ตอนที่แล้วตอนที่ 31 บทสนทนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 33 สหประชาชาติสาวน้อยอัจฉริยะ

ตอนที่ 32 ราชามอนสเตอร์เขต87


หลิงอี้มองหลินซูโหรวที่กำลังหัวเราะ

จนกระทั่งเธอหยุดหัวเราะเขาจึงถาม “เธอกลับไปเป็นผู้เล่นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ?”

พอได้ยินแบบนั้นใบหน้ายิ้มแย้มของหลินซูโหรวถึงกับหยุดชะงัก

ใบหน้าเธอเริ่มหม่นหมองลงทันที

“เฮ้อ มันมีวิธีกลับไปเป็นผู้เล่นเหมือนกัน…แต่...มันเป็นไปไม่ได้หรอก” เธอถอนหายใจยาวเหมือนคนหมดแรง

พอเห็นหลิงอี้ยังจ้องเธออยู่ เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดกับเขาช้าๆ “ก็แค่...”

หลังจากนั้นไม่นาน

หลิงอี้พยักหน้าเข้าใจหลังจากได้ฟังคำพูดของหลินซูโหรว

“พูดง่ายๆคือฉันต้องสมัครเข้าเขตของเธอแล้วฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดที่อยู่ในนั้นใช่ไหม ฟังแล้วไม่เห็นยากตรงไหนเลย?”

พอได้ยินแบบนั้นหลินซูโหรวเลยดึงหูหลิงอี้เบาๆและพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “นายได้ฟังฉันไหมเนี่ย ฉันบอกว่านายต้องมีเลเวลต่ำกว่า30เท่านั้นถึงจะเข้าได้”

“หนึ่งทีมมีได้แค่ห้าคนเท่านั้น”

“โอ้ นั่นเป็นเรื่องยากจริงๆ”

หลิงอี้ทำท่าทางลำบากใจ

อันที่จริงเขารู้สึกว่าตัวเองสามารถจัดการได้ด้วยตัวคนเดียวด้วยซ้ำ ถ้าเขามีพลังมากพอที่จะสู้ราชามอนสเตอร์ที่มีเลเวลเท่ากันได้

แน่นอนว่าตอนนี้เขายังไม่มีพลังมากขนาดนั้น

แต่ขอแค่เขาทำงานหนักและมีความช่วยเหลือจากระบบกลายพันธุ์ขั้นสุดยอด อีกไม่นานเขาต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน!

และเขาเชื่อว่าเวลานั้นอยู่อีกไม่ไกลแล้ว!

“ถ้าเธอ...”

หลิงอี้มองหลินซูโหรวแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันหมายความว่า ถ้าวันหนึ่งฉันฆ่าราชามอนสเตอร์กับมอนสเตอร์ทั้งหมดในเขตของเธอได้”

“เธอก็กลับไปเป็นผู้เล่นได้สินะ”

หลินซูโหรวกลอกตาพูดด้วยรอยยิ้มไม่แยแส “ฮ่าฮ่า ถ้านายทำได้จริงนะ”

“ไม่ใช่แค่สกิลนั้นเป็นของนาย สมบัติ อาวุธ ไอเทม หรือแม้แต่ตัวฉันกับบ้านหลังนี้ก็จะเป็นของนาย”

“จริงเหรอ?” หลิงอี้เริ่มสนใจ

“ฮ่าฮ่า”

หลินซูโหรวปิดปากหัวเราะเสียงเบา เธอตบหน้าผากของหลิงอี้ด้วยมือขาวนุ่มที่ใช้ปิดปากทันทีแล้วพูดกับเขา “ลืมไปเถอะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก”

“ฉันดีใจนะที่นายมีความคิดแบบนี้”

เมื่อได้ยินหลินซูโหรวพูดแบบนั้น

หลิงอี้ก็ตระหนักได้ว่าเธอกับเขาใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม

เดิมทีเธอรักษาระยะห่างจากเขาและพูดอย่างลังเลด้วยเสียงเบา

แต่ตอนนี้เธอกล้าบีบหูและตบหน้าผากเขา ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติเมื่อคุยกับคนรู้จัก

เหตุผลคืออะไรล่ะ?

