SN-ตอนที่ 14 คำแนะนำที่สำคัญ
จากนั้น อัลดิช ก็เตรียมกำลังจะจัดแจงแต้มค่าสถานะของเขา โดยเขากำลังคิดทบทวนเกี่ยวกับการทำงานของค่าสถานะ
ความแข็งแกร่งคือพลังทางกายภาพ
ความคล่องตัวเป็นตัวชี้วัดความเร็วทางกายภาพและการประสานงาน
ความอึด เป็นการวัดค่าสุขภาพโดยรวมและโบนัสความทนทานของตัวละครที่ได้รับจากการสวมชุดเกราะ โดยทุกแต้มจะมอบค่าพลังชีวิตเพิ่มขึ้น 3 หน่วย
เวทย์มนตร์ จะยกระดับมานาและที่ถือเป็นสเกลสำหรับสกิลส่วนใหญ่ โดยทุกแต้มจะมอบมานาทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3 หน่วย
ความสอดคล้อง เป็นค่าสถานะที่ระบุจำนวนทักษะ เวทย์มนตร์ หรือ ยูนิตของผู้เล่น ทุก ๆ 5 แต้ม จะช่วยปรับสมดุลทางด้านพลังเวทย์ ทักษะ หรือ ยูนิตเพิ่มได้
ความเข้าใจ คือสิ่งจำเป็นสำหรับใช้งานทุกส่วนงานที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
สำหรับ คลาสประเภทนักสู้ จะมีการปรับเพิ่มอัตราการรีเฟชรของค่าใช้จ่ายทักษะที่พวกเขาใช้แบบวันต่อวัน แต่สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอัลดิช ที่ใช้เวทย์มนตร์และมานา
ยกตัวอย่างเช่น ความแม่นยำ โอกาสคริติคอล และ ความเสียหายคริติคอล นอกจากนี้ยังมีสกิลที่สามารถตรวจสอบสถานะของผู้อื่น สำหรับจุดประสงค์ที่ต้องการทั้งหมด นี่เป็นค่าสถานะที่แย่ที่สุดสำหรับ อัลดิช ที่จะเพิ่มเลเวล เพราะเนื่องจากโดยทั่วไปแล้วเขามักจะพึ่งพาสกิลในการโจมตีมากกว่าการโจมตีในระยะประชิดเพื่อสร้างความเสียหาย
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของอัลดิชได้เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่เหมาะสม ดังนั้นเขาจึงกระจายแต้มค่าสถานะ 3 แต้มไปยังเวทย์มนตร์ และอีก 2 แต้ม ไปยังค่าสถานะความอึด
>>
ความแข็งแกร่ง : 11
ความคล่องตัว : 8 (13)
ความอึด : 6 > 10
เวทย์มนตร์ : 5 > 11
ความสอดคล้อง : 5
ความเข้าใจ : 8
==
HP : 21/21 > 33/33
มานา : 11/15 > 33/33
>>
เนื่องจาก เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตาย ของ อัลดิช มีความสัมพันธ์กับ ความอึด/เวทย์มนตร์ และ ความสอดคล้อง เขาจึงได้รับค่าสถานะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากการลงทุนในสิ่งเหล่านั้น นี่หมายความว่า เขาที่ลงค่าสถานะความอึดไป 2 จะได้ค่าตอบแทนเป็น 4 ส่วน ลงเวทย์มนตร์ไป 3 จะได้ค่าคอบแทนเป็น 6
ในขณะที่คลาสอื่นที่มีความสัมพันธ์จะได้โบนัสเพียง 1.2x หรือ 1.5x เท่านั้น แต่ เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตายนั้นจะได้รับโบนัสเพิ่มขึ้น 2 เท่า
