SN-ตอนที่ 12 เดอะเน็กซัส
ในการพลิกบทบาท ตอนนี้ อัลดิช ได้พุ่งเข้าหา สไตร์เกอร์ ก่อนที่มันจะหลบหนีไปยังทิศทางอื่น ซึ่งมันทำให้เขาได้ปิดเส้นทางหลบหนีของสไตร์เกอร์ในทันที
แม้ว่าการทำเช่นนี้จะเป็นอันตรายต่อตัวเขา แต่ อัลดิช ก็ไม่ต้องการให้ EXP จาก สไตร์เกอร์ และ อันเดดของเขาหายไปไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
สไตร์เกอร์ ได้คำรามใส่ อัลดิช เมื่อเขาเข้ามากใกล้ มันได้พุ่งเข้าใส่ หัวไหล่ของเขาในทันที และ เนื่องจาก อัลดิช ไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากนัก ความทนทานของร่างกายของเขาจึงใกล้เคียงกับสไตร์เกอร์ที่เป็นวาแลนระดับ E
อัลดิช รู้สึกว่ากระดูกไหล่ของเขาได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ และ เนื้อของเขาดูเหมือนจะฉีกขาดราวกับกระดาษ แต่เขาก็จับ สไตร์เกอร์ด้วยแขนของเขา ในขณะที่เขาปล่อยให้ อดัม และ เอเลเน่ กระโจนเข้าใส่บนหลังของมัน เพื่อฉีกกระชาก สไตร์เกอร์ และ โยนมันลงไปบนพื้น
“รีบช่วยฉันฆ่าเจ้าตัวนี้”อัลดิช กล่าวขณะจับไหล่ที่หย่อนคล้อยของเขา จากนั้น อดัม และ เอเลเน่ ก็เริ่มกัดและใช้กรงเล็บโจมตีใส่สไตร์เกอร์จนทำให้มันล้มลงและไม่มีทางหนีรอด
สไตร์เกอร์ได้หันมากัดหัวของอดัมจนทำให้กะโหลกศีรษะของเขาปริแตก โดย อัลดิช ได้ตอบโต้โดยการง้างขาของเขาเตะไปที่ฐานต้นคอของสไตร์เกอร์อย่างแม่นยำจนทำให้กระดูกที่คอของมันแตกหัก
จากนั้นสไตร์เกอร์ก้ลมลงและหมดแรงตาย
>>
[กำจัดสไตร์เกอร์! +10 EXP]
[แถบ EXP : 0/30 > 10/30]
>>
“ขอโทษนะอดัม”อัลดิช กล่าวขณะที่เขาเห็นรอยฟันขนาดใหญ่ที่เจาะลึกเข้าไปในกะโหลกศีรษะของอดีตเพื่อนของเขา“แต่นายจะได้รับการแก้ไขโดยไม่ช้าด้วย [กลิ่นอายแห่งความตาย]ของฉัน และ อย่างที่นายพูด แม้จะสูญเสียรูปโฉมนิดหน่อยแต่มันก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อนายหรอก”
อัลดิช ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยังคุยกับเพื่อนของเขาราวกับว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ เขารู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อเห็นพวกเขากลายเป็นซอมบี้ เขาคิดว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกันต่อความเสียใจ และ ทำให้เขารู้สึกเย็นชา แต่ทว่าเขาก็ยังปรากฏส่วนนึงของความเสียใจและพยายามเก็บความทรงจำของเพื่อนทั้ง 2 ของเขาในโลกที่ไม่ยุติธรรมนี้
หรือบางที อัลดิช อาจจะบ้าไปแล้วก็ได้ บางทีนี่อาจจะเป็นผลข้างเคียงจากการที่เขากลายเป็นอันเดด
