต์เทเลพอร์ตกลายพันธุ์สามารถเทเลพอร์ตได้ไกลสุด10กิโลเมตร และเขากำหนดเป็นเส้นทางหลัก
วินาทีต่อมา ภาพด้านหน้าเปลี่ยนไป
เขามาถึงหุบเขาโดยตรง
หุบเขากว้างประมาณ200เมตร พื้นดินเป็นแนวราบ มีภูเขาเขียวชอุ่มสองด้านซึ่งมียอดสูงประมาณ400เมตร
บริเวณใกล้เคียงเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่บินอยู่บนฟ้า พวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่มีอากาศสีเขียวปกคลุมร่างกาย
[พื้นที่ปัจจุบัน: หุบเขาสายลม (เส้นทางหลักด่านสอง)]
[ข้อมูลมอนสเตอร์: ธาตุลม(เลเวล5-เลเวล15), ผู้ควบคุมพายุ(เลเวล15,บอสมอนสเตอร์)]
เห็นได้ชัดว่ามอนสเตอร์ที่ลอยอยู่คือธาตุลม
เมื่อพวกมันเห็นมนุษย์ปรากฏตัวที่นี่ พวกมันก็ออกจากสภาวะ‘ร่อนเร่’และบินเข้าหาเขาทันที
แต่พวกมันไม่ใช่เป้าหมายของหลิงอี้ และเขาไม่ต้องการเสียเวลากับพวกมัน
ดังนั้นหลิงอี้จึงวิ่งหนีไป
แม้ว่าของธาตุลมจะมีจุดเด่นด้านความว่องไว แต่ธาตุลมเลเวล15มีความว่องไวแค่45แต้มเท่านั้น
พวกมันคงจับเขาได้ถ้าหลิงอี้ไม่ได้รับการสนับสนุน
แต่ไม่ใช่กับเขาในตอนนี้
เพราะตอนนี้ค่าความว่องไวของหลิงอี้คือ100!
ไม่ต้องพูดถึงมอนสเตอร์ธรรมดาเลเวล15 ต่อให้เป็นบอสมอนสเตอร์ก็ตามเขาไม่ทัน!
‘ยันต์เทพอร์ตเคลื่อนย้ายได้10กิโลเมตร คิดไม่ถึงว่าจะมาด่านสองเลย’
เขาเริ่มคิดในขณะที่วิ่งอยู่
‘ตามข้อมูลที่ได้มา สมบัติในแผนที่เริ่มต้นจะอยู่ในด่านสองของเส้นทางหลัก และหีบสมบัติจะอยู่ด้านหลังบอส’
‘ฉันแค่ต้องวิ่งไปเปิดหีบสมบัติด้วยความเร็วสูง’
'และต้องไม่สู้กับมัน’
มอนสเตอร์และหีบสมบัติบนเส้นทางหลักแตกต่างจากในป่า
บนเส้นทางหลัก
เมื่อมอนสเตอร์ตาย พวกมันจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก
จำนวนหีบสมบัติ สถานที่ และสมบัติด้านในหีบสมบัติล้วนเหมือนกันหมด
ไม่เหมือนในพื้นรอบนอก
มอนสเตอร์สามารถเกิดใหม่ได้และสมบติในหีบสมบัติจะเป็นแบบสุ่ม
หลิงอี้มั่นใจมากว่าถ้าเขาเปิดหีบสมบัติ เขาจะได้สมบัติชิ้นนั้นแน่นอน
คำถามเดียวคือเขาจะผ่านบอสด่านสอง‘ผู้ควบคุมพายุ’ของเส้นทางหลักได้หรือเปล่า
ความแตกต่างที่มากที่สุดระหว่างมอนสเตอร์ในเส้นทางหลักกับมอนสเตอร์รอบนอกคือ มอนสเตอร์บนเส้นทางหลักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
พวกมันร่วมมือกันและฉลาด
บอสมอนสเตอร์สามารถสั่งการมอนสเตอร์ทั้งหมดในบริเวณนั้นได้
หลิงอี้ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาต้องสู้กับพวกมันทั้งหมด
ถ้าสู้ในระยะประชิดมันคงไม่ใช่เรื่องดี!
อย่างน้อย[ดาวตก]ของเขาก็ใช้ได้
ในขณะที่หลิงอี้กำลังวิ่งอยู่
ในส่วนลึกของหุบเขา บอสมอนสเตอร์‘ผู้ควบคุมพายุ’ได้ลืมตาตื่นขึ้น!
มันเป็นบอสมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ สูงสามเมตรและปกคลุมร่างกายด้วยผ้าคลุมสีดำ มีเพียงดวงตาที่เหมือนไฟสีน้ำเงินปรากฏให้เห็นเท่านั้น
มันไขว้ขาลอยอยู่เหนือดินครึ่งเมตร
มือที่เหี่ยวแห้งราวกับกิ่งไม้เน่าเปื่อยของมันถือคทาไม้สีน้ำเงินยาวห้าเมตร พื้นผิวของคทามีแสงไหลผ่านไปมาทำให้ดูไม่ธรรมดา
มันค่อยๆบินขึ้นฟ้า ใช้ดวงตาสีน้ำเงินมองอยู่ไกลๆเพราะสัมผัสได้ถึงลมหายใจของผู้เล่น
จากนั้นมันก็เห็นมนุษย์ที่กำลังโดนธาตุลมนับพันวิ่งไล่ตาม
ผู้ควบคุมพายุค่อยๆยกคทาในมือขึ้น
เมื่อมันยกคทาขึ้นเหนือหัว ทันใดนั้นพายุรุนแรงก็พัดเข้ามา!