สิ่งนี้อาจจะดูดีอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่มันก็สมดุลกันอย่างมากเนื่องจากความจริงที่ว่า อันเดด แม้จะแข็งแกร่งแต่ก็ต้องใช้ค่าความอึดในการเลี้ยง สิ่งนี้ทำให้เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตายจำเป็นจะต้องไปลงทุนกับค่าความอึดจำนวนมากอย่างเลี่ยงไม่ได้
สำหรับสกิลระดับสูงเองก็ต้องการค่ามานาที่สูงมากเช่นเดียวกัน ในขณะที่คลาสประเภทอื่น ๆ มีพาสซีฟที่คอยชดเชยส่วนต่างของค่าใช้จ่ายมานาสำหรับเรียกใช้งานสกิล แต่ เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตายไม่มีอะไรแบบนั้น
การได้รับโบนัสพลังเวทย์เพิ่มขึ้นก็เพื่อให้มั่นใจว่าอันเดดเหล่านั้นจะได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน
และเป็นเหตุผลเดียวกันกับการที่ทำให้พวกเขาเผาผลาญมานาของพวกเขาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ การถูกกดดันให้เป็นฝ่ายป้องกันตัวเองโดยปราศจากสมุนของพวกเขา เพราะการที่เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตายต่อสู้คนเดียวเป็นอะไรที่อันตรายสำหรับพวกเขามาก
และที่สะดุดตาที่สุดก็คือ เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตาย จำเป็นจะต้องพึ่งพายูนิตจำนวนมาก หรือก็คือ ค่าความสอดคล้อง สามารถทำให้พวกเขาสามารถเพิ่มจำนวนยูนิตที่สามารถควบคุมได้ และ มันจำเป็นจะต้องมีค่าสถานะที่สูงถึงจะใช้งานสกิลคลาสได้
การปรับให้เหมาะสมนี้ค่อนข้างสมเหตุสมผลเนื่องจากการพิจารณาส่วนใหญ่ว่าเนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตายไม่ใช่สายต่อสู้โดยตรง เพราะความแข็งแกร่งของพวกเขาคือการปลุกสมุนขึ้นมาช่วยต่อสู้ และ เมื่อถึงระดับนึง คุณภาพของความหลากหลายในการอัญเชิญก็จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตายจึงมีการปรับขนาดที่ดีตามเลเวล
หรือจะให้พูดก็คือ เนโครแมนเซอร์ผู้ปลุกชีพความตาย ค่อนข้างอ่อนแอในช่วงแรก ๆ แต่จะกลายเป็น1 ใน คลาสที่แข็งแกร่งช่วงท้ายเกม โดยความแข็งแกร่งที่ว่านี้มาจากความแข็งแกร่งในการควบคุมยูนิตอย่างเหมาะสม
ซึ่งกลยุทธ์ของอัลดิชก็เรียบง่าย
ปรับค่าสถานะความแข็งแกร่งและความคล่องตัวให้อยู่ในระดับพอใช้งาน ทั้งนี้ จะต้องให้มันพอดีกับการปะทะกับผู้วิวัฒได้ หลังจากนั้น ก็ลงทุนทุกอย่างไปที่ เวทย์มนตร์ ความอึด และ ความคล่องตัว เพื่อให้เขากลายเป็นเนโครแมนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ
ด้วยการเพิ่มแต้มสถานะเวทย์มนตร์เพียงเล็กน้อย อัลดิช ได้ปรับปรุงความสามารถในการใช้ [กระสุนสายฟ้า] เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า