จากนั้น อัลดิช ก็ตรวจสอบไหล่ที่เสียหายของเขาและเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ ดูเหมือนว่าจะไม่มีความเจ็บปวด แม้ว่า เส้นเอ็น กระดูก และ กล้ามเนื้อจะฉีกขาด แต่เขาก็สามารถขยับได้โดยไม่มีปัญหาอะไร เพราะตอนนี้ เขาเป็นอันเดด แต่สิ่งนี้มันก็ทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นชิน
ใน Elden World ตัวละครของผู้เล่นสามารถเลือกได้หลากหลายเชื้อชาติ แต่การเป็น อันเดด ไม่ใช่หนึ่งในนั้น เขาไม่รู้ว่าตัวละครของเขาจะคืบหน้าไปอย่างไร หรือว่าเขาจะสามารถพัฒนาจากการเป็นอันเดดพื้นฐานกลายเป็นลิชได้หรือไม่
ในเวลานี้ ความคิดของ อัลดิช ได้ถูกทำลาย โดยการกระทำของ อดัม และ เอเลเน่ ที่กำลังฉีกชิ้นส่วนของสไตร์เกอร์ที่ตายไปแล้วและกินเนื้อดิบ ๆ ที่เปื้อนเลือด
“ฉันรู้ว่าพวกนายหิว แต่ฉันก็ต้องการซากศพที่ไม่บุบสลายเพื่อปลุกพวกมันให้กลายเป็นส่วนนึงของสัตว์เลี้ยงของฉัน”อัลดิชกล่าว ขณะที่ หยุด อดัม และ เอเลเน่ และ ให้พวกเขายืนขึ้นเพื่อรอคำสั่ง
มานาในปัจจุบันของ อัลดิช เหลือ 2/15 และ [ปลุกอันเดด เลเวล 1] ก็ใช้มานา 4 หน่วย ดังนั้นเขาจึงต้องการมานาอย่างน้อย 8 หน่วย เพื่อร่าย [ปลุกอันเดด] 2 ครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะต้องพักผ่อนเพื่อเติมพลัง เพราะใน Elden World กลไกการฟื้นฟูมานานั้นไม่มีอยู่ในระหว่างการต่อสู้
นักเวทย์จำเป็นจะต้องพักฟื้นจากการต่อสู้เพื่อฟื้นฟูมานาอย่างช้า ๆ และมันค่อนข้างใช้เวลานาน เพราะการชาร์จมานาเต็มนั้นอาจจะใช้เวลาอย่างน้อยหลายชั่วโมง
และด้วยเหตุนี้ นักเวทย์จึงมักจะใช้ไอเทมสิ้นเปลืองเพื่อชาร์จมานาของพวกเขา โดยเฉพาะไอเทมที่เรียกว่า [น้ำยาฟื้นฟูมานา]
ผู้เล่นทุกคนที่เพิ่งเริ่มเล่นจำเป็นจะต้องมี [น้ำยาฟื้นฟู] ที่เป็นไอเทมพื้นฐานติดตัวเอาไว้ โดยเฉพาะ น้ำยาฟื้นฟูHP และ น้ำยาฟื้นฟูมานา ที่เอาไว้ใช้เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
โดยเฉพาะนักเวทย์น้ำยาฟื้นฟูมานาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ปัญหาเดียวในตอนนี้คือ อัลดิช ไม่มี [น้ำยาฟื้นฟูมานา] ติดตัวเขา โดยปกติผู้เล่นจะได้รับเมื่อตอนเล่นเกมหลังจากที่พวกเขาเข้าไปในพื้นที่ เน็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่ตั้งของระบบการเดินทางที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้
ราวกับว่าระบบได้ตอบรับความกังวลของ อัลดิช ทันใดนั้นก็มีข้อความปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
>>
ภารกิจใหม่ : เข้าถึงเน็กซัส
ความยากของภารกิจ : 1
คำอธิบาย : เข้าสู่เน็กซัสโดยใช้รายการ [Sign Stone]
รางวัล : +10 EXP,+100 เหรียญ
>>
เหรียญ?
