ตอนที่ 139 ของขวัญตรุษจีน
"ครับพี่สาม"
ซู่เฟิงยื่นมือออกมารับเงินจากซูข่าน เงินที่ซูข่านให้เขามา เยอะกว่าเงินเดือนของเขาอีก
เด็กๆที่อยู่รอบๆก็ได้มองซูข่านกับซู่เฟิงที่กำลังคุยกันอยู่ พวกเขาก็จับกลุ่มพูดคุยกัน
"ดูนั่นสิพี่ใหญ่ของพี่ซู่เฟิง ฉันได้ข่าวมาว่าเขาเป็นเจ้าของถนนที่พวกเราเล่นกันอยู่ด้วยนะ"
"พี่คนนี้เหรอที่พี่ซู่เฟิงเดินตามไปอยู่บ่อยๆ"
"ฉันได้ยินว่าพี่ซู่เฟิงเรียกพี่คนนั้นว่าพี่สามด้วยแหละ แล้วพวกเราจะเรียกพี่เขาว่าอะไรดี"
ซูข่านไม่ยินที่เด็กๆกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเขาอยู่ เด็กๆพวกนั้นจินตนาการไปไกลแล้วหลังจากได้เห็นซูข่าน
"รีบไปจัดการซะ"
ซูข่านตบไหล่ซู่เฟิง
"ครับพี่"
ร่างกายของซู่เฟิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เลือดลมของเขากำลังสูดเฉียดอย่างแรง
"ผมจะรีบไปซื้อมาให้พี่เดี๋ยวนี้เลยครับ"
จากนั้นซู่เฟิงก็ได้หันหลังและวิ่งออกไปด้วยความเร็ว
ซูข่านยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เด็กๆก็แบบนี้แหละ พวกเขาไม่ต้องคิดอะไรให้มันปวดหัวมาก ใช้ชีวิตเล่นไปวันๆก็เพียงพอแล้ว
เดี๋ยวพอโตขึ้นอีกหน่อยก็จะเริ่มปวดหัว ไหนจะเรื่องรถ เรื่องบ้าน อาหารการกิน
และสุดท้ายที่คนมักจะปวดหัวกันมากที่สุดก็คือหาคู่แต่งงาน
หลังจากแต่งงานก็ใช่ว่าจะหายปวดหัว เดี๋ยวก็จะมีเรื่องลูกตามมาอีก นี่คือสิ่งที่เด็กๆเหล่านี้จะต้องเผชิญตอนที่โตเป็นผู้ใหญ่
"ป่ะ เสี่ยวผิงไปเล่นประทัดกัน"
ซูข่านมองดูประทัดในมือของเขา ยังมีประทัดเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก
"พี่สามคะ…หนูไม่กล้า"
เสี่ยวผิงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เธอหดตัวลงด้วยความกลัว
"โถ่เสี่ยวผิง มันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย"
ซูข่านหัวเราะออกมา วันนี้เขาอยากจะย้อนวัยตอนเป็นเด็กอีกครั้ง เขาอยากที่จะไม่ต้องคิดเรื่องอะไรให้มันปวดหัวแล้วก็เล่นสนุกไปวันๆเหมือนกับเด็กๆรอบๆบ้านของเขา
ซูข่านได้หยิบประทัดออกมาพวงหนึ่ง จากนั้นก็จุดไฟแช็กและโยนประทัดออกไป
"ปังๆๆๆๆๆๆๆ"
หลังจากประทัดถูกขว้างออกไปไม่กี่เมตร ก็มีเสียงระเบิดของประทัดตามมา
"ไม่เห็นน่ากลัวเลย จุดแล้วก็โยนออกไปให้ไกลตัว"
ซูข่านพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็จุดประทัดอีกพวงหนึ่งแล้วก็โยนออกไป
เด็กสมัยนี้มีไม่กี่คนที่จะซื้อประทัดพวงใหญ่ พวกเขาจะแบ่งเงินมาซื้อเป็นพวงเล็กๆเท่านั้น แถมยังค่อยๆจุดทีละนิดอีก
"หนูกลัวค่ะ"
เสี่ยวผิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ
"ถือไว้"
ซูข่านยัดประทัดลงในมือของเสี่ยวผิง จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม
"ถ้าเธอกลัว เธอก็วางประทัดไว้กับพื้นแล้วก็จุดก็ได้"
"๋อ๋อออ"
เสี่ยวผิงได้ยิน ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที เธอหันไปมองเด็กที่อยู่ใกล้ๆ เธอก็เห็นมีคนใช้วิธีนี้ในการจุดประทัดเช่นกัน
เสี่ยวผิงได้วางประทัดลงบนพื้น แววตาของเธอมีความกังวลอยู่มาก นี่เป็นการตัดสินใจที่ลำบากมากสำหรับเสี่ยวผิง
"ไม่เอาน่า"
ซูข่านยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย จากนั้นเขาก็ได้ยื่นไฟแช็คให้กับเสี่ยวผิง หลังจากที่เสี่ยวผิงรับไฟแช็คไป เธอก็สูดหายใจเข้าเต็มปอดของเธอ
"ฉันไม่กลัว ฉันไม่กลัว ฉันไม่กลัว"
เสี่ยวผิงพูดให้กำลังใจตัวเอง
ซูข่านที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นเสี่ยวผิงทำแบบนี้แล้วก็หัวเราะออกมา เขาไม่ได้เจอภาพแบบนี้มาหลายปีแล้ว
ตอนนี้ซูข่านรู้สึกว่าทั้งร่างกายและจิตใจของเขา เหมือนได้ปลดปล่อยทุกอย่างออกมา
จากนั้นเสี่ยวผิงก็ได้จุดไฟแช็ค เธอค่อยๆก้มลงไปที่ประทัดด้วยความระมัดระวัง และไฟแช็คใกล้เข้าไปมากเท่าไหร่ เสี่ยวผิงก็มือสั่นขึ้นเรื่อยๆ เธอกลั้นหายใจและหรี่ตาลงไม่กล้ามอง
ซูข่านเห็นไฟแช็คในมือของเสี่ยวผิงอยู่ห่างจากประทัดไม่กี่เซนติเมตร เขาได้ยิ้นอย่างชั่วร้ายออกมา
"ตู้มมมมมมมมมมม"
ซูข่านตะโกนออกมาเสียงดัง
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด"
เสี่ยวผิงได้ยินเสียงตะโกนของซูข่าน เธอก็ได้กรี๊ดออกมาเสียงดัง ดังกว่าเสียงตะโกนของซูข่านอีก
เธอคิดว่าประทัดได้ถูกจุดไปแล้ว เธอกรี๊ดด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีด จากนั้นเสี่ยวผิงก็มองไปที่ประทัด
มันยังไม่ได้ถูกจุด….
เสี่ยวผิงขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธ
"พี่สามนิสัยไม่ดีเลย มาทำให้หนูกลัวแบบนี้"
ซูข่านได้ยินก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
…
ไม่นานในหนานจิงก็เริ่มมีหิมะตกลงมา หิมะแรกของปีได้ตกลงมาไม่นานทั่วทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
บรรยากาศของเมืองเก่ารวมกับสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะ ทำให้ภาพที่อยู่ในเมืองตอนนี้อย่างกับออกมาจากภาพยนตร์
วันที่สองนับจากตรุษจีน ที่บ้านของซูข่านมีคนมาอวยพรปีใหม่ให้กับเขามากหน้าหลายตา
เสี่ยวหู่เป็นคนที่มาอวยพรปีใหม่เป็นคนแรก เขาไม่ได้มาเพียงมือเปล่าเท่านั้น เขาได้ถือเหล้าเหมาไถมาให้ซูข่านด้วย 2 กล่อง
"ซินเจียอยู่อี่ซินนี่ฮวดไช้ครับพี่สาม"
ซูข่านได้ยื่นซองจดหมายสีแดงให้กับเสี่ยวหู่
หลังจากที่ได้เจอกับเสี่ยวหู่ไม่นาน หวางเอ๋อก็ได้ตามมาอวยพรปีใหม่กับซูข่าน
หวางเอ๋อได้ถือเหล้าเหมาไถมาด้วย 3 กล่อง
ซูข่านเห็นก็งุนงง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เสี่ยวหู่กับหวางเอ๋อทำไมซื้อเหล้าเหมาไถมาเหมือนกัน
แต่ซูข่านก็คิดว่าเสี่ยวหู่กับหวางเอ๋อทำงานที่ KFC ด้วยกัน ทั้งสองคนน่าจะนัดกันก่อนแล้วถึงได้ซื้อมาให้เรา
ระหว่างที่ซูข่านกำลังไขข้อสงสัยของเรื่องนี้ หวงเสี่ยวเว่ยก็ได้เข้ามาและแน่นอน เขามาพร้อมกับเหล้าเหมาไถ
ซูข่านเริ่มแปลกใจ สองคนนั่นซื้อเหล้าเหมาไถมาฝากก็ไม่แปลกอะไร แต่ทำไมเสี่ยวเว่ยถึงได้ซื้อเหมาไถมาด้วย
"ซินเจียอยู่อี่ซินนี่ฮวดไช้ครับพี่สาม"
จากนั้นซู่เฟิงกับหวางเซียวหมันก็ได้เดินเข้ามาในบ้าน และแน่นอนมีเหล้าเหมาไถในมือของพวกเขาทั้งสองคน
ซูข่านงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น คนพวกนี้กำลังทำอะไรอยู่กันแน่
ทำไมพวกเขาถึงได้ซื้อเหล้าเหมาไถมาฝากเราทุกคนเลย
"พี่สามครับ”
เสียงของจางเฉียงดังขึ้นที่หน้าประตู ซูข่านมองดูก็เห็นมีรถจอดอยู่ที่หน้าบ้าน
มีชายหนุ่ม 2-3 คนได้ลงจากรถและยกลังเหล้าเหมาไถเดินเข้ามาในบ้าน
ซูข่านนับๆดูแล้วตอนนี้มีเหล้าเหมาไถที่เอามาฝากเขามากกว่า 1 โหลเข้าไปแล้ว
"พี่สามครับ พี่กั๋วเฉียงเขาติดธุระไม่สามารถมาจากเผิงเฉิงได้ เขาให้ผมซื้อเหมาไถมาให้พี่ 3 กล่องครับ"
"นอกจากนี้ประธานสูกับประธานจางก็ได้ให้ผมเอาเหมาไถมาให้พี่อีกด้วยครับ"
จางเฉียงพูดด้วยรอยยิ้ม
แม้แต่เหลาสูกับจางหม่านก็ได้ซื้อเหมาไถมาฝากเขาอย่างงั้นเหรอ ซูข่านตัวแข็งทื่อไปชั่วครู่
จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น การที่เขาซื้อเหล้าเหมาไถมา 20 ตัน
คนอื่นเลยคิดว่าซูข่านจะต้องชื่นชอบเหล้าเหมาไถเป็นอย่างมาก
ในวันตรุษจีนปีนี้ ซูข่านไม่ได้รับของขวัญชิ้นอื่นเลยนอกจากเหล้าเหมาไถ เขาไม่ได้ต้องการซื้อเหล้า 20 ตันเพื่อมากินสักหน่อย เขาแค่ต้องการเกร็งกำไรมันเท่านั้น