ดังนั้นการเอาชนะ วาแลน ที่อ่อนแอในป่า จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาในตอนนี้ ดังนั้นในปัจจุบันสิ่งที่เขาต้องทำก็คือการมองหาเหยื่ออย่างกระตือรือร้น
การล่าสัตว์ตามระบบ ออกล่าหาค่าประสบการณ์อยู่เสมอ เพื่อที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงขนาดที่ว่าแข็งแกร่งพอที่จะไม่มีสิ่งใดในโลกนี้สามารถปฏิเสธการแก้แค้นและความอยุติธรรมที่เขาได้รับ
==
อัลดิช ได้ท่องไปทั่วป่า วาแลน เพื่อฆ่า สไตร์เกอร์ในอีก 10 ชั่วโมงถัดไป เพราะพวกมันเป็นตัวแปรที่พบได้บ่อยที่สุดในพื้นที่นี้ และ ในบรรดาตัวแปรทั่วไปส่วนใหญ่ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าลงลึกไปแล้ว จะมีรายงานของตัวแปรที่ใหญ่และแข็งแกร่งกว่า
อย่างไรก็ตาม เขาในตอนนี้ไม่มีข้อมูล ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงแค่ ‘ล่าในพื้นที่ระดับต่ำ’ โดยการฆ่าพวกสไตร์เกอร์ให้ได้มากที่สุด
เมื่อเวลาผ่านไป อัลดิช ก็ได้รวบรวมซอมบี้สไตร์เกอร์ได้ 3 ตัว โดยจำกัดยูนิตของเขาให้ครบ 5/5 ดังนั้นในเวลานี้พวกมันจึงเปรียบเสมือนฝูงล่าที่สามารถติดตามพวกสไตร์เกอร์ได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การปิดล้อมอย่างง่ายดาย หรือการฆ่าพวกมันด้วย [กระสุนสายฟ้า] และ ให้ ซอมบี้เหล่านี้ขย้ำก็ล้วนทำได้อย่างราบรื่น
จากนั้น อัลดิช ก็ตรวจสอบค่าสถานะจากการล่าของเขา
>>
กำจัดสไตร์เกอร์ (x10)! +100 EXP
แถบ EXP : 5/60 > 105/60
เลเวลอัพ!
เลเวล 3 > 4
แถบ EXP : 45/120
ได้รับแต้มกระจายค่าสถานะ + 5
>>
อัลดิช ได้กระจายแต้มค่าสถานะทั้งหมดไปยัง เวทย์มนตร์ อย่างเหมาะสม แม้ว่าสิ่งนี้มันไม่ใช่ค่าสถานะสำหรับการต่อสู้โดยตรง แต่ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ช่วยอนุญาติให้เขาใช้เวทย์มนตร์หรือปลุกสมุนเพิ่มเติมได้ เพราะ ในช่วงแรก เวทย์มนตร์และสมุนที่เขาปลุกขึ้นมาค่อนข้างอ่อนแอเกินไป ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกมัน
ในช่วงต้นเกม เช่นเดียวกับคลาสประเภทนักเวทย์ส่วนใหญ่ เวทย์มนตร์ถือเป็นค่าสถานะหลักในการเพิ่มเลเวลให้กับ เนโครแมนเซอร์
>>
ความแข็งแกร่ง : 11
ความคล่องตัว : 8 (13)
ความอึด : 10
เวทย์มนตร์ : 11 > 21
ความสอดคล้อง : 5
ความเข้าใจ : 8
==
มานา : 3/33 > 3/63
>>
ตอนนี้ ขีดจำกัดมานาของเขาอยู่ที่ 66 ในที่สุด อัลดิช ก็มีบ่อน้ำขนาดใหญ่และสามารถทำงานในฐานะนักเวทย์ได้ เมื่อตัดสินเสร็จแล้ว เขาก็ตรวจสอบนาฬิกาข้อมือของเขา ขณะนี้เวลา 22:00 น. และ ปัจจุบันคือวันที่ 31/10/2117