ใน Elden World เหรียญเป็นสกุลเงินหลักของเกม แม้ว่าจะไม่มีช่างตีเหล็กหรือช่างฝีมือในโลกแห่งความเป็นจริง แต่ใน เน็กซัส ก็มีระบบร้านค้า ที่ อัลดิช สามารถใช้เหรียญแก้ปัญหาได้ ปัญหาเดียวของเขาคือ ดูเหมือนว่า วาแลน ในชีวิตจริงจะไม่ดรอบเหรียญให้เขา ซึ่งก็หมายความว่าวิธีเดียวที่เขาจะได้รับเหรียญก็คือการทำภารกิจให้สำเร็จ
อัลดิช ได้เปลี่ยนไปที่แถบกระเป๋าของเขา เขาเห็น [Sign Stone] ที่ถูกทิ้งเอาไว้ โดยเขาได้เลือกมันทันที ทันใดนั้น หินสีดำก็ปรากฏขึ้นในมือของอัลดิช และ แผ่พลังงานที่อบอุ่นราวกับว่ามันมีชีวิตออกมา
อัลดิช รู้ว่า [Sign Stones] คืออะไร มันคือประตูเกตที่พาไปยังเน็กซัสเพื่อให้ผู้เล่นเข้าถึงพวกไอเทมเสริมอย่าง [น้ำยาฟื้นฟู] ได้
[Sign Stones] เป็นไอเทมที่หาได้ยากยิ่งซึ่งได้รับมาจากการทำภารกิจทดลองหรือภารกิจที่ยากบางอย่าง อัลดิช จำเป็นจะต้องใช้งานสิ่งนี้เพื่อไปที่ เน็กซัส โดยเร็ว และ จากการพิจารณา การใช้ [Sign Stones] ในพื้นที่แห่งนี้ ก็ควรจะไม่มีใครสังเกตุเห็น
โดย อัลดิช ได้คุกเข่าลงและวางหินบนพื้นป่า ทันใดนั้น มันก็ส่องสว่างไปด้วยแสงสีขาวครู่นึงและจมลงไปในดิน จากนั้น สัญลักษณ์รูปทรงเกลียวก็ปรากฏออกมา แต่ เมื่อ อัลดิช เคลื่อนตัวเข้าไป แสงนั้นก็เริ่มจางลงในทันที
อัลดิช สงสัยว่าคนอื่นสามารถเข้าถึง [Sign Stones] นี้ได้หรือไม่ เพราะว่าใน Elden World มีเพียงผู้เล่นที่ได้รับเลือกให้กอบกู้โลกเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ ดังนั้น เขาจึงคิดว่านอกจากตัวเขาแล้ว คงไม่มีใครสามารถกระตุ้นมันได้
ซึ่งก็หมายความว่าตอนนี้ อัลดิช มีกระเป๋ามิติส่วนตัวที่สามารถกระโดดข้ามไปมาระหว่างพื้นที่ที่ไม่มีใครสามารถไล่ตามหรือคุกคามเขาได้
อัลดิช แตะไปที่ป้ายทันใดนั้นข้อความก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
[เข้าสู่เน็กซัส]
อัลดิช ได้รับข้อความยืนยัน จากนั้น แสงก็ได้สว่างวาบจนทำให้เขามองไม่เห็น
หลังจากนั้นไม่นาน ทัศนียภาพก็กลับมาเป็นปกติ จนทำให้ อัลดิช มองเห็นสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยของ เน็กซัส
เน็กซัส เป็นห้องทรงกลมที่คล้ายกับวิหารที่สร้างขึ้นมาจากหินสีเทาที่ปิดกั้นเสียง โดยบ้านหลังนี้มีขนาดที่ใหญ่พอ ๆ กับบ้านสองชั้นและสูงพอ ๆ กัน โดยที่ ศูนย์กลางของ เน็กซัส มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่หมุนวนอย่างแผ่วเบาและมีเสาซึ่งแกะสลักไปด้วยรูปปั้นแกะสลักของนักสู้หุ้มเกราะที่ถือดาบในมือและนักเวทย์ที่ถือคทา
ครึ่งนึงของน้ำเหล่านี้ได้เรืองแสงเป็นสีทอง ซึ่งบ่งบอกว่ามันสามารถฟื้นฟู HP และ อีกครึ่งนึงก็เรืองแสงเป็นสีฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันสามารถฟื้นฟูมานาได้