ฟู่ววว ฟู่ววว ฟู่ววว
ลมแรงพัดมาจากท้องฟ้าด้านหลังและพัดไปทางที่มันกำลังหันหน้า
หญ้าที่ไม่หยั่งรากลึกและทรายที่อยู่บนพื้นถูกพัดรวมกันพุ่งไปทางนั้น
หลิงอี้ที่วิ่งอยู่อีกด้าน
เขาเห็นทรายและฝุ่นที่สูงขึ้นเรื่อยๆอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
‘บอสมอนสเตอร์เริ่มลงมือแล้ว!’
เขาหาข้อมูลก่อนจะมาที่นี่และรู้ว่าผู้ควบคุมพายุมีสกิลอะไรบ้าง
ดังนั้นเขาจึงเตรียมยันต์ไว้สองสามอย่าง
[ยันต์กันลม (E)]: ผู้ใช้จะไม่ได้รับผลกระทบจากลมเป็นเวลา30วินาที
เขาหยิบยันต์จากกระเป๋าเป้ออกมาใช้ขณะที่วิ่ง
และเขาซื้อยันต์กันลมไว้เผื่อถึง10ชิ้น
แต่ละชิ้นใช้แค่2เหรียญทองซึ่งไม่ได้แพงเลย
หลังใช้ยันต์แล้ว อักษร‘หลบหลีก’สีฟ้าอ่อนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าอกเขา ตัวอักษรเปล่งแสงขึ้นด้านบนจนถึงด้านล่างและหายไปอย่างรวดเร็ว
หลิงอี้ที่กำลังวิ่งอยู่ถูกลมพัดใส่จนแทบพูดไม่ได้
แต่เมื่อใช้ยันต์นี้เขารู้สึกได้ถึงความต่างทันที
เหมือนเขาถูกห้อมล้อมด้วยโล่โปร่งใส เขาไม่รู้สึกถึงสายลมอีกต่อไป
แม้ว่าจะวิ่งด้วยความเร็วสูงก็ตาม!
เสื้อผ้าที่ปลิวตามลมก็สงบนิ่งราวกับว่าเขาวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง
เมื่อพายุพัดมาเขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากฝุ่นที่เกาะบนเสื้อผ้า
เพียงพริบตาเดียว อีกไม่ถึง100เมตรก็จะถึงตัวผู้ควบคุมพายุ
ลักษณะของมันเริ่มเห็นได้ชัดเจน
พอเห็นว่าโจมตีครั้งนี้ไม่มีผล ผู้ควบคุมพายุจึงใช้คทาเรียกอินทรีลมสีฟ้าออกมา
“อินทรีลม? เจ้าตัวนี้คงป้องกันไม่อยู่”
พายุในตอนนี้เป็นแค่พายุธรรมดาซึ่งไม่สามารถทำอันตรายใดๆได้
แต่อินทรีตัวนี้ไม่ได้มีเลเวลน้อยกว่าบอสมอนสเตอร์ที่อัญเชิญมันเลย
ทางที่ดีที่สุดคือหลบให้ได้
เพราะโล่ดินของเขามีโอกาสป้องกันแค่30ครั้ง หลังจากครบ30ครั้งเขาจะป้องกันการโจมตีของมันไม่ได้เพราะร่างกายของเขาไม่ได้ต่างจากคนธรรมดาแม้แต่น้อย
อินทรีลมมีปีกกว้างสามเมตร ร่างกายของมันปกคลุมด้วยเปลวไฟสีฟ้า
เมื่อถูกอัญเชิญออกมามันก็บินพุ่งขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงความสูงระดับหนึ่งมันก็โฉบลงมาหาหลิงอี้ด้วยความเร็วสูง!
เป็นความเร็วที่สุดยอดมาก!
ถ้าความว่องไวต่ำกว่านี้ เขาคงเห็นแค่แสงสีฟ้าเท่านั้น
แม้แต่หลิงอี้ที่ตอนนี้มีความว่องไว100ก็ต้องอุทานออกมาเมื่อเห็นมัน “เร็วมาก!”
จากนั้นจิตใต้สำนึกของเขาก็สั่งให้ทำบางอย่าง
“คัดลอก!”
พอเจอคุณสมบัติที่สูงแบบนี้เขาก็ต้องการคัดลอกมัน
แต่อินทรีลมมีเลเวลสูงกว่าจึงทำให้เขาคัดลอกล้มเหลว
เลเวลของมอนสเตอร์อัญเชิญจะเท่ากับเลเวลของผู้อัญเชิญ
เพราะผู้ควบคุมพายุมีเลเวล15 มอนสเตอร์ที่อัญเชิญออกมาจึงมีเลเวล15เช่นกัน!
[คัดลอกคุณสมบัติ]สามารถคัดลอกได้เฉพาะผู้ที่มีเลเวลไม่สูงกว่าตัวเอง
“น่าเสียดาย”
หลิงอี้หันไปเผชิญหน้ากับอินทรีลมที่โฉบลงมา เขาทำได้แค่หยุดฝีเท้าชั่วคราวและหลบอย่างเต็มกำลัง