ผ่านไปแล้ว 1 วันนับตั้งแต่เขาและเพื่อน ๆ ของเขาเสียชีวิตภายใต้หมัดของ เซ็ท โซลาร์ โดยเขาได้นั่งบนก้อนหินขนาดใหญ่ข้างป้าย ขณะที่มี อดัม และ เอเลเน่ นั่งอยู่ข้างเขา
ส่วน สไตร์เกอร์ 3 ตัว ก็นอนขดตัวอยู่โดยรอบ ราวกับว่าพวกมันได้คอยเฝ้าระมัดระวังการคุกคามอยู่เสมอ
“เกือบจะรู้สึกว่านี่คือการตั้งแคมป์ไปแล้ว”อัลดิช ได้กล่าวขณะเงยหน้าขึ้นมอง เขามีวิสัยทัศน์ที่สามารถมองตอนกลางคืนได้อย่างสมบูรณ์แบบ และ เมื่อเขามองขึ้นไป เขาก็เห็นดวงดาวบนท้องฟ้า ที่มีภาพวาดทางช้างเผือกขนาดใหญ่ที่สดใสส่องสว่างอยู่ “พวกนายรู้อะไรไหม นี่คือสิ่งที่ฉันอยากทำร่วมกันหลังจากที่เราทุกคนกลายเป็นฮีโร่”
“พ่อแม่ของฉันมักจะพาฉันออกไปดูดาวแบบนี้โดยปราศจากหมอกควันภายในเมือง”
“ฉันอยากจะให้พวกนายรู้สึกแบบที่ฉันรู้สึกเหมือนกัน”
อัลดิช มองไปที่ด้านข้าง และพบ อดัม และ เอเลเน่ มองขึ้นมา รูปลักษณ์ของพวกเขาในปัจจุบัน มีปากที่เปิดกว้าง ผิวของพวกเขาขาวซีดและปริแตก กระทั่งมีอาการผุเป็นหย่อม ๆ มันแทบไม่เหลือร่องรอยที่น่าจดจำเหมือนก่อนหน้านี้ พวกเขาแค่ปฏิบัติตามคำสั่งของ อัลดิช และ เงยหน้าขึ้นมอง
“แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยชอบสถานการณ์นี้ก็ตาม”อัลดิช ถอนหายใจออกมา และ กำหมัดแน่น “แต่ฉันขอสาบานให้กับพวกนายทั้งคู่ ด้วยพลังใหม่ที่ฉันได้รับมา ฉันจะทำให้แน่ใจว่า เซ็ทโซลาร์,โกสต์ และ พวกที่สมควรตายเหล่านั้น จะได้รับความตายที่ทุกข์ทรมานอย่างเหมาะสม”
และนั่นคือตอนที่ อัลดิช สังเกตุเห็นบางอย่าง มันเป็นแสงสีขาวของสัญลักษณ์ที่ส่องกระพริบอยู่ใต้ใบไม้
อัลดิช เอียงศีรษะเพื่อสำรวจในทันที เขาเปิดกองใบไม้และพบกองเข็มฉีดยาที่ว่างเปล่า เขาได้ตรวจสอบเข็มฉีดยาเหล่านี้
สิ่งของในนั้นแทบจะว่างเปล่า แต่มันก็มีร่องรอยของเหลวสีฟ้าอ่อนที่มองเห็นได้ชัด
นี่คือ X ซี่งเป็นยาเสพติดที่นิยมอย่างมากในหมู่คนหนุ่มสาวที่ร่ำรวย และ เขาจำได้ว่า เป็นสิ่งนี้ที่เขาได้แบล็กเมล์ช่างฝีมือภายในสถาบันแบล็ควอเตอร์ที่อีกฝ่ายนำไปขายให้กับนักเรียน
ดูเหมือนว่าสิ่งของเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับแก๊งของ เซ็ท โซลาร์ เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า เซ็ท โซลาร์ จะไม่ใช่คนประเภทที่ทำยานี้ขึ้นมา เพราะ X มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงเช่น น้ำหนักลด ทำให้ผิวซีด และ เกิดความกระวนกระวายใจอย่างต่อเนื่องเมื่อเลิกใช้
เพราะ เซ็ท โซลาร์ ไม่ได้แสดงอาการเหล่านี้เลย พรรคพวกของเขาก็เหมือนกัน
ไม่สิ!
จากนั้น อัลดิช ก็จำได้ มันมี คนที่มีใบหน้าผอมแห้งและร่างผอมแห้งอีกทั้งยังมีผิวที่ซีดอยู่
โกสต์!