โดยเสาขนาดใหญ่ทั้ง 12 ต้น ได้กระจายไปทั่วผนังของเน็กซัส โดยพวกมันได้รองรับเพดานทรงโดมที่มีคริสตัลสีขาวขนาดใหญ่และแสงสีทองเรืองรองอยู่ สิ่งนี้มันให้ความรู้สึกคล้ายกับแสงสว่างของดวงอาทิตย์ โดย เสาแต่ละต้นเหล่านี้ ก็มีประตูหินสองชั้นตั้งอยู่บนฐานของพวกมัน โดยการผ่านเสาเหล่านี้ ผู้เล่นจะสามารถเข้าถึงภารกิจทดลองที่มีความยากต่างกันไปได้
ภารกิจทดลองได้รับการปรับปรุงอย่างเหมาะสมให้เหมาะกับคลาสของผู้เล่นแต่ละคน และ การเคลียร์เควสนั้นก็เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการเพิ่มและปลดล็อกความสามารถของคลาสตัวเอง
อัลดิล ได้ยินเสียงคร่ำครวญมาจากทางด้านหลังของเขา เขาตระหนักว่า อดัม และ เอเลเน่ ได้ติดตามเขามาที่นี่ โดยสิ่งนี้มันค่อนข้างสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาว่าพวกเขาเป็นหน่วยสนับสนุนของเขา
“เน็กซัสในชีวิตจริงดูเป็นยังไงบ้างอดัม? ถึงแม้ว่านายจะเคยเห็นมันในเกมหลายครั้งแต่มันก็ดูเซอร์ไพรส์มากเลยใช่มั้ย?”อัลดิชกล่าว เมื่อใดก็ตามที่ผู้เล่นเสียชีวิต พวกเขาจะฟื้นคืนชีพที่เน็กซัสแต่อัลดิชไม่รู้ว่าเขาสามารถเกิดใหม่ได้หรือไม่
จนกว่า อัลดิช จะได้รับการยืนยันว่าเขาสามารถทำได้ เขาจะคิดว่าตัวเองมีเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น
อดัมและเอเลเน่ ได้จ้องมองไปที่ข้างหน้าอย่างว่างเปล่า ดูเหมือนว่าจิตใจของพวกเขาจะหายไปโดยสมบูรณ์
อัลดิช ได้ถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะเดินไปที่อ่าง มันถูกยกขึ้นบนชานชาลา ดังนั้นเขาจึงต้องขึ้นบันไดไป และ เมื่อเขาเข้าใกล้ เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น : แสงจากแอ่งน้ำนั้นจะส่องสว่าง และ เทพธิดาอามีร่าผู้สร้างเน็กซัสจะปรากฏตัวออกมา โดยมอบ [น้ำยาฟื้นฟู] ให้กับผู้เล่นโดยบอกพวกเขาว่า เป้าหมายของพวกเขามีเพียงอย่างเดียวซึ่งก็คือการกอบกู้ Eldenia ซึ่งเป็นฉากของ Elden World จากภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่ถูกเรียกว่า ฮาวลิ่ง ดาร์ก
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นไปตามความคาดหวังของ อัลดิช โดยสิ้นเชิง เพราะ เทพธิดาไม่ได้ปรากฏตัวออกมา และ เมื่อเขาไปถึงอ่าง ก็มีกล่องแปลก ๆ ที่มีลวดลายพิกเซลเริ่มกระจุกตัวอยู่ตรงหน้าเขา สิ่งนี้ทำให้เขาก้าวถอยหลังอย่างระวังทันที
กล่องนี้ดูเหมือนจะบิดเบี้ยวเหมือนกับบัคภายในเกม และ เมื่อมันจางหายไป คนที่ปรากฏตัวก็ไม่ใช่เทพธิดาที่มีผมสีทองและนัยน์ตาสีทองที่สวยงามที่จ้องมาที่เขา แต่เป็น หุ่นสีดำลายพิกเซลที่ปรากฏตัวขึ้นมาแทน
“ยินดีต้อนรับ ผู้เล่น”หุ่นไม้ตัวนี้ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลางทางเพศทันที