ตอนที่ 32 ราชามอนสเตอร์เขต87
หลิงอี้มองหลินซูโหรวที่กำลังหัวเราะ
จนกระทั่งเธอหยุดหัวเราะเขาจึงถาม “เธอกลับไปเป็นผู้เล่นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ?”
พอได้ยินแบบนั้นใบหน้ายิ้มแย้มของหลินซูโหรวถึงกับหยุดชะงัก
ใบหน้าเธอเริ่มหม่นหมองลงทันที
“เฮ้อ มันมีวิธีกลับไปเป็นผู้เล่นเหมือนกัน…แต่...มันเป็นไปไม่ได้หรอก” เธอถอนหายใจยาวเหมือนคนหมดแรง
พอเห็นหลิงอี้ยังจ้องเธออยู่ เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดกับเขาช้าๆ “ก็แค่...”
หลังจากนั้นไม่นาน
หลิงอี้พยักหน้าเข้าใจหลังจากได้ฟังคำพูดของหลินซูโหรว
“พูดง่ายๆคือฉันต้องสมัครเข้าเขตของเธอแล้วฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดที่อยู่ในนั้นใช่ไหม ฟังแล้วไม่เห็นยากตรงไหนเลย?”
พอได้ยินแบบนั้นหลินซูโหรวเลยดึงหูหลิงอี้เบาๆและพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “นายได้ฟังฉันไหมเนี่ย ฉันบอกว่านายต้องมีเลเวลต่ำกว่า30เท่านั้นถึงจะเข้าได้”
“หนึ่งทีมมีได้แค่ห้าคนเท่านั้น”
“โอ้ นั่นเป็นเรื่องยากจริงๆ”
หลิงอี้ทำท่าทางลำบากใจ
อันที่จริงเขารู้สึกว่าตัวเองสามารถจัดการได้ด้วยตัวคนเดียวด้วยซ้ำ ถ้าเขามีพลังมากพอที่จะสู้ราชามอนสเตอร์ที่มีเลเวลเท่ากันได้
แน่นอนว่าตอนนี้เขายังไม่มีพลังมากขนาดนั้น
แต่ขอแค่เขาทำงานหนักและมีความช่วยเหลือจากระบบกลายพันธุ์ขั้นสุดยอด อีกไม่นานเขาต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน!
และเขาเชื่อว่าเวลานั้นอยู่อีกไม่ไกลแล้ว!
“ถ้าเธอ...”
หลิงอี้มองหลินซูโหรวแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันหมายความว่า ถ้าวันหนึ่งฉันฆ่าราชามอนสเตอร์กับมอนสเตอร์ทั้งหมดในเขตของเธอได้”
“เธอก็กลับไปเป็นผู้เล่นได้สินะ”
หลินซูโหรวกลอกตาพูดด้วยรอยยิ้มไม่แยแส “ฮ่าฮ่า ถ้านายทำได้จริงนะ”
“ไม่ใช่แค่สกิลนั้นเป็นของนาย สมบัติ อาวุธ ไอเทม หรือแม้แต่ตัวฉันกับบ้านหลังนี้ก็จะเป็นของนาย”
“จริงเหรอ?” หลิงอี้เริ่มสนใจ
“ฮ่าฮ่า”
หลินซูโหรวปิดปากหัวเราะเสียงเบา เธอตบหน้าผากของหลิงอี้ด้วยมือขาวนุ่มที่ใช้ปิดปากทันทีแล้วพูดกับเขา “ลืมไปเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“ฉันดีใจนะที่นายมีความคิดแบบนี้”
เมื่อได้ยินหลินซูโหรวพูดแบบนั้น
หลิงอี้ก็ตระหนักได้ว่าเธอกับเขาใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม
เดิมทีเธอรักษาระยะห่างจากเขาและพูดอย่างลังเลด้วยเสียงเบา
แต่ตอนนี้เธอกล้าบีบหูและตบหน้าผากเขา ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติเมื่อคุยกับคนรู้จัก
เหตุผลคืออะไรล่ะ?
ขณะที่หลิงอี้คิดเรื่องนี้อยู่เธอก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ยังไงก็เถอะ ที่ฉันปลอดภัยครั้งนี้ต้องขอบคุณการป้องกันที่นายติดตั้งเอาไว้”
“เที่ยงนี้นายอยากกินอะไร? ฉันจะตอบแทนให้อย่างดีเลย”
“เอ่อ...”
......
แน่นอนว่าได้ซื้ออาหารเอากลับมากินที่บ้านแทน
เพราะหลินซูโหรวหลับไปอีกครั้งก่อนจะถึงเที่ยง
และเขาเป็นคนแบกเธอกลับบ้าน
กว่าจะได้กินข้าวกลางวันก็เกือบจะบ่ายโมง
ในเวลานี้ เมื่อรู้สึกถึงความเงียบสงบรอบตัวจิตใจของหลิงอี้จึงผ่อนคลาย
เขากลับไปที่ห้องนอนและนั่งเก้าอี้ข้างโต๊ะ ด้วยลมจากหน้าต่างที่พัดเข้ามาจึงทำให้เขานึกถึงเรื่องเมื่อเช้านี้
“แม้แต่ซูโหรวยังมองออก แปลว่าคนอื่นก็ต้องมองออกเหมือนกัน”
“ถ้ามีคนมาตรวจสอบฉัน พวกเขาอาจรู้ว่าฉันเลื่อนเป็นเลเวล10ในวันที่สอง”
แม้คนในโลกนี้จะรู้ว่าเขาเลื่อนเป็นเลเวล10เมื่อมีการอัปเดตอนุสรณ์ประวัติศาสตร์เสินลู่
แต่อันนั้นต้องใช้เวลาอีกครึ่งปี
พอถึงตอนนั้นเขาคงเติบโตจนไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว
แต่ตอนนี้เขาเพิ่งจะเลเวล10 มันยังห่างจากคำว่าเติบโตมากนัก
ถ้าเรื่องนี้ถูกคนอื่นรู้ขึ้นมา ต่อให้อยู่แต่ในบ้านก็มีปัญหาได้เหมือนกัน
“คงต้องยกเลิกเรื่องโครงการอัจฉริยะแล้ว”
ตอนแรกเขาตั้งใจจะไปพันธมิตรเสินในอีกหนึ่งสัปดาห์เพื่อกลายเป็นผู้ช่วยเหลือภายนอกของพันธมิตรเสินผ่านโครงการอัจฉริยะและรับเงินสนับสนุนของผู้เล่นเลเวล10
แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันเริ่มทำก็ต้องยกเลิกซะก่อน
ถ้าไปตอนนี้มันจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย ถ้าก่อนหน้านี้เขาบอกฟางเฉิงว่าเป็นผู้เล่นใหม่ของเดือน6 เขานึกไม่ออกเลยว่าตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
“แต่ตอนนี้ฉันอาศัยในบ้านซูโหรวแล้ว ไม่จำเป็นต้องหางานพาร์ทไทม์ทำอีก ส่วนเงินสนับสนุนก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดมาก”
ตอนแรกที่เขาคิดจะเป็นผู้ช่วยเหลือภายนอกพันธมิตรเสินผ่านเพราะเขาไม่มีที่อยู่อาศัยอย่างเป็นทางการ
เขาเลยวางแผนหางานพาร์ทไทม์ทำเพื่อหาเงินซื้อบ้าน
แต่ตอนนี้เขามีที่อยู่แล้ว ดังนั้นเขาเลยไม่กังวลเรื่องบ้านอีก
การแข็งแกร่งขึ้นและได้เหรียญทองจากเสินลู่อย่างมั่นคงย่อมดีกว่าไม่ใช่เหรอ?
1เหรียญทองแลกได้50เหรียญเฉวียนฉิว
และเขาได้เหรียญทองอย่างง่ายดายในเสินลู่!
ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องหางานทำหรือหาเงินในโลกนี้อีก
โลกนี้เป็นแค่ที่พักผ่อน!
ร่างกายและจิตใจของหลิงอี้ผ่อนคลายลงหลังจากคิดเรื่องนี้
ราวกับว่าเขาไม่มีความปรารถนา ไม่ต้องห่วงอะไร ไม่มีความกังวลในใจ
“แต่ว่า..”
ด้วยลมธรรมชาติที่สดชื่น ทันใดนั้นเขาก็จำสกิลลดสติปัญญาที่หลินชูโหรวพูดถึงได้
“ถึงฉันไม่จำเป็นต้องไปที่พันธมิตรเสิน แต่ถ้ามีสกิลลดสติปัญญานั่น...”
สำหรับสกิล‘แปลกประหลาด’นี้เขามักรู้สึกว่ามันต้องมีเอฟเฟกต์ขี้โกงมากแน่ถ้าได้กลายพันธุ์ให้มัน
มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงมากด้วย
“ถ้าทำให้เกิดเอฟเฟกต์ดีๆได้จริง มันคงมีประโยชน์ในหลายๆโอกาส...”
ความคิดของหลิงอี้เริ่มโบยบิน
เขาฝันกลางวันกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง
จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นจากความฝันด้วยสายลมที่พัดผ่าน
ในตอนนี้เขาตั้งเป้าหมายต่อไปไว้เรียบร้อยแล้ว
“ราชามอนสเตอร์เขต87 ฉันคงต้องเพิ่มเลเวลจนถึง30ก่อนถึงจะมีพลังมากพอที่จะฆ่าราชามอนสเตอร์!”
“ฮ่าฮ่า น่าสนใจ”
หลิงอี้เผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งแรกในโลกนี้
และเขาตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก!
หัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาเขต87คือการฆ่าราชามอนสเตอร์
มอนสเตอร์ตัวอื่นนอกจากราชามอนสเตอร์ล้วนเป็นขยะ—หลิงอี้คิดอย่างนั้น
ดังนั้นเขาต้องรู้ข้อมูลของราชามอนสเตอร์
เมื่อคิดได้แบบนั้นหลิงอี้จึงเปิดฟอรัมหาข้อมูล‘เหตุการณ์การประเมินเขต87’
จากนั้นไม่นานเขาก็ได้ข้อมูลทั่วไปของราชามอนสเตอร์ที่เขาตามหา
[มังกรห้าหัว (ราชามอนสเตอร์)
เลเวล: 30
ลักษณะเด่น : สูง120เมตร หนักประมาณ90,000ตัน ความเร็วในการบิน3กิโลเมตรต่อวินาที ความเร็วในการวิ่ง300เมตรต่อวินาที ปีกของมันสามารถสร้างพายุหมุนเร็ว30เมตรต่อวินาที มีภูมิคุ้มกันโรค หัวทั้งห้ามีความสามารถต่างกัน
1: ปล่อยคลื่นเสียงอันน่าตกใจทำให้เสียสมาธิ
2: พ่นหมอกพิษ
3: รักษาร่างกายและสร้างหัวมังกรอื่น
4: ปล่อยสายฟ้า
5: มีสติสัมปชัญญะ]
นี่คือข้อมูลที่ผู้เล่นเขต87ได้มาหลังจากต่อสู้
แม้ว่าผู้เล่น10,000คนในเขต87จะพ่ายแพ้ แต่พวกเขาได้ข้อมูลความสามารถของราชามอนสเตอร์กลับมาด้วย
มันไม่ได้แย่เหมือนในข่าวลือ