ขณะที่หลิงอี้คิดเรื่องนี้อยู่เธอก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ยังไงก็เถอะ ที่ฉันปลอดภัยครั้งนี้ต้องขอบคุณการป้องกันที่นายติดตั้งเอาไว้”

“เที่ยงนี้นายอยากกินอะไร? ฉันจะตอบแทนให้อย่างดีเลย”

“เอ่อ...”

......

แน่นอนว่าได้ซื้ออาหารเอากลับมากินที่บ้านแทน

เพราะหลินซูโหรวหลับไปอีกครั้งก่อนจะถึงเที่ยง

และเขาเป็นคนแบกเธอกลับบ้าน

กว่าจะได้กินข้าวกลางวันก็เกือบจะบ่ายโมง

ในเวลานี้ เมื่อรู้สึกถึงความเงียบสงบรอบตัวจิตใจของหลิงอี้จึงผ่อนคลาย

เขากลับไปที่ห้องนอนและนั่งเก้าอี้ข้างโต๊ะ ด้วยลมจากหน้าต่างที่พัดเข้ามาจึงทำให้เขานึกถึงเรื่องเมื่อเช้านี้

“แม้แต่ซูโหรวยังมองออก แปลว่าคนอื่นก็ต้องมองออกเหมือนกัน”

“ถ้ามีคนมาตรวจสอบฉัน พวกเขาอาจรู้ว่าฉันเลื่อนเป็นเลเวล10ในวันที่สอง”

แม้คนในโลกนี้จะรู้ว่าเขาเลื่อนเป็นเลเวล10เมื่อมีการอัปเดตอนุสรณ์ประวัติศาสตร์เสินลู่

แต่อันนั้นต้องใช้เวลาอีกครึ่งปี

พอถึงตอนนั้นเขาคงเติบโตจนไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว

แต่ตอนนี้เขาเพิ่งจะเลเวล10 มันยังห่างจากคำว่าเติบโตมากนัก

ถ้าเรื่องนี้ถูกคนอื่นรู้ขึ้นมา ต่อให้อยู่แต่ในบ้านก็มีปัญหาได้เหมือนกัน

“คงต้องยกเลิกเรื่องโครงการอัจฉริยะแล้ว”

ตอนแรกเขาตั้งใจจะไปพันธมิตรเสินในอีกหนึ่งสัปดาห์เพื่อกลายเป็นผู้ช่วยเหลือภายนอกของพันธมิตรเสินผ่านโครงการอัจฉริยะและรับเงินสนับสนุนของผู้เล่นเลเวล10

แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันเริ่มทำก็ต้องยกเลิกซะก่อน

ถ้าไปตอนนี้มันจะเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย ถ้าก่อนหน้านี้เขาบอกฟางเฉิงว่าเป็นผู้เล่นใหม่ของเดือน6 เขานึกไม่ออกเลยว่าตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น

“แต่ตอนนี้ฉันอาศัยในบ้านซูโหรวแล้ว ไม่จำเป็นต้องหางานพาร์ทไทม์ทำอีก ส่วนเงินสนับสนุนก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดมาก”

ตอนแรกที่เขาคิดจะเป็นผู้ช่วยเหลือภายนอกพันธมิตรเสินผ่านเพราะเขาไม่มีที่อยู่อาศัยอย่างเป็นทางการ

เขาเลยวางแผนหางานพาร์ทไทม์ทำเพื่อหาเงินซื้อบ้าน

แต่ตอนนี้เขามีที่อยู่แล้ว ดังนั้นเขาเลยไม่กังวลเรื่องบ้านอีก

การแข็งแกร่งขึ้นและได้เหรียญทองจากเสินลู่อย่างมั่นคงย่อมดีกว่าไม่ใช่เหรอ?