โกสต์เป็นคนทำยาพวกนี้ และ ดูเหมือนว่าเขาจะทิ้งเข็มไว้ที่นี่เพื่อไม่ให้ถูกจับได้
อัลดิช ดีดนิ้วทันที “นี่เจ้าหนู” เขาพูดพลางกวักมือเรียกสไตร์เกอร์เข้ามาหาเขา และ ยื่นเข็มฉีดยาให้กับซอมบี้สไตร์เกอร์ เพื่อให้มันดม
“หาของพวกนี้มาให้ฉันให้ได้มากที่สุด”อัลดิชกล่าว
ภายในไม่กี่นาที สไตร์เกอร์ก็ค้นพบเข็มฉีดขาจำนวนมากที่ฝังอยู่ใต้หลุมตื้น นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเศษซาก Eye-Phones ของ เอเลเน่ และ อดัม นอกจากนี้ พิจารณาจากจำนวนเข็มฉีดยาที่มี เขาคิดว่า โกสต์น่าจะมาที่นี่โดยพื้นฐานทุกสัปดาห์หลังจากไปปาร์ตี้ในฮาเว่น
อัลดิช สั่นศีรษะ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นจุดทิ้งขยะตามปกติสำหรับ แก๊งของ เซ็ท โซลาร์ นั่นรวมถึง ศพของ อัลดิช และ เพื่อนของเขาด้วย นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาหลงเหลือเอาไว้
หรือก็คือนี่คือที่ทิ้งขยะผิดกฏหมายของพวกเขา
นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายอย่างแท้จริง
แต่นี่ก็เป็นคำใบ้ที่ยิ่งใหญ่ นี่หมายความว่าอย่างน้อยที่สุด โกสต์ก็มาที่นี่เป็นประจำเพื่อทิ้งเข็มฉีดขาของเขา
ในความเป็นจริง เมื่อพิจารณาจากเวลาเพียง 22:00 น. ในคืนวันอาทิตย์ มีความเป็นไปได้สูงที่ โกสต์จะกลับมาที่นี่ในคืนนี้
อีกทั้งยังเป็นคนเดียวด้วย
เซ็ท โซลาร์ อาจจะเป็นขยะของสังคม แต่เขาก็มีความภาคภูมิใจของตัวเองที่ต้องพิจารณา เขาและคนอื่น ๆ มักจะไปงานปาร์ตี้ในวันศุกร์และวันเสาร์ แต่ไม่ใช่วันอาทิตย์เพราะพวกเขามีฝึกอบรามในวันจันทร์
พวกเขาทั้งหมดยกเว้นโกสต์ที่มีแนวโน้มที่จะติด X เกินกว่าที่จะออกจากทริปวันอาทิตย์ได้
อัลดิช กลับไปที่ เน็กซัส ทันที โดยใช้สัญลักษณ์ เขามีเวลาเหลือน้อยมาก ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่ โกสต์จะมาที่นี่ ระหว่าง เที่ยงคืนถึงตีสอง
ขณะที่แสงเรืองรองของสัญลักษณ์ล้อมรอบเขา เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก และ รู้สึกได้ถึงน้ำหนักบนบ่าของเขา
มันเป็นเวลากว่า 17 ปีที่ยาวนาน ที่อัลดิช ได้เผชิญหน้ากับการถูกละเมิด ทุบตี ถ่มน้ำลาย ถูกเรียกว่าขยะไร้ค่า และ ถูกสั่งให้ไปตายในฐานะคนไร้ค่าของมนุษยชาติ
โลกนี้ได้พรากพ่อแม่ของเขาไปจากเขาโดยที่ไม่ได้คิดอะไรเลย มันได้ทรมานพวกเขาและบดขยี้พวกเขาให้เละจนไม่เหลือชิ้นดี
กระทั่งเพื่อนของเขาก็ยังจากไปโดยได้รับความอยุติธรรมจากคนชั่วร้าย
ทั้งหมดเป็นเพราะ อัลดิช นั้นไร้พลัง
แต่ตอนนี้เขามีพลังแล้ว
เขาจำคำพูดสุดท้ายของเขากับ เซ็ท โซลาร์ และ กลุ่มเพื่อนของเขาก่อนที่เขาจะตายได้
เขาสาบานว่าจะกลับมาล้างแค้นพวกเขา
และนี่ก้าวแรกและจุดเริ่มต้นของเขา