1เหรียญทองแลกได้50เหรียญเฉวียนฉิว

และเขาได้เหรียญทองอย่างง่ายดายในเสินลู่!

ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องหางานทำหรือหาเงินในโลกนี้อีก

โลกนี้เป็นแค่ที่พักผ่อน!

ร่างกายและจิตใจของหลิงอี้ผ่อนคลายลงหลังจากคิดเรื่องนี้

ราวกับว่าเขาไม่มีความปรารถนา ไม่ต้องห่วงอะไร ไม่มีความกังวลในใจ

“แต่ว่า..”

ด้วยลมธรรมชาติที่สดชื่น ทันใดนั้นเขาก็จำสกิลลดสติปัญญาที่หลินชูโหรวพูดถึงได้

“ถึงฉันไม่จำเป็นต้องไปที่พันธมิตรเสิน แต่ถ้ามีสกิลลดสติปัญญานั่น...”

สำหรับสกิล‘แปลกประหลาด’นี้เขามักรู้สึกว่ามันต้องมีเอฟเฟกต์ขี้โกงมากแน่ถ้าได้กลายพันธุ์ให้มัน

มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงมากด้วย

“ถ้าทำให้เกิดเอฟเฟกต์ดีๆได้จริง มันคงมีประโยชน์ในหลายๆโอกาส...”

ความคิดของหลิงอี้เริ่มโบยบิน

เขาฝันกลางวันกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง

จากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นจากความฝันด้วยสายลมที่พัดผ่าน

ในตอนนี้เขาตั้งเป้าหมายต่อไปไว้เรียบร้อยแล้ว

“ราชามอนสเตอร์เขต87 ฉันคงต้องเพิ่มเลเวลจนถึง30ก่อนถึงจะมีพลังมากพอที่จะฆ่าราชามอนสเตอร์!”

“ฮ่าฮ่า น่าสนใจ”

หลิงอี้เผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งแรกในโลกนี้

และเขาตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก!

หัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาเขต87คือการฆ่าราชามอนสเตอร์

มอนสเตอร์ตัวอื่นนอกจากราชามอนสเตอร์ล้วนเป็นขยะ—หลิงอี้คิดอย่างนั้น

ดังนั้นเขาต้องรู้ข้อมูลของราชามอนสเตอร์

เมื่อคิดได้แบบนั้นหลิงอี้จึงเปิดฟอรัมหาข้อมูล‘เหตุการณ์การประเมินเขต87’

จากนั้นไม่นานเขาก็ได้ข้อมูลทั่วไปของราชามอนสเตอร์ที่เขาตามหา

[มังกรห้าหัว (ราชามอนสเตอร์)

เลเวล: 30

ลักษณะเด่น : สูง120เมตร หนักประมาณ90,000ตัน ความเร็วในการบิน3กิโลเมตรต่อวินาที ความเร็วในการวิ่ง300เมตรต่อวินาที ปีกของมันสามารถสร้างพายุหมุนเร็ว30เมตรต่อวินาที มีภูมิคุ้มกันโรค หัวทั้งห้ามีความสามารถต่างกัน

1: ปล่อยคลื่นเสียงอันน่าตกใจทำให้เสียสมาธิ

2: พ่นหมอกพิษ

3: รักษาร่างกายและสร้างหัวมังกรอื่น

4: ปล่อยสายฟ้า

5: มีสติสัมปชัญญะ]

นี่คือข้อมูลที่ผู้เล่นเขต87ได้มาหลังจากต่อสู้

แม้ว่าผู้เล่น10,000คนในเขต87จะพ่ายแพ้ แต่พวกเขาได้ข้อมูลความสามารถของราชามอนสเตอร์กลับมาด้วย

มันไม่ได้แย่เหมือนในข่าวลือ